เดินหมากผิดตาเดียว ล้มทั้งกระดาน
ผลการเลือกตั้งเป็นไปอย่างที่ผมเคยพูดไว้ว่า
“ประชาธิปัตย์มีโอกาสได้ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง”
เหตุที่ผมพูดเช่นนั้นเพราะ คุณอภิสิทธิ์เหมือนพระเอกเรตติ้งตก และรู้ใจคนไทยดีว่า “เข็นคุณอภิสิทธิ์ไม่ขึ้น”
3 ครั้งแล้วที่พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของคุณอภิสิทธิ์ แพ้พรรคเพื่อไทย คนไทยจึงหมดหวังกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนนี้
บรรดาสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ออกมารุมถล่มผม จนถึงขนาดคุณอภิสิทธิ์ต้องประกาศยืนยันเสียงแข็งว่า
“หากประชาธิปัตย์ได้ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง จะลาออกจากหัวหน้าพรรค”
ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคอย่างผมเข้าใจหัวอกคุณอภิสิทธิ์ดีว่าคงไม่มีทางเลือก จึงต้องพูดรับประกันสร้างขวัญกำลังใจให้กับมวลสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรค
หลังจากนั้นผมวิเคราะห์ต่ออีกว่า “ประชาธิปัตย์หายไปไหน?” เพราะกระแสหาย ปล่อยให้เหลือแค่พลังประชารัฐฟัดกับเพื่อไทยเท่านั้น
มันเหมือนกับ “เคราะห์ซ้ำกรรมซัด” คนเราบทจะดวงตก ทำอะไรมันก็ดูแย่ไปหมด
คุณอภิสิทธิ์ตัดสินใจเดินหมากพลาดครั้งใหญ่หลวง ที่ไปเอ่ยปากก่อนเลือกตั้งสองอาทิตย์สุดท้ายว่า
“ฟังช้าๆ ชัดๆ ผมไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรี”
คุณอภิสิทธิ์คงได้ตรองดีแล้วว่า การพูดประโยคนี้คงจะกระตุ้นกระแสพรรคให้กระเตื้องขึ้นมา และตอกย้ำซ้ำว่า “ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ”
สิ้นประโยคนี้ของคุณอภิสิทธิ์ ทำให้สะเทือนตั้งแต่กรุงเทพฯไปยันภาคใต้
เหตุสำคัญในใจคน “เขาต้องการเลือกพรรคที่ไปคานอำนาจกับพรรคเพื่อไทย เพราะรู้ดีว่าแข่งกี่ครั้งเพื่อไทยก็ชนะ หากยังคงเลือกประชาธิปัตย์ไปก็เสียของ จึงเฮโลไปเลือกพลังประชารัฐเพื่อให้ไปคานอำนาจกับเพื่อไทยแทนเสียดีกว่า” (จำจดหมายรักที่ผมเขียนถึงคุณอภิสิทธิ์ได้ไหม ว่า “ฉันเบื่อคุณเต็มทน”)
ยังถูกตอกฝาโลงโดย “สุเทพ” ว่า “อยากถามอภิสิทธิ์ ว่า ตกลงอภิสิทธิ์ ยืนข้างเดียวกับทักษิณเต็มตัวแล้วใช่ไหม?” นี่หากเป็นคนอื่นพูดยังไม่กระไร แต่เป็นคนชื่อสุเทพที่เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์มา 37 ปี เป็นผู้ใหญ่ในพรรคระดับบริหาร ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับคุณอภิสิทธิ์มาโดยตลอด
แถมยังตบท้ายว่า “อยากเป็นนายกฯ จนไม่เห็นหัวกูแล้วใช่ไหม?”
ทำให้คนที่เคยเลือกประชาธิปัตย์ขวัญกระเจิง หันกลับไปเทคะแนนให้พลังประชารัฐ “เอาลุงตู่ไปชนกับทักษิณดีกว่า”
เดินหมากผิดเพียงตาเดียว ล้มทั้งกระดาน ประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯจึงแทบสูญพันธุ์ แถมลามไปถึงภาคใต้ ถูกตีแตกอย่างที่ผมว่าเอาไว้จริงๆ
ขอโทษนะครับ นี่ไม่ใช่การซ้ำเติมแต่อย่างใด เมื่อคุณอภิสิทธิ์ประกาศลาออก รับผิดชอบสัจจะของนักการเมือง ก็น่าชื่นชม
อย่างน้อยยังมีตำแหน่งประธานสภาไว้รองรับ อย่าได้น้อยใจไป
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์