วันเสาร์, มีนาคม 16, 2562

เลือกตั้งครั้งนี้เงียบฉี่ ไม่มีถก ๑๑๒ "มีแต่คนโง่ที่สิ้นคิดเท่านั้น ที่จะทำ...ในเวลานี้"


น่าคิดไหม ที่ไม่มีพรรคการเมืองใดเลย อย่างน้อยๆ ๓๒ พรรคที่ตอบสำรวจของสมาพันธ์สิทธิมนุษยชนสากล (IFHR) เสนอนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ หรือที่รู้จักกันทั่วโลกว่า ‘lese majeste law’

องค์กรนานาชาติด้านสิทธิมนุษยชนดังกล่าวส่งแบบสอบถาม ๑๕ ข้อต่อประเด็นดังกล่าวให้พรรคการเมืองไทย สามพรรคใหญ่คือ เพื่อไทย พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย ไม่ขอตอบพปชร.และ ภจท. บอกแต่แรกเลยว่าไม่เล่นด้วย

ส่วนเพื่อไทยนั้น แอนเดรีย จิออร์เก็ตตา ผู้อำนวยการภูมิภาคเผยว่า “เรารอจนถึงนาฑีสุดท้าย ไม่มีคำตอบกลับมา” ประวิตร โรจนพฤกษ์ รายงานการแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

“พรรคประชาธิปัตย์ รวมพลังประชาชาติไทย ชาติไทยพัฒนา และอนาคตใหม่ ขอไม่ออกความเห็นต่อบทบัญญัติห้ามวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนี้ ที่นานาชาติเห็นพ้องกันว่าเป็นกฎหมายปกป้องราชวงศ์ที่มีบทลงโทษรุนแรงที่สุดในโลก หรือ ‘Draconian Law’ ของไทยนี้ คือจำคุกสูงถึง ๑๕ ปีต่อ ๑ กระทง

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ นักปฏิรูปกฎหมายแห่ง ไอลอว์กล่าวในงานแถลงข่าวที่ FCCT ว่า แม้แต่พรรคการเมืองที่ วางตนเป็นฝ่ายอุดมการณ์ ก้าวหน้า อย่างพรรคอนาคตใหม่ ไม่ยอมแตะต้องในเรื่องนี้เลย ก็เพราะ

“ต้องการหลีกเลี่ยงประเด็นที่จะทำให้เป้าหมายสำคัญในการสกัดกั้นไม่ให้ ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐประหารได้กลับมาเป็นนายกฯ อีก ต้องเฉไฉไป” กระนั้นเขาก็ยังตั้งความหวัง เปิดช่องทาง เผื่อไว้ว่า “พวกเขาอาจจะเปลี่ยนใจ”

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักประวัติศาสตร์เกี่ยวกับราชวงศ์ไทยคนสำคัญ ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศสและอยู่ระหว่างพักฟื้นจากอาการป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจเคยกล่าวถึงพรรคอนาคตใหม่เมื่อตั้งมีการประกาศก่อตั้งใหม่ๆ ในทำนองว่าไม่ก้าวหน้าจริง ในเมื่อไม่มีนโยบายแก้ไขมาตรา ๑๑๒

แต่พรรคอนาคตใหม่ก็เป็นหนึ่งใน ๙ พรรคที่ตอบแบบสอบถามว่ามีแนวนโยบายคัดค้านโทษประหารชีวิต โดย อนค. ต้องการให้ยกเลิกไปเลย ขณะที่พรรคชาติพัฒนาอยากให้ยุติในการใช้กับโทษคดียาเสพติด แต่ ปชป. กับ รปช. ต้องการให้คงโทษหนักอย่างเดิมเอาไว้

อย่างไรก็ดีพรรคอนาคตใหม่เป็นอีกหนึ่งในหลายพรรคที่ประกาศตัดงบประมาณทหาร ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร พร้อมกับพรรคอื่นๆ อีก ๕ พรรค ส่วน ชทพ. และ รปช. เพียงแต่ต้องการตั้งกรรมการสอบสวนกรณีนักเรียนนายร้อยเสียชีวิต


