วันอังคาร, เมษายน 30, 2562

จักรพรรดิญี่ปุ่น : 35 ปีแห่งการต่อต้าน กับขบวนการที่ถดถอย (BBC Thai)




วิจารณ์จักรพรรดิไม่ผิดกฎหมายญี่ปุ่น

รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น ซึ่งสหรัฐอเมริกาช่วยร่างให้หลังแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เปลี่ยนสถานะของสมเด็จพระจักรพรรดิจาก "พระเจ้า" ในประเพณีความเชื่อแบบเดิมให้กลายเป็น "กษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ" การวิจารณ์-ตำหนิ-ประท้วง-ต่อต้าน สมเด็จพระจักรพรรดิไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายในประเทศญี่ปุ่น การเคลื่อนไหวทำนองนี้ ไม่เคยห่างหายไปจากญี่ปุ่น นับแต่ที่ประเทศประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ 74 ปีก่อน โดยเฉพาะในจังหวัดโอกินาวา ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งครั้งหนึ่งคือ "อาณาจักรริวกิว" แต่ต่อมาญี่ปุ่นเข้ายึดครองสมัยเมจิ เปลี่ยนชื่อ แล้วผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศในช่วงที่ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ของไทย
.

"รัฐบาลพยายามสร้างภาพว่าพระจักรพรรดิเป็นคนดี รักสันติ" เขาย้อนรำลึกถึงที่มาของการก่อตั้งเครือข่ายปัจจุบัน และเสริมว่า หลังจากที่จักรพรรดิฮิโรฮิโตะเริ่มแก่ตัวลง รัฐบาลสมัยนั้นพยายามแก้ไข ประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่ฮิโรฮิโตะทำลงไป เพื่อนำไปอ้างสร้างความชอบธรรมทางการเมือง ซึ่งเขาไม่คิดว่าจักรพรรดิเป็นคนไม่ดี แต่เพราะถูกทหารหลอก

"จักรพรรดิจริง ๆ แล้ว รักสันติภาพ แต่ถูกพวกทหารหลอกใช้... องค์กรของพวกเรา จึงพยายามสร้างความตระหนักรู้ให้นักศึกษา แก้ไขประวัติศาสตร์ที่บิดเบือนนี้"
.

ในสายตาของนักวิชาการแห่งคณะนิติศาสตร์ ม.โฮเซ ยาซุฮิโตะ อาซามิ มองปรากฏการณ์ของเครือข่ายนี้อีกด้าน โดยกล่าวกับบีบีซีไทยว่า "ดูเหมือนว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้อ่อนตัวลงจากในอดีต เพราะคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่ได้รู้สึกไม่ดีต่อจักรพรรดิเฮเซ ซึ่งต่างจากในอดีต ที่มีคนวิจารณ์พระจักรพรรดิโชวะต่อบทบาทของพระองค์ในช่วงสงคราม"

อ่านบทความเต็มได้ที่ลิงค์ข้างล่าง
https://www.bbc.com/thai/international-48079782
.


5 ปี คสช. คสช.เตรียม ตีปี๊บ ผลงาน 5 ปี คสช. - 5 ปีที่ผ่านมา นับศพคนฆ่าตัวตายเพราะปัญหาเศรษฐกิจมั่งรึเปล่า?












คำถามน่าคิด... ใช้ข้อหาเจ้าของสื่อกะคนนั้นคนนี้ แล้วกองทัพล่ะ กองทัพมีธุรกิจอะไรกับสื่อพาณิชย์?


นสพ.ไฟแนนเชียลไทมส์ลงบทสัมภาษณ์ธนาธรว่ามีความพยายามทำลายล้างพรรคอย่างไรบ้าง เช่น มีความพยายามติดต่อซื้อตัว สส. ด้วยราคาคนละ 30-50 ล้านบาท (ธนาธรบอกมีเทปอัดเสียง)






Thai opposition leader accuses junta of trying to ‘destroy’ party


Thanathorn says military regime has brought multiple legal cases against him and his party





“They are trying everything to destroy us,” Mr Thanathorn told the Financial Times in the library of his home in an upscale development in Bangkok. “They believe if they can prosecute the leaders of the party, then the party will be gone.”
.

Mr Thanathorn said that Future Forward’s leadership and the party itself faced 16 accusations, six of which were against him personally and some of which were criminal charges. “It’s amazing how far they could go just to stay in power, by any means — through family pressure, threatening my family, buying my MPs,” Mr Thanathorn said. “This is very serious.”

The EC last week resolved to press a charge against Mr Thanathorn for his sale of shares in V-Luck Media Company, the publisher of Thailand’s defunct Who magazine. Thailand’s election law bars media company shareholders from running for office.

However, Mr Thanathorn denied any wrongdoing in the case. He described the company as “dormant” and said that the sale was completed on January 8, before he filed his candidacy as an MP.

Separately, Mr Thanathorn was charged this month with sedition and helping a criminal suspect flee in connection with a May 2015 demonstration that was declared illegal under draconian rules barring protests. Mr Thanathorn told the FT that in reality he gave one of the suspects a lift after police questioning the following month, in a van registered to a company where his mother is a director.

Mr Thanathorn said that he had a voice recording proving that Future Forward MPs had been approached with offers of Bt30m-Bt50m ($940,000-$1.56m) if they agreed to switch their affiliation to the pro-junta party. “At this point, the market price for one MP is more than $1m in cash,” he said.
“Our military reform agenda is a threat to their power, to the status quo.”

The PPRP and the EC were not immediately available to comment on Mr Thanathorn’s remarks.

The Future Forward leader also said the EC was using a formula to calculate the number of seats that would cost Future Forward eight of its seats, and the anti-junta coalition its majority.
.
Thailand’s foreign diplomatic and trade partners are monitoring the continuing fallout from the election.

Source: Financial Times


วุ่นอีก!! พปชร.หอบหลักฐานแจงปมหุ้น แกนนำผวา”พงศ์กวิน-มาดามเดียร์-ธณิกานต์” อาจโดนด้วย (ลืมกันหรือยัง? โต๊ะจีน 650 ล้านบาท โผล่ชื่อ คลัง-ททท.-กทม.)





ว่าที่ส.ส.พปชร.หอบหลักฐานแจงวุ่นปมหุ้น หวั่น”พงศ์กวิน-มาดามเดียร์-ธณิกานต์” อาจโดนด้วย


29 April 2019
ประชาชาติธุรกิจ


วุ่นอีก!! พปชร.หอบหลักฐานแจงปมหุ้น รับจดแจ้งบริคณห์สนธิครอบคลุมทำสื่อ แต่ทำแค่อสังหาฯ แกนนำผวา”พงศ์กวิน-มาดามเดียร์-ธณิกานต์” อาจโดนด้วย

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)หลังจากผู้สมัครส.ส.ของพรรคถูกร้องให้กกต.ตรวจสอบการกรณีถือหุ้นสื่ออาจเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ โดยในเวลา 10.00 น. ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค โดยมีวาระหารือกรณีที่นายชาญวิทย์ วิภูศิริ กรรมการบริหารพรรค และว่าที่ ส.ส.กทม.เขตมีนบุรี ถูกร้องว่าถือหุ้นสื่อ โดยนายชาญวิทย์ ได้นำเอกสารหลักฐานมาเข้าชี้แจงว่า บริษัทที่ถูกร้องเรียนเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จดแจ้งวัตถุประสงค์ประกอบกิจการถูกบันทึกอยู่ในหนังสือบริคณห์สนธิ ระบุข้อหนึ่งว่า ประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ จึงได้ถูกนำมาร้องเรียน

นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้คาดการณ์ด้วยว่า มีกรรมการบริหารพรรคอย่างน้อย 2 คนอาจถูกร้องเรียนในลักษณะเดียวกันคือ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ว่าที่ส.ส.กทม.ซึ่งทั้ง 2 คนได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า มีบริษัทที่จดแจ้งวัตถุประสงค์ว่าประกอบธุรกิจสื่อจริง แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ และเป็นเพียงการจดแจ้งวัตถุประสงค์การทำธุรกิจตามแบบฟอร์มของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเท่านั้น ขณะเดียวกันยังประเมินด้วยว่า น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ว่าที่ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค อาจอยู่ในข่ายถูกร้องเรียนการถือหุ้นสื่อ แต่ในที่ประชุมประเมินว่า ในทางนิตินัยคุณสมบัติ น.ส.วทันยา ไม่ขัดกับการเป็นส.ส. แต่หยิบยกมาเป็นประเด็นโจมตีเพื่อหวังผลการเมืองรายวันมากกว่า

โดยในที่ประชุมได้มีการประเมินสถานการณ์ หากถูกผู้ถูกร้องมีความผิดจริง ก็จะไม่เลวร้ายถึงขั้นยุบพรรค และเป็นเรื่องคุณสมบัติของตัวบุคคลเท่านั้น ซึ่งในช่วงก่อนการเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงเรื่องคุณสมบัติต้องห้ามให้ผู้สมัครทุกคนได้รับทราบ ผู้สมัครทุกคนต้องจัดการตัวเองมาเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันในช่วงที่นายธนาธร จึงรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องเรียนกรณีถือหุ้นสื่อ ทางพรรคก็ได้เน้นย้ำกับว่าที่ส.ส.ทั้งหมด ให้กลับไปตรวจสอบคุณสมบัติต้องห้ามอีกครั้งหนึ่งเพื่อจะได้ชี้แจงข้อสงสัย หากมีการร้องเรียนในลักษณะนี้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ หลังการประชุมแกนนำพรรค ต่างเลี่ยงที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยมีเพียงนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค กล่าวว่า ขณะนี้พรรคไม่จำเป็นต้องชี้แจงใดๆกับสาธารณะ แต่เบื้องต้นได้เตรียมพยานหลักฐานไว้แล้ว หากกกต.รับคำร้องพิจารณา เมื่อถึงเวลานั้นพรรคพร้อมชี้แจงทันที

ooo



จารึก 10 ประการ กกต.





 ...



กกต.ยิ่งแกว่งคะแนนผลเลือกตั้ง เศรษฐกิจรากหญ้ายิ่งจมปลัก 'หนี้ท่วมหัว'


ขณะที่กรรมการเลือกตั้งยังแกว่งผลคะแนนไม่หยุดหย่อน เกิดผลตัดที่นั่งสภาของฝ่ายไม่เอาสืบทอดอำนาจ คสช. นายของ กกต. เศรษฐกิจประเทศก็ยิ่งบักโกรกหนักลง คำถามนี้มีคำตอบ โน ที่ยิ่งดังลั่นขึ้นไปอีก

ดังคอมเม้นต์บนทวี้ตของ independence @redbamboo16 “จะให้ลุงตู่อยู่ต่ออีกหรือ”

เรื่องก็คือ การนับคะแนนใหม่นครปฐมเขต ๑ ที่ผลแกว่งไปแกว่งมาแล้วมาลงเอยพรรคอนาคตใหม่ชนะพรรคประชาธิปัตย์ ๖๒ คะแนน เพียงข้ามคืน กกต.แกว่งต่อเมื่อพรรค ปชป.ท้วงว่าไม่ใช่ ผู้สมัครพรรคตนต้องได้คะแนนมากกว่า กกต.เลยกลับไปคุ้ย (ถังขยะ ฮ่าฮ่า) ใหม่

พบว่าคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ที่เขต ๒๕ จำนวน ๖๖ คะแนน เจ้าหน้าที่กรอกผิด ดันส่งไปใส่ให้พรรคประชาภิวัฒน์เสียนี่ หลังจากขอคืนมาให้กับผู้สมัครหมายเลข ๒ เขต ๑ แล้ว จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นผู้ชนะพรรคอนาคตใหม่ ๔ คะแนน

อ่านรายละเอียดการนับคะแนนแบบ ร็อคแอนด์โรลคราวนี้ได้ที่ https://workpointnews.com/2019/04/29/incredible ballots count/Thailandia

อนาคตใหม่ว่าไรต่อยังไม่รู้ แต่ข้อที่เลขาฯ พรรคเขาเรียกร้องควรรีบทำ ให้ กกต.เปิดเผยผลคะแนนดิบรายเขตทั้งหมดในทันที ก่อนที่ความชุลมุนอันก่อฝุ่นพิษทางการเมืองจะฟุ้งเสียจน ส่งผลให้นักธุรกิจ นักลงทุนต่างประเทศหวาดหวั่นกันหนักกว่านี้

ไหนจะบรรยากาศฟัดกันนัว ฟ้องกันมั่ว ประเด็น กม.ว่าด้วยการครอบครองหุ้นในสื่อของผู้สมัคร ส.ส. “กำลังถูกใช้อย่างสะเปะสะปะ เลือกปฏิบัติ และขัดเจตนารมณ์ของกฏหมาย ไม่น่าเชื่อว่าสังคมหลงทางกับเรื่องนี้มาไกลขนาดนี้”
 
จากข้อคิดของ prajak kong @bkksnow ต่อข่าวประชาไทซึ่ง “พบว่าที่ ส.ส.เพื่อไทย จ.สกลนคร ที่ถูกยื่นสอบคุณสมบัติ เคยเป็นเจ้าของร้านพิมพ์อิงค์เจ็ท เลิกกิจการไปแล้ว ๕-๖ ปี” อันนี้ฝีมือ ปูด ของสำนักข่าวอิศรา อีกละ (https://prachatai.com/journal/2019/04/82240)

ก็ยังใช้หาเรื่องตัดสิทธิ ตัดแขนขาทางการเมืองกัน เพื่อฟอกผิวให้พรรคพลังประชารัฐ ที่โดนฟ้องไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง กกต.ยังไม่ได้ฤกษ์เปิดคดี แถมบางคดีอย่าง เลี้ยงโต๊ะจีนระดมทุนแบะท่าว่าถ้าเงินบริจาคหากผิด กม. แต่ถ้ายังไม่ได้เข้าบัญชีก็รอดได้เสียด้วย

พวกลิ่วล้อ คสช.ล้วนทำเฉย เข้าหูซ้ายออกหูขวา ตาบอดตาใส กับภาวะเศรษฐกิจที่แต่ละวันมีแต่จมปลักกับหนี้สิน มองไม่เห็นทางหารายได้มาชดใช้ ผู้บริหารระดับชาติได้แต่สร้างวิมานในอากาศ (ปราศจากเมฆ -วิมานเมฆกำลังจะถูกรื้อ) ให้ประชาชน ขณะที่เจ้าสัวสร้างตึกระฟ้ากัน

ก็ในเมื่อหนี้สินรากหญ้ายังพอกหางหมู แต่รายได้เท่าเดิม แล้วหนี้สินชาติจะแก้ไขได้เพียงใด ในเมื่อรายได้ของเจ้าสัวนั่นกำไรล้วนๆ ยิ่งกิจการใหญ่พวกหุ้นส่วนประชารัฐทั้งหลาย ยิ่งมีดีลดีหักภาษี ลดค่าธรรมเนียมต่างๆ เพียบ
 
ส่วนผู้ใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำนั้นเล่า เวลานี้กว่า ๗๒ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อเดือนราวหมื่นบาทถึงหมื่นห้า มีรายจ่ายตก ๔๖% ของรายรับ ทำให้กว่า ๘๒% ของแรงงานเหล่านี้ไม่มีเงินออม แถมราว ๖๕% ยังไม่มีอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ด้วย

