‘ตู่’ ไปพูดที่พะเยา คราวลง ครม.สัญจร เมื่อ
๒๙ ตุลา แล้วสอนข้าราชการ “อย่าให้ใครเขามาพูดว่าหรือบิดเบือน” แต่ก่อนไปถึง
ตำรวจเคลียร์พื้นที่จัดงานไม่พอ
ก่อนหน้าสองสามวันมีนอกเครื่องแบบไปขอคุยกับนิสิต ม.พะเยาที่หมายหัวไว้สองราย
ซักถามว่าจะทำกิจกรรมอะไรรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือเปล่า
แล้วขอให้งดแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
(อ่านรายละเอียดที่ http://www.tlhr2014.com/th/?p=9331)
ไฮไล้ท์ในการปราศรัยสอนดะอยู่ที่บอกว่า “อย่าไปสนใจเรื่องอะไรที่ไม่สำคัญ
เรื่องในเว็บไซ้ท์หรือในโซเชียลมีเดีย เพลงอะไรก็ไม่รู้ อย่าไปสนใจ สนใจมันทำไม
ถ้าสนใจก็ยิ่งไปใหญ๋”
ก็จริงแหละแฮะ ไอ้เพลงอะไรไม่รู้น่ะตอนนี้คนดูเกิน ๒๑
ล้านไปไกลแล้ว เป็นเพราะการเผือกไม่บันยะบันยังของ ‘ศรี’ กับ ‘โจ๊ก’ แท้ๆ ทำให้เพลง #ประเทศกูมี ขึ้นปรี๊ด
ไม่เพียงติดอันดับหนึ่งในประเทศ (ตามด้วยเพลง ‘ซ่อนกลิ่น’ แนวป็อป กับ ‘ครางชื่ออ้ายแน’
ลูกทุ่งหมอลำ) ยังกระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เป็น ‘ไวรัล’
เพราะมีซับไตเติ้ลทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษกำกับ
ทำให้ ‘บิ๊กโจ๊ก’ คนเก่ง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์
หักพาล รักษาการผบ.ตม. จำใจออกมาเขียนเฟชบุ๊คอ้อมแอ้ม “ผู้บังคับบัญชาสั่งให้ทำคดี
ผมก็ต้องทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” หลังจากที่ ‘ตัวใหญ่’
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. จำยอมรับว่า
“ในชั้นนี้ยังไม่พบหลักฐานที่จะเอาผิดได้ เพราะเนื้อหาของเพลงยังไม่มีการระบุวันเวลา
สถานที่ อย่างชัดเจน หลังจากนี้ประชาชนยังสามารถฟัง ร้อง
และแชร์เพลงนี้ได้ ซึ่งแม้ว่าจะทำให้ยอดวิวเพิ่มขึ้นก็ไม่ได้ส่งผลกับคดีอาญา”
ไม่วายติดปลายนวมไว้หน่อยว่า สั่งให้ ปอท.
หน่วยปราบนักรบไซเบอร์เข้าไปดูเนื้อเพลงให้ละเอียดว่ายังมีช่องเอาผิดได้ไหม จำเพาะอย่างยิ่งท่อนที่เอ่ยถึงเสือดำที่เข้าเนื้อศรีวราห์เอง
นั่นถือว่าเป็นการขุดคุ้ยเรียกแขก
คนที่หน้าแตกจริงๆ เห็นจะเป็น ‘อี๊ติ่ง
ที่ใส่ไคล้ไว้เยอะ แนะ คสช.จัดการด้วยมาตรา ๑๑๖ นั่นเลยหละ ส่วนอีกคนไม่ถึงแตก
เพราะมีความหนาทัดทานแรงกระแทกได้ดี สุเทพ เทือกสุบรรณ รีบเกาะกระแสโจมตีเพลงแร้ปวิจารณ์
คสช.ว่าทำร้ายชาติ ขณะเดินตลาดหาเสียงให้พรรค รปช.
