เรื่องที่คุณวาส (สะหนา นาน่วม) เรียกว่า ‘คลิปสวาท’ นั่นต้องฟังทั่น ผบ.ทบ. ที่ว่า ไอโอทัพบก
ไม่ทำหรอกเรื่องสถุลอย่างนี้ ผิดจรรยาบรรณตะหานกล้า
พวกเขาจะทำเฉพาะกับพวกต้านสถาบัน (อันนี้เป็นที่เข้าใจสถาบันไหน)
และภัยความมั่นคง ที่ตีความว่า ‘แห่งชาติ’ ก็ได้เช่นเดียวกับ ‘รัฐบาล’
ถ้าเป็นรัฐบาลที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ เท่าที่ผ่านๆ มาสี่ปีกว่า
หรือมากกว่านั้น ประชาชนเคยเห็นมากกว่าสองสามครั้งว่าความมั่นคงรัฐบาลก็ยิ่งใหญ่เทียมเท่าสถาบันอื่นๆ
บิ๊กแดงทั่นให้ความกรุณา ให้ความเป็นธรรมและเห็นใจผู้เสียหาย
ว่านี่เป็นการใส่ร้ายป้ายสีก่อนเลือกตั้ง ถึงจะไม่ปกติแต่ก็มีมาตลอด
ทั่นคงสงสารพวกตะหาญหาน (กลายร่าง) เป็นจำเลยของสังคม ที่จริงคงต้องให้ความเห็นใจตะหานกลับบ้าง
พอดีมีชาวบ้านบนโลกไซเบอร์ ชื่อ ‘จืด สามสอเสือ @nsbest’ คอมเม้นต์ไว้นิด
“สมัย รสช. เรืองอำนาจคลิปก็มีหลุด คนหน้าเหมือน รองหัวหน้า รสช....กับอดีตนางงามจักรวาล
มีลูกผัวตัวเมียกันทั้งคู่ไม่หนักกว่านี้เหรอ”
ถึงเรื่องนั้นจะเกิดคนละยุคสมัย แต่เป็นกลุ่มคนในสถาบัน
ทบ.เดียวกัน ย่อมทำให้มองได้ว่าทหาร ‘เป็นจำเลยของสังคม’
ถ้าหากจะยึดมั่นในมาตรฐานของ ‘สถาบัน’ อย่างคงเส้นคงวา ไม่เปลี่ยนได้ตามอำเภอใจ
เขาปรารภ “นี่คู่นี้แต่ละคนโสด
หญิงก็เกือบจะ ๔๐ ชายก็ ๖๐ กว่า สลิ่มมองเป็นเรื่องการเมือง เขาคือผู้เสียหาย
คนแพร่คลิปมันควรติดคุก” สรรพนามของคน ‘มอง’
ที่เหมือนชื่อขนมไทย นั่นหมายถึงฟากการเมืองตรงข้ามบุคคลทั้งสองในคลิปที่คุณวาสอ้างถึง
อาการของคลิป “เริ่มบริเวณที่จอดรถ
เห็นตั้งแต่ตอนเดินออกจากรถ มากันคนละคัน
เข้าไปยังโรงแรมที่มีลักษณะเหมือนคอนโดมิเนียม โดยยังมีคลิปที่ถ่ายในห้อง
เห็นภาพของทั้งคู่ลักษณะการกอดจูบ ถอดเสื้อผ้าบางส่วนออก”
อีกทั้ง “มีผู้นำภาพเหล่านี้มาตกแต่งด้วยการใส่อักษร
ทำเป็นแคปชั่นเพิ่มว่า เป็นนักการเมืองชื่อดังของพรรคการเมืองหนึ่ง” ด้วย
ฝ่ายหญิงในคลิปและภาพที่ถูกอ้างชี้แจงว่า “เห็นได้ว่าในภาพที่เป็นภาพนิ่งที่ถูกปล่อยออกมาล็อตหนึ่ง
ทุกภาพมี ‘โลโก้ใหญ่’ มากของพรรคการเมืองหนึ่ง” แสดงว่า ‘ไอโอ ทบ.’
