สั้นๆ วันหยุด นะฮัฟ เรื่องของทั่น 'ระยุทธ์ กะทั่นสุข'พันธุ์
บ้านเรามีนาโย้กสองคน คนหนึ่งยึดมา อีกคนเลือกมาเป็นไม้กันหมา
สมัยก่อนเรียกกันว่า ยกใหญ่ กับ ยกเล็ก
ทั้งคู่มีทักษะด้านบริหารจัดการไม่เหมือนใคร
คนหนึ่งชอบขู่ อีกคนชอบแช่ง
เดาเอาเองละกัน ว่าใครเป็นใคร
ooo
คนนี้ชอบ ฉุน
"นายกฯ" ฉุน สื่อซักการเมือง ปรับครม. สภาขับเคลื่อนปฏิรูป แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ระบุ สปช. มีทุกสีสั่งไม่ได้ ตัดพ้อ คสช. เข้ามาจัดระเบียบถนน-ที่ดิน แต่ถูกนักการเมืองเสี้ยมกล่าวหารังแกคนจน เบื่อพูดวนเหมือน"ไก่ตรุษจีน" เดี๋ยวตายทั้งเข่ง ยังไม่รู้ประเทศต้องปฏิรูปอะไร ประชาชนฝากความหวังยาก ลั่นทำให้ทุกอย่าง ไม่ได้หวังทวงบุญคุณ ถ้าไม่อยากให้อยู่บอกมา อย่ามาสะกิดยิกไแขวะนักการเมือง อยากเลือกตั้งกันนัก....ยันไม่ดึง"สมคิด" เข้าร่วม ครม. บอกเขาไม่มาหรอก แต่ถ้าจะปรับเมื่อไหร่จะบอก ฉุนสื่อถามซ้ำซาก อยากให้เส้นเลือดแตกตายหรือไง แรงส์....อ่านหนังสือพิมพ์ แล้วไร้สาระ วนไม่กี่เรื่อง เปลืองหมึก เปลืองกระดาษ เปลืองสมอง ทำโลกสกปรก
ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางกลับจากสิงคโปร์
ทันทีที่ผู้สื่อข่าวถามถึง การปรับครม. พลเอก ประยุทธ์ ก็ออกอารมณ์ฉุนเฉียว ตำหนิสื่อแบบร่ายยาว
จากนั้น เมื่อถามกรณีรัฐบาลให้แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 7 ประเด็น โดยเฉพาะเหตุผลการตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติ แทนสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องมองว่าวันที่เราเข้ามา ผมได้มองว่าประเทศไทยมีอะไรบ้าง ในเมื่อเราต้องการจะปฏิรูปขณะที่อีกด้าน สภาที่จะต้องทำหน้าที่ออกกฎหมายก็ต้องมี ก็คือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
จากนั้นก็คุยกันว่าใครจะทำหน้าที่ในการปฏิรูป จึงต้องมีสภาปฏิรูปขึ้นมาอีกสภาหนึ่ง เพื่อที่จะปฏิรูป แต่การปฏิรูปที่ว่า ไม่ได้เกิดวันนี้
โดยสภานี้ ผมตั้งมาแต่ต้นแล้ว เขาจะมีอำนาจไหนมาปฏิรูปกับผม เขามีหน้าที่ไปสั่งกระทรวงให้ทำหรือไม่ ซึ่งผมมีอำนาจเด็ดขาดตรงนี้ จึงให้เขาไปคิดมา และวันนี้ผมเป็นคนคิดการเดินหน้าปฏิรูปในระยะที่หนึ่ง ทุกกระทรวง ทบวง กรม ทั้งการปฏิบัติราชการ และโครงสร้าง ผมได้คิดร่วมกับทีมงาน และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีอะไรทำได้ก็ทำไป และแจ้งให้ สปช. ทราบในสิ่งที่ทำ เพื่อให้นำไปคลี่ออกมา แยกออกมาเป็นคณะ และวางแผน
เมื่อผมออกจากหน้าที่ตรงนี้ เตรียมส่งแผนให้กับรัฐบาลใหม่นั่นละ ถึงจะเริ่มนับ1-2-3
“ที่ผ่านมามันสับสนอลหม่าน เพราะ สปช. มาจากหลายพวก ไม่ใช่พวกผม พวกใครอย่างเดียว มันมาจากหลายพวก จะเห็นว่ามีทุกสีอยู่ในนั้น ไม่ใช่พวกผม แต่ผมคิดว่าพวกเขาจะมาช่วยเดินหน้าประเทศ โดยให้เลือกมาทุกสีทุกจังหวัด
