คลังเผยต้นปีงบ’60 เงินคงคลังลดฮวบเหลือ 2.35 แสนล้าน หายไปเกือบครึ่งเมื่อเทียบก.ย.
ที่มา มติชนออนไลน์
16 พ.ย. 59
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 154,465 ล้านบาท ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวน 435,355 ล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 52,714 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2559 มีจำนวน 235,805 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2559 ที่มีจํานวน 441,300 ล้านบาท
ทั้งนี้ในเดือนตุลาคม 2559 รัฐบาลขาดดุลเงินสด 258,209 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 280,890 ล้านบาท และเป็นการเกินดุลเงินนอกงบประมาณ 22,681 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ประกอบด้วย รัฐบาลมีรายได้นําส่งคลัง 154,465 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีผ่านมา 1,874 ล้านบาท (คิดเป็น 1.2%) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บอากรขาเข้าต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว
นอกจากนี้รัฐบาลมีการเบิกจ่ายงบประมาณ 435,355 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีผ่านมา 61,154 ล้านบาท (คิดเป็น 16.3%) โดยมีการเบิกรายจ่ายปีปัจจุบัน 422,383 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 17.5% ซึ่งการเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สําคัญในเดือนนี้ ได้แก่ เงินอุดหนุนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำนวน 62,586 ล้านบาท รายจ่ายอื่นของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 54,076 ล้านบาท และเงินอุดหนุนของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 45,451 ล้านบาท
นายกฤษฎา กล่าวว่า ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด จากรายได้นําส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้าต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนตุลาคม 2559 ขาดดุล 280,890 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 22,681 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากรายจ่ายเหลื่อมไปเดือนพฤศจิกายน สุทธิ จำนวน 18,812 ล้านบาท และเงินฝากโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน 4,700 ล้านบาท ทําให้รัฐบาลขาดดุลเงินสด 258,209 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 52,714 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังกู้ชดเชยการขาดดุล) ขาดดุลเท่ากับ 205,495 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2559 มีจํานวนทั้งสิ้น 235,805 ล้านบาท