“ณัฐวุฒิ”ชี้ ถ้ากลุ่มต้านเสื้อแดงออกมา จะมีรัฐประหาร แต่ถ้าเสื้อแดงออกมา จะมีลานประหาร
18 ตุลาคม 2561
มติชนออนไลน์
“ณัฐวุฒิ” บอก แก้ปัญหาการเมืองด้วยการรปห. “ไม่มีความชอบธรรม และไม่ควรมีคนชอบทำ”
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับ ผบ.ทบ.ที่พูดเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูง ความรักชาติบ้านเมือง และการช่วยเหลือรับใช้ประชาชน แต่พอท่านพูดเรื่องการเมืองก็พอมองเห็นทัศนคติ หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า ทัศนคติจะไม่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ตนเป็นคนหนึ่งที่เห็นต่าง ถ้าใครบอกว่าในประเทศประชาธิปไตยมีเงื่อนไขให้รัฐประหารได้ ไม่ว่าจะอ้างวิกฤตหรือการจลาจลใดๆ ก็ตาม โดยเฉพาะถ้าวิกฤตนั้นเกิดจากการสมคบสร้างขึ้นของคนบางกลุ่ม เพราะมองดูหลายประเทศที่เจริญพัฒนา ไม่มีใครแก้ปัญหาการเมืองด้วยการรัฐประหาร วิธีการดังกล่าวจึงไม่มีทั้งความชอบธรรม และไม่ควรมีคนชอบทำ กว่า 10 ปีที่ผ่านมา การรัฐประหารในประเทศไทยกลายเป็นเรื่องง่ายเพราะมีสูตรสำเร็จ ส่วนสำคัญที่ต้องรู้คือ กลุ่มที่ออกมาเดินขบวนต้องเป็นฝ่ายตรงข้ามกับคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย เพราะถ้าเสื้อแดงออกมาสิ่งที่จะเกิดคือลานประหาร ไม่ใช่รัฐประหาร การทำให้ไม่มีรัฐประหารจึงเป็นเรื่องยากกว่าหลายเท่า แต่เราพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายรวมทั้งกองทัพเพื่อช่วยกันไม่ให้เกิดขึ้น
ooo
'แดง' แค่ชื่อ! 'อภิรัชต์' กรำศึก 'เสื้อแดง' ยก 'ประยุทธ์' มายไอดอล
Voice TV
เข้าสู่ยุค ‘บิ๊กแดง’ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ขึ้นคุมกองทัพบกมา 2 สัปดาห์ จนกระทั่งเปิดใจครั้งแรก โดย ‘บิ๊กแดง’ หลังพ้นจากตำแหน่ง มทภ.1 ขึ้น 5 เสือ ทบ. เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ
และได้โลว์โปร์ไฟล์ตัวเองลงไป แม้จะมีข่าวพาดพิงอยู่ตลอด และทำงานในหน้าที่ควบคู่การฝึกหลักสูตรพิเศษ โดยเฉพาะจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ ติด ‘แบล็กลิสต์’ นับจากเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดงช่วงปี 2552 ผ่านปฏิบัติการยึดคืนสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมไทยคม จ.ปทุมธานี สมัยเป็น ผู้การ ร.11 รอ. ทำให้ถูกโยกไปเป็น ผบ.พล.ร.11 ฉะเชิงเทรา และ ผบ.มทบ.15 เพชรบุรี ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้เกือบหลุดไลน์ ‘เส้นทางเหล็ก’ ไป
แต่สุดท้ายได้กลับเข้ากรุงขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยเป็นผบ.ทบ. ในการจัดทำโผโยกย้ายกลางปี (เม.ย.57) ก่อนเหตุการณ์ รัฐประหาร 1 เดือน ซึ่ง พล.1 รอ. ดูแลพื้นที่กรุงเทพชั้นใน แสดงถึงความไว้วางใจที่มีให้ ทำให้ ‘บิ๊กแดง’ ชื่นชมและเข้าใจ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่น้อยในการชี้แจงเหตุการณ์รัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 และยกให้เป็น ‘ไอดอล’ ในการทำงาน