นั่นมาจากผลสำรวจสถานภาพของแรงงานไทยโดยมหาวิทยาลัยหอการค้า ที่เพิ่งออกมาระบุว่า ภาวะหนี้ครัวเรือนในปัจจุบันขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก ๑๕% จากปีที่แล้ว เป็นตัวเงินประมาณ ๑๕๘,๐๐๐ บาท วัดเป็นอัตราร้อยละสูงมากถึง ๙๕

ผู้ทำวิจัยอธิบายว่าปัญหาหนี้สะสมเพิ่มนี้เกิดจากแรงงานไทยรายได้คงเดิมไม่เพิ่ม แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่ม ของใช้จำเป็นมากขึ้นและขึ้นราคา อัตราดอกเบี้ยสูง แรงงานจึงต้องดึงเงินออกมาใช้หมด หยิบยืมญาติพี่น้องทั่วแล้วต้องหันไปกู้เพิ่ม

“หนี้สินในระบบสูงถึง ๕๘.% เฉลี่ยการผ่อนชำระ ๗,๑๓๘ บาทต่อเดือน นอกระบบ ๔๑.% เฉลี่ยการผ่อนชำระ ๔,๐๒๘ บาทต่อเดือน” จนทำให้ “ส่วนใหญ่ ๘๐.% เคยผิดนัดชำระหนี้” ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา

รวมความว่าแรงงานไทย ๖๓.๘% ตกอยู่ในสภาพ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย


แล้วอย่างนี้ยังจะดันทุรังให้ ไอตู๊บ ๔.๐อยู่ต่ออีก ๕-๒๐ ปีเชียวหรือ

วันจันทร์, เมษายน 29, 2562

หลังผลนับคะแนนใหม่เขต ๑ นครปฐม อนาคตใหม่ย้ำ "เปิดผลคะแนนรายหน่วยทั้งประเทศ" ได้ยินไหม กกต. ว่าไง ส่วนศรีสุวรรณ จรรยา “ชั่งหัวมัน”


พอเพลี่ยงพล้ำก็ทำเป็นโอด นี่เองนิสัยซ้ำซาก (ดูเหมือนทั่วไปเรียกว่า สันดาน) ของพวกขี้ข้าเผด็จการ ธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐปกติมักคุยโต เย้ยเยาะ และทับถมพรรคการเมืองฝ่ายไม่เอาทหารสืบทอดอำนาจ แต่คราวนี้มีออดอ้อน

บ่นการเมืองเข้าสู่วังวน เสียงก่นโจมตีกระหึ่ม ส่วนใหญ่กระสุนตกใส่พรรค พปชร.และประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าใหญ่ของตน อ้างว่าอย่างนี้ทำให้บ้านเมืองบอบช้ำหนักลงไปกว่าเก่า ประเทศไม่เดินไปข้างหน้า ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับกติกาบ้านเมือง

เพิ่งรู้ว่าประยุทธ์และ พปชร. นี่กลายเป็นประเทศไปแล้ว เพราะความมักได้ของตัวเองแท้ๆ พอฝ่ายถูกกระทำไม่ยอมกระแทกกลับ ก็พูดด้านๆ ว่าทำให้บ้านเมืองไปต่อไม่ได้ ที่ว่า พปชร.ไม่เคยให้ร้ายใครเพราะมีตัวช่วยทำแทนน่ะสิ
 
อย่างศรีสุวรรณ จรรยา นั่นทำเนียน ฟ้องดะทั้งสองฝ่าย คดีของพวกประชารัฐและคณะยึดอำนาจ ยื่นแล้วลืมแต่คดีฝ่ายไม่เอา คสช. เกาะติดกัดต่อทุกราย เฉพาะที่ฟ้องพรรคอนาคตใหม่ออกหลายลีลาสำนวน ขยายผลเป็นว่าเล่น

ล่าสุดศรีสุวรรณจะยื่นฟ้องว่าที่ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ๑๑ ราย กล่าวหา “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร”

ไม่ว่าจะเป็นเพียงแซะกลับเบาๆ อย่างที่ ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ว่า “ตราบใดที่คุณศรีฯ ไม่ร้องเรียนฝ่ายพลังประชารัฐ คนที่ระแวงว่าคุณศรีสุวรรณกลั่นแกล้งธนาธร (จึงรุ่งเรืองกิจ) และพรรคคงมีเยอะเลย”

หรือซัดใส่แรงๆ อย่าง Devil In The Bush @devilarrme ที่ว่า “บางทีการต่อสู้กับคนประเภทนี้ มันก็ต้องใช้วิธี ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไอ้เแบบ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร มันใช้ไม่ได้หรอก คนพวกนี้มันสันดานหยาบเกินกว่าจะสำนึก”

เห็นได้จากที่มีการขยายผลคดีของธนาธรไปถึงข้อหา “หัวหน้าพรรคไม่ตรวจสอบคุณสมบัติ” ของผู้สมัครอนาคตใหม่ที่เขต ๒ สกลนคร เสียก่อน “โดยศาลชี้ว่าขาดคุณสมบัติ และอาจไปถึงขั้นยุบพรรคอนาคตใหม่” ได้

ธนาธรย้อนเอาว่า “ตนก็มีข้อมูลผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ กับพรรคประชาธิปัตย์ที่เข้าข่ายกรณีแบบเดียวกัน ถ้ากรณีแบบนี้ต้องยุบพรรค ก็ต้องยุบทุกพรรค เราก็จะฟ้องผู้สมัคร พปชร. ในเคสเดียวกันด้วยเหมือนกัน ต่างกันที่ผู้สมัครพปชร.ยังถือหุ้นอยู่ แต่ผมขายแล้ว”
 
แต่การที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยรายหนึ่งยื่น กกต.สอบสวนว่าที่ ส.ส.เขตมีนบุรี-คันนายาวของพรรคพลังประชารัฐ ถือหุ้นเป็นจำนวนมากในบริษัทที่ประกอบกิจการธุรกิจสื่อ นั่นเป็นทั้งการป้องกันตนเองจากการถูกเอาเปรียบ และตรวจสอบคู่แข่งที่ใช้อำนาจอย่างไร้ข้อจำกัด

เมื่อปรากฏในข้อมูลของกรมธุรกิจการค้าและพาณิชย์ ว่านายชาญวิทย์ วิภูศิริ ถือหุ้นของบริษัทมหาชนที่ตนระบุไว้ในแผ่นพับหาเสียงว่าเป็นผู้บริหาร ถึง ๒๕๐ ล้านหุ้น และมีอำนาจในการลงนามของบริษัทด้วย คดีนี้เข้าข่ายความผิดและระวางโทษเดียวกันกับคดีที่ศรีสุวรรณยื่นฟ้องธนาธร

คือ ความผิดตามมาตรา ๙๘(๓) ของรัฐธรรมนูญ ๖๐ และมาตรา ๔๒(๓) ของ พรป.เลือกตั้ง มีระวางโทษตามมาตรา ๑๕๑ “จําคุกตั้งแต่ ๑ ปีถึง ๑๐ ปี และปรับตั้งแต่ ๒ หมื่นบาทถึง ๒ แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด ๒๐ ปี”


นั่นยังไม่นับกรณีที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยอีกราย ปุ๊น ตรีรัตน์ ร้องเรื่องความประพฤติไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมของ กกต.เอง ที่เขตเลือกตั้งบางกะปิ หน่วย ๑๓ มีบัตรเกินมา ๑๘๐ ใบ ในเมื่อการประกาศหน้าหน่วยเมื่อ ๒๔ มีนา มีผู้ใช้สิทธิ ๘๔๑ คน บัตรคะแนน ๘๖๐ ใบ หนึ่งเดือนให้หลัง ๒๔ เมษา ผู้ใช้สิทธิเพิ่มเป็น ๙๖๘ คน บัตรคะแนน ๙๘๐ ใบ สงสัยปาฏิหาริย์
 
