aka นายกำแหง
บุคคลแห่งปีน่าจะเป็นคนนี้
ส่วนปิีบเอาไปคลุมหัวทหารไทย
.....
(กลุ่ม) บุคคลโดดเด่น ที่สุดในปี 2559
มาแรงแซงทางโค้งจริง ๆ ณ นาทีนี้ ตี 2 ครึ่งของวันที่ 27 ธันวาคม 2559 ผมยกให้ พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall #opsinglegateway
เป็น (กลุ่ม) บุคคลโดดเด่น ที่สุดในปี 2559
เสนอโดย Thanapol Eawsakul
ไม่อยากตบปากคนแก่เลยยยยยย
(แฉหลักฐาน การจัดหาและทดสอบเครื่องถอดรหัส SSL)
อ่านเอาเอง.......
1) ผอ.ศูนย์ไซเบอร์สงคราม บอกว่า .... ย้ำ ทบ. ไม่มีการจัดหาเครื่องถอดรหัสSSLเลย... เพราะ กองทัพบกไม่มีการจัดหาอุปกรณ์ดังกล่าวแม้แต่รายการเดียว.... "
2) แต่มีคำสั่งให้จัดหา เครื่องมือถอดรหัส SSL ตาม คำสั่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ 163/2557 ระบุว่า
".... การปฏิบัติงานภายใต้อำนาจหน้าที่ตามคำสั่งดังกล่าว พบว่ามีอุปสรรคในการตรวจสอบและปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีการเข้ารหัสป้องกันข้อมูล (SSL : Secure Socket Layer) จึงเห็นควรให้มีการจัดหาและทดสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์....."
(กรรมการชุดนี้ มีตัวแทนจากกองทัพบก 4 นาย)
3) แล้วทีมนักเจาะ #กำแหงทีม แหกไปเจอรายการอุปกรณ์ดังกล่าว ใน บ้านลุงตู่ ในรายการ เปิดบ้านลุงตู่ Day 2
แล่้วแบบนี้ จะตอบยังไง.......
สรุปว่า....กองทัพบก มีหรือไม่มี.....โกหกให้เนียนนะลุง อย่ามาเสียคนตอนแก่เลยยยย ว่าแต่ที่ทดสอบนะ เครื่องมือของใคร แล้วที่ทดสอบนะ ใช้อำนาจตามกฎหมายอะไร อยากได้ยินชัดๆ....ว่าใครมีอำนาจตามกฎหมาย
>>>>>>>>>>>>>>>
‘ผอ.ศูนย์ไซเบอร์ ทบ.’ โต้ข้อมูลอ้าง ทบ. จัดซื้ออุปกรณ์เครื่องถอดรหัสSSL บิดเบือน เพราะทบ.ไม่มีอำนาจล้วงข้อมูลเข้ารหัสปชช. และโต้คนเผยแพร่ทำไม่เนียน เพราะไปอยู่ในบัญชีอุปกรณ์ทหารช่างได้อย่างไร ย้ำ ทบ. ไม่มีการจัดหาเครื่องถอดรหัสSSLเลย
วันนี้(26ธ.ค.) พล.ต.ฤทธี อินทราวุธ ผอ.ศูนย์ไซเบอร์ ทบ. กล่าวถึงกรณีข้อมูลอุปกรณ์เครื่องถอดรหัส SSL ที่เป็นข่าวนั้น บิดเบือนข้อมูล เพราะ กองทัพบกไม่มีการจัดหาอุปกรณ์ดังกล่าวแม้แต่รายการเดียว ข้อมูลที่ปรากฎเป็นการสร้างกระแสโจมตีกองทัพ ทำให้เกิดความเสียหาย
อีกทั้งถูกโยงไปเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการสอดแนมหรือล้วงดูข้อมูลที่เข้ารหัสของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเมิดกฎหมาย และทางกองทัพบกไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ดังกล่าวตามกฎหมาย จึงไม่มีความจำเป็นในการจัดหาอุปกรณ์ดังกล่าวมาประจำการตามที่มีการกล่าวอ้าง
ทั้งนี้ตนข้อสังเกตรายการอุปกรณ์ดังกล่าว ควรจะต้องอยู่ในบัญชีอุปกรณ์สายสื่อสาร และเกี่ยวข้องกับ ศูนย์ไซเบอร์ ทบ.โดยตรง แต่กลับอยู่ในบัญชีอุปกรณ์สายทหารช่างลำดับสุดท้าย ไม่รู้ว่าภาพข้อมูลดังกล่าวเอามาจากไหน ดูแล้วไม่เนียน
จึงขอยืนยันว่าอุปกรณ์กล่าวไม่มีอยู่ในรายการแผนงานการจัดหาของกองทัพบก สามารถตรวจสอบได้ เพราะหน่วยไม่มีความจำเป็นในการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าว นอกจากอุปกรณ์ด้าน Cyber Security
ต้นฉบับ : http://www.matichon.co.th/news/407987
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ปี 2557 (อยุ่ในปีงบประมาณ 58)
คำสั่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ 163/2557
เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานทดสอบระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์
