ภาพจาก โพสต์ทูเดย์ |
อย่างเรื่องผู้การโจ้ไง สองสามวันก่อนทั้งโฆษกวิธัยทั้งทั่นรองฯ ประวิตร พูดเป็นเสียงเดียว เสียงเขียว (ของพี่ป้อม) ว่าไม่ใช่ ไม่มีตะหานเอี่ยวคดีแอบอ้างสถาบันฯ รับทรัพย์กับหมอหยอง
มาวันนี้กลับใช่ มีแจ้งความกับกองปราบฯ แล้ว กอ.รมน. เป็นเจ้าทุกข์เอง “กล่าวโทษนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และ พ.อ.คชาชาต บุญดี ในความผิดตามมาตรา ๑๑๒ รวม ๒ คดี”
เป็นความผิดเกี่ยวกับการจัดทำเสื้อ ไบ๊ค์ฟอร์มัม “พบว่าเสื้อดังกล่าวมีต้นทุนการผลิตเพียงตัวละ ๑๔๐ บาท แต่กลับแจ้งราคาต้นทุนสูงถึงตัวละ ๒๘๐ บาท"
กับ “เข้าตรวจสอบโรงหล่อพระรูปบูรพกษัตริย์ ๗ พระองค์ ๖ แห่ง พบว่าทุกแห่งได้มีการจ่ายเงินค่าประสานงานผ่านเซียนพระชื่อดัง หรือ นาย อ. และนายทหารยศพันเอกเพื่อให้ได้รับงานหล่อพระรูปฯ ประมาณ ๒๐ ล้านบาท"
(http://www.posttoday.com/crime/398584)
ฟัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทั่นแถแก้ตัวน้ำขุ่นๆ “ที่ผมบอกว่าไม่มีนายทหารเกี่ยว สื่อจะมาว่าผมไม่ได้ พูดแบบนี้ก็แย่สิ มาหาว่าผมปฏิเสธ ก็ผมไม่รู้นี่ เพราะตอนนี้เพิ่งแจ้งจับออกมา”
“พลเอกประวิตรย้ำว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่มีผลต่อกองทัพ” (http://www.newsplus.co.th/83950…)
“คนมันหนีไปแล้ว แล้วจะให้ผมทำยังไง มันเป็นเรื่องของบุคคล” (@WassanaNanuam)
ด้วยเหตุที่การตอแหลล่าสุดนี่เป็นดั่งฟางเส้นสุดท้าย ทำให้เราไม่อาจไว้วางใจ คสช. ได้อีกต่อไปในชาตินี้ ว่าจะสามารถละเว้นจากการโกหกพกลมได้
แม้กระทั่งในการประกาศราชกิจจานุเบกษา “โละบอร์ดประกันสังคม” ด้วยข้ออ้าง
“มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีการปฏิรูประบบของงานประกันสังคม งานเงินทดแทน และสำนักงานประกันสังคมเพื่อให้มีการดำเนินงานที่โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่นายจ้าง ลูกจ้างและผู้ประกันตน”
โดยจำเพาะอย่างยิ่งต่อข้อกังขาที่ว่าบิ๊กตู่ใช้ ม.๔๔ รื้อ ‘บอร์ดประกันสังคม’ ก็นั่นล่ะครับ! “คุมทุกแห่งที่เป็นแหล่งทุน...” (@RITT41)
ก็มาตรา ๔๔ นี่แหละ ที่ใช้ยึดที่ดินทำกินของชาวบ้านวังตะเคียน อ. แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเข้าไปจับจองทำการเกษตรกันมาตั้งแต่ก่อนจะมีการประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ
แต่แล้วกลับนำที่ดินซึ่งยึดมาจากชาวบ้านเหล่านันไปเปิดให้เอกชนเช่าเอาผลประโยชน์
(https://www.facebook.com/iLawFx/?fref=photo)
จึงจำเป็นต้องระวังระไว ตั้งแง่สงสัยไว้เสมอว่าการอันคณะตะหานอ้างไว้ว่าดำเนินการเพื่อสาธารณะประเทศชาติ แท้จริงอาจเป็นตรงข้ามกับที่ประกาศไว้ก็ได้ ผลงานที่ผ่านมาของ คสช. เป็นเครื่องยืนยันให้ต้องคิดเช่นนั้น
ทั้งนี้ ด้วยเหตุว่า “กองทุนประกันสังคมเป็นกองทุนที่คนทำงานทั่วประเทศร่วมจ่ายเงินเป็นประจำทุกเดือน เสียงเรียกร้องให้คณะกรรมการบริหารกองทุนมาจากผู้จ่ายเงินให้กองทุนมีอย่างต่อเนื่อง
แต่ตอนนี้ คสช.ตั้งกรรมการบริหารกองทุนเองแล้ว ทั้งที่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ คสช.ต้องมายุ่ง เพราะเงินในกองทุนอย่างน้อย ๒ ใน ๓ เป็นเงินของประชาชน ไม่ใช่เงินของ คสช.” (ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์)
“ระวัง!!!รัฐกำลังถังแตกอาจมีการขโมยเงินประกันสังคมของท่านๆ ไปใช้” (@shutup2557)
ท้ายสุดนี่ที่จะยืนยันว่าการกำกับกระทำโดยคณะรัฐประหาร คสช. ชุดนี้ หากมีสิ่งใดเป็นข่าวลือเลวร้ายให้สันนิษฐานว่าจะกลายเป็นจริงได้เสมอ
ต่อกรณีอาการป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ ผู้ต้องหาคดีอาญา ๑๑๒ ที่กำลังอื้อฉาว เป็นที่วิพากษ์ว่าจะรอดชีวิตจากเหตุพิเศษระหว่างถูกคุมขังไหม
ภาพจาก เดลินิวส์ 26 ตค. |
ซึ่งข่าวเมื่อสิ้นเดือนตุลาคมรายงาน “พบว่ามีความดันโลหิตสูง มีภาวะไขมันพอกตับ ประกอบกับมีความเครียด แพทย์จึงได้ทำการรักษาในเบื้องต้นและให้นอนพักรักษาตัวเพื่อดูอาการ ต่อมาได้ส่งตัวผู้ต้องหากลับเรือนจำฯ ตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมา”
(http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx…)
แต่ครั้นถึงวันนี้ “ตกลงว่าตายครับ” Thanapol Eawsakul โพสต์ไว้บนเฟชบุ๊คเมื่อ 32 mins ที่ผ่านมา
“รมว. ยธ. แถลงยอมรับ ‘หมอหยอง’ ติดเชื้อในกระแสเลือดตายที่ รพ.ราชทัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ ๖ พ.ย. เวลา ๒๒.๐๐ น. ผ่านขั้นตอนชันสูตรศพ ออกใบมรณะบัตร แจ้งญาติรับศพ”
ฤๅจะเป็นเช่นที่ asiasentinel.com ว่าไว้ ประเทศไทยกำลังอยู่ในสภาวะที่เกือบจะเรียกได้ว่า ‘a reign of terror’ นั่นแล
จึงเป็นที่น่าเห็นใจ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ นายตำรวจผู้ควบคุมคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาเป็นอย่างยิ่ง ที่บอกว่าครอบครัว พ่อ แม่ ลูก เมีย
"เขาขอไม่ให้ผมสู้ต่อไปอีกแล้ว ผมก้คงต้านพวกเขาไม่ไหว"