งงงวยมาหลายวัน กะร่างกฏมหายนะ (spell checked) ไซเบอร์ และ ดิจิทอล
แปดฉบับผ่านรวดคณะมนตรีรัฐ (ประหาร) ไว้งัดข้อกับ freedom of expression
ที่ 'ภาคประชาสังคม' (จากที่นี่ https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551.646424.299528675550/10155051684880551/?type=1&fref=nf) บอกว่า
"ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายใหม่เข้าถึงข้อมูลของประชาชนที่ติดต่อสื่อสาร ผ่านไปรษณีย์ โทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตศาล และไม่มีกลไกตรวจสอบการใช้อำนาจ ซึ่งเป็นการคุกคามสิทธิความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชน"
หรือจะเข้าไปดูรายละเอียดยิบ ที่เครือข่ายพลเมืองเน็ต Thai Netizen Network ทำสรุป "4 ร่างกฎหมายใหม่ที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานดักฟัง-เข้าถึงข้อมูลของเราๆ ท่านๆ" ได้ที่นี่ https://thainetizen.org/2015/01/digital-economy-cyber-security-bills-comments/#bills
ไม่เช่นนั้นลองอ่านที่ Atukkit Sawangsuk อ้างถึง ปรเมศวร์ มินศิริ ว่ายังสะดุ้ง
เพราะเห็นเป็น 'เผด็จการไอซีที'
Poramate Minsiri
ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ มีข้อสังเกตที่น่าสนใจมากๆ 2 จุดนี้ครับ
1. คณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ กปช. มีนายกเป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ มีอำนาจสูงมากจนถึงขั้นสั่งการหน่วยงานภาคเอกชน "สั่งให้ทำหรือห้ามทำอะไรก็ได้" ส่วนภาครัฐนั้นนายกฯสั่งได้อยู่แล้ว
เท่ากับว่ากฎหมายฉบับนี้ให้อำนาจนายกรัฐมนตรี มีอำนาจสั่งองค์กรเอกชนทั่วราชอาณาจักร
** ขอดอกจันไว้ว่า ท่านนายกประยุทธ์ยืนยันว่าจะอยู่ในตำแหน่งเพียงปีเดียวนะครับ หากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน อำนาจล้นฟ้าขนาดนี้อาจตกไปอยู่ในมือใครก็ได้
2. พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถดักฟังเจาะล้วงข้อมูลได้ทั้งประเทศโดยไม่ต้องขอหมายศาล
ย้ำนะครับว่าพนักงานก็สามารถทำได้ ซึ่งในความเป็นจริงข้าราชการก็ไม่ได้เป็นคนดูข้อมูลตรงนี้เท่าไหร่ เพราะเขาก็จะจ้างเอกชนมาทำระบบแบบ Turn-Key คนที่มาอ่าน LINE อ่านเมล์ของคุณก็อาจจะเป็นพนักงานบริษัทที่มารับจ้างดูแลระบบ แค่จดหมายฉบับเดียวจากรัฐมนตรีเขาก็จะดักเจาะข้อมูลได้ทั่วประเทศ
สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับมาตรการความมั่นคงระดับนี้คือ บริษัทต่างชาติที่สนใจมาตั้งสำนักงานระดับภูมิภาคแถบนี้ จะไม่เลือกมาตั้งที่ประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะเขาจะลงทุนไปทำไมในเมื่อความลับทางการค้าทั้งหมดสามารถถูกเจาะเข้าไปดูได้ทั้งหมดอย่างถูกกฎหมาย ในทางกลับกันบริษัทต่างๆจะพากันไปตั้งสำนักงานพร้อมเซริฟเวอร์ในต่างประเทศกันอย่างมาก เพื่อที่จะไม่ถูกดักล้วงข้อมูลความลับทางการค้าจากรัฐบาลไทย
ทำแบบนี้จะเป็นการส่งเสริม Digital Economy ได้อย่างไร?
ข้อเสนอ : ห้ามให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการดักฟังดักรับข้อมูลอย่างเด็ดขาด การกระทำเช่นนี้สามารถทำได้เป็นกรณีๆไปภายใต้คำสั่งศาล ต้องขอหมายศาลก่อน หากให้อำนาจกับพนักงานไปจะเป็นการขัดต่อหลักสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ที่จะมีสิทธิในข้อมูลและการสื่อสารอย่างเป็นส่วนตัวตามปกติ
อ่านเสร็จ ไปชม-ฟัง พ่อหมอกับจอห์น วิญญู 'เจาะข่าวตื้น ให้ครื้นเครงปนแสบมันด้วยก็ได้
https://www.youtube.com/watch?v=0ZdiAu9Jdbw