เมื่อวันก่อนทั่นรองฯ ฝ่ายกฎหมาย
เอ็นจอยปากเหมือนเด็กอ่อนอมหัวแม่เท้าตัวเองน่ะนะ พูดถึงเรื่องยึดทรัพย์
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นักข่าวถามว่าถ้ามีการยึดบ้านนวมินทร์
ที่ซอยพัฒนะโยธินไปแล้ว บุตรและสามีของเธอก็อยู่ต่อไปไม่ได้สิ นายวิษณุ เครืองาม ตอบว่า
“เข้าไปอยู่อาศัยได้ แต่ต้องเสียค่าเช่า เพราะมีหลายกรณีที่รัฐยึดบ้านแล้ว
ก็อนุญาตให้เข้าไปอยู่ได้”
แต่ทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่าช้าก่อน
“ได้ดูข้อกฎหมายและแนวคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว
พบว่า กรณีถ้ามีการยึดบ้านของลูกหนี้ตามคำพิพากษาและเจ้าหนี้จะได้ค่าเช่านั้น
จะต้องเป็นกรณีที่ในขณะหรือภายหลังที่มีการยึดบ้านนั้น
ลูกหนี้ตามคำพิพากษา (ขอย้ำ ลูกหนี้ตามคำพิพากษา) ได้นำบ้านออกให้บุคคลอื่นเช่า...ซึ่งในทางกฎหมายเรียกว่า
ดอกผลของทรัพย์ที่ถูกยึด”
นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ปรารภ “ในฐานะทนายความได้ฟังคำให้สัมภาษณ์แล้ว
รู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง
บ้านก็ถูกยึดทั้งที่ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
และสามีกับลูกยังต้องมาจ่ายค่าเช่าในการอยู่บ้านของตัวเองอีก”
ทนายความของ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้นี้อ้างว่า ถึงแม้ตนจะไม่ได้ดูแลคดีความในศาลปกครอง
ก็ขอให้กำลังใจอดีตนายกฯ หญิง เพราะคำให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ 'ไม่เป็นที่สุด' ตามประมวลวิธีพิจารณาความกฎหมายแพ่ง มาตรา ๓๑๔ วรรคสอง (แก้ไขใหม่)
และตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๗๓๑/๒๕๕๙
ทางด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี
เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) เขากล่าวถึงเรื่องยึดทรัพย์ตามคำสั่ง คสช.หรือกระทรวงการคลัง ว่า
“เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีในทางกฎหมาย ประหนึ่งเป็นกลยุทธ์ที่นอกลู่นอกทาง”
และ
“จะเก็บค่าเช่านั้นมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้
ก็แต่จะยึดเอาค่าเช่าที่นำทรัพย์สินออกให้เช่า ซึ่งทางกฎหมายเรียกว่า ดอกผลนิตินัย”
เขาเสริม
“ทางกฎหมายก็ไม่ถือว่าเป็นการยึดทรัพย์ตามคำพิพากษาของศาลด้วย...เมื่อบ้านนั้นเขาไม่ได้นำออกให้เช่า
ครอบครัวเขาอยู่ด้วยความเป็นเจ้าของในกรรมสิทธิ์ร่วมกัน
ที่บอกว่า ‘อยู่ได้ ต้องจ่ายค่าเช่า’ เป็นการบิดเบือนทางกฎหมาย”
ดังนั้น “เจ้าของเดิมยังมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นอยู่ตราบเท่าที่ยังไม่มีการขายทอดตลาดเปลี่ยนมือไป”
เขาลงท้าย “อย่าเล่นการเมืองแล้วเสื่อม
เพราะความดีที่มีในอดีตมันสูญสิ้นไปแล้ว #ด้วยความเคารพ (คบไม่ได้)”
คงจะแบบเดียวกับทหารที่มาเล่นการเมือง
รับเชิญมายึดอำนาจแล้วติดใจอยากอยู่ยาว ทำทุกท่านึกว่าทำแล้วดูดี กดขี่ สกัดกั้น
ล่อหลอก ปลิ้นปล้อน และโป้ปด จนพวกที่เชื้อเชิญหลายคนเริ่มระอา
ก็ยังไม่วายบีบคั้นต่อไปไม่ยั้ง
ไหนจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีนักวิชาการที่ทำกิจกรรมเดินมิตรภาพชูประเด็นประชาสังคม
ไหนจะแจ้งความและคุกคามกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จัดชุมนุมเรียกร้องไม่ให้ คสช.เลื่อนการเลือกตั้ง
มาถึงรายการพาเหรดล้อการเมือง
ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ ๗๒ ที่บรรดาโฆษกทหารออกมาแก้ตัวกันพัลวัล “เจ้าหน้าที่ไม่ได้สั่งห้ามใดๆ
เป็นเพียงไปดูแลอำนวยความสงบรักษาความปลอดภัย เพื่อให้งานราบรื่น”
พล.ต.ปิยพงศ์
กลิ่นพันธุ์ โฆษก คสช. แก้ตัวหลังจากมีข่าวแซ่ดว่า
คสช.สั่งห้ามขบวนพาเหรดตกแต่งหุ่นด้วยนาฬิกาและแหวนเพชร
“ด้าน พล.ต.สุวิทย์
เกตุศรี ผบ.พล.ม.๒ รอ. กล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวการเข้าตรวจหุ่นล้อการเมืองทั้ง ๖ ตัว
ไม่เป็นความจริง เพราะทางหน่วยมีภารกิจเพียงเข้าดูแลความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำนักงานเขต และเทศกิจเพียงเท่านั้น”
(ข่าวไทยรัฐรายงาน https://www.thairath.co.th/content/1194225)
หากแต่การเข้าร่วมดูแลความสงบเรียบร้อยของทหารนี่
มีลักษณะน่าเกลียด จำนวนทหารที่เข้าร่วมอย่างทางการมี ๓๐๐ คนเท่าตำรวจ
แต่จำนวนไม่ทางการอีกไม่รู้เท่าไร
จุ๊กกรู ใครแอบดูนักศึกษาเชียร์บอลประเพณี |
รู้กันแต่ว่ามีการแจกจ่ายเสื้อเชียร์ของธรรมศาสตร์ให้กับทหารหมู่หนึ่ง
เพื่อเข้าไปแทรกซ้อนในหมู่นักศึกษา
ทาง มธ.นั้น ย้ำหลักการ “ไม่ปิดกั้นความเห็นและกระตุ้นเตือนให้สังคมเห็นปัญหาของสังคมและขบคิดร่วมกัน
โดยจะอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย สิทธิเสรีภาพการแสดงออกภายใต้รัฐธรรมนูญ” พญ.อรพรรณ
โพชนุกูล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษาชี้แจง
ส่วนประเด็นที่ว่ามีคำสั่งห้ามโน่นห้ามนี่มาจาก คสช. ต่อการจัดขบวนล้อหรือไม่ ผู้รับผิดชอบจัดขบวนพาเหรดของจุฬาฯ
ยืนยันว่าไม่มี เพียงแต่ “เป็นการขอความร่วมมือ
ไม่ให้ล้อเลียนการเมืองที่ตัวบุคคล”