สนช.
คึกคักกันหนักตั้งแต่เมื่อวาน (๒๙ มีนา) ที่ได้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พรป.
เลือกตั้ง ส.ส. แน่ เพราะเข้าชื่อกันเกิน ๒๕ คนแล้ว
เริ่มที่นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ก่อน
ออกมาดี๊ด๊าว่าได้รายชื่อสมาชิกนิติบัญญัติที่ คสช.ตั้ง รวม ๒๗ คน
เกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้ว จึงได้ทำหนังสือถึงประธาน สนช. “เพื่อขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
วินิจฉัย
ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ใน ๒ ประเด็น คือการตัดสิทธิ์ผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่แจ้งเหตุ
ห้ามดำรงตำแหน่งข้าราชการฝ่ายการเมือง และการลงคะแนนแทนผู้พิการ ทุพพลภาพและคนชรา ว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่”
จึงเป็นบทของนายพรเพชร วิชิตชลชัย
ที่จะส่งลูกต่อไป “ตนไม่ทราบว่าจะส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญวันไหน อย่างไร” แต่ก็ “ต้องอยู่ในกรอบเวลาที่ไม่เกินวันที่
๑๒ เม.ย.” แต่กระนั้นตนก็ยังเชื่อว่า “การยื่นตีความครั้งนี้จะไม่กระทบโรดแม็ปเลือกตั้งอย่างแน่นอน”
แถมอีกนิด นายกิตติศักดิ์ปฏิเสธหัวชนฝา
การตัดสินใจยื่นเองครั้งนี้ “ไม่ใช่เพราะรับสัญญาณใดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกฯ และหัวหน้า คสช.แต่อย่างใด”
ขยับขึ้นมาอีกขั้น รองประธาน สนช.
คนที่หนึ่ง เล่นลูกบ้าง นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย บอก “ทราบเพียงว่าสมาชิก
สนช.กลุ่มหนึ่งได้มองเห็นถึงประเด็นปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงต้องการยื่นร่างกฎหมายลูกดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
เพราะน่าจะเป็นประโยชน์แก่สังคมต่อไปในอนาคต
ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและคุ้มค่า เพื่อให้ข้อกฎหมายทุกอย่างชัดเจนขึ้น” ทั้งๆ
ที่โดยส่วนตนแล้วเห็นว่าสองประเด็นที่จะยื่นขอตีความนั้น “ไม่ขัดรัฐธรรมนูญก็ตาม”
โอว สุดยอด
ข้อสำคัญทั่นรองฯ สุรชัยชี้ว่า ศาล
รธน.จะตีความยังไงก็ไม่น่ากระทบโร้ดแม็พการเลือกตั้ง “เพราะร่างกฎหมายลูกดังกล่าวขยายเวลาการบังคับใช้ออกไป
๙๐ วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาอยู่แล้ว
รวมทั้งน่าจะขอความร่วมมือให้ศาลรัฐธรรมนูญเร่งพิจารณาเป็นกรณีพิเศษได้
และหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความพร้อมก็สามารถขอให้กระชับเวลาการเลือกตั้งขึ้นมาได้”
ว้าว ยุค คสช.นี่ดีไปเสียทุกอย่าง
อะไรอะไรได้ทั้งนั้น ถ้าจะเอา เอ้า ยังไม่หมด ถึงคิวหัวโจก ทั่นประธาน สนช.
ขึ้นธรรมาสน์เปิดเบิ่ง
นายพรเพชรแถลงว่าได้แจ้งให้ทั่นจ่าฝูงทราบเรื่องแล้วละ
“ต้องการรับทราบว่าขั้นตอนของ นายกฯ ระหว่างนี้
ได้ทูลเกล้าฯ ร่างกฎหมายตามกระบวนการหรือไม่
ทั้งนี้ในประเด็นที่เกิดขึ้นไม่ใช่การบังคับให้นายกฯ
ต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง” อ้า คนนี้ก็มารยาทดีล้นเหลือ พยายามถามไถ่
กลัวจะหาว่าข้ามหน้าข้ามตาผู้หลักผู้หย่าย แถมยังวิสัยทัศน์ก้าวไกลอีกต่างหาก
“นายพรเพชรกล่าวด้วยว่า “ในอนาคตศาลรัฐธรรมนูญมองว่าสองประเด็นขัดกับรัฐธรรมนูญ
จะไม่กระทบกระบวนการ เพราะสามารถแก้ไขเฉพาะบทบัญญัติที่ถูกตีความเท่านั้น”
ฉะนั้นจึงอาจต้องขัดใจหัวหน้าใหญ่นิดหน่อย
“หากนายกฯ ตัดสินใจไม่ยื่นตีความ ทางสนช. โดยผม
ยังมีสิทธิส่งคำร้องของสนช. ไปยังศาลรัฐธรรมนูญตามขั้นตอนที่รัฐธรรมนูญกำหนด” ได้
นายพรเพชรช่างกล้า เพราะเชื่อว่าไม่กระทบโร้ดแม็พด้วยเหมือนกัน
“จากที่ตนอ่านข่าวจากสื่อมวลชน
ที่มีข้อเสนอให้ลดระยะเวลาในกระบวนการจัดการเลือกตั้งตามกฎหมายได้ เช่น
ที่กำหนดให้เลือกตั้งภายใน ๑๕๐ วัน อาจลดเหลือเลือกตั้งภายใน ๑๒๐ วันก็ได้”
ที่จริงน่าจะร่นกำหนดเลือกตั้งภายใน ๑๕๐
วันตามรัฐธรรมนูญ ให้เหลือแค่ ๙๐ วันจะดีกว่ามั้ย (เลขสวยอีกต่างหาก) กกต.ที่เหลือสี่คนต้องทำได้สิ
เพราะไหนๆ สื่อมวลชนเขาคาดกันไว้
ถ้ามีการตีความโดยศาล รธน. กำหนดเลือกตั้งอาจเลื่อนไปอีกได้ถึง ๒-๓ เดือนไง