ไม่ปาฏิหาริย์ (แต่เกือบไป) ก็ต้องการนับคะแนนใหม่ของ กกต. ที่นครปฐม เขต ๑ ซึ่งเดิมทีผลที่แจ้งว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้อันดับหนึ่ง ๓๕,๗๖๒ คะแนน ตามด้วยอนาคตใหม่ ๓๕,๖๑๕ คะแนน เกือบปาฏิหาริย์ก็ตรงที่ขณะกำลังนับคะแนนกันอยู่ จู่ๆ ไฟก็ดับไปแป๊บ เมื่อตอนบ่าย ๓ โมงครึ่ง

ครั้นนับต่อจนเสร็จยังไม่มีการแถลงผล พรรคประชาธิปัตย์ประกาศชัยชนะหวุดหวิด ว่าได้มากกว่าอนาคตใหม่ ๔ คะแนน สุดท้ายเมื่อ กกต.แถลงอย่างทางการ นายฉัตรชัย จันทร์พรายศรี แจ้งว่าคะแนนแท้จริงคือ อนาคตใหม่ได้ ๓๕,๗๐๗ คะแนน ขณะที่ ปชป. ตกไปเป็น ๓๕,๖๔๕ ชนะกัน ๖๒ คะแนน


พวก Futuristas ผู้สนับสนุน อนค.เฮกันใหญ่ แต่แกนนำอย่างเลขาธิการพรรคบอกว่า “กรณีนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าการดำเนินการเลือกตั้งของ กกต. มีโอกาสผิดพลาดกันได้” ปิยบุตร แสงกนกกุล เขียนบนทวิตเตอร์

“เราจึงขอให้ กกต. เปิดผลคะแนนรายหน่วยทั้งประเทศเพื่อให้ประชาชนทุกคนและทุกฝ่ายได้ร่วมกันตรวจสอบ เพื่อการเลือกตั้งที่โปร่งใส สุจริต และเที่ยงธรรมมากที่สุดครับ” ได้ยินไหม กกต. ว่าไง ส่วนศรีสุวรรณ จรรยา “ชั่งหัวมัน”

ผลงานเหลือเชื่อของรัฐไทย สมัยจอมพล ป. - ผัดไทย ”The most delicious form of fascism known to humankind”






History of pad Thai: how the stir-fried noodle dish was invented by the Thai government

Source: South China Morning Post

  • Thai prime minister Plaek Phibunsongkhram was committed to establishing a national identity to unite the nation through culture in the 1930s
  • The campaign included changing the country’s name, commissioning a new national anthem, and creating a national dish – pad Thai
.

When thinking about Thai food, for many diners, the first dishes that spring to mind will probably be pad Thai, tom yum goong and green curry. They are on the menu of practically every Thai restaurant worldwide.





What they might not be aware of is that the delicious concoction – “Thai stir-fry” in the local vernacular – is not historically a traditional dish in Thailand. Pad Thai’s roots are as political as they are culinary. It was imposed upon the populace almost 80 years ago as a cornerstone ingredient of a nationalistic agenda.

In the late 1930s, Thai prime minister Plaek Phibunsongkhram – one of the leaders who orchestrated an end to the country’s absolute monarchy – was committed to establishing a national identity to unite the nation through culture. Siam, as it was then known, was ethnically diverse, says retired professor Penny Van Esterik, who worked as a nutritional anthropologist at York University in Toronto, Canada.

Van Esterik, who studied Southeast Asia cuisines, became interested in the region when she took part in protests against the Vietnam war, then realised she knew nothing about Vietnam or the region in general.





She signed up as a university volunteer in the region and was sent to Thailand from 1967 to 1969, where she taught English to anthropology and archaeology students. She became intrigued with the country and returned to Canada to pursue a PhD in anthropology in the early 1970s so she could revisit Thailand to conduct more field work. Van Esterik and her husband returned periodically to Thailand for research purposes until 1995.

Educated in France, former field marshal Plaek, better known as Phibun, regarded his home country as backward and was determined to remake it as a strong and nationalistic nation, Van Esterik explains.

He issued 12 cultural mandates, or state decrees, from 1939 to 1942, which included changing the country’s name to Thailand, commissioning music and lyrics for a new national anthem, and dictating that women ditch the pant-like chong kraben and instead wear skirts.

The campaign also mandated the creation of a national dish – pad Thai.





“He simply had this particular version of a Thai noodle that was made by his housekeeper in his kitchen and he really liked it,” Van Esterik says.

“So that dish somehow became standardised. It became almost a prototype for an example of a noodle dish. And from then on, it sort of had a different role. It became a ‘Thai noodle dish’, and [Phibun] was promoting the idea that one should eat it, particularly civil servants, for lunch.”

It was originally called kway teow pad Thai – kway teow being “rice noodles” – and later abbreviated to pad Thai.

(https://www.scmp.com/lifestyle/food-drink/article/3007657/history-pad-thai-how-stir-fried-noodle-dish-was-invented-thai)


สื่อนอกรายงาน รัฐบาลทหารจัดงบให้ห้งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 1,000 ล้านบาท หรือประมาณ $43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ




BANGKOK (REUTERS) - Forty roads were closed in Bangkok as a band and officers on horseback marched past the Grand Palace on Sunday (April 28) in a dress rehearsal for the next weekend's coronation of King Maha Vajiralongkorn, Thailand's first in nearly seven decades.

King Vajiralongkorn, 66, also known by the title King Rama X, became constitutional monarch after the death of his revered father, King Bhumibol Adulyadej, in October 2016 after 70 years on the throne.

His coronation follows a mourning period for Bhumibol, whose grand funeral was held a year after his death.


The military-run government has set aside 1 billion baht (S$43 million) for coronation ceremonies on May 4-6, about one-third of the cost of the funeral.

The official coronation will be a mix of Buddhist religious ceremonies and Hindu Brahmin rituals. The king will be crowned on May 4, and the procession follows the next day.

On May 6, declared a national holiday, he will meet Thai and foreign dignitaries.



ชง 3 สูตรวิธีคิด ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์




เปิด 3 สูตร “กรธ.–สมชัย–โคทม”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่สำนักงาน กกต.เตรียมไว้ มีอยู่ 3 สูตร ประกอบด้วย 1.วิธีคำนวณของ กกต.ที่เสนอร่วมกับ กรธ. แจก ส.ส.บัญชีรายชื่อให้กับพรรคการเมืองที่ได้คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยต่อ ส.ส. 1 คน จำนวน 27 พรรค 2.วิธีคำนวณของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. คำนวณออกมาได้ 16 พรรค และ 3. วิธีคำนวณของนายโคทม อารียา อดีต กกต. คำนวณออกมาได้ 16 พรรคเช่นกัน คือไม่แจก ส.ส.ให้กับพรรคที่ได้คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยคือ 71,057 คะแนน

(https://www.thairath.co.th/news/politic/1555513)


ไม่รู้จะเป็นเทร็นใหม่หรือเปล่า #SaveThanathorn'sHair



Sas Katt‏ @sassykatts1 14h14 hours ago
Replying to @JBuchananBKK


จริงค่ะ #SaveThanathornsHair



ซีวอนเกิดมาวุ้น‏ @seawonn 12h12 hours ago

รวมถึงเสื้อผ้าด้วย ลุงมากๆ



เจ้าทุยอยู่ไหน...ได้ยินไหมใครมากู่ กู่ ???? Can you find him?



#BeltandRoad

Thai PM Prayut Chan-o-cha talks with CGTN on Belt and Road Initiative



CGTN
Published on Apr 27, 2019

CGTN reporter Su Yuting sat down for an interview with Thai Prime Minister Prayut Chan-o-cha, who is attending the ongoing second Belt and Road Forum for International Cooperation in Beijing. The Thai prime minister said he was very impressed by Chinese President Xi Jinping's keynote speech, adding that as the rotating chairman of ASEAN, Thailand will actively participate in the building of the BRI.

