วันเสาร์, เมษายน 15, 2560

ยุค "ประชาชนสุขสันต์ หน้าใส" สภาอุตฯ เตือนรัฐรับมือกำลังซื้อ ตจว.ดิ่ง 'อภิสิทธิ์' ห่วง ศก.ฐานรากซบเซา




สภาอุตฯ เตือนรัฐรับมือกำลังซื้อ ตจว.ดิ่ง 'อภิสิทธิ์' ห่วง ศก.ฐานรากซบเซา

Sat, 2017-04-15 00:04
ที่มา ประชาไท


สภาอุตสาหกรรม ระบุตัวเลขภาคผลิตลดลง มาจากกำลังซื้อที่ซบเซาจากประชาชนกลุ่มฐานราก โดยเฉพาะต่างจังหวัดไม่ค่อยดีนัก ทำให้สินค้าที่โรงงานอุตสาหกรรมผลิตออกมามียอดขายลดลง 'อภิสิทธื์' ห่วงเศรษฐกิจฐานรากซบเซา ชี้รัฐประหารเป็นเหตุด้วย


เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา วัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และรองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มกำลังซื้อช่วงไตรมาส 2 /2560 ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2560 อยากให้รัฐบาลติดตามภาวะเศรษฐกิจแบบรอบด้านเพื่อเตรียมแนวทางรับมือและแก้ปัญหา เนื่องจากขณะนี้ภาคเอกชนในภาคผลิตได้รับสัญญาณเศรษฐกิจที่สวนทางกัน โดยตัวเลขความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมลดลง จากเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 86.2 และลดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 สอดคล้องกับตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(เอ็มพีไอ) อยู่ที่ 110.54 ลดลง 1.5% เป็นการลดลงในรอบ 7 เดือน สวนทางกับตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของหอการค้าไทย ระบุว่าสูงสุดรอบ 2 ปี และหนี้ครัวเรือนลดลงรอบ 11 เดือน แต่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น

"ภาครัฐแสดงความพอใจกับตัวเลขดังกล่าว ขณะที่ตัวเลขภาคผลิตลดลง มาจากกำลังซื้อที่ซบเซาจากประชาชนกลุ่มฐานราก โดยเฉพาะต่างจังหวัดไม่ค่อยดีนัก ทำให้สินค้าที่โรงงานอุตสาหกรรมผลิตออกมามียอดขายลดลงไปด้วย ขายไม่ได้ ต่างกับกำลังซื้อของกลุ่มประชาชนรายได้ปานกลางถึงรายได้สูงกำลังซื้อยังดี เป็นโจทย์ที่รัฐบาลต้องดูว่าจะแก้ปัญหา" วัลลภ กล่าว

วัลลภ กล่าวว่า กำลังซื้อในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้พอสมควร แต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น เนื่องจากวันหยุดปีนี้ ประชาชนวางแผนหยุดตั้งแต่วันจักรี 6 เมษายนยาวถึงสิ้นเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนต่างจังหวัดมีการวางแผนกลับบ้าน และอีกกลุ่มมีการวางแผนท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้การใช้จ่ายมีความคึกคัก ทั้งภาคการค้า บริการ การเข้าพักโรงงาน รีสอร์ท สินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภคมียอดขายดี สินค้าสำหรับเทศกาลทั้งแว่นกันน้ำ ปืนฉีดน้ำ ซองกันน้ำ เสื้อผ้า ยังมียอดขายดี

อภิสิทธื์ ห่วงเศรษฐกิจฐานรากซบเซา ชี้รัฐประหารเป็นเหตุด้วย


โดยวันนี้ (14 เม.ย.60) อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจในชนบทที่ประชาชนยังมีความเดือดร้อนมาก สำหรับมาตรการที่รัฐบาลขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ควรจะเร่งทำให้เป็นรูปธรรม พร้อมเสนอว่าควรทำให้เป็นระบบสวัสดิการ ซึ่งสาเหตุที่เศรษฐกิจซบเซา เกิดจากหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นจากรัฐประหารด้วย เพราะมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนที่ต้องการเห็นการเมืองเดินไปในระบบอย่างชัดเจน อีกทั้งการเจรจาการค้าหลายอย่างทำไม่ได้ในปัจจุบัน ขณะเดียวกันปัจจัยเศรษฐกิจโลก นโยบายของประเทศคู่ค้าที่สำคัญก็มีความไม่แน่นอน

ขณะที่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่ต่อเนื่องให้คนมีรายได้ จึงทำให้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ส่วนนโยบายประชารัฐยังค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะคนที่เข้าไปมีส่วนร่วม ผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม ประกอบอาชีพอิสระ หรือเกษตรกร ไม่มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางเท่าที่ควร

ที่มา : มติชนออนไลน์ และผู้จัดการออนไลน์