วันพุธ, ตุลาคม 24, 2561

แผนยุทธศาสตร์ฉบับคสช. จะทำลายอนาคตประเทศได้อย่างไร? บทเรียนจากฟิลิปปินส์





แผนยุทธศาสตร์ฉบับคสช. จะทำลายอนาคตประเทศได้อย่างไร?

อ่าน บทเรียนจากฟิลิปปินส์

"สเตตัสมิตรสหายท่านหนึ่งคาดเดาอนาคตประเทศไทยภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีว่าคงไปถึงจุดที่ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ คือระดับการพัฒนาประเทศจะค่อยๆ ร่วงลง รัฐไม่ฟังก์ชั่นทั้งในการสนับสนุนศักยภาพของประชากรและการแข่งขันในระดับสากล กลายเป็นประเทศง่อยๆ ที่ประชาชนเหลือทางเลือกในชีวิตไม่มาก ถ้าไม่เกิดมารวยจนมีคอนโดอยู่ในย่านไฮโซซึ่งแยกออกมาจากส่วนที่เหลือของเมืองแบบคนละโลก (ย่านไฮโซแบบ Makati หรือ Bonifacio Global City คือเหมือนเดินอยู่ในเมกาอ่ะค่ะ) คนที่พอมีสกิลแบบหมอ พยาบาล วิศวกรก็จะดิ้นรนไปทำงานนอกประเทศ คนไม่มีสกิลก็จะไปขายแรงงาน

คนปินอยที่เกิดในช่วง 1980's (ซึ่งก็คือคนรุ่นกูนั่นเอง) ส่วนใหญ่จะนึกไม่ออกว่าปินอยเคยรุ่งเรืองยังไงหลังจากประกาศเอกราชมาจนช่วงปลายทศวรรษที่ 80 กระทั่งยุคมาร์กอสช่วงแรกๆ เศรษฐกิจก็ยังเติบโตแต่เป็นเพราะมาร์กอสใช้วิธีกู้ยืมต่างชาติมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมส่งออก (เหมือนนโยบายสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยุคน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี) กู้จนปินอยติดอันดับประเทศที่มีหนี้สินเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของโลก บวกกับสถานการณ์การเมืองและสิทธิมนุษยชนที่เลวร้ายลงไปเรื่อยๆ หลังมาร์กอสประกาศกฎอัยการศึก รัฐบาลปินอยก็ยิ่งเสียเครดิต แล้วก็หาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยหนี้ไม่ได้เมื่อรัฐเองก็ไม่มีปัญญาสร้างรายได้ให้พอจ่ายหนี้

ทีนี้ประเทศก็ค่อยๆ ร่วงลง ไม่ได้ร่วงลงวูบเดียว แต่ค่อยๆ หล่นลงมา จนทุกวันนี้ก็ยังกลับขึ้นไปจุดที่เคยอยู่ไม่ได้ ทั้งที่มีพื้นฐานที่ดีทั้งระบบการศึกษาแบบอเมริกันและความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ใครจะนึกออกว่าฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีสายการบินกับสนามบินพาณิชย์เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปดูสภาพสนามบินนินอย อาคิโนตอนนี้คือเน่าสุดๆ ทั้งที่ตอนไทยยังงงๆ เบลอๆ กับการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 ฟิลิปปินส์มีอุตสาหกรรมภาพยนตร์เรียบร้อยแล้ว ใครจะไปคิดว่าปินอยเนี่ยแหละเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีขนส่งระบบรางในเมือง ก่อนสิงคโปร์สามปี แล้วไปดูสภาพตอนนี้ดิ อนาถสัส สร้างแล้วก็ไม่เชื่อมต่อ ไปไม่ถึงที่ที่จะไป ต้องขนสภาพสังขารไปนั่งจีปนีย์ที่โคตรจะร้อนโคตรจะอึดอัด คนรวยก็ติดแหง็กอยู่ในรถ คนจนก็ผจญภัยบนท้องถนนกันไปวันๆ สวัสดิการสังคมแทบจะเป็นศูนย์ทั้งที่เก็บภาษีสูงมาก (แวท 12% ภาษีเงินได้เก็บแบบขั้นบันไดแต่ไปหยุดที่ 32%) ต่อให้มีเงินก็ยังเป็นประเทศที่ใช้ชีวิตยากมาก คนไม่มีนี่เลิกพูดอะ (นี่พอแก่แล้วเริ่มบ่น เมื่อสี่ปีที่แล้วตื่นเต้นคึกคักสุดฤทธิ์)

อีกยี่สิบปีข้างหน้า คนวางแผนยุทธศาสตร์ชาติวันนี้ก็คงตายห่ากันไปหมดแล้วหรือถ้ายังอยู่ก็คงตะบันน้ำกิน คนที่จะซวยจริงๆ คือคนรุ่นยี่สิบต้นๆ ถึงสี่สิบปลายๆ ตอนนี้นี่แหละ ต้องเป็นผู้ใหญ่ต้องแก่ตัวลงไปในประเทศง่อยๆ ที่จะพังลงไปช้าๆ เพราะคนไม่กี่กลุ่มที่คิดว่าตัวเองหยุดเข็มนาฬิกาไว้ได้ คนที่เกิดมาหลังจากนี้ก็คงอยู่ในสภาวะรับสภาพเหมือนคนปินอยที่เกิดหลังปี 1980"

เครดิต: มิตรสหายท่านหนึ่ง

ที่มา FB