ฉะนั้นที่มาของ สปช. จากทั้ง 77 จังหวัด โดยแต่ละจังหวัดส่งมา 5 คน และผมก็เลือก 1 คนจากที่จังหวัดส่งมา แล้วเป็นพวกผมไหม อีกส่วนหนึ่งเป็นรายชื่อที่คณะทำงานของผมได้หามา และเกลี่ยออกมา ผมต้องการให้เขาคิดและดูว่า ผมกำลังทำอะไร และคิดว่าเขาจะทำอะไร
จากนั้นก็ออกแบบไว้ว่า วันหน้าประเทศไทยจะเดินไปอย่างไร แต่เขาต้องต่อเนื่องจากที่ผมทำ และเขียนโรดแมพให้ชัดเจน ระยะ1 -2-3 รวมทั้งหมด 36 วาระ และ 11 คณะ ซึ่งตั้งมาแต่แรก
โดยทุกคณะต้องเขียนรายละเอียดของกิจกรรมว่าทำอย่างไร ไม่ใช่เขียนว่าปฏิรูป ปฏิรูป วันนี้นักการเมืองหลายคนออกมาถามว่าจะปฏิรูปอะไร ถ้าอย่างนี้พวกคุณจะไปฝากความหวังไว้ได้ไหม เพราะเขายังไม่รู้เลยจะปฏิรูปอะไร
" นักการเมืองที่ออกมาพูดทุกวันนี้ ไม่รู้ว่าจะปฏิรูปอย่างไร แล้วอยากจะเลือกตั้งกันเหลือเกิน กลัวจะเป็นจะตายรึยังไง ก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่ผมก็อยู่ในกรอบ มันเป็นอะไรกันนักหนา ถ้าคุณจะฝากความหวังไว้กับพวกเขาก็ตามใจเถอะ ฟังเขาต่อไปแล้วเปิดเวทีให้เขาพูดไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวประชดประชัน
" ไม่ต้องมากังวล ถ้าไม่อยากให้ผมอยู่ต่อก็บอกมา วันนี้ปัญหาบ้านเมืองมีเยอะแยะยังไม่รู้ชะตากรรมเลย ผมพูดหลายครั้งแล้ว คนดี คนต้องการปฏิรูป และต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เดินไปข้างหน้า มีเยอะ เพราะเขาเบื่อหน่าย ถ้าเขาไม่เบื่อหน่าย ผมไม่เข้ามาทำตรงนี้ ถ้าเขาดี ผมจะมาทำลายความสุขเขาทำไม ท่านก็รู้ดีอยู่ประเทศชาติเสียหายอะไรบ้าง ทั้งผิดกฎหมาย ทุจริต บุกรุกป่า 26 ล้านไร่ อยากถามว่าที่ผ่านมาใครดูแลป่า กระทรวงอะไร รัฐบาลหรือเปล่า
"ท่านก็มาไล่ผมยิกๆๆ อยู่ ผมรื้อเอาคืนเพราะผิดกฎหมาย ก็มาบอกว่ารังแกคนจน ตรงนี้ต้องสอนเขาว่าอย่าทำผิดกฎหมายอีก และผมก็จะดูแลเขาหาที่ทำกินให้ใหม่ แต่กลับมาตีรวนไปหมดหาว่า ผมเข้ามารังแกคนจน แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้จะแก้ได้หรือไม่ ถนนหนทางที่เลอะเทอะวันนี้ดีขึ้น"
“ผมทำเหล่านี้ก็ว่าผมรังแกคนจน วนอยู่อย่างนี้เหมือน "ไก่ที่อยู่ในเข่งตรุษจีน" จริงๆ ผมว่าอย่างนั้น ตายทั้งหมดทั้งเล้านั่นล่ะ"
" วันนี้ผมทำให้ทุกอย่างไม่ได้ทวงบุญคุณ พวกผมทำให้ในเวลาที่มีอยู่เสร็จไม่เสร็จผมไม่รู้ อย่ามาเรียกร้องผมก็แล้วกัน วันหน้าถ้ามีเรื่องมีราวขึ้นมาอีก อย่าไปบ่นกับใคร เพราะบ่นกับใครไม่ได้แล้ว
ปัดโธ่ !! ทุกอย่างมีบทเรียนมาทั้งสิ้น วันนี้ยังไม่เคยผิดโรดแมพสักตัว กลัวอะไรกันนักหนา เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็พาดหัวกันอีกว่ากลัวอะไรกันหนา ปัดโธ่!” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี โดยนำนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา คสช. เข้าร่วมทีมเศรษฐกิจ โดยกล่าวตอบอย่างมีอารมณ์โมโหทันทีว่า
