‘แก้วร้าว’ แล้วหรือ เมื่อธนาธรพาดพิงทักษิณ แต่ “บางครั้ง...ต้องกลืนเลือด”

ภายในวันเดียว ‘Pendulum’ ตุ้มการเมืองเฉไปเสียแล้ว จากการอภิปรายงบประมาณที่ประดุจดังลอกหนังความกร่าง ‘Trumpian’ (slang) ของรัฐบาล คสช.-ประชารัฐ กลับมาเป็นการกระทบกระแทกภายในฝ่ายค้าน ที่บางคนตีโพยตีพายว่า ‘แก้วร้าว’

 

เหตุจากคำให้การของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในคดีการถือหุ้นบริษัทวี-ลัค ที่ถูกผู้พิพากษาซักอย่างขาดแคลนวุฒิภาวะตุลาการ อ้างข้อมูลจากสื่อเนชั่นบ้าง แสดงความเห็นต่อผู้ต้องหาอย่างข่มโดยไม่คำนึงถึงข้อต่อสู้ที่มีอยู่แล้วโดยลายลักษณ์อักษร

เป็นผลให้การตอบคำถามของธนาธรหลายครั้ง “มีความเกรี้ยวกราด” แฝงอยู่ แล้วพาดพิงไปถึงบุคคลที่สาม อย่างเข้าทาง ‘สลิ่ม’ เมื่อเขาโพล่งออกมาว่า

“ผมไม่ใช่คุณทักษิณ” ต่อด้วยประโยคที่กินใจบรรดาผู้ที่มีศรัทธาต่ออดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จำนวนมาก

(ดูยูทู้บ ธนาธรให้การคดีผู้ถือหุ้นวี-ลัค youtube.com)

 

“ผมไม่ได้เข้ามาเพื่อจะผลประโยชน์ บริวารห้อมล้อม ไม่ใช่ ผมมานั่งอยู่ตรงนี้ ผมตัดสินใจอย่างนี้เพราะผมอยากเปลี่ยนแปลงสังคม เพราะผมรู้สึกว่าสังคมมันเดินหน้าต่อไปอย่างนี้ไม่ได้” ทำให้บนโลกไซเบอร์ฟากประชาธิปไตยวิพากษ์กันขรม

“สะท้อนความรู้สึกลึกๆ ที่มีต่อทักษิณ​ด้านลบ​ และมีคนอีกไม่น้อยที่ไม่เอาทหารแต่ก็เอือมทักษิณ” นี่อย่างผิวเผินจาก Pravit Rojanaphruk ไปถึงเจาะจง “ทำไมต้องไปยกตัวเองแล้วเหยียบทักษิณแบบนั้น หรือเพื่อเอาตัวรอดแล้วต้องทำ” โดย ถือแถน @pran2844

อีกราย Lin Okabe @Byakuren29 “ไม่ได้บอกว่าทักษิณแตะต้องไม่ได้ แต่มันไม่เข้าท่า และลดค่าตัวตนของความเป็นธนาธรและอนาคตใหม่ คุณไม่ควรพาดพิงเขา และนี่มันไม่ใช่แค่เป็นการพาดพิง แต่มันเป็นการกล่าวหาใส่ร้ายอีกด้วย”

หนักกว่านั้นก็ Somyot Pruksakasemsuk ว่าเป็น ‘ความไร้เดียงสา’ “แม้จะขอโทษหรือขออภัยก็ไม่เป็นผล ยิ่งทำให้เห็นความขลาดเขลาเข้าไปอีก” สมยศพูดทำนองเดียวกันว่า “เพื่อให้ตนเองดูดีและรอดพ้นจากกงจักรปีศาจ เป็นการฆ่าตัวตายทางการเมือง”

จนไปถึง Atukkit Sawangsuk ที่ว่า “เสียหายมาก อาจหนักกว่าโดนศาลตัดสิน (ซึ่งน่าจะเดากันไว้แล้ว) และไม่ใช่เรื่องที่ขอโทษได้ เสียหายไปแล้วโดยตัวธนาธรเองนั่นแหละ” อธึกกิตร่ายยาวหน่อยเพราะใช้เฟชบุ๊ค

“เหยียบทักษิณเพื่อชิงมวลชน” ข้อหานี้แรงสำหรับฝ่ายประชาธิปไตย “ภายในจริงๆ ยังคิดอย่างนี้อยู่ จะเป็นปัญหาในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย (ซึ่งจะต้องพูดถึงทักษิณอยู่ตลอด)” คือ “เรื่องผลประโยชน์ ทักษิณก็ต้องหวังว่าธุรกิจตัวเองจะดีขึ้น

...สร้างบริษัทมากับมือ จะให้ไปฝาก blind trust ทักกี้ไม่ยอมหรอก ก็โอนให้ลูกเหมือนที่ทำกันทั่วไป” เขาสาธยายสัจจธรรมการเมืองไทยต่อว่า “ไม่มีใครเข้าสู่อำนาจได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงและต่างตอบแทน เพียงแต่ทักษิณถูกโยงว่ามีประโยชน์ทับซ้อน