“ผมมีความคุ้นเคยกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่มีเรื่องส่วนตัวกับท่าน เพราะท่านใช้ผมทำงานมาโดยตลอด เดือนหนึ่งได้เจอกัน 5 ถึง 10 นาทีก็เต็มที่แล้ว ผมถึงบอกว่าความเป็นกลางก่อนผมในฐานะที่เป็น ผบ.ทบ. ผมเจอท่านในเวลาสั้นๆ ถือว่าเก่งแล้วในชีวิตนี้เคยนั่งคุยกับท่านไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ได้เห็นความรัก ความรู้ ความทุ่มเทในการทำงานของท่าน ซึ่งเป็นแบบอย่างหนึ่งของผมในการดำเนินงานด้านราชการและถ้าวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตัดสินใจ บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้น ผมว่าการตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่อยู่ที่ประชาชน" พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
แน่นอนว่าคำพูดนี้ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ อุ่นใจไม่น้อย หากยังไม่สามารถ ‘ลงหลังเสือ’ ได้ และต้องเข้าสู่สนามการเมือง หรือขึ้นเป็นนายกฯ อีกครั้ง
ท่ามกลางบรรดานักการเมืองซีเนียร์ - จูเนียร์ ที่รอต้อนรับ ‘นักการเมืองเฟรชชี่’ อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ที่สถานการณ์และสภาพการทำงานจะแตกต่างจากยุค คสช.แน่นอน
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเปิด 3 ช่องทางโซเชียลฯ สื่อสารกับประชาชน แต่ก็ต้องเจอกับทั้งเสียง ‘เชียร์ แอนด์ แช่ง’ จากกองหนุนและกองต้านที่มีอยู่ แม้นายกฯจะยำว่าเป็น ‘ตู่ดิจิทัล’ เปิดใจกว้างอยู่แล้วก็ตาม
แต่ประโยคที่ทำให้หนาวๆ ร้อนๆ กันถ้วนหน้าหนีไม่พ้น ในยุค ‘บิ๊กแดง’ จะมีการรัฐประหาร-ปฏิวัติหรือไม่ ?
ในเวลา 2 ปีนับจากนี้ ก่อนที่ พล.อ.อภิรัชต์ จะเกษียณฯ ปี63 ซึ่งก็ไม่ได้มีคำตอบที่ชัด หรือเรียกได้ว่า ‘ไม่รับประกัน’ ว่าจะไม่มีการปฏิวัติ-รัฐประหารในยุค พล.อ.อภิรัชต์
แน่นอนพร้อมเปิดช่องว่า ‘การเมือง-จลาจล’ คือสาเหตุของการรัฐประหารด้วย ทำให้เครือข่ายต้านคสช. - คนเสื้อแดงหวั่นไจไม่น้อย
“ผมเชื่อว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำทุกอย่างอย่างรอบคอบ สิ่งที่สื่อถามว่าจะมีปฏิวัติหรือไม่ ผมหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าการเมืองอย่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติอีก"
"ผมมั่นใจว่า ถ้าการเมืองไม่เป็นต้นเหตุแห่งการจลาจล ก็ไม่มีอะไร ประเทศไทยเคยมีปฏิวัติมา 10 กว่าครั้ง แต่ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว เพราะช่วงหลังเกิดจากการเมืองทั้งสิ้น” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
หากย้อนกลับไปรัฐประหารปี2549 และ 2557 ล้วนมีม็อบปูทางทั้งสิ้นในการให้ทหารออกมาทำรัฐประหาร หรือผลักเหตุการณ์ไปให้ถึง ‘จุดสุญญากาศทางการเมือง’ ซึ่งก็เป็นขั้วเดิมที่ต้าน ‘ระบอบทักษิณ’ ที่สมัยเมื่อ 10 ปีก่อน นำโดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพรรคประชาธิปัตย์ที่บอยคอตการเลือกตั้ง
ผ่านมาไม่ถึง 8 ปี ก็เกิด กปปส. ที่จุดติดจากการค้าน ‘พ.ร.บ.นิรโทษกรรม’ จนนำมาสู่การโค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แม้รัฐบางจะประกาศยุบสภาจัดการเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งก็ถูกขัดขวางโดย กปปส. และพรรคประชาธิปัตย์บอยคอตเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งการเลือกตั้งทั้ง 2 ครั้งถือก็เป็น ‘โมฆะ’ ไปด้วย ดังนั้นเหตุการณ์ ‘ความขัดแย้ง’ จึงเป็นที่ชัดเจนว่า ‘ถูกปูทางวางแผน’ มาอยู่แล้ว
