ส่งข้อมูลผู้ต้องหา ม.112 ต่อทูตต่างประเทศเพิ่มhttps://t.co/dFFzcFdgpv#มาตรา112 #VoiceNews pic.twitter.com/y7rRUnmFmI— VoiceTV21 (@Voice_TV) October 26, 2016
ส่งข้อมูลผู้ต้องหา ม.112 ต่อทูตต่างประเทศเพิ่ม
by นิติธร สุรบัณฑิต
26 ตุลาคม 2559
Voice TV
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้คำมั่นป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112 ยืนยัน ไม่นิ่งนอนใจ พร้อมเตรียมพิจารณาส่งข้อมูลกลุ่มผู้ต้องหาต่อทูตต่างประเทศอีก 5 ประเทศ
พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกัน และแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร ซึ่งรวมถึงคดีความตามมาตรา 112 หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ยืนยันว่า ขณะนี้รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ หรือละเลยปัญหาที่เกิดขึ้น แม้จะมีข้อจำกัดเชิงกฎหมาย โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาที่พำนักในต่างประเทศ แต่เตรียมประสานทูตเพิ่มเติม โดยเน้นขอความร่วมมือ
พลเอกไพบูลย์ ยังขอขอบคุณสถานเอกอัครราชทูตบางแห่งที่รับฟังข้อมูล และเตรียมประสานกับรัฐบาลของตนเอง ขณะที่ไทยยังเตรียมพิจารณาส่งหนังสือถึงสถานเอกอัครทูต 4-5 แห่งเพิ่มเติม
ก่อนหน้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ลงนามหนังสือ และส่งเอกสารข้อมูลผู้ต้องหามาตรา 112 ถึงเอกอัครราชทูต 7 ประจำประเทศไทย เพื่อขอความร่วมมือเช่นเดียวกัน โดยหนังสือดังกล่าวได้ระบุที่อยู่อาศัยผู้กระทำผิดไว้ด้วย
ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รวบรวมข้อมูลส่งกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้ควบคุมไม่ให้ผู้ต้องหาเหล่านี้เคลื่อนไหวกระทบจิตใจประชาชนในประเทศ
ooo
ตร.เร่งจัดการคดีหมิ่นฯ หลัง 13 ต.ค. ยอดพุ่งถึง 20 คดี
Wed, 2016-10-26 16:55
ที่มา ประชาไท
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2559 พ.ต.ท.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้สัมภาษณ์ว่า นับตั้งแต่วันสวรรตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 จนถึงปัจจุบัน มีคดีหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เกิดขึ้นแล้ว 20 คดี โดยได้รับแจ้งเหตุจากหลายพื้นที่ บางส่วนเป็นประชาชนทั่วไปเข้าแจ้งความ บางส่วนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบการกระทำผิดเอง ส่วนข้อมูลจาก พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนานั้นทางตำรวจยังไม่ได้รับข้อมูลเพื่อดำเนินการ สำหรับพฤติการณ์การกระทำผิดส่วนใหญ่เป็นการโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดีย แต่ก็มีการพูดด้วย ในจำนวนนี้มีทั้งที่จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเอง และบางส่วนอยู่ระหว่างการตามจับกุม
พ.ต.ท.กฤษณะกล่าวว่า เรื่องนี้ ผบ.ตร.ให้ความสำคัญในการดำเนินคดีและติดตามผู้กระทำผิด เนื่องจากเป็นเรื่องนโยบายทางที่รัฐบาลให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยทางตำรวจได้ประสานข้อมูลจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกระทรวงไอซีทีเก่า สำนักข่าวกรองของทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่มีข่าวการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาว่าโพสต์หมิ่นฯ ในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ผู้ต้องหาหลายรายถูกฝากขังที่เรือนจำแล้วโดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ทั้งกรณีของ เกาะสมุย ระยอง ชลบุรี ขณะที่กรณีของพังงานั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แจ้งเพียงว่า มีการแจ้งความคดีอาญาและดำเนินการทางวินัยด้วยเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นพลทหารในสังกัดทหารเรือ
ผบ.ตร. เชิญคนหมิ่นสถาบันฯออกนอกประเทศ ด้าน รมว. ยุติธรรม เผยทูต 7ประเทศร่วมมือหาตัวคนทำความผิด ม.112