แล้วก็หาว่าอะไรที่ชินคอร์ปได้ประโยชน์คือโกงมหาศาล ปลุกความกลัวปลุกความเกลียดมาทำลายประชาธิปไตย”

(https://www.facebook.com/baitongpost/posts/2566924763389337)

ในคำขอโทษของธนาธร ที่ Thanathorn Juangroongruangkit @Thanathorn_FWP ยอมรับว่าตัวเองกระทำไม่เหมาะสม “ที่ผ่านมามีความพยายามกำจัดนักธุรกิจที่จะมาทำงานการเมือง เช่นคุณทักษิณ ผมจึงพยายามจะทำให้ดีกว่าที่กฏหมายกำหนด เพื่อแสดงเจตนาตนเองให้ชัด”

จะเจตนาอย่างไร ไม่อาจรู้ได้ แต่ค่อนข้างแน่ ธนาธรเองก็ติดบ่วงวาทกรรม ‘สลิ่ม’ กับเขาด้วยเหมือนกัน ที่พาดพิงทักษิณอย่างนั้น แต่ไม่น่าจะ ‘เลวร้าย’ เหมือนที่ผู้ใช้นาม EHa' @djrland ทวี้ตว่า “แบบนี้จะเดินไปด้วยกันได้หรือ”

ตอบตรงนี้เลยว่า ‘ได้สิ’ ถ้าไม่ได้ ฝ่ายค้าน และ/หรือฟากประชาธิปไตยก็ ‘พ่าย’ พวกสืบทอดอำนาจ เพราะการที่ ‘ขิงก็รา ข่าก็แรง’ ฉะนั้น “บางครั้ง...ต้องกลืนเลือด” อย่างที่ independence @redbamboo16 ว่า

‘เลือด’ น่ะทะลักก่อนหน้านี้เล็กน้อย ตอนอภิปรายและโหวตปรับเปลี่ยน พรก. ผ่องโอนกำลังพล ราบ ๑ กับ ๑๑ ไปอยู่ภายใต้ เต็มๆ ‘ฝ่าละอองธุลีพระบาท’ ที่มีแต่พรรคอนาคตใหม่ ๗๐ เสียง ‘ไม่เห็นด้วย’ (เหตุผล ผิดรัฐธรรมนูญและครรลองระบบรัฐสภา)

พรรคเพื่อไทยแทนที่จะ ‘งด’ ไม่ออกเสียง เหมือนที่มุ่งมาดกันว่า อนค.จะทำอย่างนั้นเพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกชี้หน้า แต่ พท.ก็เตรียมท่าไว้แต่แรกแล้วว่า จะไม่ถูกชี้หน้ามากไปกว่าที่เป็น จึงมีการให้ความเห็นสั่วๆ แบบ Watana Muangsook

“ผมเห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทยยกมือผ่านพระราชกำหนดดังกล่าว เพราะไม่มีอะไรเกี่ยวกับการยืนข้างประชาชนหรือมีความเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ คนละเรื่องกันครับ” แต่อนาคตใหม่เขาไม่เอาด้วยข้ออ้าง ขัดรัฐธรรมนูญและฝ่ายบริหารข่มหัวรัฐสภา

การยืนหยัดไมให้รัฐบาลประยุทธ์ทำตามอำเภอใจ แม้แต่ในการออกกฎหมาย จึงเป็นการ “ยืนข้างประชาชนและมีความเป็นประชาธิปไตย” เรื่องเดียวกันโดยตรง

ส่วนความเห็น สุทิน คลังแสง ที่ว่า “เรื่องนี้มองลึกได้ แต่อธิบาย ‘ลึก’ ยากครับ” โดยอ้างว่าทหารสองหน่วยที่ผ่องโอนเข้าวัง เคยเป็นหน่วยที่ใช้ในการยึดอำนาจของทหาร ดังนั้นจากนี้ไปใช้ไม่ได้แล้วเพราะอยู่ภายใต้พระราชอำนาจ

ดูเหมือนท่านสุทินจะอ้างส่งเดชไปนิด เพราะถ้ามีการยึดอำนาจโดยกำลังทหารจากปราจีน สระบุรี และ/หรือปราณบุรี แล้วหน่วยราชวัลลภทั้งหลายตั้งมั่นอยู่แต่ในพื้นที่คอยปกป้องพระเจ้าอยู่หัวฯ อย่างเดียวล่ะ ยังจะรัฐประหารได้ไหม

ว่าที่จริงการโหวตครั้งนี้มิใช่แค่ให้เลือก ‘งัดหรือสยบ’ เช่นที่ คสช.๒ วางหมากให้เดินเท่านั้น หากพรรคเพื่อไทยจะงดออกเสียงทั้งหมด ก็ยังทำให้ พรก. ผ่านไปเป็น พรบ.ได้อยู่ดี

เพียงแต่เพื่อไทยอาจถูกตราหน้าว่าเลิก ‘กราบ’ ไปแล้วหรือ นั่นละเหตุสำคัญ