กระนั้นก็ยังไม่สะทกสะท้านตามธรรมชาติของตน แต่ไปสะเทือนเอาตอนที่มีใครหลายคนตะโกนด่าระหว่างพาขบวนเดินถนนสร้างราคา
ที่เยาวราชก็ทีหนึ่งแล้ว นี่ที่สีลมโดนอีก ในการเดินเป็นวันที่สี่
“ทันทีที่เริ่มเดินเข้าสู่ถนนสีลมหนึ่งมีชายคนหนึ่งได้เดินมาสอบถามว่าเป็นพรรคของนายสุเทพหรือไม่
เมื่อทราบว่าเป็นพรรคของนายสุเทพ คนดังกล่าวก็ตะโกนทันทีด้วยเสียงอันดังว่า
โกหก...ขณะที่ร้านค้าบางร้านก็ระบุไม่ให้เข้า โดยบอกว่าไม่ต้อนรับ”
สำหรับเทือกเองนั้นจำได้เกิดอะไรบ้าง เล่าให้นักข่าวฟัง “บางรายมีการเดินเข้ามาถามคำถามที่ไม่เหมาะสม
หรือตะโกนด่าขณะขับรถ เรื่องนี้ส่วนตัวมองว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีจิตใจคับแคบเรื่องประชาธิปไตยมากๆ
และอาจมีนักการเมืองที่เป็นขั้วตรงข้ามคอยหนุนหลังอยู่ก็ได้”
ย้อนกลับไปอ่านระหว่างบรรทัดที่ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ทำเป็น ‘หนักใจ’ ว่า #ประเทศกูมี ทำให้ “ประชาชนกำลังคิดเห็นแบ่งเป็นสองฝ่าย...อีกฝ่ายมองว่ามันคือการกระทบภาพลักษณ์ประเทศชาติ
จึงทำให้เกิดปัญหาบานปลายมาจนถึงตอนนี้”
ก็ฝ่ายที่มองแต่ว่ากระทบภาพลักษณ์รัฐบาล คสช.แล้วเป็นการกระทบภาพลักษณ์ชาติ
ซึ่ง ‘ศรี’ และ ‘โจ๊ก’ เองเป็นตัวการใหญ่นั่นสิ ทำให้เกิดปัญหา เรื่อง ‘ความเห็นต่าง’ หรือ ‘มองคนละมุม’ อย่างที่โจ๊กอ้าง
จะไม่ทำให้เกิดปัญหาถ้าคนฟังมีจิตสำนึกทางประชาธิปไตย
การขัดแย้งไม่ใช่สิ่งร้ายแรงในสังคมประชาธิปไตย
ถ้าไม่มีพวกยกตนข่มท่านมาคอยบิดเบือนและแถกแถว่านั่นเป็นภัยต่อประเทศชาติ เพียงเพราะพวกตนไม่ได้อย่างใจ
ความเสียหายจึงได้เกิดขึ้น
ดังเช่นกรณีสายการบินไทยเที่ยวบินซูริค-กรุงเทพฯ
ทำให้ผู้โดยสาร ๓๐๐ คนเสียเวลาไปกว่า ๒ ชั่วโมง เพราะนักบินประท้วงไม่ยอมนำเครื่องขึ้น
เนื่องจากเพื่อนนักบินที่จะเดินทางกลับบ้านไม่ได้ที่นั่งชั้น ๑ อ้างว่าเป็นสิทฺ
(พิเศษ) ที่พวกตนได้รับ
ที่สุดการบินไทยสรุปผลสอบสวน จำยอมรับเช่นกันว่าเป็น “ความบกพร่องของนักบินและนายสถานีซูริกที่ไม่คำนึงประโยชน์สูงสุดของผู้โดยสารและองค์กร
สั่งลงโทษตามระเบียบ” แล้ว (ขอบคุณทวี้ตของ Watsana @ohwatsan)