ที่สำคัญ ‘กำนันเทือก’สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. และผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ก็ออกมาแสดงความเห็นถึงการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่ไม่ ‘ประกัน’ ได้ว่าจะมีการรัฐประหารหรือไม่ในอนาคต
นายสุเทพก็เชื่อเหตุการณ์ช่วงเลือกตั้งไม่น่าจะมีปัญหาอะไรด้วย ซึ่งตั้งแต่ช่วงการชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ‘สุเทพ’ และ กปปส. ก็ปูทางเรื่องการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง และเป็น ‘กองหนุน’ ให้กับ คสช. และพล.อ.ประยุทธ์ มาตลอด 4 ปีที่ผ่านมาด้วย และได้ตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย รวมพลคน กปปส. กลับมา
"การที่ ผบ.ทบ.ไม่ปฏิเสธเรื่องการรัฐประหารอีกนั้น คนตั้งคำถามอาจกังวลเองไปล่วงหน้า ใครมาเป็น ผบ.ทบ.เขาไม่สามารถตอบเรื่องอนาคตได้ ท่านตอบตามหลักการ นั่นถือว่าถูกต้องแล้ว ถ้าไปคาดคั้นให้ปฏิเสธ ถ้าไม่มีเรื่องแล้วเขาจะออกมาทำไม" นายสุเทพ กล่าว
มาพร้อมด้วย ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ก็ย้ำว่า พล.อ.อภิรัชต์ พูดเรื่องจริง และ เชื่อ ‘ไม่มีรัฐประหาร’ หลัง ‘บิ๊กแดง’ ไม่ยืนยันและอยู่ที่สถานการณ์การเมือง
ด้าน ‘บิ๊กต่าย’พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ. ย้ำถึงคำพูด ‘บิ๊กแดง’ ว่า พล.อ.อภิรัชต์พูดมีเหตุผล ตนเชื่อว่าทหาร และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งผู้ใหญ่ในรัฐบาล ประชาชน และทหาร ก็ไม่อยากปฏิวัติอยู่แล้ว แต่ทหารมีหน้าที่รักษาความสงบ ถ้าทุกคนอยู่ในกติกา ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต พร้อมโต้ฝ่ายการเมือง ‘คิดลึก’ เกินไป ชี้ว่าทหารมี ‘ทฤษฎีสมคบคิด’ สร้างสถานการณ์จราจล ปูทางปฏิวัติขึ้น
“ลึกเกินไปหรือเปล่า ผมไม่เกี่ยวข้อง พวกเราก็ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งเหตุที่เกิดตรงหน้า เมื่อเป็นหน้าที่ก็ต้องคงต้องทำ แต่คำถามที่ถามลึกเกินไป พวกเราไม่รู้รายละเอียด ไม่รู้ว่าใครทำ และคิดว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก เราต้องช่วยกันจริงๆ ประเทศเราจะได้เดินหน้า” พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ กล่าว
ที่สำคัญในการกล่าวของ ‘บิ๊กแดง’ ก็ย้ำถึงเหตุการณ์ในอดีตเรื่อง “ถนนถูกบล็อก คนไทยออกมาตีกัน ยิงกัน ฆ่ากัน”
“ยั่วยุให้จุดไฟเผา มีการประกอบระเบิด”
"จุดไฟเผาในเมือง เกิดกลียุค” เป็นต้น
ซึ่งก็ทำให้มีกระแสตีกลับจากฟากฝั่งการเมืองไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงช่วงปี2552- 2553 ที่ถูกโจมตีด้วยว่า ‘พวกเผาบ้าน เผาเมือง’ จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือที่เรียกว่า ‘เมษาเลือด 52’ และ ‘พฤษภา 53’
ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึง ‘บทบาท’ ของ พล.อ.อภิรัชต์ นับจากนี้จะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะกับกลุ่มต้านคสช.และคนเสื้อแดง