ตามคาด ตามเคย และตามภาพ
#ตามคาด เป็นแฮสแท็กที่ใช้กันเบื้องต้นอย่างซ้ำซาก ในการเล่าเหตุระเบิดสี่จุดภาคใต้เมื่อคืน ๑๐ เมษายน
เริ่มจากรายงานของ Terry Bouris
"There was a bomb explosion in Koh Samui just over 1 hour ago.
Reports, yet to be confirmed,that at almost identical times, bombs have exploded in Surat Thani, PhangNa and Phuket. A total of 4 bombs. It is not clear how many people have been injured."
มิใยฝ่ายจังหวัดทหารบกบอก 'ไม่มีการข่าว' ว่ามีการเชื่อมโยงกันหรือเปล่า
เปิดช่องกว้างแก่การวิพากษ์วิจารณ์
จึงปรากฏทวี้ตของ Wassana Nanuam ทันควัน
"ตามคาด รับสงกรานต์ แม้มีการแจ้งเตือนในฝ่ายความมั่นคงแล้ว แต่โฟกัส ในกรุงเทพ-เชียงใหม่-ขอนแก่น-ภูเก็ต แต่เมื่อราวห้าทุ่ม เกิดเหตุระเบิดที่ ลานจอดรถห้างเซนทรัลเกาะสมุย มีคนบาดเจ็บหลายคน และไฟไหม้ สหกรณ์ Co-Op ของลุงกำนันสุเทพฯ สุราษฎร์ฯ
จนเกิดคำถามตามมาว่า เป็นฝีมือ ผกร.ใต้ หรือ การเมือง และเป็นกลุ่มใด ตรงข้ามคสช. คนคิดต่าง หรือคนเคยหนุน คสช. กลายเป็นผู้ต้องสงสัยหมด
โดยเฉพาะเป็น 10เมย. วันสัญลักษณ์...แต่แน่นอนว่าฝั่งตรงข้าม คสช. ก็ต้องคิดว่าทำกันเอง สร้างสถานการณ์ ใส่ร้ายฝ่ายตนเอง...
แต่นี่ว่ายังไม่ทันขาดคำนายกฯ บิ๊กตู่ เตือนพวกทำลายบรรยากาศสงกรานต์ ก็บึ้มซะแล้ว ท้าทาย อำนาจ ม.44 ของ หัวหน้า คสช.อย่างยิ่ง"
เช่นเดียวกับด้าน pessimistic อาทิ 'มตต แมนตั๊กต๋อย' แซะว่า
"สหกรณ์โค-ออป สุราดฯ ของสุเทพ นี่จะเจ๊งแหล่ ไม่เจ๊งแหล่ มีปัญหามาเป็นสิบปี
ไฟไหม้ให้ คสช.ชอบธรรมในการใช้อำนาจ # ม44 ยังไงก็คุ้ม ?!?!"
และสุดยอดของดราม่า หนีไม่พ้น "นั้นไง กูว่าล่ะ!! #ตามคาด"
จาก re-tweeted ของ ❝ Stop - Dadjarit
แม้วโดนตามเคย (ตามภาพ)
คลิประเบิดลานจอดห้างดังสมุยอ่านข่าว http://www.thairath.co.th/content/492399ขอบคุณคลิปจาก nik.fanclub
Posted by Thairath on Friday, April 10, 2015
ooo
อ่านข่าวเก่า หน่วยข่าวแจ้งเตือน แต่ คาดไม่ถึง.....
ไล่ดูข่าวเก่าๆ จะเห็นว่า มีการประชุม ประเมินสถานการณ์ การข่าวของหน่วยความมั่นคง มาแล้ว ในเรื่องการก่อเหตุ ก่อการร้าย ช่วงสงกรานต์ ส่วน พลเอก ประวิตร ก็ VTC แจ้งเตือนจังหวัดใหญ่ๆ ระวังผู้ไม่หวีงดี ก่อเหตุ แต่ ไม่มีใคร คาดคิดว่า จะเป็น สุราษฎร์ฯ ค่ะ
12 มี.ค.58 : พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยผลการประชุมประสานงานและติดตามสถานการณ์ด้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร ศปก.ทบ. (เดิม) สวนรื่นฤดี โดยมี พล.ท.วุฒิ แสงจักร รอง ผอ.ศปป.3 กอ.รมน. (ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร) เป็นประธาน
12 มี.ค.58 : พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยผลการประชุมประสานงานและติดตามสถานการณ์ด้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร ศปก.ทบ. (เดิม) สวนรื่นฤดี โดยมี พล.ท.วุฒิ แสงจักร รอง ผอ.ศปป.3 กอ.รมน. (ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร) เป็นประธาน
ส่วนราชการที่เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย กห., กต., มท., ศรภ., ขกท., สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.), สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.), สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ, ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล (ศตก.), กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.), ศูนย์ประสานงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ (ศปอช.), กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)
ด้านการก่อการร้าย แนวโน้มสถานการณ์ความเคลื่อนไหวกลุ่ม IS (Islamic State) ปัจจุบันยังไม่พบคนไทยเดินทางไปร่วมกับกลุ่ม IS ในตะวันออกกลาง แต่มีความเป็นไปได้ที่อาจใช้ประเทศในภูมิภาคอาเซียนเป็นทางผ่าน รวมทั้งประเทศไทยซึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้าออกจำนวนมาก ดังนั้นไทยจึงควรอาศัยความร่วมมือด้านความมั่นคงกับกลุ่มประเทศอาเซียน และการเฝ้าระวังการโน้มน้าวชักชวนในสังคมออนไลน์
ในส่วนของสถานการณ์ด้านการก่อการร้ายโดยทั่วไป ควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงให้มากขึ้น
"โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลเดือน เม.ย.58 เนื่องจาก จนท. มักจะผ่อนคลายความเข้มงวดให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมถึงการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง, การสังเกต, ชี้เบาะแส และช่วยกันแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า" โฆษก กอ.รมน.
3 เม.ย.2558 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห. ได้เป็นประธานการประชุมศูนย์แก้ปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ ในศาลาว่าการกลาโหม โดย VTC ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการในภูมิภาค ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ และภูเก็ต เพื่อดูแลความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในห้วงเทศกาลสงกรานต์ โดยทุกส่วนราชการได้บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างทหาร ตำรวจ และภาคประชาชน ทั้งใน กทม. และภูมิภาค และแสดงถึงความมั่นใจและความพร้อมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน การป้องกันและแก้ปัญหาอาชญากรรม การดูแลความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางทะเล โดยเฉพาะพื้นที่จัดกิจกรรมที่สำคัญๆในห้วงเทศกาลสงกรานต์
โดย พลเอก ประวิตร ได้เน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และให้ความสำคัญกับมาตรการเชิงป้องกันให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ให้เตรียมความพร้อมที่จะเข้าไปแก้ปัญหาในพื้นที่เกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที ร่วมกันรณรงค์สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น
พร้อมทั้งได้เน้นย้ำสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจัง ทั้งนี้ได้ขอให้ทุกส่วนราชการได้เสียสละเวลาในการปฏิบัติงานในห้วงเทศกาลวันหยุดดังกล่าว
อย่างไรก็ตามประชาชนอาจไม่ได้รับความสะดวกบ้าง แต่ก็ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนส่วนใหญ่ในภาพรวม จึงขอให้ร่วมสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชนถึงการปฏิบัติงานดังกล่าว
"ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคน หากพบเห็นอุบัติเหตุ หรือการกระทำที่อาจก่อให้เกิดเหตุหรืออันตรายกับส่วนรวม รวมทั้งทราบเบาะแสของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อาจไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ในห้วงเทศกาลแห่งความสุข นี้ ขอได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ใกล้เคียงโดยตรงหรือแจ้งหมายเลข 191 ตลอด 24 ชม." พลตรี คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม กล่าว