อ่า ‘การบินไทย’ ชื่อนี้เป็นความภาคภูมิใจของใคร จะด้วยภาพสัญญลักษณ์ ‘เจ้าจำปี’ (ที่คล้ายแอร์นิวซีแลนด์) หรือคำขวัญ ‘รักคุณเท่าฟ้า’ ณ เวลานี้ไม่ต่างจาก ‘baggage’
ถุงสัมภาระอันเทอะทะ ที่เนื้อในมีแต่เศษเหล็ก
การบินไทยนี้มีปัญหามานานแล้วอย่างที่รองนายกฯ
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ยอมรับ นอกจากไม่สามารถทำกำไรและสร้างความนิยมแก่นักเดินทาง แม้จะพยายามทำตัวเป็น
‘ไฮเอ็นด์’ ก็แข่งกับสายการบินอื่นไม่สำเร็จ
อย่าว่าแต่จะเทียบกับสายการบินชั้นนำอย่าง ‘สิงคโปร์’
หรือ ‘เอ็มมิเรต’
กับแค่ ‘เอเอ็นเอ’
และ ‘เอเซียน่า’ ยังสู้เขาไม่ได้
เพราะการเน้นไฮเอ็นด์ทำให้บริการชั้นโค้ชกลับเป็นโลว์เอ็นด์ นี่มิได้ปรามาสพนักงานหรอกนะ
เพราะทีมการบินไทยที่ไปรับจ้างบริการบนสายญี่ปุ่นและอเมริกัน ช่วงนาริตะ/โอซาก้าถึงกรุงเทพฯ
ใช้ได้
ปัญหาจึงอยู่ที่การบริหารงานทางธุรกิจ
จะเป็นเพราะมีอดีตกัปตันและทหารอากาศร่วมทีมบริหารอยู่มาก
แต่นักบริหารจริงเข้าไม่ถึง เส้นสนกลในคว้าไปกินก่อนหรือเปล่าต้องควรคิดดู เหมือนลุงตูบที่เข้าไปลองผิดลองถูกเสียจนเจียนจะพังมิพังแหล่
ที่วิจารณ์มาก็แค่มุมมอง
ลองมาดูข้อเท็จจริงก็ได้ การบินไทยต้องหยุดบินสิ้นเชิง (ยกเว้นไปซูริคและมูนิค)
เพราะพิษโคโรน่าไวรัสปิดฝาโลงน่ะใช่ แต่นั่นเพียงแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็ง “ข่าวที่น่าตกใจคือ...บอกว่าเหลือเงินเดือนจ่ายพนักงานได้แค่เดือนเมษายน”
รายงานข่าว mcot.net
แจ้งเมื่อวันก่อน “ขณะนี้มีเงินสดที่สามารถหมุนเวียนบริหารจัดการตลอดปี ๒๕๖๓ อยู่ราวๆ
๑๐,๐๐๐-๑๒,๐๐๐ ล้านบาท
นอกจาก “ต้องนำเงินดังกล่าวไปชำระแก่เจ้าหนี้” แล้วเหลือจ่ายเงินเดือนพนักงานแค่สิ้นเดือนนี้เท่านั้น
รองฯ สมคิดปฏิเสธเสียงแข็งว่า “ไม่จริง” เมื่อนักข่าวถามว่าขณะนี้การบินไทยขาดสภาพคล่องอยู่ใช่ไหม
แต่ไม่มีใครปฏิเสธว่าสิ่งที่ต้องการเวลานี้ก็คือให้กระทรวงคลังและคมนาคมช่วยหาเงินกู้สัก
๗ หมื่นล้านบาท เอาไปฉลุยจัดการฟื้นฟูกันหน่อย
ทั้งสมคิด อุตตม สาวนายน รมว.คลัง
และศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม คุยกันแล้วเอา ‘อุ้ม’ แน่ เพราะเป็นสายการบินแห่งชาตินั่นแหละ
แต่จะอุ้มแค่ไหนขอดูรายการและตัวเลขฟื้นฟู มีข่าวซุบซิบออกมาเมื่อสักสองอาทิตย์เห็นจะได้ว่ายาแรง
นอกจากตัด ‘workforce’ ทีมงานทุกระดับลงไปถึงครึ่งแล้วจะมีสายการบินดัง (อย่างเอเอ็นเอ)
มาช่วยอุ้มก้อนใหญ่มาก เป็นด้วยเหตุนั้นหรือเปล่าไม่สามารถยืนยันได้ แต่นายนเรศ
