ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบโครงการสร้างศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสงขลาโดยงบประมาณกระทรวงศึกษา
หรือสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินก้นร้อน
เตรียมตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการเฉลิมพระเกียรติ ร.๙*
และนี่มิพัก ปปช.จักต้องเดือดเนื้อกับนาฬิกาหรู
ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่แจ้งทรัพย์สิน โผล่มาอีกเป็นเรือนที่ ๒๐ ปาเต็กฟิลลิปส์ราคากว่าสองล้านครึ่ง*
*(หมายเหตุ
เกี่ยวกับสองประเด็นนี้ โปรดดูรายละเอียดที่ https://www.prachachat.net/general/news-99917
และ https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/73448)
กระบวน ‘ดัน’ ทั่นตูบนั่งนายกฯ คนนอกต่อไปหลังจาก (หากมี) เลือกตั้ง ก็ยังเดินหน้าอย่าง
‘เข้มแข็ง มั่งคั่ง ยั่งยืน’ งานนี้พี่ใหญ่เจ้าของพื้นที่กระสุนตกออกโรงป้องน้องโต
ด้วยตนเอง
“ก็ท่านทำไปแล้ว” พล.อ.ประวิตรตอบคำถามนักข่าวที่ว่า
พล.อ.ประยุทธ์ตอบโจทย์นักการเมืองรุ่นใหม่
ที่ตนอยากเห็นหรือไม่ “คือคนที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ อยู่ดีกินดี
และบ้านเมืองเจริญ มีความสงบเรียบร้อย”
ส่วนผู้สนับสนุนอื่นๆ
จะเห็นด้วยกับข้ออ้างอย่างนั้นแค่ไหนไม่รู้
ผู้สนับสนุนเหล่านี้เท่าที่พูดๆ กันในวงพรรคการเมือง
นอกจากกลุ่ม กปปส. ของสุเทพ เทิอกสุบรรณ แล้วน่าจะมีกลุ่มของ เนวิน ชิดชอบ อนุทิน
ชาญวีรกูล สุวัจน์ ลิปตพัลลภ สนธยา-ณรงค์ชัย คุณปลื้ม เผดิมชัย-ไชยยศ-ไชยา
สะสมทรัพย์ และประดาสาวก ‘สันติอโศก’
ของโพธิรักษ์
มิใยจะมีประเภท ‘สลิ่ม’ เอาด้วยกับทหาร
และ/หรือพรรคการเมืองที่ไม่ต้องเลือกตั้งก็ได้ ตอนนี้ดวงตาเห็นภัยบางราย อย่างเจ
เจตริน (วรรธนสิน) ‘กิ๊กไว้จิก’ ของ
อจ.ปวิน (ชัชวาลพงศ์พันธ์) ขี่ม้าเลียบเมือง
“ขอจับมือกัน สัญญาห้ามเช็คบิล ผมไม่เอานายพี่
พี่ไม่เอานายผมเราเอานายเก่งๆ มาดูแล แต่ถ้านายใหม่พวกเราโกง พวกเรารุมตบ จบปะ”
นั้นนะ
มีปัญหานี้ดนึง นายของน้องไม่มีทั้งน้ำยาและซาวน้ำ
แล้วยังปู้ยี่ปู้ยำพวกพี่จนจะครบกระบวนแล้วกำลังหน้ามือหันไปฟัดพวกน้องด้วยสิ ซ้ำยังมองไม่เห็นนายใหม่หน้าไหนเก่งกว่า
หรือเก่งเท่านายเก่าของพี่นี่ละ
คนที่เขาถูกกระทำย่ำยีจนบักโกรกล้มตายถึงได้ต้องออกมาท้วงทวงถามพวกนายเก่าๆ
ของน้องเจ อย่างอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตฝ่ายความมั่นคง (ที่เรียกว่า ศอฉ. น่ะ) ว่าเมื่อปี
๕๓ คนชุมนุมมือเปล่า (อย่างมากก็ไม้หลาว หนังสติ๊ก) ตายเป็นเบือด้วยฝีมือทหาร-ตำรวจอาวุธครบมือ
ไฉนสำนักปราบทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
ไม่ยอมชี้มูลความผิด ถือว่าคดีสิ้นสุด ต่างกับคดีสลายชุมนุมเมื่อปี ๕๑ ทั้งๆ
อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ปปช.ก็ยังดันทุรังจ้างทนายฟ้องแทน
“ครั้งนี้มาทวงถามครั้งที่เท่าไหร่ผมจำไม่ได้จริงๆ
ไม่ได้พูดประชด เพราะเราทำทั้งมาที่นี่ ไปที่อัยการ ติดตามทวงถามต่างๆ
ตั้งข้อสังเกตุ ตั้งคำถามผ่านสื่อมวลชน
เป็นครั้งที่มากมายเหลือเกินแต่ทุกครั้งได้รับคำตอบเดียวคือความเงียบ
ไม่มีการชี้แจง ไม่มีการตอบคำถามแต่อย่างใด” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ว่า
มิหนำซ้ำนายเก่าของน้อง (เจ) โยกเยก
วกไปวนมาเหมือนทู้ธพิกจิ้มขี้ฟัน พออำนาจทหารเสียดแทงพวกตนออกมาบ่นรัฐบาลอย่าบิดเบี้ยวกฎหมาย
พอเห็นท่าว่าหลังเลือกตั้งอย่างไรเสียไม่มีทางเชิดหน้าอ้าปาก
ก็ตระบัดสำนวนชวนให้รักษากฎหมาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไปพูดออกรายการวิทยุเมื่อสองสามวันมานี้
