วันอาทิตย์, เมษายน 16, 2560

เรียกร้อง ฟ้องร้อง และรณรงค์ เอาหมุดเดิมกลับคืนมา

แบบนี้ยาวแน่ แม้โฆษกห่านอูจะบอกว่าไม่รู้เรื่อง 'หมุดคณะราษฎร' ที่หาย เวลานี้มีทั้งการเรียกร้อง ฟ้องร้อง และรณรงค์เพื่อให้ได้หมุดเดิมกลับไปประทับที่เดิมบนลานหน้าพระรูปทรงม้า ไม่ช้าก็เร็ว

หมุดใหม่ขนาดใหญ่กว่ากันนิดหนึ่งมาแทนที่ ยาปูนใหม่รายล้อมอย่างดี มีข้อความล้มล้างระบอบประชาธิปไตยที่คณะอภิวัฒน์สร้างไว้อย่างชัดแจ้ง

ซึ่งข้อความในหมุดใหม่มาจากตรา ดาราจักรีเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ บางตอนของหมุดใหม่แปลจากคาถาบาลีที่ปักดิ้นบนตรา


มีฝ่ายรอยัลลิสต์เพียงรายสองรายที่แสดงท่าสนับสนุนการเปลี่ยนหมุดครั้งนี้โจ่งแจ้ง ไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษา รมว. กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คนหนึ่งละ แต่ก็เขียนกำกวมไม่ได้ศัพท์

อีกคนเคยสามหาวประกาศเรียกหาเจ้าของหมุดดั้งเดิมอายุ ๘๕ ปี บอกว่าไม่งั้นจะจัดการถอดออก ก็คือ เทพมนตรี ลิมปพยอม ซึ่งอ้างตนเป็นนักประวัติศาสตร์ราชวงศ์ แต่ถูก ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ย้อนตรวจสอบข้อมูลพบว่ามั่วหลายครั้ง

ถึงอย่างนั้นครั้งนี้ไม่ใช่คนทำแน่ๆ เจ้าตัวเองก็ปฏิเสธแล้ว เพราะดูจากเบาะแสของการขุดเจาะเปลี่ยนหมุดนี้ น่าจะเป็นชุดทำงานมืออาชีพ เครื่องไม้เครื่องมือพร้อม แถมทำอย่างมีอำนาจเต็ม ไม่ใช่ลักลอบ

N'S@i @sai_hanami ทวี้ตว่า “ไปกราบสักการะเสด็จพ่อในวันที่ เมษายน เห็นเต๊นด้านขวาเลยเดินเข้าไปถาม จนท. จนท. บอกภาระกิจนี้ลับไม่สามารถบอกได้

Sataporn Pongpipatwattana โพสต์เฟชบุ๊คไว้ว่า “ได้ไปคุยกับคนขายพวงมาลัย ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า...ได้ความว่า

“วันที่มีคนมาทำเป็นวันพุธ น่าจะพุธเมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่แล้ว มีเต๊นมากางตรงจุดที่หมุดถูกเปลี่ยน แต่พวกเราไม่เห็นว่าใครเป็นคนมาเปลี่ยน วันนั้นตำรวจมาไล่คนขายพวงมาลัยออกไปตั้งแต่สามทุ่ม เขาปิดถนนบอกว่าจะปรับปรุงอนุสาวรีย์เสด็จพ่อ ร.๕”

Pravit Rojanaphruk @PravitR ลงรูปแสดงให้เห็นเต๊นขนาดใหญ่ดังว่า “รูปนี้แสดงให้เห็นว่าอาจมีการกางเต๊นท์ขุด #หมุดคณะราษฎร แบบมือโปรอย่างไม่อายฟ้าดิน+เจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไรเลย

พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ เขียนถึงไว้เช่นกันบนหน้าเฟชบุ๊คว่า “การเปลี่ยนหมุดเกิดขึ้นระหว่างวันที่ ๒-๘ เม.ย. ตามที่ อจ.เกษตรศาสตร์เล่าว่า ให้นิสิตไปทำรายงานหมุดคณะราษฎรสองชุด ชุดแรกวันที่ ๑-๒ เม.ย. หมุดคณะราษฎรยังอยู่ ชุดสองไปวันที่ ๘ พบว่าเป็น หมุดหน้าใส ไปแล้ว...

คนทำจึงไม่ใช่คณะบุคคลส่วนตัวที่ลงมือทำกันเองโดยทางการไม่รู้เรื่อง!”

"ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ ผู้เขียนหนังสือ ๒๔๗๕ และ ๑ ปีหลังการปฏิวัติ (1932 Revolution and Aftermath) พิมพ์โดยมูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ตั้งข้อสังเกตส่วนหนึ่งว่า

บริเวณโดยรอบหมุดคณะราษฎร มีสถานที่ราชการรวมถึงกล้อง CCTV จะไม่รู้เลยหรือว่าใครขุดหมุดคณะราษฎรไป”

ดร.ธำรงค์ศักดิ์ วิจารณ์ต่อไปด้วยว่า “การถอดหมุดกลับช่วยกระตุ้นให้เกิดการอยากรู้เกี่ยวกับการปฏิวัติ ๒๔๗๕ และคณะราษฎรเพิ่มขึ้น

ผมคิดว่าแทนที่หมุดใหม่จะทำลายพลังของประชาธิปไตยไป หมุดนี้กลับกลายเป็นเครื่องหมายกระตุ้น”

เหตุนี้จึงมีตั้งแต่ ศรีสุวรรณ จรรยา เรียกร้องให้ทางการนำหมุดคืนมาประดิษฐานตรงจุดเดิม พริษฐ์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ตัวแทนลูกหลานคณะราษฎร แจ้งความที่ สน.ดุสิต เหตุหมุดคณะราษฎรหาย และ

ชำนาญ จันทร์เรือง เริ่มทำ petition ให้คนร่วมลงชื่อเรียกร้อง เอาผิดผู้ทำลายและต้องคืนหมุดคณะราษฎร” ผ่านทางเวปไซต์ chang.org โดยมีข้อความว่า

หมุดคณะราษฎรหรือหมุดกำเนิดรัฐธรรมนูญ ๒๔๗๕ เป็นสมบัติของสังคมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง สังคมต้องช่วยกันนำคืนและเอาผิดผู้ขโมยประวัติศาสตร์นี้”

(ผู้สนใจตามไปเพิ่มรายชื่อได้ที่ https://www.change.org/p/%A3?source_location=minibar ภายในไม่กี่ชั่วโมง มีผู้เข้าร่วมลงชื่อแล้วเกือบ ๒ พันราย)

อย่างไรก็ดี มีปฏิกิริยาย้อนแย้งอย่างศรีธนญชัยต่อการรณรงค์เอาหมุดเก่ามาคืน ควรต้องบันทึกไว้ จาก ‘Thong D Thong K’ ทวี้ตว่า

“ถ้าหมุดเก่าเป็นการฝังโดยคณะปฏิวัติที่มีอำนาจสูงสุดในเวลานั้น แล้วมันจะแปลกอะไรถ้าจะมีการเปลี่ยนหมุด โดยคณะปฏิวัติที่มีอำนาจสูงสุดในเวลานี้”


อันนี้ตอบเลยว่า ไม่แปลกได้อย่างไร ในเมื่อผู้มีอำนาจสูงสุดเวลานี้ทำไม่รู้ไม่ชี้กันหมด ถ้าเอาจริงต้องออกมาประกาศชัดถ้อยอย่างที่คณะราษฎรทำ มิฉะนั้นเท่ากับเป็นพวกแหยและอีแอบ