ผึ้งแย้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยบอกว่า
“ได้ตกลงร่วมกันจะลดเงินเดือนตัวเองเริ่มตั้งแต่เดือนนี้แบบขั้นบันได”
โดยเงินเดือนระดับ ๒ หมื่นบาทลด๑๐% ไปจนถึงระดับสูงสุด
(๑ แสนบาทขึ้นไป) ลด ๕๐%
ถ้าทำได้อย่างนั้นจะลดรายจ่ายด้านเงินเดือนพนักงานถึงเดือนละ ๔๖๕ ล้านบาท
แผนประคับประคองดังกล่าวจะทำให้ยืดอายุการบินไทยไปถึงเดือนมิถุนายน
เพื่อรอกระทรวงคลังเข้าไปอุ้มต่อ หากภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมยังไม่รู้กัปตันรู้แอร์ละก็จบเห่ทั้งยวง
ประธานสหภาพคนนี้บอกด้วยว่า แต่ถ้าแผนฟื้นฟูให้ปรับลดจำนวนพนักงาน ไม่เอานะ
เขาชี้ว่าถ้าตัดจำนวนพนักงานและแบ่งขายเครื่องบินไปเสียแล้ว
หลังจากที่คลังเข้ามาอุ้ม หาเงินมาอุดตามที่ต้องการแล้ว จะเอาคนและเครื่องที่ไหนไปดำเนินการใหม่
ให้กลับมาเป็นสายการบินแห่งชาติที่แข็งแรงอีกครั้งได้
พูดเหมือนที่รัฐมนตรีศักดิ์สยามตั้งความหวัง
เสียแต่ว่าข้อมูลคลาดเคลื่อนตรงที่การบินไทยเป็นเด็กขี้โรค เจ็บออดๆ แอดๆ มาตลอดนะ
โชคดีที่พ่อรวยขาดเหลืออะไรช่วยถมให้ แต่ก็เนอะ ‘ถมเท่าไหร่ไม่เต็ม’
สมคิดถึงว่า
“ทั้งนี้
ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าตัวบริษัทการบินไทยเอง
ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีและมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น” สมคิดย้ำ “ต้องมีการเปลี่ยนแปลง
และแสดงความสามารถออกมาให้เห็นว่าการบินไทยยังมีขีดความสามารถแข่งขันได้ต่อไป”
ที่พูดอย่างนั้นใช่ว่าทั่นรองฯ
ต้องการประหยัดจำกัดจำเขี่ยอะไรหรอกนะ เรื่องเงินทองรัฐบาลนี้ไม่เคยยั่น
ใช้อย่างอีลุ่ยฉุยแฉกมานานแล้วตั้งแต่ก่อนสืบทอดอำนาจ แม้ “ไม่มีประเทศใดในโลกที่จะมีงบประมาณดูแลประชาชนที่เดือนร้อนเพียงพอ”
สมคิดชี้ “ทุกประเทศต้องหันมาใช้การกู้ยืมเงิน”
กันทั้งนั้น ของไทยที่จะกู้ ๑ ล้านล้าน กลางเดือนพฤษภานี้ได้เห็นล็อตแรก ๖ แสนล้าน
ตัวเลขแค่นั้นขี้ปะติ๋ว “เพราะหนี้ต่อจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ ๔๐-๔๑ การกู้ ๑ ล้านล้าน ตัวเลขยังเป็นมาตรฐานไม่สะเทือน”
(http://www.voicetv.co.th/read/TgyMQ79sX, https://thaipublica.org/2020/04/thai-airway-business-rehabilitation/ และ https://www.mcot.net/viewtna/5e988700e3f8e40af142efd9)
แต่เอ๊ะ รองนายกฯ
คนนี้ไม่ใช่หรือที่เคยคุยว่า ฝีมือของรัฐบาลยึดอำนาจ (และสืบทอดอำนาจ)
นี้สุดยอดกว่าใครแล้ว ปี ค.ศ.๒๐๒๐ คนไทยจะรวยกันถ้วนหน้า