สิ่งที่นักเรียนนายร้อยทหารบกใหม่สหรัฐฯจะต้องเผชิญในวันแรกของการเรียนที่ เวสท์ พอยท์





https://www.facebook.com/804632636246419/videos/630601567353028/


What New Army Cadets Go Through On Their First Day At West Point


วิดีโอแปล with Subtitiles: สิ่งที่นักเรียนนายร้อยทหารบกใหม่จะต้องเผชิญในวันแรกของการเรียนที่ เวสท์ พอยท์

แปลจาก: What New Army Cadets Go Through On Their First Day At West Point

-------------------------------------------------------------------

เวลาทำ Subtitles ภาษาไทยให้อ่านกันได้ เนื่องจากวิดีโอเอง ใช้เวลาประมาณ 6 นาทีครึ่งต่อการชม ก็เลยประวิงเวลาผลัดประกันวันพรุ่ง (Procrastinate) จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คิดว่า น่าจะเริ่มแปลเสียทีหนึ่ง เพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่เสร็จ

ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร เพราะข้อมือตนเองก็มีปัญหาเวลาพิมพ์บนคีย์บอร์ด แต่ก็ดีใจที่สำเร็จเสร็จสิ้นลงไปจนได้

ก็เลยขอนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน

วิดีโอควรจะชมในระบบ HD ซึ่งจะได้ภาพและเสียงอันสมบูรณ์

-------------------------------------------------------------------------

ดิฉันเห็นการแปลหลายๆ แห่งของเวปไซค์ไทย ด้วยการแปลว่า โรงเรียนนายร้อยทหารบกสหรัฐอเมริกา เป็น โรงเรียนนายร้อย (เตรียมทหาร) ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ถูกต้อง เพราะนักเรียนที่ได้รับการตอบรับเข้ามาที่ West Point จะต้องจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือ Grade 12 (เทียบเท่า ม. 8) ก่อน เพราะเทียบเท่ากับการศึกษาในระดับปริญญาตรีสี่ปี

และที่เป็นแบบนี้ เพราะทางการทหารบกสหรัฐอเมริกา ต้องการความหลากหลายในพื้นเพประวัติของผู้สมัครแต่ละคน (Diverse backgrounds) คือ มาจากหลายๆ แห่ง เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถให้กับทีมงานได้

(เหมือนกับการเรียน นิติศาสตร์ หรือ Law School ใน USA ซึ่งจะไม่มีสาขาปริญญาตรี แต่จะเริ่มตั้งแต่ ระดับปริญญาโท ขึ้นไป เพราะคณะนิติศาสตร์ ต้องการ candidates ที่มาจากพื้นเพชีวประวัติการศึกษาต่างๆ กัน ในแต่ละด้าน เนื่องจากต้องใช้การพิจารณาในทุกมุมมองเท่าที่จะเป็นได้ในห้องเรียน และเทียบกับประสบการณ์จริงๆ )

---------------------------------------------------------------------------

การเข้าสู่ West Point นั้น จะต้องได้คะแนนการสอบที่ดี เช่น SAT หรือ ACT ประกอบด้วย แต่เท่าที่เห็นมา นักเรียนหัวกะทิจริงๆ จะไปอยู่กับมหาวิทยาลัยเอกชนดังๆ ก่อน เพราะได้รับทุนการศึกษาที่นั่น เช่นของ Ivy League เป็นต้น

แต่บุคคลที่เข้าไปเรียนใน Military Academies ของ US นั้น ก็ถือว่าเป็นนักเรียนระดับเก่งพอสมควร อาจจะเป็นเพราะญาติพี่น้องเคยศึกษาอยู่ก่อนด้วย ก็เลยเป็นการโน้มน้าวให้เข้าสู่สถาบันการศึกษาแห่งนี้ บวกกับสภาพร่างกายเหมาะสมที่จะฝึกทางภาคสนามโดยปราศจากเงื่่อนไขใดๆ

--------------------------------------------------------------------------

Federal Service Academies ใน USA มีทั้งหมด 5 แห่ง คือ:

• United States Military Academy (West Point, New York)

• United States Naval Academy (Annapolis, Maryland)

• United States Air Force Academy (Colorado Springs, Colorado)

• United States Coast Guard Academy (New London, Connecticut) และ

• United States Merchant Marine Academy (Kings Point, New York)

--------------------------------------------------------------------------

ลองดูวิดีโอชุดนี้ เป็นความรู้ก็แล้วกันว่า วันแรกของการศึกษาที่นี่เป็นอย่างไร และที่สำคัญคือ เราจะเห็นนายทหารสัญญาบัตรเพศหญิงอย่างน้อย 1 ใน 4 ของกองทัพบกสหรัฐในอนาคตด้วย และคิดว่า จำนวนเพศหญิงจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี

ไม่ทราบว่า ระบบแบบนี้ จะถูกนำเข้ามาปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยได้หรือไม่ ก็ต้องให้ผู้ชำนาญการทางทหารมาช่วยคอมเม้นท์ให้ด้วยก็แล้วกันนะคะ

Have a great and wonderful weekend ค่ะ


เมื่อ “เลือกตั้งแพ้แต่คนไม่ (ยอม) แพ้” #โดมิโนทางการเมือง เริ่มต้นแล้ว “ใครบ้าง” ที่ถือ-ถือครอง “หุ้นสื่อ” คงถูกขุดคุ้ย กอดคอกัน ‘รอด หรือ ร่วมตายหมู่ !!! ?


...

‘หุ้นต้องห้าม’ เอฟเฟกต์เลือกตั้ง ‘ธนาธร’ กอดคอ ‘พปชร.-ปชป.’ รอด-ตายหมู่ !!! ?





28 April 2019
ประชาชาติธุรกิจ


ปม “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด กลายเป็นเอฟเฟ็กต์ “หุ้นต้องห้าม” เมื่อ “ธนาธร”- อนาคตใหม่ (อนค.) อาจจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ-คุณสมบัติต้องห้ามผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพื่อพิสูจน์ “มาตรฐานเดียวกัน” ของกกต.

“ผมมีข้อมูลผู้สมัคร ส.ส. พปชร. กับ ปชป. ที่เข้าข่ายกรณีแบบนี้อยู่เหมือนกัน ถ้าแบบนี้ยุบพรรค ก็ต้องยุบทุกพรรค เราก็จะฟ้องผู้สมัคร พปชร.ในเคสเดียวกันด้วยเหมือนกัน ต่างกันที่ผู้สมัคร พปชร.ยังถือหุ้นอยู่ แต่ผมขายแล้ว”นายธนาธรกล่าว

สอดรับกับพรรคเพื่อไทย (พท.) โดยนายณรงค์ รุ่งธนวงศ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและสถิติ กองอำนวยการเลือกตั้ง พท. ยื่นเรื่องต่อ กกต. ให้ตรวจสอบ “คุณสมบัติต้องห้าม” เพราะถือครองหุ้นสื่อ

รายแรก-รายถัดจาก “ธนาธร” ที่ถูก พท. “แก้เผ็ด” คือนายชาญวิทย์ วิภูศิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 5 และนายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร เขต 5 ของ พปชร.

