ลือกันแระ เปรมชัยกับประวิตร 'แบ็คดี' ทั้งมี 'เครื่องรางของขลัง'

น่าคิด เปรมชัยกับประวิตร ใครอึดกว่าใคร ทั้งคู่เป็นบุคคลระดับจ้าวใหญ่นายโตของสังคม คนหนึ่งเป็นเจ้าของกิจการก่อสร้างสาธารณูปโภคที่โด่งดัง โดนคดีเข้าป่าล่าสัตว์สงวนในเขตหวงห้าม

อีกคนเป็นพี่เอื้อยของคณะรัฐประหารที่ครอบบ้านครองเมืองอย่างเหนียวแน่นมาจะสี่ปี มีข้อหาสลับเปลี่ยนสวมนาฬิการาคาแพงเหยียบล้านอย่างน้อย ๒๕ เรือน โดยไม่เคยแจ้งในรายการทรัพย์สินในฐานะคณะรัฐมนตรี

ทั้งคู่ดูท่าจะไม่ต้องรับโทษทัณฑ์อันใดต่อการกระทำของตน วัดจากการดำเนินคดีที่เป็นไปอย่างยืดยาด แถมมีรอง ผบ.ตร.แก้ต่างให้ว่าข้อหานั้นข้อหานี้ ไม่มีหลักฐานบ้าง ความผิดไม่เข้าข่ายบ้าง ล่าสุดปรากฏ (ทางสื่อสังคม) เสียด้วยว่า ต่างมี ‘แบ็คดี’

เปรมชัย กรรณสูต ที่โดนข้อหายิงเสือดำในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จุดกระแสรักสัตว์ป่าขึ้นอย่างอึงคนึง ขนาดมีการนัดชุมนุมในที่สาธารณะประกาศสิทธิสัตวชนกันเอิกเกริกเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีจิตกรรมกำแพงโผล่กลางซอยย่านสุขุมวิทให้เจ้าหน้าที่ต้องคอยตามลบ กลายเป็นข่าวเด่น

ข่าวล่าของโพสต์ทูเดย์วานนี้ (๕ มีนา) หลังจากผลงานกราฟฟิตี้ภาพเสือดำบริเวณกำเเพงย่านสุขุมวิท ๕๘ โดยศิลปินนาม Headache Stencil ถูกเจ้าหน้าที่ลบออกอย่างทันควันไม่ทันข้ามคืน วันนี้ภาพเสือดำบนกำแพงจุดเดียวกันนั้น กลับมาปรากฏอีกครั้ง

(https://www.posttoday.com/social/general/543154)

ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมพันธ์ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ ๙๐โดยมีการดำเนินคดีกับนายเปรมชัยและพวกรวมทั้งสิ้น ๙ ข้อหา” หลังจากที่รองผู้บัญชาการฯ ท่านนี้ยังคงยืนยันกระต่ายขาเดียว

“ตามกฎหมายการฆ่าเสือดำไม่เข้าข่ายและไม่มีข้อหาทารุณกรรมสัตว์ตามที่สังคมวิจารณ์” แต่กองพิสูจน์หลักฐานเปิดเผยผลการตรวจอาวุธปืน ๓ กระบอกที่ยึดมาจากที่เกิดเหตุ “ยืนยันอาวุธปืนทั้งหมดเป็นของนายเปรมชัยจริง”

นอกจากนี้ พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เปิดเผยด้วยว่า “ส่วนลูกระสุนปืนที่ทำให้เสือดำเสียชีวิต เป็นลูกกระสุนลูกปลายที่สามารถบรรจุในปืนลูกซองขนาดเบอร์ ๒๐ ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับ ๑ ใน ๓ กระบอกที่ตรวจยึดได้”

(https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_804490)

ถึงกระนั้นก็ยังเชื่อว่าถึงที่สุดแล้วนายเปรมชัยคงจะรอดข้อหาต่างๆ ๙ กระทงไปได้สบายๆ ดังที่ รักษ์ มนตรี คอลัมนิสต์ใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ บรรยายว่าตอนนี้มีตัวละครใหม่ชื่อ ‘พรานบุญ’

“ในสตอรี่ใหม่ ‘อาวุธปืน’ เปรมชัยไม่รู้เรื่อง เพราะคนจัดรถเตรียมอุปกรณ์และซุกซ่อนปืนในรถ คือ ยงค์ โดดเครือ” และในสตอรี่ใหม่เรื่องการตายของเสือดำไม่ได้มาจากกระสุนปืนลูกซอง “แต่กำลังจะมีการให้ข่าวใหม่ว่าเสือดำถูกยิงจากปืนไรเฟิล หรือปืนกระบอกอื่น”

เด็ดกว่านั้นมีการแชร์ภาพและข้อความทางสื่อสังคม เกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของนายเปรมชัย ว่าเป็นพระสหายสนิทของสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ มาตั้งแต่ครั้งโรงเรียนจิตรลดา

ด้านคดีนาฬิกา ๒๕ เรือน ‘เพื่อนให้ยืม คืนหมดแล้ว’ ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นั่นทาง ปปช. ก็กำลังทำการสอบสวนอย่างขมักเขม้น นี่ก็ส่งหมายเรียกให้ผู้ถูกกล่าวหาตอบข้อข้องใจเป็นครั้งที่สี่แล้ว ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากทั่นรองฯ

จึงเป็นที่คาดหมายเช่นเดียวกับคดีเปรมชัย ว่าท้ายที่สุดแล้วคดีนี้ก็จะปิ๋ว ค่อยๆ เงียบหายไปกับการประกาศวันเลือกตั้ง เหตุที่จะเป็นเช่นนี้มิใช่เพราะว่าประธาน ปปช. กับ ‘บิ๊กป้อม’ เป็นลูกน้องเป็นนายกันมาก่อน หากแต่เป็นเพราะพี่ใหญ่ คสช. มีเครื่องรางของขลังดี

Somsak Jeamteerasakul เกาะติดเรื่องนาฬิกาเรือนพิเศษของประวิตร ที่มีสลักชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ อยู่ด้านหลัง ซึ่งวาสนา นาน่วม แย้มพรายเอาไว้ตั้งแต่ปลายปี ๖๐ จนกระทั่งได้เบาะแสอีกครั้งเมื่อ ฌอน คริสปิน แห่งหนังสือพิมพ์เอเซียไทมส์ อ้างไว้ในบทความของเขา

ในที่สุดเขาก็ได้ภาพและรายละเอียด ‘ของจริง’ ที่พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์พระราชทานให้พล.อ.ประวิตร เมื่อ ๑๙ ธันว่าคม ๒๕๖๐ เป็นนาฬิกายี่ห้อ ‘TW Steel” ทำในอเมริกา น่าจะรุ่น ‘CB 203’ สนนราคาแค่ ๗ พันถึงหมื่นบาทเท่านั้น

ด้านหลังสลักข้อความว่า “พระราชทาน บิ๊กป้อม” จริงๆ ด้วย แถมมีเกล็ดเล่ากันอีกว่าระบุพระราชทานให้ไว้ใช้เป็นเครื่องรางของขลัง วาสนาถึงได้บอกบิ๊กป้อมสวมทุกวันตั้งแต่ได้รับมา