“30 บาทรักษาทุกโรคทำให้ รพ.เจ๊งทั่วประเทศ”
•
•
ถ้าจะทิ้งใครไว้ข้างหลัง คนนั้นก็ควรจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์
•
เมื่อปี่กลองการเมืองโหมระทึกขึ้น กระแสการโจมตีนโยบาย “30 บาทรักษาทุกโรค” ก็กลับมาอีกครั้ง
•
ไม่ใช่ใครที่ไหน คนที่โจมตีก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. และนายกรัฐมนตรี
•
ซึ่งวันนี้ ประกาศตัวเป็น “นักการเมือง” เต็มที่ และเตรียมมีดีกรีห้อยท้าย เป็นนายกรัฐมนตรี จากการเสนอชื่อของพรรคพลังประชารัฐ
•
“วันนี้การรักษาพยาบาลฟรีต้องดีกว่าเดิม ซึ่งใครคิดขึ้นมาก็แล้วแต่ ผมไม่รู้ในเรื่องรักษาพยาบาล 30 บาทฯ ซึ่งประชาชนชอบ แต่โรงพยาบาลเจ๊งหมดแล้ว”
•
ชัดเจนว่านัยยะก็คือ ต้องการโจมตีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งกลายเป็น “สัญลักษณ์” ของ ทักษิณ ชินวัตร
•
และอาจจะเป็นสัญลักษณ์ของ คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข ขณะเริ่มโครงการ
•
และอาจจะเป็นคู่แข่ง เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย
•
หากนับรวมๆ ครั้งนี้ น่าจะเป็นครั้งที่ 6-7 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นนโยบายที่ “ใช้ไม่ได้”
•
ต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านี้ ก็เคยโจมตีว่าประเทศไทย “ไม่พร้อม” กับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และการรักษาฟรีทำให้โรงพยาบาลขาดทุน มาตั้งแต่ปี 2558
•
ทั้งที่คณะกรรมการตรวจสอบปัญหาขาดทุนของโรงพยาบาลก็พิสูจน์มาแล้วว่า บัตรทอง ไม่ใช่สาเหตุทำให้โรงพยาบาลเจ๊ง
•
และตลอด 4 ปี ตั้งแต่ คสช.ยึดอำนาจ ก็ยังไม่มีโรงพยาบาลของรัฐเจ๊งสักโรงพยาบาล
•
ซ้ำกระทรวงสาธารณสุขยังออกมาปฏิเสธข้อมูลด้วยซ้ำว่า ที่คุยกันว่าโรงพยาบาลขาดทุน 200-300 แห่ง เป็นเรื่อง “มั่ว” ทั้งนั้น
•
จะมีปัญหาอยู่บ้างก็คือโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ ที่ต้องรับภาระการรักษาโรคซับซ้อน และการทำหัตถการ ที่โรงพยาบาลเล็กทำไม่ได้
•
ปัญหาของเรื่องนี้คือ ประชาชนมีสิทธิรักษาพยาบาลแล้ว แต่ไม่พัฒนาระบบบริการให้พอรองรับได้ ตามที่คนในแวดวงสาธารณสุขเรียกร้องกันมาตลอด ว่า คน เงิน ของ ไม่พอ แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่รับฟัง ยังคงจัดงบประมาณให้น้อยนิด ซ้ำในใจท่านยังปิดไม่มิด คิดว่าสิ่งนี้เป็นภาระอยู่ตลอดเวลา
•
ซึ่งวิธีแก้ก็คือ รัฐต้องหาทางออก เพื่อเติมงบประมาณ หรือสร้างระบบเพื่อให้หลักประกันสุขภาพ “อยู่ได้” ในระยะยาว
•
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ กลับเลือกวิธีที่ง่ายกว่า คือการใช้ปากในการบริหารงาน โจมตีนโยบายเอาเสียดื้อๆ
•
ไม่แสวงหาข้อเท็จจริง ทั้งที่ถามจาก รมว.สาธารณสุข เอาก็ได้
•
แต่เมื่อถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไปแสดงวิสัยทัศน์ที่องค์การสหประชาชาติ ก็หยิบยกความดีความชอบ ของระบบ “30บาทฯ” ไปพูดให้นานาชาติปรบมือ
•
ครั้นผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก รองผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ก็สะท้อนประโยชน์และความตั้งใจของไทย ในการรักษาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าไว้ อีกครั้ง
•
แต่พอขึ้นโพเดียม ปาฐกถาพิเศษ เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมานี้เอง ก็กลับบอกว่า “การรักษาฟรี ทำให้คนไม่ดูแลสุขภาพ”
•
ที่หนักที่สุดคือไปเอา “ข้อมูลมั่ว” ไปพูดในรายการคืนวันศุกร์ ว่า 30บาทฯ ไม่ครอบคลุมโรคเรื้อรัง ใช้โรงพยาบาลเอกชนไม่ได้
•
และข้อเสียของ หลักประกันสุขภาพ คือไม่สามารถใช้ผ่าตัดแปลงเพศ????