เลวร้ายอาจลามไปถึง “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรคเพราะไปเซ็นรับรองคุณสมบัติ “ผู้ขาดคุณสมบัติ” และเมื่อกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เข้าไปเกี่ยวข้องหากพิสูจน์ได้ว่าเข้าค่ายทำให้เลือกตั้ง “ไม่สุจริต” อาจถึงขั้น “ยุบพรรค” เข้าตำรา “กรรมตามสนอง” ก็เป็นได้

“สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต.-อดีตผู้สมัคร ส.ส. (สอบตก) ปชป. โพสต์ภาพตัวละคร “ธานอส” จากภาพยนตร์เรื่อง “Avengers : Endgame” พร้อมระบุข้อความเมื่อวันที่ 27 เม.ย.62 ว่า “การดีดนิ้วทางการเมืองที่จะสลายผู้สมัคร ส.ส.ไปครึ่งจักรวาล อินฟินิตี้วอร์เริ่มต้นขึ้นแล้ว”

เมื่อการนำเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส.ที่เขียนไว้ใน พรป.ส.ส.มาตรา 42(3) มาตีความและบังคับใช้อย่างเคร่งครัด

“ห้ามผู้สมัครเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ” เป็นผู้ถือหุ้น ล้านหุ้น หรือ หนึ่งหุ้น ล้วนต้องห้าม

กิจการที่เกี่ยวกับสื่อ จะดูที่วัตถุประสงค์การก่อตั้งในหนังสือจดทะเบียนบริษัท หากมีคำว่า “หนังสือพิมพ์” หรือ “สื่อมวลชน” แม้เป็นหนึ่งในร้อยข้อ ย่อมไม่ได้

“แม้รับเหมาก่อสร้าง ขายอุปกรณ์สำนักงาน ทำธุรกิจนำเข้าส่งออก แต่เวลาจดทะเบียนไปจดวัตถุประสงค์ครอบจักรวาลเพื่อให้เกิดความคล่องตัวทางธุรกิจ ย่อมไม่ได้”

ผู้สมัคร ส.ส.จะฝ่ายใดก็ตาม หากเป็นนักธุรกิจที่ถือครอบครองหุ้น วันนี้แค่รอคอยว่าเมื่อใด การร้อง การขุดคุ้ยว่าบริษัทตนเองมีหุ้น จะมีหลุดวัตถุประสงค์สักข้อที่ว่าทำกิจการสื่อ ทั้งที่ผ่านมาทำกิจการอื่นมาโดยตลอดหรือไม่

เมื่อหนึ่งคนถูกตรวจสอบและถูกชี้ว่าขาดคุณสมบัติ การขอให้ตรวจสอบอีกสิบอีกร้อยคนที่ชนะเลือกตั้งก็จะเกิดขึ้น

เมื่อระบบเลือกตั้งใหม่ทุกคะแนนมีความหมาย การขอให้ตรวจสอบ”ผู้สมัครที่แม้ไม่ชนะเลือกตั้ง” เพื่อ”สลายคะแนนทุกคะแนน” ที่จะสะสมเป็นคะแนนพรรคก็จะเกิดขึ้น

“การดีดนิ้วครั้งนี้ หรือว่าจะทำให้ ส.ส.และผู้สมัคร ส.ส.จะสลายไปครึ่งจักรวาล”

#โดมิโนทางการเมือง เริ่มต้นแล้ว

ปรากฏการณ์หลังจากนี้ “ใครบ้าง” ที่ถือ-ถือครอง “หุ้นสื่อ” คงถูกขุดคุ้ย-ประจานสาแหรกก็อีก “บิ๊กลอต”

เมื่อ “เลือกตั้งแพ้แต่คนไม่ (ยอม) แพ้” สารพัดแท็กติคก็ถูกงัดมาใช้ทำลายล้างทางการเมืองให้ราบคาบในกระดานเดียว


วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2562

ราชาภิเษก | "ฝรั่ง" คิดอย่างไรกับพระราชพิธีในอดีต - BBC News ไทย





ราชาภิเษก | "ฝรั่ง" คิดอย่างไรกับพระราชพิธีในอดีต - BBC News ไทย

BBC News ไทย
Published on Apr 27, 2019

บีบีซีไทยรวบรวมบันทึกดังกล่าวจากเอกสารที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหราชอาณาจักร (The National Archives) ซึ่งนักการทูตอังกฤษรายงานกลับมายังต้นสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้พูดคุยกับนายเผด็จ ขำเลิศสกุล นักวิจัยประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำหอจดหมายเหตุฯ ตลอดจนบทความวิชาการของผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ไทย
.

เรื่องเกี่ยวข้อง...

เช็กเลย! ข้อมูลการปิดถนนในวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2 – 5 พ.ค. 2562
(Sanook.com)


การบินไทย "ขาดทุนเท่าฟ้า" ฉายาใหม่ไฉไลกว่า ?




#การบินไทยขาดทุนอีกแล้ว #การบินไทย_รักควายเท่าฟ้า🤣🤣🤣

โดย ปีใหม่ ปีใหม่

//// สรุป 5 ปีที่ คสช อยู่มาผลประกอบการดังนี้
ปี 2557 รายได้ 203,966.62 ล้านบาท ขาดทุน 15,611.62 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 192,723.20 ล้านบาท ขาดทุน 13,067.67 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 181,446.21 ล้านบาท กำไร 15.14 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 190,534.63 ล้านบาท ขาดทุน 2,107.35 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 199,500 ล้านบาท ขาดทุน 11,569 ล้านบาท

เป็น 5 ปีที่ไม่มีทักษิณ ชินวัตรอยู่ในประเทศไทยนะคะ ใคร? ทำให้การบินไทยขาดทุน เรื่องนี้ “หญิงเปรต” น่าจะรู้ดี !!
อ้างอิง
ปี 2557-2560 http://www.investerest.co/business/financial-loss-of-thai-airways/
ปี 2561 https://www.matichon.co.th/economy/news_1467877

เมื่อ ปี 59 คณิต จี้ เร่งปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม เผยเคยเสนอปฎิรูปศาลแต่ไร้การตอบรับ - ถ้าไม่ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ความสงบเรียบร้อยในประเทศก็เกิดยาก





นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระ ตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ากระบวนการยุติธรรมยังไม่เป็นโล้เป็นพายเท่าที่ควร ทั้งที่กฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมสมบูรณ์ไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่คนไทยมีความเข้าใจในกฎหมายไม่ดีพอ จึงต้องหันไปโทษสถาบันการศึกษาที่สอนไม่จริง และสอนไม่ลึก ที่ผ่านมามีความพยายามปฏิรูปการเมืองแต่กลับไม่มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ทั้งที่กระบวนการยุติธรรมเป็นปัญหา ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ทำข้อเสนอผ่านการร่างรัฐธรรมนูญปี 40 ให้มีการปฏิรูปศาล แต่เมื่อเสนอไปก็ไม่มีการตอบรับ และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ทำการปฏิรูปศาล หรือปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยที่ผ่านมาตนได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมมอบให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพราะคิดว่าถ้าไม่ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ความสงบเรียบร้อยในประเทศก็เกิดยาก และหากไม่มีความสงบการสร้างความปรองดองก็เลิกพูดได้เลย ทั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องกฎหมายแต่เป็นเรื่องของคน ที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องในหลายๆ เรื่อง ทั้งการทำงานของศาลสูงที่ควรจะเป็นระบบพิจารณาข้อกฎหมายเท่านั้น ทั้งนี้ ในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมต้องไม่ใช่การขยายปีก เพราะเท่าที่ตนติดตามยังเป็นการสร้างองค์กร ขยายปีกอำนาจ ทั้งที่การปฏิรูปในบางเรื่องก็เป็นการจำกัดอำนาจ

(https://www.matichon.co.th/politics/news_66282)

ooo




เอาล่ะโว้ย!! 'ตี๋เอก' ยิ้มอ่อนมีไพ่เด็ดยุบ พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์ ถ้ากกต.ใช้มาตรฐานเดียวกัน





เอาล่ะโว้ย!! 'ตี๋เอก' ยิ้มอ่อนมีไพ่เด็ดยุบ พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์ ถ้ากกต.ใช้มาตรฐานเดียวกัน