น่าจะบริสุทธิ์ แต่จะผุดผ่องแค่ไหนไม่รู้เหมือนกัน
เพราะบังเอิญมีพรรคการเมืองตั้งใหม่สองสามพรรคที่ผูกพันกับรัฐบาลขณะนี้ของคณะยึดอำนาจ
และคนในแกนนำต้นๆ คณะยึดอำนาจ (กำลังสอง) ก็มาจาก ทบ.เกือบทั้งนั้น
ฉะนี้ เหตุผลของ ‘โบว์’ ณัฏฐา มหัธนา ต่อเรื่องที่เกิดกับเธอว่า “ในคลิปโบว์สะพายกระเป๋าซึ่งเป็นใบที่ไม่ได้ใช้นานแล้ว
โบว์จึงรู้ว่าเขาเก็บคลิปนี้ไว้นานมากแล้ว และรอจังหวะที่จะปล่อยออกมา”
และก็บังเอิ๊นบังเอิญ “เป็นจังหวะที่เกิดงานเลี้ยงของพรรคการเมืองใหม่
มีข่าวใหญ่เกิดขึ้น”
(ซึ่งรองหัวหน้าพรรคปฏิเสธหัวยันฝา “ไม่มีการซื้อโต๊ะจากหน่วยงานรัฐบาล”
แต่ถ้ามีจริงก็จะคืนเงิน ‘แล้วจบ’
บางคนว่า ‘ฟอร์มนี้’ ตามเคย)
“ถ้าจะมองว่าคนที่ต้องการทำร้ายและทำลายเรา
เขาทำลายเราในฐานะคนสองคนหรือเปล่า โบว์ว่าไม่...ทั้งนี้ถ้าดูจากติดโลโก้ในภาพจากคลิป
จะเห็นได้...โบว์อยากชวนตั้งคำถามและคิดตามกันว่าใครเป็นคนเสียประโยชน์
และใครได้ประโยชน์จากเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราสองคน”
ซึ่งมีคนในฟากการเมืองเดียวกันตั้งข้อสังเกตุไว้ด้วยว่า
“ไม่ใช่คลิปหลุดนักการเมืองกับนักกิจกรรม แบบที่ผู้ประสงค์ร้ายพยายามจะให้เป็น
เพราะเรื่องมันใหญ่กว่านั้นเยอะครับ” โอ๊ค พานทองแท้ ลูกชายอดีตนายกฯ
ที่คณะรัฐประหารกลียดนักเกลียดหนาระบุ
เขายังวิเคราะห์ว่า คลิปอย่างนี้
กว่าที่จะออกมาได้ต้องเก็บสะสมอย่างละเอียดพอควร ทั้ง “การตั้งกล้องรอตามจุดต่างๆ...ผู้กระทำการเตรียมการถูกจุดเป๊ะๆ
ได้อย่างไร” แล้วย้อนไปที่ข้อน่าสงสัย “จะมีสักกี่หน่วยงานกัน
ที่มีขีดความสามารถทำได้ขนาดนั้น”
เขาถามส่งท้ายว่า “อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ
ที่ใช้ในการสอดแนม ดักฟัง ล้วงความลับ อ่านแชทของชาวบ้าน ล้วงข้อมูลในมือถือ
ซึ่งในรัฐบาลก่อนๆ เคยเป็นของผิดกฎหมาย เดี๋ยวนี้มันถูกกฎหมายแล้วหรือ”
และ “มีใช้ในประเทศเราแล้วหรือยัง? ประชาชนมีสิทธิ์จะถามไหม?”
(https://www.matichon.co.th/politics/news_1285016 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_1284583)
คราวนี้มาฟังคำของฝ่ายชาย นักการเมืองในฟากตรงข้ามกับรับบาลทหารของคณะยึดอำนาจ
คสช. บ้าง วัฒนา เมืองสุข เขียนเฟชบุ๊คชี้แจงแต่เนิ่นๆ ว่า “ข่าวที่ปล่อยออกมาเป็นเรื่องของคนโสดสองคนที่ไม่ได้กระทำความผิดต่อใครและไม่ได้เป็นประเด็นสาธารณะ
แต่คนที่เอาเรื่องแบบนี้มาทำลายต่างหากที่มีเจตนาทุจริต
ใช้วิธีสกปรกเพื่อเบี่ยงเบนผู้คนออกจากประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เช่น
การระดมทุนของพรรคการเมืองหนึ่งที่มีชื่อของส่วนราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง”
เขาว่านี่ไม่ใช่วีธีสกปรกครั้งเดียวหรือครั้งแรกที่เขาโดนกลั่นแกล้ง
ถึงอย่างไร “จุดยืนที่จะต่อสู้เพื่อนำอำนาจคืนให้กับประชาชนจะไม่เปลี่ยนแปลง”