https://www.youtube.com/watch?v=7-1kaEu5M1s
เริ่มแล้วครับ!! กับงานรดน้ำดำหัวเด็ก — at วัดอุโมงค์(สวนพุธธรรม).
@SirichaiVoice
งานรดน้ำดำหัวขอขมาเยาวชน ที่เชียงใหม่ ตอนนี้มีผู้เข้าร่วมราว 200 คน รวมทั้งชาวต่างชาติ ตำรวจนอกเครื่องแบบสังเกตการณ์
@anuthee
อ.ชาญวิทย์รวมพลครบทีม คณาจารย์อาสุโสเตรียมรดน้ำขอขมาเยาวชน หน้าประตูท่าพระจันทร์ คู่ขนานพร้อมที่เชียงใหม่
@SirichaiVoice
เริ่มแสดงเพลงเพื่อชีวิต โดยชวด สุดสะแนน ก่อนเริ่มพิธีรดน้ำดำหัว (ดำหัวคนเฒ่า #เยาวชนก็เช่นกัน@เชียงใหม่)
อ.นิธิ พร้อมผู้สูงวัย รดน้ำดำหัวเยาวชน ขอขมาต่อเยาวชน ที่ไม่สามารถรักษาประชาธิปไตย #พิธีรดน้ำดำหัว (ดำหัวคนเฒ่า #เยาวชนก็เช่นกัน @เชียงใหม่)
อ.นิธิ อ่านแถลงการณ์ถึงคนรุ่นใหม่ ขอโทษเยาวชนที่ไม่สามารถรักษาประชาธิปไตยไว้ในรุ่นของตน ตกภาระถึงรุ่นหลัง
#พิธีรดน้ำดำหัว (ดำหัวคนเฒ่า #เยาวชนก็เช่นกัน @เชียงใหม่)
17.00 พิธีรดน้ำดำหัวโดย อ.นิธิ ที่วัดอุโมงค์ จบอย่างราบรื่น แม้ภายนอกงานทหารได้มาคุยกับคณะสงฆ์วัดอุโมงค์ให้รวบรัดพิธี
#พิธีรดน้ำดำหัว (ดำหัวคนเฒ่า #เยาวชนก็เช่นกัน @เชียงใหม่)
@SirichaiVoice
คนรุ่นเราไร้สติปัญญา พอจะรับมรดกประชาธิปไตยของคณะราษฎร และ 14 ตุลา จึงขอขมาต่อเยาวชนรุ่นนี้ - อ.นิธิ
#พิธีรดน้ำดำหัว (ดำหัวคนเฒ่า #เยาวชนก็เช่นกัน @เชียงใหม่)
ooo
คำขอขมา
นับตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 เป็นต้นมา ประเทศไทยและสังคมไทยก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่านที่กว้างใหญ่เพราะกระทบถึงคนทุกกลุ่ม และลึกถึงระดับฐานรากของสังคม จากประเทศด้อยพัฒนาที่มีคนจนอยู่จำนวนมาก กลายเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง ผลจากความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดกลุ่มที่มีผลประโยชน์เฉพาะด้าน, มีสำนึกใหม่ถึงอัตลักษณ์เฉพาะของตนเอง, ยึดถืออุดมคติทางการเมืองที่แตกต่างกัน, มีความใฝ่ฝันต่ออนาคตที่ไม่เหมือนกัน, และมีความจำเป็นต้องเข้ามาต่อรองนโยบายสาธารณะระดับชาติและท้องถิ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สภาวะเช่นนี้ย่อมสร้างความขัดแย้งระหว่างคนกลุ่มต่างๆ เป็นธรรมดา วิถีทางเดียวที่จะทำให้ความขัดแย้งเช่นนี้ดำเนินไปได้โดยปราศจากความรุนแรง คือระบอบประชาธิปไตย ทั้งในแง่การเมืองการปกครอง และความสัมพันธ์ทางสังคมของคนกลุ่มต่างๆ แม้มีความพยายามของคนรุ่นเรา ซึ่งกลายเป็นคนสูงอายุไปแล้วในบัดนี้ ในอันที่จะเสริมสร้างพลังของประชาธิปไตยในด้านการเมืองการปกครอง และขยายประชาธิปไตยให้เป็นหลักเกณฑ์สำคัญของความสัมพันธ์ทางสังคม