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบสวนกรณีผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำการเข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูง 20 ราย และมีการออกหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้ว 8 ราย พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังแนะให้ผู้ที่เคลื่อนไหวหมิ่นสถาบันฯ ว่าหากไม่อยากอยู่ประเทศไทยก็ออกไปนอกประเทศเสีย และหากไม่มีเงินค่าตั๋วเครื่องบิน ตนจะช่วยออกให้ และจะยอมเป็นหนี้เพื่อชาติออกเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้คนพวกนี้ออกไป
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กลุ่มที่เคลื่อนไหวหมิ่นสถาบันฯ มีทั้งที่ทำเป็นขบวนการผลิตสื่อและข้อมูลต่าง ๆ ในต่างประเทศ และที่ทำแบบส่วนตัว สำหรับกลุ่มที่อยู่ต่างประเทศขณะนี้ได้ประสานงานผ่านช่องทางตำรวจสากลเพื่อดำเนินคดีแล้ว แต่ตนเผยรายละเอียดไม่ได้ ส่วนกลุ่มที่เคลื่อนไหวในประเทศนั้นตำรวจกำลังสืบสวนติดตามดำเนินคดีอยู่
ขณะเดียวกัน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กล่าวถึงการติดตามตัวผู้กระทำผิดตามมาตรา 112 ว่า ตอนนี้ได้รับความร่วมมือจากประเทศที่กระทรวงยุติธรรมได้ประสานไปแล้ว โดยตนได้รับการติดต่อจากเอกอัครราชทูตต่างประเทศในไทยจำนวน 7 ประเทศ ที่โทรมาสอบถามข้อมูล และแสดงความร่วมมือกับทางการไทยในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความร่วมมือและความเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ติดปัญหาเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศนั้น ๆ ตนเชื่อว่าหากได้ความร่วมมืออย่างแท้จริงเชื่อว่าปัญหานี้น่าจะเบาบางลงได้ หรือ ระงับยับยั้งไม่ให้ทำได้ แต่หากไปปรับทัศนคติของส่วนบุคคลไม่ได้ก็ไม่ควรจะให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้ใช้โลกออนไลน์มาเผยแพร่อย่างไม่ถูกต้อง ตนเชื่อว่าประเทศต่าง ๆ ทำได้ โดยการใช้กฎหมายและวิธีการต่างๆที่มีอยู่ในประเทศนั้น ๆ ควบคุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความร่วมมือที่ได้รับคือลักษณะใด หมายถึงการควบคุมไม่ให้ผู้ที่กระทำผิด มาตรา112 เคลื่อนไหวหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ประเทศนั้น ๆ ส่วนโอกาสที่จะได้ตัวผู้ที่กระทำผิดมาตรา 112 ในต่างประเทศกลับมาดำเนินคดีเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะแต่ละประเทศก็มีอธิปไตย ซึ่งต้องเคารพอธิปไตยของประเทศนั้น ๆ ด้วย
นอกจากนี้สำนักข่าวรอยเตอร์ยังรายงานด้วยว่า กระทรวงต่างประเทศได้ติดต่อไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อให้ส่งตัวผู้กระทำผิดในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงกลับมายังประเทศไทยแล้ว แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ #LeseMajeste #Article112
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
.....
พวกที่อยู่ในคุกข้อหาหมิ่นฯ ไปถามเขาซิว่าใครอยากไปอยู่ต่างประเทศบ้าง ปล่อยเขาแล้วส่งตั๋วเครื่องบิน ดีที่สุด
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2559 พ.ต.ท.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้สัมภาษณ์ว่า นับตั้งแต่วันสวรรตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 จนถึงปัจจุบัน มีคดีหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เกิดขึ้นแล้ว 20 คดี โดยได้รับแจ้งเหตุจากหลายพื้นที่ บางส่วนเป็นประชาชนทั่วไปเข้าแจ้งความ บางส่วนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบการกระทำผิดเอง ส่วนข้อมูลจาก พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนานั้นทางตำรวจยังไม่ได้รับข้อมูลเพื่อดำเนินการ สำหรับพฤติการณ์การกระทำผิดส่วนใหญ่เป็นการโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดีย แต่ก็มีการพูดด้วย ในจำนวนนี้มีทั้งที่จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเอง และบางส่วนอยู่ระหว่างการตามจับกุม
