คุณแบ๊งค์ที่รัก
วันนี้ ผมตื่นเช้ามา ขณะเปิดผ่านๆเฟซบุ๊ค ก็ได้เห็นข้อความที่คุณ "ฝาก" มาถึงผม ทำเอาผมร้องไห้ด้วยความสะเทือนใจ
ผมไม่มีโอกาสมีอภิสิทธิ์ที่จะได้เป็นอาจารย์สอนหนังสือคุณโดยตรง แต่รู้สึกภาคภูมิใจในตัวคุณและคุณก๊อล์ฟเพื่อนคุณเสมอ คุณทำให้ผมมีกำลังใจ มีความหวัง เวลาท้อ หดหู่เศร้าเสียใจ ทุกครั้งเมื่อนึกถึงพวกคุณ ก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมา ว่าประเทศเรายังมีอนาคตทีดี นี่พูดจากใจจริงๆ ผมรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่สิ่งทีผมพูดหรือเขียน มีประโยชน์ต่อพวกคุณอยู่บ้าง ในชีวิตการเป็นครูกว่า ๒๐ ปี คนอย่างคุณทำให้รู้สึกว่า ไม่เสียเปล่า
คุณควรภูมิใจในตัวเองมากๆ ผมอ่านประวัติชีวิตคุณด้วยความประทับใจ บอกตรงๆว่า คุณประสบความสำเร็จในสาขาทีคุณเลือกมากกว่าผมในอายุเท่าคุณเยอะ อันนี้พูดจริงๆ สมัยผมอายุเท่าคุณ ผมยังปลุกปล้ำกับสาขาวิชาที่ตัวเองเลือกอย่างลำบาก แต่คุณประสบความสำเร็จในงานที่ตัวเองเลือก เป็นที่ยอมรับยกย่องมาแล้ว (ถ้าตอนน้้น ผมเขียนรายงานดีๆออกมาได้อย่างทีคุณร้องหมอลำ เพลงพื้นบ้านได้อย่างยอดเยี่ยมในหลายปีนี้ ผมคงดีใจตายเลย!)
เสียดายประเทศของเรา ยังไม่เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีเสรีภาพและภราดรภาพ ไม่รู้จักส่งเสริมเด็กและเยาวชน แม้แต่คนที่มีการศึกษา ให้เติบโตขึ้นมาอย่างเป็นตัวของตัวเอง กล้าคิด กล้าแสดงออก ผมรู้สึกเศร้าใจและหดหู่มากเป็นพิเศษในกรณีของคุณ ซึ่งกำลังเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีสุดท้าย (ไม่ต้องพูดถึงความสามารถในสาขาที่เรียนที่ได้ประจักษ์แล้ว) ต้องมารับชะตากรรมแบบนี้ ไม่มีสังคมอารยะที่ไหน จะปฏิบัติต่อพลเมือง ต่อนักศึกษา และศิลปิน แบบป่าเถื่อนเช่นนี้
พูดตามประสาคนเคยผ่านประสบการณ์คล้ายคุณตอนนี้ (แม้ตอนนั้นผมจะโชคดี อยู่ในที่ที "สบาย" กว่ามาก) ปัญหาใหญ่ที่สุดของการอยู่ในที่แบบนั้น ไม่ใช่เรื่องความยากลำบากในการกินอยู่หลับนอน - เรื่องพวกนั้น ลำบากแน่ๆ แต่ในที่สุดแล้ว เราก็จำเป็นต้องปรับตัวให้อยู่กับมันจนได้ - แต่ที่สำคัญที่สุด คือเรื่องจิตใจ สปิริต จิตวิญญาณของเรา การถูกบังคับกักขังทั้่งๆที่เราไม่ได้ผิดอะไร การไม่มีเสรีภาพที่จะไปไหนมาไหน ไม่สามารถพูดเขียน แสดงออกเหมือนคนปกติได้ ชีวิตที่ซ้ำๆกันในที่จำกัดวันแล้ววันเล่า ฯลฯ เหล่านี้ ตามประสบการณ์ของผม มันบั่นทอนความเป็นคน บั่นทอนจิตวิญญาณของเรามากๆ
ขอให้คุณและคุณกอล์ฟ รักษาสปิริตของตัวเองไว้ #เข้มแข็งเข้าไว้
ผมเชื่อมั่นว่า การกักขังคุณตอนนี้ เอาชนะจิตวิญญาณเสรีของคุณไม่ได้ อนาคตเป็นของเรา เป็นของคุณแน่นอน เพราะไม่มีทางที่สังคมไทย ไม่ว่าตอนนี้จะป่าเถื่อนแค่ไหน จะเดินไปสู่ทิศทางไร้เสรีอยู่เรื่อยๆได้ตลอดไป เสรีภาพเป็นทิศทางของโลก ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ไม่วาจะใช้เวลานานแค่ไหน และไม่ว่าจะต้องผ่านความทุกข์ยากลำบากของผู้คนบนเส้นทางไปสู่เสรีภาพนี้อย่างไร .....