แต่คนรุ่นเราก็ประสบความล้มเหลว นอกจากหลักความสัมพันธ์บนฐานประชาธิปไตยถูกชนชั้นนำบางกลุ่มเยาะหยัน และประเมินค่าไว้ต่ำแล้ว บัดนี้ แม้แต่รูปแบบของระบอบการปกครองประชาธิปไตยก็ถูกทำลายลงเพราะการรัฐประหารของกองทัพ หากการณ์เป็นไปตามเจตนาของชนชั้นนำบางกลุ่มที่ร่วมในการยึดอำนาจครั้งนี้ ก็อาจคาดได้เลยว่า ระบอบประชาธิปไตยจะไม่มีอนาคตอะไรเหลืออยู่ในประเทศและสังคมไทยอีกเลย
นั่นหมายความว่า ความขัดแย้งของคนกลุ่มต่างๆ ซึ่งต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดาเมื่อสังคมได้พัฒนาไปสู่ความเฉพาะด้านมากขึ้น ทั้งส่วนที่เป็นรูปธรรมเช่นเศรษฐกิจ และส่วนที่เป็นนามธรรมเช่นอุดมคติทางสังคม จะกลายเป็นความขัดแย้งที่รุนแรง สูญเสีย และไม่นำไปสู่ทางออกที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย หรือแก่ส่วนรวม
และนี่คือประเทศและสังคมไทยที่คนรุ่นเราจะต้องส่งมอบให้แก่คนรุ่นท่าน เป็นมรดกแห่งความมืดมนไร้อนาคต แต่ก็เป็นมรดกที่ท่านปฏิเสธไม่ได้ จึงอยู่ที่ตัวท่านเองว่า จะใช้กำลังสติปัญญาและความร่วมมือกันอย่างไร จึงจะกู้แสงสว่างและอนาคตกลับคืนมาแก่มรดกชิ้นเดียวที่มีอยู่ร่วมกันนี้
คนรุ่นเราทั้งเสียใจและละอายใจที่ต้องส่งมอบมรดกซึ่งถูกกระทำย่ำยีจนเละเทะนี้แก่ท่าน คนรุ่นเราคงไร้สติปัญญา ไร้จิตใจอันกล้าแกร่งพอจะรับมรดกประชาธิปไตยของคณะราษฎรและ 14 ตุลา เพื่อสืบทอดความดีงามของประชาธิปไตยแก่ท่านได้ ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ครั้งนี้ พวกเราจึงใคร่ขอขมาต่อความผิดพลาด ความอ่อนแอ และความโง่เขลาของเราที่ผ่านมาทั้งหมด ด้วยความหวังว่าจะได้รับอโหสิกรรมจากพวกท่านซึ่งต้องรับผิดชอบต่อมรดกที่ไร้ค่าชิ้นนี้
000
จากนั้นนักวิชาการอาวุโสได้เข้ารดน้ำดำหัวตัวแทนเยาวชน ก่อนที่ตัวแทนของนักศึกษาจะอ่านถ้อยความของผู้สืบทอดตอบกลับ โดยมีเนื้อความระบุว่าขอบคุณคนรุ่นผู้อาวุโสสำหรับการส่งมอบอนาคตให้แก่พวกเรา เรารับรู้ได้ถึงคุณค่าของมรดกชิ้นนี้ ที่เต็มไปด้วยความมืดมน ความรู้สึกผิดและความหวัง แต่คนรุ่นใหม่ก็จะขอรับมรดกอันทรงคุณค่านี้ไว้ในความรับผิดชอบ ขออโหสิกรรมให้ โดยไม่ได้โกรธแค้นต่อสิ่งที่คนรุ่นก่อนไม่สามารถรักษาไว้ให้ไว้กับคนรุ่นเราได้ และสืบทอดภารกิจการสร้างประชาธิปไตย ที่เจตจำนงแห่งเสรีภาพและเสมอภาคจะถูกส่งต่อคนในรุ่นต่อไป
ถ้อยความของผู้สืบทอด
