เรื่องที่เป็นปัญหาแก่พรรคอนาคตใหม่คงไม่มีทางหมด
จวบจนกว่าพรรคจะถูกยุบ ธนาธร ปิยบุตร และช่อจะถูกสอยทิ้ง
ที่ผ่านมาปีกว่าพวกเขาโดนหลายขนาน หลายระดับ ทั้งจากตัวใหญ่ ตัวน้อย
และตัวห้อยโหนที่คอยป่วน จิกกัด
พวกเขาควรที่จะได้รับการเห็นใจ เป็นกองหนุน
เป็นลมใต้ปีก ตราบเท่าที่พวกเขายังยึดมั่นคัดค้านและกำจัดการสืบทอดอำนาจ คสช.
ที่เดี๋ยวนี้มาในรูปของ ‘พลังประชารัฐ’ และ กอ.รมน.
โดยที่ในทางการเมืองและเรื่องปากท้องของประชาชน
ก็ต้องประคับประคองกันไปให้พวกเขาแก่กล้าจนสามารถแก้ปัญหาความยากจน
และนำประเทศสู่การเป็นเสือทางเศรษฐกิจให้จนได้ในที่สุด
การยกขบวนลาออกของอดีตผู้สมัคร
ส.ส.และสมาชิกพรรค อนค. ๑๒๐ คน ที่ออกมาทำให้เป็นข่าวใหญ่ด้วยความร่วมมือของไทยรัฐ
(เจ้าเก่า) เป็นส่วนหนึ่งของแผนสกัดพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม คสช.
ที่พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นพลังอันแข็งขัน จนต้องตั้งหน้ากัน ‘กำจัด’
อย่าง สมชาย แสวงการ สว.ตู่ตั้งคนหนึ่งละ
เข้าไปนั่งกินเงินเดือนเรือนแสน นอกจากใช้ยกมือให้ตู่เป็นนายกฯ หนหนึ่งแล้ว
(รอหนสองอีกสามปีข้างหน้า
หรือว่าเร็วกว่านั้นถ้าอภิปรายไว้วางใจของฝ่ายค้านเข้าไคล้)
ระหว่างนี้มีหน้าที่คอยตอด คอยจิก ก่อกวนไม่ให้ฝ่ายค้านทำงานสะดวก
วันก่อนเขาเขียนเฟชบุ๊คให้เป็นข่าว
เจาะจงกัด ปิยบุตร แสงกนกกุล ของอนาคตใหม่ ไพล่ไปเอ่ยถึง “ประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีศักยภาพน่าลงทุนอันดับต้นๆ
ของอาเซียน” แต่ไหงหดหายไปทีละรายสองราย ของเก่าถอนออก ของใหม่ยังไม่ยักมา
แล้วนักท่องเที่ยวปีละ ๔๐
ล้านนั่นก็ตัวเลขเก่า ปีนี้ปีหน้ากำลังจะลดฮวบฮาบ สักแต่ว่ายกเมฆอ้างเพื่อจะพาลหาเรื่อง
“พวกคุณเอาความคิดใดมาใส่ บอกว่าประเทศนี้คือนรก” นี่ก็สำคัญผิดในข้อเท็จจริง
เขาไม่ได้เห็นประเทศเป็นนรกเสียหน่อย
เขาเห็นว่าพวกคุณที่กินบ้านครองเมืองต่างหากเป็น
‘เปรต’ แย่งส่วนบุญ
แล้วยังมีหน้าอ้าง “ถ้าคุณเห็นว่าประเทศนี้เป็นนรก พวกเราเห็นเป็นสวรรค์
กรุณาออกเดินทางไปอยู่ประเทศที่คุณเห็นเป็นสวรรค์ อย่างฝรั่งเศส” สมชายผายลมปาก
แน่นอนบางคนเขาเจอสวรรค์จริงๆ
อย่างกลุ่มนักดนตรีที่ทนทุกข์ลี้ภัยในลาวตั้งนาน พวกมาเฟียครองเมืองตามไปจะฆ่าเขา
พอเขาหนีต่อไปฝรั่งเศสได้ เดี๋ยวนี้เป็นไง พวกเขาร้องรำทำเพลงกันตามลานอนุสาวรีย์
