วันจันทร์, พฤษภาคม 08, 2560

ถ้ารัฐประหารจะทำให้ประเทศชาติเจริญ มันต้องเจริญตั้งแต่ครั้งที่หนึ่งแล้ว! - คสช.เตรียมแถลงผลงาน (ที่ไม่เสียของ) ครบ 3 ปียึดอำนาจ ปลายเดือนพ.ค.นี้





ผลงานดีแหงๆ ยิ่งใหญ่กว่า "โคตรแม่ระเบิด" ด้วยซ้ำไป เพราะเอาความกลวง ฉาบฉวย ของทีมสมคิดมาแปะหน้าเผด็จการที่ไม่มีใครวิจารณ์ได้ ขายไทยเฟิร์สท์เอย 4.0 เอย นวัตกรรม สตาร์ทอัพ สตรองเก้อ ไทยสมาร์ท ฯลฯ แล้วแต่จะหาวาทกรรมมาหลอก ว่าที่จริงทีมสมคิดนี่มันนักต้มตุ๋นระดับชาติเลยนะ แต่นักเศรษฐศาสตร์ไทยมีแต่พวกเอาใจช่วย นักธุรกิจก็ต้องตีปี๊บตามไป ขืนบอกว่า ศก.แย่กลัวยิ่งเจ๊งเข้าไปใหญ่ นักวิเคราะห์ก็กลัวขายหุ้นไม่ได้ สื่อก็โดนปิดปากโดยไม่ต้องมีกฎหมายสื่อ ฟังวิทยุดูทีวีทุกวันนี้มีแต่ข่าวประชาสัมพันธ์รัฐ หรือไม่ก็หนีไปเล่นข่าวดาราข่าวชาวบ้าน ข่าวพระเอกลิเกมีลูกโตเป็นควายเพิ่งเปิดเผยกลายเป็นข่าวใหญ่ยิ่งกว่าปัญหาปากท้อง เน่ากันไปหมดละครับ เน่าใน เพียงแต่ไม่ยอมตายเพราะมีปืน

Atukkit Sawangsuk




คสช. เตรียมแถลงผลงาน ครบ 3 ปียึดอำนาจ ปลายเดือน พ.ค.นี้

เมื่อวันที่8 พฤษภาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ. เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคสช. โดย พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. กล่าวว่า พล.อ.เทพพงศ์ ได้กล่าวว่าการที่คสช. ได้เข้ามาดูแลการบริหารราชการแผ่นดินแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนประเทศในทุกด้านมาจะ ครบ 3 ปีในพฤษภาคม นี้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดูแลให้ประเทศเกิดความสงบเรียบร้อย มีพัฒนาการในทุกมิติ ทั้งนี้ คสช. อยู่ในระหว่างการเตรียมนำข้อมูลผลการปฏิบัติงานและความคืบหน้า รวมทั้งสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในอนาคตมาเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบในปลายเดือนนี้

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อวา ทั้งนี้ รองเลขาธิการคสช.ยังได้กำชับให้เร่งรัดการจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่มีการบุกรุก โดยให้ใช้แนวทางดำเนินการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ในลักษณะเช่นเดียวกันกับการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินที่ถูกบุกรุกได้เรียบร้อย เป็นไปตามกฎหมาย และชุมชนสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ในพื้นที่ที่มีการบุกรุกป่าหรือที่สาธารณะ ได้ประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการต่างๆ อย่างใกล้ชิด

สำหรับการจัดระเบียบพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นสถานที่สำคัญ อาทิ การช่วยพัฒนาชุมชนป้อมมหากาฬ รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ริมคลองลาดพร้าว และวัดมงคลบพิตร จ.พระนครศรีอยุธยา นั้น พล.อ.เทพพงศ์กำชับให้ กกล.รสกองทัพภาคที่ 1เร่งรัดดำเนินการโดยประสานการทำงานร่วมกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามแผนงานและนโยบายที่ภาครัฐกำหนด

“โดยขณะนี้การพัฒนาชุมชนป้อมมหากาฬอยู่ระหว่างการจัดทำสวนสาธารณะขนาดเล็กในพื้นที่ที่รื้อถอนบ้านออกไปแล้ว และการพิจารณาอนุรักษ์บ้านบางส่วนที่มีคุณค่าไว้ รวมทั้ง กทม. มีแผนจะซ่อมแซมหลังคาของป้อมมหากาฬบางส่วนที่ชำรุด สำหรับโครงการพัฒนาริมคลองลาดพร้าวปัจจุบันอยู่ระหว่างการรื้อย้ายบ้านเรือนและตอกเสาเข็มฐานรากของเขื่อนคลองลาดพร้าว ซึ่งดำเนินการเสร็จแล้วร้อยละ 15 ควบคู่ไปกับการสร้างที่พักอาศัยให้กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งสร้างบ้านเสร็จแล้ว 726 หลังคาเรือน” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว

รองโฆษกคสช. กล่าวอีกว่า สำหรับการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบวาตภัย ซึ่งในห้วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้เข้าดูแลผู้ประสบวาตภัยใน 35 จังหวัด มาโดยตลอด ทั้งนี้ รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีความห่วงใยในภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยเฉพาะพายุฤดูร้อน ได้กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย เตรียมการและดำรงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง

(http://www.matichon.co.th/news/554348)

...



...





อยากคิดยุทธศาสตร์ชาติ ต้องมองภาพใหญ่ของโลกอนาคตให้ได้ ตอนนี้ิตัวเลขเศรษฐกิจไทยอันตราย เสี่ยงโต -1% เนื่องจาก "ขาดดุลประชากร" เพราะคนสูงวัยเพิ่มขึ้น ขณะที่ประชากรวัยทำงานลดจาก 2563-2593 ครับ หรือพูดง่ายๆ คือเป็นชาติที่่คนทำงานไม่พอ

มาเลเซีย/ อินโดนีเซีย / ฟิลิปปินส์ ไม่เป็นแบบไทย สามประเทศนี้มีคนวัยทำงานเมากจนเศรษฐกิจมีสิทธิโตเพิ่มอีก 1% ในระยะเวลาเดียวกันครับ ส่วนไทยนั้น "กองทุนการเงินระหว่างประเทศ" ชี้ว่าเข้าข่ายประเทศ "แก่ก่อนรวย" และเราต้องยอมรับแรงงานข้ามชาติให้เข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น ไม่อย่างนั้นก็จะเจอปัญหาแรงงานขาดจนเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรง

ยุทธศาสตร์ชาติไม่ใช่ยุทธศาสตร์อำนาจ แต่ยุทธศาสตร์ชาติต้องทำบนฐานแก้ปัญหาประชาชน