รวมความว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้เงียบฉี่ แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีการพูดถึงกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในทางการเมืองเลย ทั้งที่กฎหมายนี้เองที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือการเมืองโจมตี ห้ำหั่น และ (หลายครั้ง) เข่นฆ่านักการเมืองฝ่ายก้าวหน้า (สุดโต่ง) อย่างหนักหน่วงเมื่อไม่นานมานี้เอง

คงไม่ใช่เพราะประเด็นที่เป็นข่าวซุบซิบ (วงแคบๆ) ว่ากระทั่งนักวิชาการเอกที่เคยวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ไว้เยอะอย่าง ส.ศิวรักษ์ เอง เดี๋ยวนี้ก็เป็นที่ปรึกษาของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ไปแล้ว

และคงไม่ใช่อีกแหละที่ (ไม่) บังเอิญ พรรคไทยรักษาชาติ ลูกพี่ลูกน้องพรรคเพื่อไทยซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ มีแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีนามว่า อุบลรัตน์ มหิดล พร้อมฉายา ทูลกระหม่อม อันเป็นที่ถกเถียงกันไม่สุดสิ้นในวง ซ้ายก้าวหน้าว่าไม่เล่นด้วยเหมือนกัน
 
นั่น อันเนื่องมาแต่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีเคยอภิปรายว่า สามารถร่วมงานกับพรรค ปชป. และ พปชร.และพรรคอื่นๆ ได้ ถ้ายึดหลักการตรงกับ อนค.สามอย่าง คือ ไม่สืบอำนาจ คสช. แก้รัฐธรรมนูญ ๖๐ ทั้งฉบับ

และ นายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. ประการสุดท้ายนี่ทำให้ อุบลรัตน์ มหิดล ขาดคุณสมบัติ อันทำให้ ถ้าพรรค ทษช. ไม่ถูกยุบ อนาคตใหม่ก็ไม่สามารถร่วมงานด้วยได้ เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย ถ้าผู้ได้เข้าไปเป็นนายกฯ คือแคนดิเดทอันดับสอง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่ไม่เล่นเรื่อง ๑๑๒ อาจมาจากหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประกาศแน่วแน่ (ทางบทสนทนาเฟชบุ๊ค) ว่า “ตระกูลผมรับใช้ราชวงศ์จักรี และแผ่นดินไทยมา...ตั้งแต่ผมทำพรรคมา ยังไม่มีใครดึงสถาบันมายุ่งกับการเมืองแม้แต่คนเดียวครับ”

ฤๅว่า ข้อใหญ่ใจความที่เป็นปรากฏการณ์ ไม่ปรากฎของประเด็น ๑๑๒ เพราะว่า “เราควรพูดถึงเรื่องนี้ในจังหวะเวลาที่เหมาะสมมากกว่านี้ค่ะ” ตามข้อคิด #ความเห็นส่วนตัว ของผู้ที่เข้าไปตอบโพสต์เรื่อง “ขยะแขยงฉิบหายค่ะ” ของ Pavin Chachavalpongpun

ซึ่งมีคนเสริมเสียเลิดไปเลยว่า “ขนาดมีมติว่าไม่พูดเรื่องนี้ ยังถูกโยงเข้าไปหาจนได้ มีแต่คนโง่ที่สิ้นคิดเท่านั้น ที่จะทำอัตวินิบาตด้วยวิธีนี้ ในเวลานี้”

จะเป็นด้วยเหตุทำนองนั้นหรือเปล่าที่ทำให้ ไผ่ ดาวดิน ที่ร่ำๆ จะได้รับการ พักโทษให้ปล่อยตัวอยู่รอมร่อ กลับต้องรอต่อไป เพียงเพราะราชทัณฑ์ยื้อว่ายังมีคดีระหว่างสอบสวนติดตัวอยู่ปล่อยไม่ได้ลดไม่ได้ใดๆ ทั้งสิ้น

จนเป็นเหตุให้ ทนายอู๊ด วิบูลย์ บุญภัทรรักษา ผู้พ่อร้องว่า “เอาเป็นว่า ไผ่ ดาวดิน จะออกจากคุกตามกำหนดเป๊ะทีเขาต้องการ ด้วยดุลยพินิจอันมิใช่กฎหมายหรือหลักคิดในกระบวนการยุติธรรม” ละหรือ