อย่าเพิ่งโล่งอกที่มาถึงวันนี้ได้
กาบัตรเลือกตั้งให้ถูกพรรคต้องตามประชาธิปไตย
ขออภัยที่ยังมองโลกแง่ร้าย
เพราะแม้จะผ่านร้อนผ่านแรงกดดัน ทั้งกติกาเอาเปรียบและวิชามารของผู้ยึดอำนาจ
เสร็จเลือกตั้งแล้วยังมีขวากหนามจากการ ‘สอย’ ของ กกต.อีกเยอะ
กกต.บอกว่าจะรอจนกว่าได้มีการประกาศรับรองผลเลือกตั้งแล้ว
จึงจะนำคะแนนที่แต่ละพรรคได้รับไปคำนวณหาจำนวน ส.ส. “เพราะอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหาก
กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือนับคะแนนใหม่”
ครั้นเมื่อดูพฤติ (เวร) กรรมก่อนเลือกตั้งเป็นอุทธาหรณ์
เมื่อสองสามวันก่อน “เลขาฯ กกต.เผย รับเรื่องร้องเรียนแล้ว ๙๓ เรื่อง เตรียมส่ง
กกต.พิจารณาให้เสร็จก่อนประกาศผล” แต่ไอ้ที่ทำเสร็จแล้วกลับเป็นการพิจารณาอย่าง ‘ถ่มถุย’ สิ้นดี
เช่นกรณีมีการนำบัตรเลือกตั้งเอาไปกาทั้งเล่ม
๑๗ ใบ ที่จังหวัดสมุทรสงคราม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา บอก “ผู้กระทำความผิด_ไม่น่าจะมีเจตนา” และ “เบื้องต้นเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกันของผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งและหน่วยเลือกตั้งมีความชุลมุนเกิดขึ้น”
แค่นั้นเอง ยังไม่พอทำเนา
ต้องไปดูกรณีพิจารณาตัดสิทธิ์ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่รายหนึ่ง เก็บความจากโพสต์ของ #มิตรสหายท่านหนึ่ง ได้เรื่องว่านายธีรศักดิ์รับแจ้งจาก
กกต.ว่าตนมีรายชื่อเป็นสมาชิกซ้ำซ้อนสองพรรค
นอกจาก อนค.แล้วยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาธิปไตยด้วย
ถ้าไม่ไปลาออกหรือยกเลิกจะโดนตัดสิทธิ์ ปัญหาอยู่ที่นายธีระศักดิ์ไม่เคยรู้จัก
ไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาธิปไตย ถ้าชื่อปรากฏในฐานข้อมูลของกกต.
ก็แสดงว่า กกต.นั่นแหละกระทำผิด สะเพร่าเอง
กกต.จึงมีหน้าที่ต้องแก้ไขและถอดชื่อตนออกจากพรรคพลังประชาธิปไตยในฐานข้อมูลของตนเอง
กกต.ไม่ยอมบอกให้ผู้เสียหายไปจัดการแก้ไขเอง ผู้เสียหายก็เออวะ
ถ้างั้นพรรคพลังประชาธิปไตยอยู่ที่ไหน ขอดูที่อยู่จะได้ไปจัดการเรื่อง
กกต.ดันบอก ไม่รู้ “ไม่มีข้อมูลของพรรคนี้”
ผู้เสียหายก็ต้องเออวะอีกที ไปพยายามเสาะหาจนได้ว่าไอ้พรรคพลังประชาธิปไตยนั่นอยู่ไหนแล้วไปติดต่อขอให้ถอดข้อมูลผิดออก
ทางพรรคพลังประชาธิปไตยบอก หา เราไม่มีชื่อคุณเป็นสมาชิกพรรคนะ (กกต.ตอแหล)
พรรคนั้นก็แสนดีทำหนังสือให้นำไปแสดงกับ