ตามที่ คณะกรรมการเพื่อติดตามการเผยแพร่ข่าวสารต่อสาธารณะ ได้มีคำสั่งที่ 3/2557 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 แต่งตั้งคณะทำงานด้านสื่อออนไลน์ เพื่อติดตาม กลั่นกรอง ตรวจสอบ รวบรวม วิเคราะห์การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านสื่อออนไลน์ทุกประเภท และให้พิจารณาในการกำหนดแนวทางการปฏิบัติมาตรการป้องกันและยับยั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวให้เกิดความชัดเจนและมีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โดยมีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน ซึ่งการปฏิบัติงานภายใต้อำนาจหน้าที่ตามคำสั่งดังกล่าว พบว่ามีอุปสรรคในการตรวจสอบและปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีการเข้ารหัสป้องกันข้อมูล (SSL : Secure Socket Layer) จึงเห็นควรให้มีการจัดหาและทดสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะทำงานด้านสื่อออนไลน์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
อาศัยอำนาจตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงแต่งตั้งคณะทำงานทดสอบระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์ โดยให้มีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
องค์ประกอบ
...
อำนาจหน้าที่
1. ควบคุมการทดสอบระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์ที่มีการเข้ารหัสป้องกันข้อมูล (SSL : Secure Socket Layer) และประเมินผล เพื่อให้ได้ระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสมในการใช้งานสำหรับประเทศไทย
2. ประสานทางเทคนิคกับผู้ประกอบการและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตภายในประเทศและที่เชื่อมต่อกับต่างประเทศโดยตรง (International Internet Gateway) ในการทดสอบระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์
3. ประสานหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดในการทดสอบระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์
4. เสนอแนะ ปัญหา อุปสรรค แนวทางการปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2557
(ลายมือชื่อ)
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
26 ม.ค. 2558 จาก FB Thailand เปิดเผยว่าพบ คำสั่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ 163/2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานทดสอบระบบเฝ้าติดตามสื่อออนไลน์ ลงวันที่ 15 ธ.ค. 2557 โดยคณะทำงานดังกล่าวมีขึ้นเพื่อแก้ปัญหาอุปสรรคจากการเข้ารหัส SSL (SSL: Secure Socket Layer) ซึ่งจะทำให้ตรวจสอบเนื้อหาและปิดกั้นเว็บไซต์ไม่ได้
กรณีดังกล่าวสอดคล้องกับเครือข่ายผู้ใช้เฟสบุ๊กและไลน์ รายงานว่า ขณะนี้มีการขอความร่วมมือไปยังโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยในการเอาอุปกรณ์ไปติดตั้งที่ดาต้าเซ็นเตอร์ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 15 ก.พ. 2558 เพื่อดักจับทราฟฟิกผู้ใช้เฟซบุ๊ก ผลคือจะทำให้ดูยูสเซอร์เนมกับพาสเวิร์ดได้ โดยล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายราย พบเหตุการณ์ที่หน้าจอปรากฏขึ้นมาให้ระบุตัวตนอีกครั้ง และมีการแจ้งจากทางเฟซบุ๊กว่ามีการเข้าใช้งานจากแหล่งที่มาไม่ปลอดภัย เป็นลักษณะของผู้ใช้ที่ถูกเข้าถึงข้อมูลในเฟซบุ๊ก
อ้างอิง : https://108thinks.blogspot.it/2015/01/4fbline.html?m=1
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
มีการตั้งข้อสังเกตุ หลายกรณี แต่ที่น่าสงสัยมากที่สุดคือ กรณีแม่จ่านิวส์ ว่า อาจเป็นเพราะโดนดักไปแล้วเช่นกัน....
ดังนั้นในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความพยายาม ฟิชชิ่งผู้ใช้งานเฟซบุ๊คจำนวนมาก ก็น่าจะมีสาเหตุ มาจากเรื่องนี้เช่นกัน...