ว่าตัวเองรู้ตั้งนานแล้วว่ายิ่งลักษณ์ (ชินวัตร อดีตนายกฯ หญิง) ต้องหลบอยู่ที่ลอนดอนแน่
แต่ที่ “รัฐบาลคงต้องชี้แจงก็คือว่า
แล้วได้ดำเนินการอะไรอย่างไรบ้าง...ผู้มีอำนาจก็มีหน้าที่ในการที่จะต้องทำให้กฎหมายมันศักดิ์สิทธิ์
เพราะฉะนั้นก็คงต้องไปถามรัฐบาลว่าตกลงจะทำอะไรหรือไม่”
แบบบทหยดย้อยอย่างนี้แหละ
ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐเขาถึงได้อ่านไต๋ว่า “พรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์ยังแบ่งรับแบ่งสู้
ไม่กล้าฟันธงอนาคตตัวเองว่า พร้อมร่วมหอลงโรงร่วมทำงานกับผู้นำ คสช.ในวันข้างหน้า(หรือไม่)
เพราะสภาพในพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังเป็นปลา
๒ น้ำ มีทั้งขั้วที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนท็อปบูตปะปนกันอยู่”
ขณะที่ทางพรรคเพื่อไทย “ล่าสุด บรรดาอดีต
ส.ส.แห่ตบเท้าอวยพรปีใหม่แกนนำพรรค ก๊วนใหญ่ ส.ส.อีสานกว่า ๑๐๐ คน ประกาศหนักแน่นขอเคียงบ่าเคียงไหล่กับพรรคเพื่อไทยในสังเวียนเลือกตั้งปลายปี
สยบข่าวลือ ส.ส.แห่ทิ้งพรรค ฮึดสู้พลังดูดสีเขียว ตอกย้ำจุดยืนไม่เอานายกฯ คนนอก”
นั่นเป็นแก่นเนื้อหาบทความชื่อ “ไม่แคล้วถูกโดดเดี่ยว”
ไม่รู้หมายถึงข้างไหน แต่ลงท้ายบอกว่า “แม้พรรคเพื่อไทยชนะสังเวียนเลือกตั้ง
แต่อาจไม่มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล” อันเป็นข้อสรุปที่ทุกสำนักวิเคราะห์ไว้คล้ายกัน
รวมทั้งบางแห่งแฉว่า “นายใหญ่สั่งแล้ว”
ให้ปักหลักค้านและจ้องเช็คบิลสมาชิกและลิ่วล้อ คสช. ๖ คน ซึ่งนอกจาก ‘๓ ป.’ ป้อม-ป็อก-ประ (ยุทธ์) แล้วก็มี ฉัตรชัย
สาริกัลยะ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และไพรินทร์ ชูโชติถาวร
รมว.คมนาคมป้ายแดงที่เพิ่งรับตำแหน่งใน ครม. ตู่ ๕
ซึ่งบังเอิญไปเฉี่ยวเฉียดกับ ‘แก๊ง ๘ คน’ ที่กลุ่มเสื้อแดงในลอส แองเจลีสใช้เป็น ‘ตีม’ (Theme) ในการจัดงานปีใหม่ ‘ไสหัวออกไป’ ในวันที่ ๑๔ มกราคมนี้พอดี
การจัดพบปะชุมนุมกันของบรรดาเสื้อแดงแอล.เอ.
แสดงจุดยืนไม่เอาเผด็จการ ไม่ว่าจะโดยยึดอำนาจหรือโดยรัฐธรรมนูญที่ คสช. กำหนด ‘นายกฯ คนนอก’ ครั้งนี้ได้รับความสนใจจากฝ่ายความมั่นคงเป็นพิเศษ
เมื่อมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ไปตั้งองค์กรเสรีไทยต่อต้านคณะรัฐประหารอยู่ในสหรัฐอเมริกา
กระโจนเข้าไปร่วม
เลยได้เลขาฯ
สภาความมั่นคง พล.อ.วัลลภ
รักเสนาะ ช่วยโฆษณาให้ว่า “สมช.ยังติดตามและประเมินความเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
ว่าสถานการณ์ไหนที่ส่งผลกระทบกับความมั่นคงของประเทศไทย”
ที่ทีนิวส์และเพจ ‘Phenkhao’ เก็บไปยำกันใหญ่ “เชื่อหรือไม่ ทักษิณไม่รู้” แต่เนื้อในบทความชัดเจ๋งว่า ‘ไม่เชื่อ’ ถึงขนาด ‘ฝาก’ ไปยังอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร
“หากรักประเทศไทยจริง
ต้องการเห็นความสงบสุข และความปรองดองเกิดขึ้น...ก็ควรบอกให้นายจารุพงศ์เลิกล้มกิจกรรมดังกล่าวจะดีกว่าหรือไม่”
เอ้า
ทีอย่างนี้ไหงอยากให้ปรองดอง เพื่อที่หัวหน้า คสช. จะได้ไปเป็นนายกฯ คนนอก
ต่ออีกน่ะหรือ รู้ไหมว่าเสื้อแดงอเมริกาเขาจัดกิจกรรมต้านรัฐประหาร ขับไล่รัฐบาล
คสช. อยู่เนืองๆ ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา
งานครั้งนี้นายจารุพงศ์จะร่วมด้วยหรือไม่เขาก็คงยังทำกันอยู่
ทักษิณจะรู้เห็นเป็นใจด้วยไหม ค่าเท่ากัน อันที่จริงทักษิณควรต้องรู้เห็นโดยตลอด
เพราะไม่เช่นนั้นคงเข้ากับเสื้อแดงไม่ติดถ้าไม่อยากไล่ประยุทธ์
ส่วนจะเป็นใจด้วยแค่ไหน เอาไว้ดูกันนานๆ