กกต.ว่านายธีระศักดิ์ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรค แต่พระเดชพระคุณเอ๋ย สายไปหน่อย
กกต.ทั่นสั่งตัดสิทธิ์การเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ของนายธีระศักดิ์เสียแล้ว ทว่าความพยายามของผู้เสียหายไม่สิ้น
ไปยื่นคำร้องฟ้องศาล
ขนาดเจ้าหน้าที่พรรคพลังประชาธิปไตยไปช่วยเป็นพยานให้ในศาล
แต่ กกต.ยืนยันด้วยปาก โดยปราศจากหลักฐานรูปธรรมใดๆ “ไม่มีแม้แต่ใบสมัคร
หรือหลักฐาน (ใบเสร็จ) การจ่ายเงินค่าสมัคร” ศาลทั่นก็เชื่อ กกต.ไว้ก่อน
ไม่รู้จะเป็นเพราะจำเลย
ผู้เสียหายสังกัดพรรคอนาคตใหม่หรือเปล่านะ
เฉพาะชื่อก็เป็นภัยต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่เผด็จการรัฐประหารสร้างให้ละมัง
ผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์จึงต้องลากคดีนี้ไปอุทธรณ์ถึงศาลฎีกา
นี่ละสมดังคำของ ‘Kaewmala @Thai_Talk’ ที่บอกว่า “นิติธรรมแบบไทยๆ
ผู้ถูกกล่าวหาต้องแสดงความบริสุทธิ์ แทนที่จะเป็นผู้กล่าวหาต้องแสดงหลักฐาน”
ไม่เท่านั้น ตีเสียว่าเลือกตั้งผ่านไปได้
ไม่ว่าจะทุลักทุเลหรือวุ่นๆ เพียงใด มีรัฐบาลใหม่ในที่สุด ถึงซึ่ง “ปลายทาง (ที่) เราต้องการความสงบสุข
และความเจริญของแผ่นดิน” ตามความเห็นของคนเด่นคนดีระดับ ‘ครู’ คนหนึ่ง
แม่เจ้าประคุณแนะว่า “อยากฝากไปถึงคนที่จะเป็นนายกฯ
คนต่อไป ให้สอบคัดเลือกคนที่จะมาใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยซ้ำ ว่าพร้อมหรือไม่”
คำของ ‘ครูเงาะ’
เจ้าของรายการ ‘ไล้ฟ์โค้ช’ ที่โด่งดังทางสื่อโซเชียลในหมู่ผู้ติดตามที่เคยออกไปช่วยเป่านกหวีดปิดกรุงเทพฯ
นี่หรือหลักประชาธิปไตยของคุณครู สิทธิส่วนบุคคลในการเลือกตั้งต้องผ่านการสอบ
“ตอนท้าย ครูเงาะได้ตอบคำถามที่ถามว่า
ทำไมไม่พูดถึงคนอื่นบ้างพูดถึงแต่ธนาธร” หล่อนว่า “ไม่เห็นด้วยในแนวความคิด
เพราะเป็นแนวความคิดที่อันตรายในวันนี้” คนอื่นๆ “สามารถสืบได้จากการทำงาน
แต่ธนาธรเป็นคนใหม่”
(https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2335224,
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2336354
และ https://www.matichon.co.th/politics/news_1416554)
เหตุผลของครูแค่นั้น
จึงไม่พ้นโดนวิจารณ์ยับ “เป็นความคิดที่โคตรแบ่งชนชั้น” โดยหนึ่งในผู้ตอบโต้ก็คือ Decharut
Sukkumnoed อาจารย์ ม.เกษตรฯ ที่ว่า “ไม่เห็นด้วยเลย...
แต่ถ้าจะมีการสอบขึ้นมาจริงๆ
คนที่น่าจะสอบตกคนแรกๆ ก็คือครูเงาะครับ เพราะประชาธิปไตยคือการเคารพในสิทธิของคนทุกคน”