"มันมีอะไรกันนักหนา คุณสมคิดเข้ามาแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น หรือถ้าไม่เข้ามาแล้วมันจะเกิดอะไร ลองพูดข้อดี ข้อเสีย ตอบคำถามของผมให้ได้ก่อน แล้วผมถึงจะตัดสินใจว่าจะเอาเข้าหรือไม่เอาเข้า ยืนยันว่าผมยังไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย เขียนอยู่ได้ทุกวันๆ การทำงานเขาทำงานกันเป็นระบบ ไม่ใช่เป็นคนนั้น คนนี้เข้ามา มันแก้ได้หรือ ระบบเศรษฐกิจของประเทศมันแก้ได้ด้วยคนเพียงคนเดียวหรือ ที่ผ่านมาผมก็คุยกับทั้ง 2 ท่าน ผมไม่ได้เลือกว่าใครเป็นเบอร์หนึ่งหรือเบอร์สอง การทำงานวันนี้ถึงแม้ผมจะไม่ฉลาดในเรื่องเศรษฐกิจไม่ค่อยรู้ แต่ผมก็เอาคนฉลาดมาอยู่กับผม ผมก็ถามทั้งสองทาง ทั้งในส่วนรัฐบาลและที่ปรึกษา คสช. ทำไมจะต้องเอาคนนั้นคนนี้มา และถ้าคุณสมคิดเข้ามาแล้วแก้ไม่ได้ คุณก็หาโทษคนอื่นไปเรื่อย จะหาใครอีก เอาคุณประสาร (ไตรรัตน์วรกุล) คุณสมคิด หนังสือพิมพ์ก็เขียนอยู่แค่นี้ เขาไม่มาหรอกผมบอกให้ อย่าไปวิจารณ์ อย่าไปเลือกงานแทนเขา แต่ถ้ามาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ให้เข้าใจบ้างว่าการทำงานของประเทศและบ้านเมืองนี้ เขาทำงานกันด้วยระบบไม่ใช่ด้วยบุคคล ถ้าทำด้วยบุคคลวันข้างหน้าก็จะเลือกคนนั้นคนนี้เข้ามา แล้วมันจะทำได้หรือไม่ ที่ผ่านมาเลือกกันมากี่ครั้งแล้ว ทำไมไม่ฟังว่าผมกำลังสร้างระบบอะไรอยู่ ผมต้องการสร้างระบบให้เกิดความยั่งยืน และที่ต้องเดินทางไปทุกประเทศไม่ได้ไปเที่ยว
"ที่พูดก็ไม่ได้ทวงบุญคุณ ไม่เข้าใจว่าทำไมนักข่าวถึงเขียนอยู่แค่นี้ หรืออยากให้ผมเส้นเลือดแตกตายหรือไง บอกเลยถ้าไม่อยากให้อยู่ก็ขอให้บอกมา ไปถามคนอื่นบ้าง เขาว่ากันอย่างไร"
อย่างการเดินทางไปครั้งนี้ทางสิงคโปร์และนักธุรกิจเขาว่ากันอย่างไร อย่ามาถามผม
"เพราะพูดอะไรไปก็ไม่เชื่อ หาว่าผมพูดไปก็เพื่อสืบทอดอำนาจ ทุกอย่างทำไมต้องสงสัยว่าอยากสืบทอดอำนาจ ทำไมไม่คิดบ้างว่าอยู่ต่อเพราะต้องการทำความดี การอยู่จะต้องมีอำนาจหรือใช้อำนาจอย่างนั้นหรือ อำนาจบอกแล้วว่ามันมีทุกคน นั่นคืออำนาจในการทำความดี ถ้าทำคุณงามความดีแล้วมันไม่ได้ประโยชน์ อยู่แล้วมันเสียหายก็อย่าไปอยู่มันเลย มีอำนาจผมก็ไม่อยู่ วันนี้พยายามที่จะทำทุกเรื่องให้ ยังไม่เสร็จเลยก็เริ่มตีโพยตีพาย "
ถามว่ามันถึงเวลาของโรดแมพแล้วหรือยัง มันกลัวอะไรกันนักหนา อีกพวกก็มวงอยู่นั่นแหละว่าให้ทำตามโรดแมพ มันยังไม่ถึงเวลาจะทวงอะไร สื่อก็คล้อยตามไปด้วย สนุกกันหรืออย่างไร ประเทศชาติถูกปั่นหัวกันทุกวัน ที่พูดนี้มิได้บังอาจไปอบรมพวกท่าน พูดออกสื่อให้คนมันฟัง ได้ฟังเสียบ้าง ประเทศชาติเสียหายมากี่ปีแล้ว แล้วไอ้คนที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายทั้งหมด มันไม่ควรออกมาพูด ผมเตือนหลายหนแล้วว่าอย่าออกมาพูดก็ออกมาพูดอีก ตัวเองจะติดคุก ตายไม่ตายแหล่ ระวังก็แล้วกัน"