วันที่ 27 เม.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเชื่อมโยงกับ นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จ.สกลนคร

โดยศาลชี้ว่าขาดคุณสมบัติ และอาจไปถึงขั้นยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากเพราะหัวหน้าพรรคไม่ตรวจสอบคุณสมบัติก่อนนั้น

นายธนาธร เผยประเด็นดังกล่าวว่า เขา (ภูเบศวร์ เห็นหลอด) ไม่ได้ขาย แต่ตนขาย ซึ่งการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวผ่านฐานข้อมูลเปิดในออนไลน์ ไม่สามารถหารายละเอียดในระดับของบริคนสนธิ หรือว่าบริษัททำกิจการประเภทอะไรได้ เพราะอนาคตใหม่มีผู้สมัครเกือบ 500 คน

ขณะเดียวกันตนก็มีข้อมูลผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ กับ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เข้าข่ายกรณีแบบเดียวกัน ถ้ากรณีแบบนี้ต้องยุบพรรค ก็ต้องยุบทุกพรรค เราก็จะฟ้องผู้สมัคร พปชร. ในเคสเดียวกันด้วยเหมือนกัน ต่างกันที่ผู้สมัครพปชร.ยังถือหุ้นอยู่ แต่ผมขายแล้ว


สื่อออนไลน์ Online Media


แชมป์ 1984: ให้พลังประชารัฐชนะถล่มทลายแล้วตั้งรัฐบาลได้เลยยังดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้





แชมป์ 1984: ให้พลังประชารัฐชนะถล่มทลายแล้วตั้งรัฐบาลได้เลยยังดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้

"ก่อนการเลือกตั้ง 24 มีนา ผมมองการเลือกตั้งอย่างมีความหวังนะ ตัวผมเองรู้สึกเบื่อและไม่ชอบใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ ตอนแรกก็คิดว่า เราเป็นคนทำกิจกรรม อาจจะมีคติมากเกินไปและตัวเองเสพย์สื่อแบบเลือกข้าง แต่พอไปคุยกับคนที่ไม่เคยรู้จักกัน และไม่ใช่คนทำกิจกรรมอย่างคนขับ taxi เขาก็บ่นว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่มันแย่เหมือนกัน"

"วันเลือกตั้ง 24 มีนาคม ตัวผมไม่ได้หวังผลการเลือกตั้งในเขตตัวเองมากนัก เพราะตั้งแต่คุณหญิงสุดารัตน์ติดโทษแบนทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ก็ผูกขาดเขตผมมาโดยตลอด แถมตอนลงประชามติปี 2559 เขตผมก็รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่เลือกตั้งครั้งนี้พอนับคะแนนออกมาผลปรากฎว่าประชาธิปัตย์แพ้พลังประชารัฐผมก็แอบแปลกใจอยู่เหมือนกัน"

"จริงๆตอนวันเลือกตั้ง ในภาพรวมผมยังมองการเลือกตั้งแบบมีความหวังนะเพราะอย่างน้อยแม้พล.อ.ประยุทธ์จะได้เป็นนายก แต่ คสช. และมาตรา 44 ก็จะหมดไป แปลว่าต่อจากนี้การบริหารประเทศแบบตามใจชอบไม่ได้แล้ว"

"แต่ปรากฎว่า หลังการเลือกตั้งแทนที่จะมีความชัดเจนว่าใครจะเป็นรัฐบาลใหม่ ทุกอย่างกลับอยู่ในภาวะอึมครึม ไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเป็นยังไง ไม่มีอะไรชัดเจน มีแต่ความสับสน ยิ่งมาเห็นปรากฎการณ์ที่พรรคที่ไปร่วมแถลงไม่เอาการสืบทอดอำนาจอย่างเพื่อไทย ที่มีว่าที่ส.ส.โดนใบส้ม เพราะไปถวายเงินพระ เห็นพรรคอนาคตใหม่ที่โดนสารพัดคดี เห็นคุณเสรี หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยที่โดนร้องเรื่องคุณสมบัติ หรือกระทั่งคุณมิ่งขวัญที่ไม่ได้มาร่วมแถลงจุดยืน แต่พอออกมาประกาศตัวว่าไม่ร่วมกับพลังประชารัฐได้ไม่กี่วันก็ถูกร้องเรียน ผมก็เลยมองว่าจากนี้ไปคงต้องเตรียมรับสิ่งที่อาจจะเลวร้ายไปกว่านี้"

กิตติธัช หรือ "แชมป์ 1984" นักกิจกรรมทางสังคมและจำเลยคดีการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง #MBK39#RDN50 #Army57 ให้สัมภาษณ์หลังร่วมกิจกรรมยืนเฉยๆ คัดค้านการดำเนินคดีกับคนที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ กกต. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 26 เมษายน 2562


iLaw

...



https://www.facebook.com/100000942179021/videos/2675286712512708/


บทความน่าสนในจากอดีตเอกอัครราชทูต ออสเตรเลียประจำประเทศไทย - อันตรายต่อการเมืองไทย/คสช./ทหาร ในการผลักดันทำลายพรรคอนาคตใหม่



(Excerpt)
The election campaign and results confirmed that political society is still split by class and regional loyalties, urban-rural tensions, disparities in incomes and the allocation of state resources, and the military's determination to protect elite interests. Polarization along generational lines can now be added to the list.
.
The emergence of Future Forward signals a welcome change. It seems interested in genuine liberal democracy -- freedom of expression, an independent judiciary, the rule of law -- as well as electoral democracy. It talks more about how Thailand should be governed, less about who should govern.

Whether or not Future Forward is banned, Thais supporting its ideology will continue to push for reform, especially through social media, which they used effectively through the election campaign. Army chief Apirat seems to understand that. In a recent tirade against people who "studied democracy abroad and read other countries' textbooks," he conceded that social media is more powerful than the weapons of the armed forces.

If wiser heads in the establishment recognize the abiding strength of the demands for democratic change, a showdown between the weaponry of the armed forces and the social-media weaponry of political reformers could be avoided.

Thais might then imagine a brighter future. Governance could resumes a central place in political discussions, and Thailand might again serve as a beacon of democratic reform in Southeast Asia as it did in the 1990s. The eclipse of Thaksin and the dawning of Future Forward could represent a silver lining to the dark clouds hanging over not only Thailand, but also over a region where democratization has been in steady retreat
..

James Wise is author of Thailand: History, Politics and the Rule of Law, published by Marshall Cavendish in April, and was Australia's ambassador to Thailand from 2010 to 2014.


จุดยืนพรรคอนาคตใหม่ต่อ "การลงถนน" ผ่าน ช่อ พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่





ช่อ - พรรณิการ์ วาณิช ชี้แจงการสู้คดีธนาธร

#Futurista Future Forward
Published on Apr 26, 2019


VOICE TV 21
 เผยแพร่เมื่อ 25 เม.ย. 2019 

'พรรณิการ์ วาณิช' โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Wake Up News เช้าวันนี้ (26 เม.ย.62) ถึงมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมเข้าใส่ 'พรรคอนาคตใหม่' ในขณะนี้ โดยเฉพาะกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคอนาคตใหม่ กรณีถือครองหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งถูกร้องว่า เข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ และ ผิด พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส.
...