พ.ต.ท.กฤษณะกล่าวว่า เรื่องนี้ ผบ.ตร.ให้ความสำคัญในการดำเนินคดีและติดตามผู้กระทำผิด เนื่องจากเป็นเรื่องนโยบายทางที่รัฐบาลให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยทางตำรวจได้ประสานข้อมูลจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกระทรวงไอซีทีเก่า สำนักข่าวกรองของทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่มีข่าวการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาว่าโพสต์หมิ่นฯ ในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ผู้ต้องหาหลายรายถูกฝากขังที่เรือนจำแล้วโดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ทั้งกรณีของ เกาะสมุย ระยอง ชลบุรี ขณะที่กรณีของพังงานั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แจ้งเพียงว่า มีการแจ้งความคดีอาญาและดำเนินการทางวินัยด้วยเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นพลทหารในสังกัดทหารเรือ
ooo
ผบ.ตร. เชิญคนหมิ่นสถาบันฯออกนอกประเทศ ด้าน รมว. ยุติธรรม เผยทูต 7ประเทศร่วมมือหาตัวคนทำความผิด ม.112
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบสวนกรณีผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำการเข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูง 20 ราย และมีการออกหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้ว 8 ราย พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังแนะให้ผู้ที่เคลื่อนไหวหมิ่นสถาบันฯ ว่าหากไม่อยากอยู่ประเทศไทยก็ออกไปนอกประเทศเสีย และหากไม่มีเงินค่าตั๋วเครื่องบิน ตนจะช่วยออกให้ และจะยอมเป็นหนี้เพื่อชาติออกเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้คนพวกนี้ออกไป
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กลุ่มที่เคลื่อนไหวหมิ่นสถาบันฯ มีทั้งที่ทำเป็นขบวนการผลิตสื่อและข้อมูลต่าง ๆ ในต่างประเทศ และที่ทำแบบส่วนตัว สำหรับกลุ่มที่อยู่ต่างประเทศขณะนี้ได้ประสานงานผ่านช่องทางตำรวจสากลเพื่อดำเนินคดีแล้ว แต่ตนเผยรายละเอียดไม่ได้ ส่วนกลุ่มที่เคลื่อนไหวในประเทศนั้นตำรวจกำลังสืบสวนติดตามดำเนินคดีอยู่
ขณะเดียวกัน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กล่าวถึงการติดตามตัวผู้กระทำผิดตามมาตรา 112 ว่า ตอนนี้ได้รับความร่วมมือจากประเทศที่กระทรวงยุติธรรมได้ประสานไปแล้ว โดยตนได้รับการติดต่อจากเอกอัครราชทูตต่างประเทศในไทยจำนวน 7 ประเทศ ที่โทรมาสอบถามข้อมูล และแสดงความร่วมมือกับทางการไทยในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความร่วมมือและความเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ติดปัญหาเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศนั้น ๆ ตนเชื่อว่าหากได้ความร่วมมืออย่างแท้จริงเชื่อว่าปัญหานี้น่าจะเบาบางลงได้ หรือ ระงับยับยั้งไม่ให้ทำได้ แต่หากไปปรับทัศนคติของส่วนบุคคลไม่ได้ก็ไม่ควรจะให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้ใช้โลกออนไลน์มาเผยแพร่อย่างไม่ถูกต้อง ตนเชื่อว่าประเทศต่าง ๆ ทำได้ โดยการใช้กฎหมายและวิธีการต่างๆที่มีอยู่ในประเทศนั้น ๆ ควบคุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความร่วมมือที่ได้รับคือลักษณะใด หมายถึงการควบคุมไม่ให้ผู้ที่กระทำผิด มาตรา112 เคลื่อนไหวหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ประเทศนั้น ๆ ส่วนโอกาสที่จะได้ตัวผู้ที่กระทำผิดมาตรา 112 ในต่างประเทศกลับมาดำเนินคดีเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะแต่ละประเทศก็มีอธิปไตย ซึ่งต้องเคารพอธิปไตยของประเทศนั้น ๆ ด้วย
นอกจากนี้สำนักข่าวรอยเตอร์ยังรายงานด้วยว่า กระทรวงต่างประเทศได้ติดต่อไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อให้ส่งตัวผู้กระทำผิดในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงกลับมายังประเทศไทยแล้ว แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ #LeseMajeste #Article112
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
.....
พวกที่อยู่ในคุกข้อหาหมิ่นฯ ไปถามเขาซิว่าใครอยากไปอยู่ต่างประเทศบ้าง ปล่อยเขาแล้วส่งตั๋วเครื่องบิน ดีที่สุด
มิตรสหายท่านหนึ่ง
ooo
Related story:
Thai police chief says no room for royal insult in Thailand
ooo
Related story:
Thai police chief says no room for royal insult in Thailand
http://www.reuters.com/article/us-thailand-king-insults-idUSKCN12Q0SK