สองภาพที่มันย้อนแย้งต่อกันอย่างสิ้นดี
ภาพแรก -ในกรุงเทพฯ ชาวบ้านจาก อ.เทพา
สงขลา และ จ.กระบี่ จำนวนไม่น้อยกว่า ๑๕๐
คนมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโครงการสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงถ่านหิน
ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๖๗ คนทำการอดอาหารประท้วงเป็นลมกันไปเกือบสิบคน
เมื่อ ๑๖ กุมภาฯ
พ.ต.ต.อรรถวิท เรืองโภควิทย์ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง
ยื่นคำร้องถึงศาลแพ่งให้สั่งยุติการชุมนุม อ้างฝ่าฝืนกฎหมาย “เพราะผู้ชุมนุมพักหลับนอนและปักหลักอยู่บนทางเท้า
เป็นการกีดขวางและก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนบริเวณดังกล่าว”
โดยระบุให้แกนนำสองคนไปรับฟังการไต่สวนที่ศาลแพ่งในวันที่
๒๐ ก.พ. นี้ โดยเจ้าหน้าที่
สน.นางเลิ้งต้องการให้ผู้ชุมนุมย้ายสถานที่จากหน้าที่ทำการสหประชาชาติ
ถนนราชดำเนินกลาง ไปยังบริเวณทางเท้าริมคลองผดุงกรุงเกษม หน้าวัดโสมนัส
เขตป้อมปราบฯ
ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปีที่แล้วมีการเดินขบวนเพื่อเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา ระหว่างการเดินสายลงภาคใต้ของหัวหน้า คสช. ผู้ร่วมกิจกรรม ‘เทใจให้เทพา’ ๑๖
คนถูกควบคุมตัวและดำเนินคดี
เหตุผลหลักในการคัดค้านก่อสร้างโรงไฟฟ้าเทพานี้
ผู้ชุมนุมชี้ว่า “กระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของโครงการไม่ได้มาตรฐาน
ทั้งยังมีผลประโยชน์ทับซ้อน
มีการเอื้อประโยชน์ในการซื้อขายที่ดินของคนบางกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ”
“อีกทั้งการเลือกพื้นที่ก่อสร้างก็ไม่เหมาะสม
เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่มีประมงพื้นบ้านทำมาหากินอยู่นับหมื่นคน
หากเดินหน้าก่อสร้างจะทำให้ประชาชนกว่า ๒๐๐ หลังคาเรือนต้องย้ายออกจากพื้นที่”
“นายอัครเดช ฉากจินดา
ผู้ประสานงานปกป้องอันดามันจากถ่านหินกล่าวว่า
แม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นท่าทีจากรัฐบาลที่จะดำเนินการตามข้อเรียกร้องมากนัก
แต่การอดอาหารก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ และเป็นการต่อสู้กับตัวเองด้วย
เพราะรัฐบาลได้ปิดช่องทางการเคลื่อนไหวต่างๆ ด้วยกฎหมาย”
ข้อสำคัญ
การที่ทางการประกาศเลื่อนโครงการโรงไฟฟ้าออกไปอีก ๓
เดือนเพื่อชะลอเวลาไม่ได้แก้ปัญหา
เนื่องจากภาครัฐยังคงเตรียมการขอใช้ที่ดินสาธารณะและเวนคืนที่ดินราว ๓ พันไร่อยู่ต่อไป
การยกขบวนมาประท้วงต่อในกรุงเทพฯ
เข้าวันที่แปดในครั้งนี้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงว่า “อย่าเอาการอดอาหารมาทำให้สังคมเกิดความรู้สึกลังเล
หรือขัดแย้ง”
และให้ความเห็นว่า “หากจะเรียกร้องให้ยกเลิก
คำตอบในปัจจุบันคือ เป็นไปไม่ได้”
(รวบรวมเนื้อหาจาก https://voicetv.co.th/read/H1tmKHNwG, https://www.khaosod.co.th/politics/news_759672
และ http://www.bbc.com/thai/thailand-43041219)
มาดูอีกภาพที่เป็นไปได้และเป็นไปแล้ว
จากโพสต์ของ Wassana
Nanuam (added 4 new photos) “บิ๊กป้อมจัดเต็ม สู้ความหนาว ลุยหิมะ
สวมบทประธาน กก.โอลิมปิคไทย บินเยี่ยมนักกีฬาไทยแข่งกีฬาโอลิมปิก ฤดูหนาวที่เกาหลีใต้”
นั่นละพี่ใหญ่รองหัวหน้า
คสช. รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
ผู้อื้อฉาวด้วยนาฬิกาหรูราคาเรือนละเหยียบล้าน ๒๕ เรือนเพื่อนให้ยืมสวมเป็นสิบปี
ที่ ปปช.ตรวจสอบแล้วแต่ไม่ไปถึงไหน เพราะล่าสุดยังรอ ‘ทั่น’ ส่งคำตอบข้อสอบถามครั้งที่สามกลับไป
ยิ่งขณะนี้ทั่นมีภารกิจยิ่งใหญ่ต้องไปเปียงชาง
ลุยหิมะสู้หนาว “พร้อมรับประทานอาหารร่วมกับนักกีฬาไทย
ที่ในครั้งนี้ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันสกี
งานนี้มีน้องรักทั้งบิ๊กน้อย
พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาฯ ราชตฤณมัยฯ และพล.อ.รณชัย มัญชุสุนทรกุล
จากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ร่วมคณะด้วย” (Cr-ข่าวสด)”
หวังว่าจะไม่ซ้ำรอยอย่างทริปฮาวายนั่นนะ
จัดเลี้ยงฟู่ฟ่า นั่งเครื่องชั้นหนึ่งชิมรสคาเวียร์จิบชองปาญ
ต่อไปประเทศไทยอาจจะยิ่งใหญ่ได้จัดแข่งกีฬาฤดูหนาวกับเขาบ้าง