ไม่แน่ใจรัฐบาลตู่ใช้ ‘ชิโนโมเดล’ หรือ ‘ลาวโมเดล’ กันแน่ เห็นที "ต้องคิดค้นวิธีสกัด ‘น้ำมันพราย’ จากทุนจีนและเจ้าสัวไทยเสียละมัง"


ไม่แน่ใจรัฐบาลตู่ใช้ ชิโนโมเดลหรือ ลาวโมเดล กันแน่ พอหัวหน้า คสช.กลับจากจีน กระทรวงการคลังก็ประกาศยกเลิกแผนแจกเงิน ๑,๕๐๐ บาทให้คนท่องเที่ยวเมืองรอง ๕๕ จังหวัด หันไปใส่เงินบัตรคนจน ๕๐๐ บาทไว้ซื้อของร้านธงฟ้าแทน

คงไม่ใช่เพราะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์โวยเรื่อง “ทุกข์ของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์ม” เมื่อราคาตกไม่หยุด (ล่าสุดเหลือแค่โลละ ๑.๖๐ บาท) แล้วพาดไปถึงเรื่องแจกเงินพันห้าไว้เที่ยวเมืองรอง ว่า “แนวคิดไม่เข้าท่า”

แม้นว่าอดีตรองหัวหน้าพรรค หนึ่งในผู้เข้าชิงตำแหน่งหัวหน้าคนใหม่ของ ปชป. ประกาศก้องที่เมืองคอน จะเข้าร่วมรัฐบาลค่อนข้างแน่นอน” กับพรรคพลังประชารัฐ คงหวังได้เอี่ยวดีลเจ้าสัวรับทุนจีน ๔.๖ ล้านล้านบาท

ที่แน่ๆ ตอนนี้คลัง บ่จี๊เงินกำไรที่รัฐบาลทักษิณทำไว้ คสช.ถลุงเกลี้ยง แล้วยังสร้างหนี้เพิ่มอีก ดังรายงานสถานะบัญชีการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยสำหรับปีที่ผ่านมา “ยังไม่ฟื้น” แถมขาดทุนอีก ๑.๕๓ แสนล้านบาท

และก็เช่นเคย ไม่ยอมรับความ ด้อย ประสิทธิภาพทางการบริหารจัดการ อ้างว่าปี ๒๕๖๑ เกิดการแข็งค่าของเงินบาท จึงต้องขายทิ้งสินทรัพย์ต่างประเทศที่เคยได้มาเมื่อหลายปีก่อน

ทำให้อัตราขาดทุน สะสมของแบ๊งค์ชาติในปลายยุค คสช.เก่า กำลังจะต่อสมัย คสช.ใหม่นี่ อยู่ที่ ๘.๘ แสนล้านบาทเข้าไปแล้ว


ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกฯ จากการยึดอำนาจบอกด้วยปากของวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกรัฐบาล ว่าเป็นปลื้มกับการเยือนจีนมาก โดยเฉพาะสไตล์การปกครองของสี จิ้นผิง ก่อนหน้านี้สักเดือนก็ยังแนะให้คนไทยอ่านผลงานของผู้นำจีนคนนี้

ดังนั้นจึงขอเอาอย่างการพัฒนาเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหามลพิษของจีน ซ้ำชวนให้ประธานาธิบดีจีนมาเยือนไทยเพื่อสานต่อ “ความร่วมมือเชิงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ที่รอบด้าน” ผูกมัดนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ เข้ากับบีอาร์ไอ หรือเส้นทางสายไหมของจีน

เนื่องจากได้เตรียมการไว้ให้หมดแล้ว ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงพอประมาณที่จีนจะได้กำไรเพียบ ค่าจ้าง สินค้า และสิทธิประโยชน์บนผืนแผ่นดินไทยนาน ๙๙ ปี แล้วยังจะมีรายได้ดอกเบี้ยกู้ยืมอัตราสูง ที่แม้จะไม่ได้ทางตรงก็ผ่านการเป็นพันธมิตรเงินทุนของแบ็งค์จีนกับเจ้าสัวไทย

หวังว่าความ ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืนต่อไปในยุค คสช.๒ กับจีนนี้จะไม่มีวิธีแก้ปัญหาพืชผลไทยราคาตกต่ำด้วยการให้ปลูกพืชผลชนิดอื่นเฉพาะที่จีนต้องการ เหมือนกับ ลาวโมเดลซึ่งจีนได้สัมปทานใช้ประโยชน์ที่ดิน ปลูกกล้วยหอมส่งกลับจีนโดยตรง ประเทศเจ้าบ้านได้แค่ค่าเช่าราคาต่ำ ระยะยาว

ที่น่าห่วงมากกว่าพฤติกรรมเอาเปรียบของจีน อยู่ที่นิสัยซ้ำซากของผู้นำไทยคนนี้ พืชผลเศรษฐกิจไหนราคาตกก็บอกให้เปลี่ยนชนิดปลูกสะเปะสะปะ หมามุ่ยมั่ง สตรอว์แบรี่บ้าง สักแต่ว่านึกอะไรขึ้นมาได้โดยไม่มีพื้นฐานข้อมูลทางโลจิสติกและการตลาด
 
อย่างเรื่องราคาปาล์มนี่ก็ ไอทู้บ คนนี้แหละที่เร่งชาวไร่ภาคใต้ปลูกแทนยาง เสร็จแล้วไม่มีปัญญาดันราคาให้เลี้ยงตัวได้ อย่าว่าแต่โลละ ๒.๗๐-๒.๘๐ บาทที่ขาดทุนแล้ว ราคาซึ่งรองโฆษก ปชป. ร้องว่าตกต่ำสุดๆ ๑.๘๐ บาท ถึงวันนี้ลงไปอีก ๒๐ สตางค์

@TichilaThaipbs รายงาน “นิคมสหกรณ์ปลายพระยา จ.กระบี่ เปลี่ยนป้ายราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันเหลือกิโลกรัมละ ๑.๖๐ บาท...ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนหนัก เพราะค่าเก็บเกี่ยวเเละค่าขนส่งตันละ ๘๐๐ -๙๐๐ บาท ไม่คุ้มกับการตัดปาล์มขาย”

ข้อเรียกร้องของนายเชาว์ มีขวด ที่ว่ารอพลังประชารัฐไม่ไหว ดูจะสวนทางกับคนโตในพรรค ปชป.อย่างหน้าเป็นหลัง วันก่อน กรณ์ จาติกวณิช ไปให้คำมั่นกับกลุ่มเศรษฐีนครศรีธรรมราชว่า ปชป. จะไปร่วมเป็นเบี้ยเติมเต็มให้เผด็จการทหารอีกแน่
 
ข่าวว่าเสร็จจากสนทนากับนายจิมมี่ ชวาลา อดีต รมว.คลังโย่งของประชาธิปัตย์ก็ซาวเสียงนักธุรกิจที่ไปร่วมงานเลยเชียว ว่าไปอยู่กับประยุทธ์ดีไหม ได้เสียงตอบรับอึงมี่ คนเหล่านี้ไม่สนในสิ่งที่รองโฆษกฯ เตือนถึงชั้นเชิงหลอกล่อ ตบตา เอาลูกกวาดล่อของทีมประยุทธ์

ดังที่เขาชี้ว่า การแก้ปัญหาราคาปาล์มโดยรัฐบาลชดเชยให้กิโลละ ๓.๒๐ บาท แต่กำหนดให้อยู่ในเกณฑ์คุณภาพที่เจ้าสัวรับซื้อเท่านั้น ส่วนใหญ่จึงยังขายได้ในราคาไม่ถึง ๒ บาทอยู่ดี หรือในกรณีที่โรงไฟฟ้าบางปะกงรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในราคากิโลกรัมละ ๑๘ บาท แต่ผู้ขายต้องส่งให้ทางเรือ

“ซึ่งในประเทศนี้มีเอกชนเพียงรายเดียวที่มีเรือขนส่งน้ำมันปาล์ม” นายเชาว์เผย “มาตรการที่ออกมายังส่อเค้าเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน มากกว่าการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร” เสียด้วย

เห็นทีพรรคที่คิดจะเข้าไปร่วมรัฐบาลใหม่กับ คสช. อย่าง ปชป.ต้องคิดค้นวิธีสกัด น้ำมันพรายจากทุนจีนและเจ้าสัวไทยเสียละมัง