วันอังคาร, มกราคม 12, 2559

ไม่น่าเชื่อว่า "วิกฤติต้มยำกุ้ง" เมื่อ 19 ปีที่แล้ว กำลังจะกลับมาอีก เหมือนหนังม้วนเก่า เพียงแต่เปลี่ยนจาก ประเทศไทย เป็น ประเทศจีน





ขอแชร์เรื่องวิกฤติประเทศจีนหน่อยนะครับ จริงๆ เรื่องนี้ผมพูดไปในงานสัมนาต่างๆ มากมายเมื่อปีที่แล้ว นำมาเล่าให้ KFC ฟังอีกรอบหนึ่ง

ปัญหาที่ประเทศจีนถูกสะสมมานานแล้วแค่จะระเบิดเมื่อไรเท่านั้นเอง

1) ประเทศจีนเปิดเสรีการค้าปี ค.ศ. 2001 หลังจากนั้นเงินไหลเข้าจีนเป็นจำนวนมาก และมาปั่นราคาอสังหาฯ ขึ้นมาในระดับหนึ่ง และนี่คือเงินก้อนแรกที่ไหลเข้าจีน

2) ช่วงแรกของการเปิดเสรีการค้า สหรัฐคือคู่ค้ารายใหญ่ จีนจึงเหมือนประเทศ อื่นๆ ที่เปิดเสรีการค้า คือผูกค่าเงินกับสหรัฐฯ ซึ่งแน่นอนจะทำให้ค่าเงินหยวนไม่สะท้อนความเป็นจริง แต่ไม่มีใครโจมตีค่าเงินหยวนได้ เนื่องจากไม่มีเงินหยวนในตลาดโลกมากพอให้โจมตี พูดง่ายจีนไม่ปล่อยเงินหยวนออกมา จีนจึงมีความสุขกับเงินที่ไหลเข้ามา

3) ปี ค.ศ. 2008 หลังเปิดเสรการค้า 7 ปี เกิดวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐ สหรัฐแก้ปัญหาด้วยการออกคิวอี อัดฉีดสภาพคล่องมหาศาลเข้าระบบการเงินโลก แน่นอนเงินก้อนใหม่ก็ไหลเข้าจีนอีก ทำให้เงินสำรองระหว่างประเทศของจีนสูงขึ้นมาก นักลงทุนยิ่งมั่นใจว่าจีนแกร่ง เอาเงินเข้าจีนเพิ่มขึ้นอีก และนี่แหละคือความอันตราย เพราะเงินเหล่านี้จะไหลออกเมื่อไรก็ได้

4) และด้วยค่าเงินหยวนผูกกับค่าเงินสหรัฐ ช่วงหลังปี 2008 ค่าเงินสหรัฐอ่อนค่าลง ค่าเงินหยวนก็อ่อนลงตาม จีนยิ่งได้ประโยชน์จากการส่งออกมากขึ้นไปอีก เกินดุลการค้ามหาศาล เงินไหลเข้าประเทศเพิ่มขึ้นอีก นับเป็นคลื่นเงินมหาศาลที่ไหลเข้าจีน เงินเหล่านี้แหละที่สร้างความร่ำรวยให้กับคนจีน และอาจฟองสบู่ให้กับจีนด้วย คล้ายกับประเทศไทยก่อนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง

5) ปัจจุบันสหรัฐเริ่มถอนคิวอี ค่าเงินสหรัฐเริ่มแข็ง ไม่อ่อนค่าเหมือนก่อนแล้ว เงินหยวนก็แข็งตาม ทำให้จีนต้องประกาศลดค่าเงินหยวน

6) การลดค่าเงินหยวนจุดประกายให้เงินไหลออก ซึ่งไปฉุดเศรษฐกิจให้แย่ลง แต่ที่น่ากลัวกว่าคือเงินสำรองระหว่างประเทศของจีนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้นักลงทุนไมมั่นใจว่าจีนจะมีเงินสู้กับเงินที่ไหลออกได้หรือไม่

7) นักลงทุนเริ่มไม่เชื่อมั่นค่าเงินหยวน ค่าเงินจะถูกโจมตี เรียกว่าสงครามค่าเงิน เมื่อก่อนไม่มีใครโจมตีค่าเงินหยวนได้ เพราะทางการจีนไม่ปล่อยเงินหยวนเข้ามาในระบบ แต่ตั้งแต่เปิดเสรีการค้า ประกอบกับจีนเริ่มเปิดเสรีการเงินมากขึ้น จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ค่าเงินหยวนโดนโจมตีได้ ซึ่งเราเริ่มเห็นจอร์จ โซลอส ออกมาพูดเรื่องจีนมากขึ้นละ เหมือนออกมาพูดตอนวิกฤติต้มยำกุ้งเลย

8) จีนต้องปกป้องค่าเงินตัวเอง และต้องใช้เงิน ซึ่งนั้นจะทำให้เงินสำรองลดลง ปีที่แล้วเงินสำรองของจีนลดลงแล้ว 10% ซึ่งจะยิ่งกดดันให้เงินไหลออกอีก

9) เงินไหลออก จะทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงราคาอสังหาฯ ลดลง และจะทำให้ฟองสบู่แตก

อย่างไร็ตามผมคิดว่าฟองสบู่จีนจะยังไม่แตกทันที เพราะตอนนี้ดอกเบี้ยโลกยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่จีนแม้เงินไหลออก แต่ก็มีอยู่เยอะ เพราะสะสมมานาน แต่นำ้หยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน โดนโจมตีเรื่อยๆ ก็ต้องมีทรุดสักวัน ผมจึงเชื่อว่าจีนคงทนได้พักหนึ่งแต่อาจไม่นาน

จากนี้ไปคงต้องติดตามว่าจีนจะแก้เกมนี้อย่างไร แต่จีนต้องสู้กับคนที่มีประสบการณ์ด้านการโจมตีค่าเงินมานานอย่างโซลอส และประเทศสหรัฐฯ

สิ่งที่อยากเตือนนักลงทุนคือเรากำลังลงทุนในช่วงที่ใกล้เกิดวิกฤติ อาจไม่ใช่ปีนี้ อาจเป็นปีหน้า หรืออาจเป็นปีถัดไปก็ได้ แต่ที่แน่ๆ วิกฤติเกิดแน่ แค่เมื่อไร และที่ไหน และนี่คือเหตุผลที่ผมบอกนักลงทุน VI ว่าอย่าเพิ่งซื้อหุ้น แต่เวลาของ VI ที่จะได้ของถูก ใกล้มาถึงแล้วครับ

ลงทุนด้วยความระมัดระวังนะครับ
กวี ชูกิจเกษม

ที่มา FB 
กวี ชูกิจเกษม


....

Credit Teerakiat Kerdcharoen