พลังประชารัฐลุยแหลกช่วงสุดท้ายไม่ถึงสองอาทิตย์ก่อนเลือกตั้ง
ปล่อยนโยบายประชานิยมออกมาลุ่นๆ ไหนอ้างจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ ๔๐๐
ถึง ๔๒๕ บาท เพิ่มขั้นเงินเดือน ป.ตรีและอาชีวะ แถมงดภาษีเด็กจบใหม่ ๕ ปี
ยกเว้นภาษีออนไลน์ แล้วยังลดภาษีคนธรรมดาทั่วไปอีก ๑๐%
ทำเอามิตรที่เป็นนักธุรกิจสื่อขนาดย่อมคนหนึ่งร้องวู้
บอกว่าอย่างนี้เพื่อไทยแย่แล้ว สู้กระบวนการลดแลกแจกแถมพวกเขาไม่ได้แน่ “ขนาดเด็กในบริษัทผมยังพากันชอบใจ”
(ปลื้มขนลุกซู่) นับประสาอะไรกับบรรดาแรงงาน และสาขาอาชีพต่างๆ ในประเทศ
ผ่านไปแค่ข้ามวันมีคนออกมาตอบให้แล้ว เด็ดดวงเสียด้วย
เขาเป็นนักธุรกิจ ‘retails’ หรือค้าปลีกขนาดใหญ่
ระดับกรรมการผู้จัดการ ที่เจ้าของบัญชีเฟชบุ๊ค ‘คุยกับหม่อมกร’ แนะนำว่าเป็น “เพื่อนคนหนึ่ง
ชื่อ สุหฤท สยามวาลา หรือ โต้” แห่ง “บริษัท
ดีเอชเอ สยามวาลา ที่ทำธุรกิจเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงาน ตราช้าง” ซึ่ง “มักจะมีมุมมองทางการเมืองที่เฉียบคมและเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองเสมอ”
โดยคราวนี้เขาเจาะจงแสดงปฏิกิริยาต่อนโยบายประชานิยมของพรรคพลังประชารัฐล้วนๆ
“เมื่อคิดอะไรไม่ออก ก็เอาง่ายๆ
แบบนี้เร็วดี แต่ไม่บอกผลกระทบที่จะเกิดขึ้น” DJ Suharit
Siamwalla เปิดฉากข้อเขียนทางหน้าเฟชบุ๊คของเขา
“ตามที่ผมคิดนะ ผมเสนอว่า
๑.ค่าแรงขั้นต่ำสูงเกินความสามารถในการผลิต”
ทำให้ต้องเปลี่ยนฐานในการผลิตไปเป็นแบบ Automation เพื่อลดต้นทุนด้านแรงงานสำหรับการแข่งขันในตลาดโลก ไม่เช่นนั้นก็ต้องขึ้นราคาสินค้า
อันจะส่งผลต่อไปให้ ‘ของแพง’
ทางที่ควร ต้อง “เพิ่มทักษะการผลิต
เพิ่มความสามารถวิชาชีพ” และเพิ่มจำนวนแรงงาน ล้วนเป็นกระบวนการที่ใช้เวลา DJ
Suharit จึงสรรพยอกว่า “มันนานไง อีก ๙ วันจะเลือกตั้งแล้ว
ซื้อเสียงง่ายๆ เลยแล้วกัน”
ข้อ ๒
เรื่องขึ้นค่าจ้างอัตราปริญญาตรีนั่นก็ “มีมาตรฐานได้เกิน ๒ หมื่นอยู่แล้ว”
ใครจบออกมาอย่างไร้ความสามารถก็จะตกงาน ดังนั้นควรจะเร่งเสริมการเรียนรู้เพื่อเพิ่มความสามารถหลังจบ
“จะได้เรียกเงินได้ตามต้องการ”
ส่วนระดับอาชีวะ ใคร “ที่มีความสามารถให้เท่าปริญญาตรีเลย
คนจะแห่รับเข้าทำงาน” แต่การลดภาษีให้เด็กจบใหม่นั่น “อันนี้ไม่ค่อยเข้าใจตรรกะ
ว่าจะช่วยอะไรใครได้มากนัก ฝากผู้รู้วานบอก” ถ้าอยากได้เสียงจากคนรุ่นใหม่
เขาแนะว่า
“คงมีหลายคนที่อยากเสียภาษีแล้วได้ความสะดวกในการดำเนินชีวิตมากขึ้น
เงินไม่รั่วไหล...(ไม่มี) ทุจริตเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง มากกว่า” รวมทั้ง “มีรัฐสวัสดิการที่ดูแลพื้นฐานชีวิต
ตอนเจ็บป่วย” เด็กรุ่นใหม่ไม่น่าโง่หลงงมงายนโยบาย (ของ พปชร. ที่เข็นออกมาช่วงนี้)”
กับการลดภาษีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
สุหฤทกลับเห็นว่าพวกเขาอยากจ่ายภาษีมากกว่าถ้าธุรกิจออนไลน์อยู่กับคนไทย “เก่งจริง
ยกเลิกอาลีบาบา อาลีเอ็กเพรส โชว์ปี้ ลาซาด้า
และออนไลน์ต่างชาติทั้งหมดหรือรีดภาษีหนักๆ ไม่ใช่ไปเว้นภาษีให้”
ผลที่ได้ “นอกจากภาษีจะเพิ่มแล้วเงินยังไม่ไหลออกนอกประเทศ
กำไรอยู่ในไทย” ด้วย เช่นเดียวกับการลดภาษีบุคคลธรรมดา “อันนี้ดี แต่เงินที่หายไปจากระบบต้องบอกด้วยว่าเอามาจากไหน
เพิ่มภาษีบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหมด? หรือจะเพิ่ม vat
เพื่อทดแทน มันต้องโดนไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง เงินหายไปกี่บาทก็ไม่บอก”
เหล่านั้น สุหฤท สยามวาลา เหน็บว่า “เมื่อพรรคที่หมดปัญญาคิดความเจริญระยะยาว
เขาก็คิดประชานิยมห่วยๆ หลอกให้กาเสียงร่ำไป “ถ้าคุณชอบนโยบายฉาบฉวยแบบต้องใช้กรรมทีหลังก็เชิญนะ
ขี้เกียจเถียง สำหรับผม ขอลาก่อนพรรคนี้ ไร้ความสร้างสรรสิ้นดี”