•
นี่คือท่าที “กลับไปกลับมา” ซึ่งสะท้อนชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความเข้าใจ และไม่มีความใส่ใจ ที่จะพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ให้ดียิ่งขึ้น
•
มีแต่จะมองนโยบายนี้ ในฐานะเครื่องมือทางการเมือง และในฐานะ “แบรนด์” ของฝ่ายตรงข้าม
•
ที่จะยกเลิกก็ทำไม่ได้ แต่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ก็รู้สึกไม่ต้องการสร้างผลงานให้คนที่ตัวเองมองว่าเป็น “ศัตรูทางการเมือง”
•
และยิ่งสะท้อนชัดว่า รัฐบาลชุดนี้ หาได้มองระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ในฐานะ “สวัสดิการ” ที่รัฐ พึงให้บริการประชาชน ด้วยงบประมาณ ที่ไม่สูงมากนัก
•
หากเทียบกันจริงๆ ปีงบประมาณ 2562 นั้น “งานกองทัพ” ได้รับงบประมาณสูงกว่าโครงการ “บัตรทอง” ด้วยซ้ำ
•
แต่จนแล้วจนรอด หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ก็ถูกป้ายสีไปว่า เป็น “ประชานิยม” จากนักการเมืองผู้หวังคะแนนเสียง
•
ไม่มีทางที่จะประเสริฐเท่ากับนโยบาย “รัฐสวัสดิการ” ผ่าน “บัตรคนจน” หรือการแจกเงิน 500 บาท เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
•
ก็เลยต้องหาโอกาส “แซะ” ตามโอกาสต่างๆ ด้วยวิสัยทัศน์ผู้นำยุค 4.0
•
จะน่าแปลกใจอยู่บ้าง ก็ตรงที่การบริภาษโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เกิดขึ้นในวัน “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล” วันที่ 12 ธ.ค. ของทุกปี
•
งานนี้มี “รัฐบาลไทย” เป็นแม่งาน มี กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และบรรดาองค์กรตระกูล ส. ร่วมกันขับเคลื่อนงาน
•
เพื่อสะท้อนความสำเร็จของ ระบบหลักประกันสุขภาพ และขยายผลไปในระดับนานาชาติ
•
โดยเชิญผู้แทนจาก องค์การอนามัยโลก สหประชาชาติ นักวิชาการ มาแสดงวิสัยทัศน์ กันจำนวนมาก
•
ภายใต้ธีมที่ว่า “การลงทุนด้านสุขภาพ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
•
แน่นอนว่า นี่คือการอ้างอิงจากแนวทางยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ ตามแผนของ คสช. และแผนของท่านผู้นำชัดเจน
•
คือการมองไปข้างหน้า และการหาทางนำเงินมาเติมกองทุน
•
เพราะในบริบทไทย และในบริบทโลก ทุกคนต่างรู้ดีว่า ระบบหลักประกันสุขภาพ คือเรื่องที่ “ต้องทำ”
•
สังเกตง่ายๆ ประเทศที่ทำไปแล้ว ก็มีแต่คนชื่นชม และประเทศที่ยังไม่มี ก็ล้วนพยายามหาทางให้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสำเร็จจนได้
•
เพราะสหประชาชาติ ประกาศไว้แล้วว่า การให้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า คือ “เป้าหมาย” การพัฒนาที่สำคัญ ที่ทุกประเทศ ควรจะบรรลุภายในปี 2020
•
แต่ผู้นำไทย กลับมีความคิดกลับไปกลับมา จะเดินหน้าก็ไม่ได้ จะถอยหลังก็ไม่กล้า
•
ทัศนคติเช่นนี้ แน่นอนว่า เป็นอันตรายต่อระบบหลักประกันสุขภาพ และเป็นอันตรายต่อประชาชน ที่อยู่ภายใต้สิทธิบัตรทองกว่า 48 ล้านคน
•
ที่จะไม่ได้รับโอกาสในการพัฒนาสิทธิประโยชน์ และในการถกแถลงอย่างใจเย็น เพื่อให้ระบบ มีความยั่งยืนต่อไปในอนาคต
•
เพียงเพราะเป็นนโยบายของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม
•
ด้วยเหตุนี้ หากจะทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อให้ระบบเดินหน้าต่อไป
•
คนๆ นั้น ก็ควรจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นเอง....
#30บาทรักษาทุกโรค #หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
Gossipสาสุข