เมื่อ ๖๐ กว่าปีก่อน ตอนคุณอุทธรณ์ พลกุล โดนจับในกรณี "กบฏสันติภาพ" - "นายผี" ได้เขียนบทกวีชื่อ "ความเปลี่ยนแปลง" ไปให้กำลังใจและสดุดีคุณอุทธรณ์ นี่เป็นบทกวีที่ผมชอบมากทีสุดในชีวิต ผมไม่มีความสามารถในทางกาพย์กลอนเหมือนคุณแบ๊งค์ ขออนุญาตยืมคำของ "นายผี" ส่งข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงคุณ ดังนี้
"... ยืนหยัดอยู่ใน
กระหนาบแห่งเพลิงอันธพาล
บมิได้ตระหนกดกดาล
บมิได้สงสาร
แก่อาตมาอาลัย
บมิได้ระย่อท้อใจ
บมิจักสงสัย
ในสันติภาพอันเพรา
บมิได้สยบซบเซา
เชื่อในชัยเฉลา
เฉลิมฉลองอันรอ
โอ้ทุกข์ในวันนี้หนอ
แม้ท่วมถึงคอ
ถือสุขในพรุ่งไพบูลย์
คุกตะรางวันนี้นองนูน
บมิได้อาดูร
คืออิสรภาพพรุ่งงาย
วันนี้แพ้พลาดมาตรหมาย
ว่าเราทั้งหลาย
พรุ่งนี้ชะนะบมิแหนง
แม้วันนี้เราสิ้นแรง
แลจะตายฤาแสยง
วันพรุ่งจะฟื้นชาวประชา
วันนี้สัจจธรรมชั่วครา
พรุ่งนี้นั้นหนา
คือสัจจธรรมถาวร
โอ้ โอ้ วีรภาพสมพร
พร่างแผ่นดินดอน
ประดุจสูรย์แสงใส
โพรงพรายพันลึกพิไล
อัมพรอำไพ
พิโรจน์แลพ้นพรรณนา ...."
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
๓ มีนาคม ๒๕๕๘
ปล. ภาพโป๊สการ์ดที่ผม"แนบ"กับข้อความนี้ เป็นภาพวาดแสดง "คำประกาศสิทธิของมนุษย์และพลเมือง" (Déclaration des Droits de l'Homme et du Citoyen) ที่มีชื่อเสียงของโลก ผมซื้อโป๊สการ์ดนี้ กับโป๊สการ์ดอีกใบจากมิวเซียมแห่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ด้วยความตั้งใจจะส่งให้คุณแบ๊งค์และคุณกอล์ฟ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ส่ง (ส่วนหนึงเพราะนึกไม่แน่ใจว่า ถ้าผมลงชื่อผมเอง แล้วมันจะ"ผ่าน"ไปถึงมือคุณหรือไม่) รู้สึกผิดอยู่ ขอถือโอกาส "ส่ง" ให้คุณ มา ณ ทีนี้ ที่ที่ผมอยู่ตอนนี้ มีมิวเซียมทางศิลปะวัฒนธรรมเยอะมาก ดูได้ไม่หมด รวมถึงมิวเซียมที่แสดงประวัติการต่อสู้อย่างยากลำบากยาวนานนับร้อยปี เพื่อให้ได้มาซึ่งเสรีภาพและความเป็นคนเท่าเทียมกัน ผมหวังว่า สักวันคุณซึงอยู่ในแวดวงศิลปะวัฒนธรรม จะได้มีโอกาสมาเห็น คงเป็นประโยชน์ต่อคุณมากกว่าผมเสียอีก
ooo
ที่มา ประชาไท
Thu, 2015-02-26 15:50สมาคมนักเขียนสากล PEN เรียกร้องปล่อยตัวสองนักแสดงเจ้าสาวหมาป่า ชี้การจำคุกละเมิดกติการะหว่างประเทศที่ไทยเป็นภาคี ห่วงนักเขียน นักวิชาการ นักกิจกรรมในไทยเสี่ยงถูกคุกคาม-คุมขังจากการแสดงความเห็นอย่างสันติ
26 ก.พ. 2558 สมาคมนักเขียนสากล (PEN) ออกแถลงการณ์กรณีภรณ์ทิพย์ และ ปติวัฒน์ สองนักแสดงเจ้าสาวหมาป่า ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 6 เดือน จากความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยสมาคมนักเขียนสากล (PEN) ชี้ว่า การตัดสินจำคุกทั้งสองคนถือเป็นการละเมิดมาตรา 9 (สิทธิในกระบวนการยุติธรรม) และมาตรา 19 (เสรีภาพในการแสดงความเห็น) ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ซึ่งไทยเป็นรัฐภาคี
ทั้งนี้ PEN ยังมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ประกอบด้วย
1. ปล่อยตัวนักแสดงทั้งสองโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากการแสดงของพวกเขาถือเป็นการแสดงออกโดยสันติ ตามที่ได้รับการรับรองไว้ในมาตรา 9 และมาตรา 19 ของ ICCPR
2. ย้ำถึงความกังวลต่อความปลอดภัยของนักเขียน นักวิชาการ และนักกิจกรรมในประเทศไทย ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกคุกคามและคุมขังเพียงเพราะการแสดงความเห็นอย่างสันติ
3. เรียกร้องให้ทางการไทยแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา โดยเฉพาะมาตรา 112 เพื่อให้คุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกตามกติกาสากลที่ไทยมีพันธะผูกพัน
อนึ่ง เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ศาลอาญาพิพากษาจำคุก ปติวัฒน์ (สงวนนามสกุล) และภรณ์ทิพย์ (สงวนนามสกุล) คนละ 5 ปี ในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการแสดงละครเรื่องเจ้าสาวหมาป่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2556 ในงานรำลึก 40 ปี 14 ตุลา ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แต่จำเลยทั้งสองรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
ที่มา:
Thailand: Student activists sentenced for insulting the monarchy in a play
http://www.pen-international.org/newsitems/thailand-student-activists-sentenced-for-insulting-the-monarchy-in-a-play/
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
จำคุก 'ภรณ์ทิพย์-ปติวัฒน์' คดีเจ้าสาวหมาป่า ผิด 112 สารภาพเหลือ 2 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา