ตอนใหม่รายวัน #กกต.โป๊ะแตก เดอะซีรี่ส์ ชนิดที่อดีต กกต.อย่าง โคทม อารียา “ไม่อยากวิจารณ์”
แต่ก็ “ขอให้ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา อย่าฟังผู้มีอำนาจมากนัก” นี้ ก็เลยมีมติเอกฉันท์
“ให้บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากนิวซีแลนด์เป็นบัตรเสีย
จำนวน ๑,๕๔๒ใบ โดยอ้างอิงมาตรา ๑๑๔
พ.ร.ป.ส.ส.” อ้อ อ้อ เดี๋ยวก่อน “ในคำวินิจฉัยไม่เรียกว่า ‘บัตรเสีย’ แต่เรียกว่า เป็นบัตรที่นำไปนับคะแนนไม่ได้
เพราะมาไม่ทันกำหนดการนับคะแนน”
ทั้งนี้ตามข้อกฎหมายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ส.ส. มาตรา ๑๑๔ ระบุว่าถ้ามี ‘หลักฐานอันควรเชื่อ’
ว่ามีการไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรม หรือ “มีการส่งบัตรเลือกตั้งมาถึงสถานที่นับคะแนนของเขตเลือกตั้งใดหลังจากเริ่มนับคะแนนแล้ว...
ให้คณะกรรมการมีอํานาจสั่งมิให้นับคะแนนนั้นโดยให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย”
นอกจากนั้นยังมีมาตรา ๑๔๔ ที่กำหนดให้ลงโทษ ‘ผู้ใด’ ที่จงใจ “ทำให้บัตรชำรุด เสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย” ระวางโทษคุกไม่เกิน
๕ ปี ปรับไม่เกิน ๑ แสนบาท และให้ศาลสั่งถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้น ๑๐ ปี
งานนี้มีผู้รับผิดชอบด้วยกันสามฝ่าย คือ
กกต. กระทรวงต่างประเทศ และการไปรษณีย์ ที่ตกลง “แนวปฏิบัติร่วมกัน” ไว้แล้วว่ากล่องบัตรจะต้องถึง
“ทำการบริษัทไปรษณีย์ไทย ภายในวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๒ เวลา ๒๐.๐๐ น.”
ดูเหมือนผู้รับผิดชอบทั้ง ๓ ราย
ไม่มีใครรับผิดเลย โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย โยนความผิดไปให้ “ปัญหาเบื้องต้นมาจากทางสายการบินจากนิวซีแลนด์
ไม่ได้ส่งมากับเที่ยวบินที่ควรจะเป็น
ทำให้เกิดความล่าช้าและไม่ได้มาช้าตอนมาอยู่กรุงเทพมหานคร”
ซึ่งก็เป็นการให้ข้อมูลผิดถนัด ทำให้การบินไทยต้องรีบแถลงคำชี้แจง
‘ไทม์ไลน์’ ของตน ว่าได้รับถุงพัสดุบัตรเลือกตั้งจากสายการบินแอร์นิวซีแลนด์เมื่อวันที่
๒๒ มีนา แล้วเอาขึ้นเครื่อง ‘ทีจี ๔๙๒’ ออกจากเมืองอ็อคแลนด์มุ่งสู่สุวรรณภูมิ
ถึงท่าอากาศยานเมื่อ ๒๓ มีนา แล้วแจ้งกระทรวงต่างประเทศเมื่อตอน
๕ โมงเย็น ให้ไปรับพัสดุได้ระหว่างเวลาสี่ทุ่มถึงสี่ทุ่มครึ่ง รุ่งขึ้น ๒๔ มีนา
เวลาทุ่มครึ่ง กต.จึงไปรับจากคลังสินค้า
เอาละสิตานี้ ‘เผือกร้อน’ ไปตกกับ กต. ที่ออกมาชี้แจงแสดงความเสียใจบ้างว่า
‘shit happens’ (ขออนุญาตไม่แปล)
โดยลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่วันแรกที่สถานทูต ณ กรุงเวลลิงตันจัดส่งถุงเมล์การทูตพิเศษที่บรรจุบัตรเลือกตั้งไปยังอ็อคแลนด์โดยสายการบินแอร์นิวซีแลนด์
เมื่อ ๑๘ มีนา
ถุงเมล์เหล่านั้นควรจะไปกรุงเทพฯ ด้วยสายการบินไทยจากอ็อคแลนด์ในวันที่
๑๙ มีนา แต่เกิดการล่าช้าถุงขึ้นเครื่องและออกบินเมื่อเวลาบ่ายสามโมง (ท้องถิ่น)
ของวันที่ ๒๓ มีนา และไปถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเวลาสองทุ่ม ๕๐ นาฑีวันเดียวกัน
แล้วเกิดอะไรขึ้นระหว่างวันที่ ๑๙ ถึง ๒๓
มีนา กต.ขวนขวายหาสาเหตุจากแอร์นิวซีแลนด์ “ตามเอกสาร tracking
พบว่ามีการส่งมอบถุงเมล์ดังกล่าวในเวลา ๐๖.๓๗ น.”
ของวันที่ ๒๑ มีนา ให้แก่แผนกสินค้า แอร์คาร์โกของการบินไทยไป
(แสดงถึงการแถลงอย่างมั่วซั่วของนายดอนก่อนหน้านั้น)
ช่วงวันที่ ๒๑ และ ๒๒
ถุงเมล์บัตรเลือกตั้งที่คนไทยในนิวซีแลนด์อุตส่าห์กระเสือกกระสนไปใช้สิทธิกัน
หลายคนต้องทำงานติดพัน บ่นว่าเสียค่าอูเบอร์บึ่งไปลงคะแนนหลังเลิกงาน แล้วกลับเป็น
‘เสียเปล่า’ เพราะความ ‘ห่วยแตก ชุ่ย และเพียบพูนด้วยเล่ห์’
ของผู้จัดการเลือกตั้งแท้ๆ
ตามข้อมูลที่ปรากฏเหล่านั้น
หากจะเจาะจงความผิดกันลงไป คงต้องไปตกอยู่กับการบินไทย
ว่าทำไมถุงเมล์ไปแช่อยู่ในโกดังที่อ็อคแลนด์สองวัน
การบินไทยอาจไม่ใช่หน่วยงานรับผิดชอบ ถ้าจะถือตัวว่าเป็นเพียงผู้รับจ้างก็นับว่าไม่สามารถให้บริการได้ตรงตามการว่าจ้าง
แต่กระนั้นความรับผิดชอบก็ยังตกแก่บรรดาผู้รับผิดชอบ
ที่ไม่ได้เตรียมการให้มั่นคงว่าผู้รับจ้างจะไม่ทำงานอย่างห่วยแตกขนาดนี้
กระทรวงต่างประเทศจะมาอ้างว่าการจัดส่งบัตรเลือกตั้งนอกประเทศจากที่อื่นๆ
เป็นไปด้วยดี มีปัญหาเฉพาะนิวซีแลนด์เท่านั้น เป็นการอ้างอย่างขอไปที ทุเรศอะ
ครั้นมาถึง กกต. เอง ทำเป็น ‘ตงฉิน’ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่
คสช.จัดไว้ให้ตรงเด๊ะ ทั้งที่ก่อนๆ นั้นเล่นบท ‘ศรีธนญชัย’ บ่อยไป ก็ควรต้องพิจารณาในแง่ของประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน จำนวนเสียง
๑,๕๔๒ รายมีความหมาย
กกต.ไม่ควรที่จะมีมติให้บัตรเหล่านั้นกลายเป็นบัตรเสีย
เพราะการขาดด้อยความสามารถของการบินไทย ข้อกฎหมายไม่ได้เจาะจงให้
กกต.ต้องตัดสินอย่างนั้น ทั้งในด้าน ‘ความสุจริตและเที่ยงธรรม’
กกต.เลือกที่จะชี้ว่านั่นเป็นบัตรเสีย
“และท้ายที่สุดอาจนำไปสู่การทำลายบัตร
และไม่สามารถเปิดเผยบัตรได้ ว่าถูกลงคะแนนให้ผู้สมัครคนใดบ้าง” อย่างนี้มีเลศนัยอะไรซ่อนอยู่หรือไม่
ว่าถ้าบัตรเหล่านั้นเป็นเสียงของพวกไม่เอาการสืบอำนาจของ คสช. จำนวนมากแบบที่เกิดขึ้นในประเทศล่ะ
ความอัปยศที่จะบันทึกในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ตกอยู่กับ
กกต.เต็มๆ