นับตั้งแต่วันที่เราจำความได้ เราเติบโตมาบนแผ่นดินนี้ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของอุดมการณ์ทางการเมือง ตลอดจนความขัดแย้งและความรุนแรง เราเฝ้ามองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างมันเป็นมรดกจากคนรุ่นก่อน และตกผลึกกลายเป็นความคิดแก่คนรุ่นหลัง เดิมที พวกเราเป็นเพียงคนรุ่นหลังที่พวกท่านคิดว่าอ่อนความรู้และประสบการณ์ มองโลกไม่ไกลเท่าคนเจนโลกอย่างพวกท่าน และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือหาทางออกจากปัญหาเดิมๆเหล่านี้ได้? วันนี้ พวกท่านเผชิญกับวังวนของปัญหาทางการเมืองที่มองไม่เห็นอนาคต พวกท่านนึกถึงเรา
ในสังคมไทยมีถ้อยคำที่กล่อมเกลาเด็กมากมาย มันเป็นคำที่ผู้ใหญ่เสี้ยมสอนและส่งมอบให้เรายึดถือ เพื่อสืบทอดอุดมการณ์และการพัฒนาประเทศในวันข้างหน้า วันนี้ เราได้รับฟังการขอขมาจากคนรุ่นท่าน การยอมรับความผิดพลาดของผู้ใหญ่ต่อหน้าเด็กเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งในสังคมไทย
พวกเราขอบคุณพวกท่านด้วยใจจริงสำหรับการส่งมอบอนาคตให้แก่พวกเรา เรารับรู้ได้ถึงคุณค่าของมรดกชิ้นนี้ มันเต็มไปด้วยความมืดมน ความรู้สึกผิดและความหวัง มรดกชิ้นนี้เราไม่สามารถปฏิเสธมันได้ แม้จะไม่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าจะกอบกู้แสงสว่างให้กลับคืนมาได้อีกครั้งหรือไม่ แต่เราจะทำอย่างเต็มที่ด้วยสติปัญญาและหัวใจ ขอเพียงพวกท่านอย่าปิดกั้นการแสดงออกซึ่งเจตจำนงค์ของพวกเรา ต่อมรดกชิ้นเดียวที่ท่านส่งมอบให้เรา
จากนี้ไป เราจะขอรับมรดกอันทรงคุณค่านี้ไว้ในความรับผิดชอบของเรา เราจะไม่ละทิ้ง ไม่หลีกหนี และก้าวเดินไปกับมันด้วยความเข้มแข็ง เราจะเขียนเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของบ้านเมือง บอกเล่าถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่คาบเกี่ยวระหว่างคนรุ่นเราและท่าน บอกเล่าถึงข่าวความหวังจากคนรุ่นเราให้คนรุ่นท่านได้รับฟัง เราได้รับมรดกจากท่านมาแล้ว ขอให้ท่านจงสบายใจและเฝ้ามองความเป็นไปร่วมกับเรา
ในโอกาสวันปีใหม่ครั้งนี้ เราขออโหสิกรรมให้พวกท่าน พวกเราเองไม่ได้โกรธแค้นต่อสิ่งที่ท่านไม่สามารถรักษาไว้ให้ไว้กับคนรุ่นเราได้ แต่เราจะเป็นผู้สืบทอดภารกิจการสร้างประชาธิปไตย บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความกล้าหาญและความเป็นธรรมให้งอกงามบนผืนแผ่นดิน และหากคนในรุ่นเรายังทำไม่สำเร็จ เราเชื่อว่าเจตจำนงค์แห่งเสรีภาพและเสมอภาคจะถูกส่งต่อคนในรุ่นต่อไป
...
ตัวแทนเยาวชนอ่านแถลงการณ์
โดยมีใจความว่า
"...เราขอให้อภัยต่อความผิดพลาดที่ได้เกิดขึ้นในยุคท่าน..." และ "... เราผู้ที่ทำหน้าที่เป็นเยาวชนของบ้านเมืองในขณะนี้ พร้อมที่จะเผชิญต่อปัญหาที่เกิดขึ้นโดยไม่เกี่ยงว่าปัญหานั้นได้ก่อเกิดจากเราหรือไม่..."
#พลเมืองเสมอกัน
...
ไทยอีนิวส์ขอขอบคุณเจ้าของภาพ และคุณ Maysaa Nitto ที่ได้รวบรวมภาพเหล่านี้ มา ณ ที่นี้ด้วย