สวนสาธารณะ สุขสันต์หรรษาไปสิ
กลับไปที่เรื่อง ๑๒๐ เทียบไม่ติดกับ ๖
หมื่น (and counting) ดังที่ ชวลิต
เลาหอุดมพันธ์ แอ็ดมิน @FWPthailand “เอาข้อมูลหลังบ้านมาเปิด
“ว่า ผลพลอยได้ข้อหนึ่งของการที่มีสื่อประโคมข่าวคนรวมตัวกันลาออกจากสมาชิกพรรค
ก็คือประชาชนทั่วไปติดต่อมาสอบถามเรื่องการสมัครเป็นสมาชิกพรรค
มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ” ส.ส.ที่ไม่ใช่พวก ๑๒๐ (ส่วนหนึ่ง ‘สอบตก’ นอกนั้น ‘ตามแห่’) คำนวณว่าแต่ละวัน อนค.มีสมาชิกเพิ่ม ๑๖๔ คน “เยอะกว่า” ๑๒๐ แน่ๆ
ดังนั้นการที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
หัวหน้าพรรคบอก “ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกพรรคการเมืองย่อมเป็นแบบนี้
มีคนเดินเข้าก็มีคนเดินออก ทุกวันนี้คนจำนวนมากอยากเข้ามาเป็นสมาชิก มาร่วมทำงานกับพรรค
กรณีนี้จึงไม่ใช่ปัญหา”
ปัญหาเป็นของฝ่ายสืบทอด คสช.
เมื่อธนาธรเข้าไปเป็นกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฝ่ายพลังประชารัฐจึงให้ สิระ
เจนจาคะ ดิ้นแล้วดิ้นอีกด้วยวิธีดึงดันสไตล์ ‘ขี้ตู่’ ไม่รับรู้ว่าเขาฟันธงกันไปหมดแล้วทั้ง วิษณุ เครืองาม และชวน หลีกภัย
ว่าธนาธรเป็นได้
ไม่เท่านั้นแผนรุกฆาตของฝ่ายค้านในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีบางคน
โดยเฉพาะ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมช.คมนาคม ที่พยายามแก้เก้อว่า “ฝ่ายค้านอาจมองว่าตนทำงานมากเกินไป”
พูดคล้ายๆ หัวหน้าใหญ่ไม่มีผิด
ต่อการที่รัฐบาลสหรัฐระงับให้สิทธิพิเศษยกเว้นภาษีศุลกากรทางการค้า
หรือ ‘จีเอสพี’ ต่อไทย
ผ่านมาหลายวัน โปรเฟ็สเซ่อโฆษกสำนักนายกฯ บอกว่าเรื่องนี้ นายกฯ รู้ตั้งนานแล้ว
(เมื่อเดือนกันยา) เดี๋ยวรอให้กระทรวงพาณิชย์แก้
แต่ตัวนายกฯ พูดเหมือนไม่รู้เรื่องมาก่อน “เท่าที่กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงมา...สิทธิประโยชน์ทั้งหมด
๕๐๐ กว่ารายการ เราใช้ไปประมาณ ๓๐๐ กว่ารายการ” เท่านั้น ประมาณว่า ‘จิ๊บจ้อย’ แล้วคุยทับ “เขาให้สิทธิ์ตรงนั้นมา ๙ ปีแล้ว
ถ้าเขาตัดสิทธิ์อย่างนี้ เอ๊ะ
เราโตเกินไปหรือเปล่า โตเร็วแล้วใช่ไหม”
(https://workpointnews.com/2019/10/28/gsp-3/,
https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_241398
และ https://www.thairath.co.th/news/politic/1692206)