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า อ่านหนังสือพิมพ์มาบนเครื่องบินก็มีแต่เรื่องนักศึกษาไทย 5 คน ที่ปากีสถาน เรื่องดึงนายสมคิดเข้ามาร่วม ครม. เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ อ่านแล้วไร้สาระ อ่านแล้วเปลืองกระดาษ เปลืองสมองเพราะอ่านแล้วต้องคิดตาม แล้วก็คิดได้ว่ามันคิดได้อย่างไร เปลืองกระดาษที่พิมพ์ เปลืองทั้งน้ำหมึกที่ทำให้โลกมันสกปรก
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว ปี 2557) สำเร็จจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พูดอยู่นี่ไง ผมยังไม่ได้มีการปรับอะไรเลย พวกสื่อวิเคราะห์กันไปเอง ถ้าปรับเมื่อไหร่ผมจะบอก ไม่ต้องมาเขียนดักหน้า ดักหลัง อีก 3 เดือนจะปรับบ้าง
"ผมอ่านหนังสือพิมพ์แล้วไม่อยากจะลงมาประเทศไทยเลย มาแล้วก็วุ่นวายเหลือเกิน มันไม่มีอะไรก็จะให้มีอะไร ขอร้องว่าให้ประเทศสงบสักวันได้หรือไม่ ประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี "
ไปประเทศสิงคโปร์มาก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้กีฬาก็ชนะ คนไทยไม่ชอบความสุขอย่างนั้นหรือ ชอบความเจ็บปวดทรมาน ชอบการทุจริต ชอบสิ่งไม่ดี วันนี้ผมพยายามบอกให้ทุกคนช่วยคิดแบบผมบ้าง ไม่ได้ให้คิดตาม ไม่ได้ให้เชื่อ แต่ให้เวลากับการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่เปลี่ยนแค่วันเดียว ตนทำคนเดียวก็ไม่ได้ ก็ต้องส่งต่อให้รัฐบาลหน้าทำ ถ้าสื่อจะถามเรื่องนี้อีกต่อไปทั้งเรื่องอำนาจ จะอยู่ต่อหรือไม่อยู่ต่อก็ขอให้ไปถามคนทั้งโลกแทน ถามว่าถ้าตนอยู่แล้วได้อะไรขึ้นมาบ้าง และถ้าไม่อยู่แล้วจะได้อะไร
เมื่อถามว่า วันนี้สิงคโปร์ให้กำลังใจอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาให้กำลังใจทั้งหมด ให้มากกว่าที่คนไทยให้กับผม ทั้งนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีสิงคโปร์ ก็ให้กำลังใจและชื่นชมพร้อมเป็นมิตรกับประเทศไทยในทุกมิติและพร้อมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศในอนาคต แก้ปัญหาสิ่งที่เคยติดขัดที่ผ่านมาในการประชุมหารือกับนักธุรกิจและการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทุกคนก็มีความสุขที่จะร่วมมือกับเรา ไม่เห็นมีใครถามว่าตนจะอยู่เพื่อรักษาอำนาจ เพียงแต่เขาถามตนมาคำเดียวว่า มั่นใจหรือไม่ว่าสถานการณ์ที่ทำวันนี้จะอยู่ต่อได้นานแค่ไหน ซึ่งตนตอบไปว่า ตอบไม่ได้ ให้ไปถามสื่อประเทศไทยก่อน
Wassana Nanuam