วันอาทิตย์, มกราคม 25, 2558

เสื้อแดงยังไม่ตาย ...จตุพร พรหมพันธุ์ : เรากำลังต่อสู้กับคนใจดำอำมหิต เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย ใช้วิธีการสามานย์ ปากพระพุทธเจ้า การกระทำเทวทัต เพราะฉะนั้นเราต้องสู้อย่างตั้งหลักตั้งสติที่สุด เมื่อเขาต้องการกำหนดเรา ให้เล่นตามเกม เราจะไม่เล่นในเกมเขา การใช้ความอดทนไม่ใช่ความขี้ขลาด ไม่ใช่ความกลัว...



อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้เคยประกาศว่าจะขอตายในสนามประชาธิปไตย เยี่ยงทหารตายในสนามรบ และตลอดระยะเวลาก็ได้ต่อสู้มาอย่างสง่างามกับสิ่งที่ตนเองทำเพื่อพี่น้องชาวนา

ถ้าบรรยากาศของบ้านเมืองเป็นปกติอยู่นั้น การลงมติจะไม่มีผลออกมาในลักษณะเช่นนี้ เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า การใช้อำนาจรัฐธรรมนูญที่ถูกยกเลิก ไม่มีกฎหมายอยู่นั้น ปรากฎว่ากฎหมายที่ไม่มี สามารถนำมาเล่นงานอดีตนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนได้

พวกเราเองได้ประเมินสถานการณ์ และไม่เห็นหนทางอันใดที่อดีตนายกฯจะได้รับความยุติธรรม เพราะเราเห็นตั้งแต่ต้นทางถึงแนวทางในการปฏิบัติ โดยเป้าประสงค์หลักมี 3 ส่วน หนึ่งก็คือตระกูลชินวัตร สองพรรคเพื่อไทย สาม นปช. ยังคงดำรงความมุ่งหมายอยู่เช่นเดิม

จากบันได 4 ขั้นหลังการรัฐประหาร 19 กันยา เราเห็นได้ชัดเจนว่าผู้ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนนั้น ไม่มีสิทธิ ไม่มีอำนาจใดๆ ที่จะทำงานตามเจตนารมย์ของประชาชน ถ้ากลไกขององค์กรอิสระที่มีที่มาอย่างไม่ถูกต้อง ไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ มาหยุดยั้งหรือกระทำการ ก็ต้องมีอันเป็นไป

เพราะฉะนั้นชะตากรรมของอดีตนายกฯ ไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนกระทั่งถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในวันนี้ ก็มีชะตากรรมที่ไม่ได้แตกต่างกัน อดีตนายกฯสมชายก็มีคดีล่วงหน้า ต้องเข้าสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในเหตุการณ์ 7 ตุลา 2551 เพราะฉะนั้นเส้นทางต่อจากนี้ของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้แตกต่างกัน ทั้งที่ข้อกล่าวหาทั้งหมด มีการพยายามปลุกสร้างกระแสขึ้นมานั้น ไม่มีเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบ และข้อกล่าวหาปล่อยปละละเลยนั้นเป็นข้อกล่าวหาที่รับฟังไม่ได้ วิญญูชนคนไทยที่มีสามัญสำนึกย่อมรู้แก่ใจว่า โครงการที่เพิ่งประกาศเปิดเพียงแค่สองวัน แต่ถูกคำสั่งระงับยับยั้ง และชี้ว่ามีการทุจริตแล้ว มันชี้ถึงเจตนาที่จะขัดขวางนโยบายของรัฐบาลที่ได้ประกาศไว้ต่อประชาชน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ทุกกระบวนการ ป.ป.ช.ไม่ได้ปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา นอกจากที่มาไม่ถูกต้อง การใช้อำนาจหน้าที่ก็ไม่ถูกต้อง การให้ข่าวของนายวิชา 3 ประเด็นหลักที่ประเทศไทยต้องบันทึกในการสร้างกระแสนำไปสู่ในวันนี้ ไม่ว่าเรื่องการทุจริตเงิน 7 แสนล้านและคนทุจริตนำเงินออกนอกประเทศ แล้วตัวเองก็ไม่เคยดำเนินการอะไร เพียงพูดเพื่อให้เกิดความเสียหาย ประเด็นต่อมาคือ ข้อเสนอที่ให้ ป.ป.ช. อัยการและศาล ทำข้อตกลงกันก่อนว่า ถ้า ป.ป.ช.เห็นอย่างไร อัยการและศาลต้องเห็นตรงกัน นี่ถือเป็นการทำลายขบวนการยุติธรรมที่มีการถ่วงดุลกันทั้งหมด ประเด็นต่อมาคือการอ้างว่ารับปากกับทางการจีนให้แก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช. มากดดันให้ประเทศไทยต้องแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช.ตามที่นายวิชาไปรับปากไว้ ซึ่งสะท้อนถึงเอาสถานะของประเทศไทย ดูเสมือนหนึ่งว่าตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศจีน เป็นประเทศที่ไร้ซึ่งเอกราช

เพราะฉะนั้นทั้งโดยพฤติการและการทำหน้าที่ ที่เลือกปฏิบัติมาโดยตลอด ปล่อยโครงการ ปรส. ละเลยโครงการโรงพัก ไม่เว้นแต่ประกันราคาข้าวที่พยายามพูด แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่มีความชัดเจนอะไร ดังนั้นการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. เป็นการเลือกปฏิบัติ

ป.ป.ช.ที่มีที่มาไม่ถูกต้อง สนช.ไม่ได้มาจากประชาชน มาจากการถูกฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วเอารัฐธรรมนูญที่ถูกฉีก มาเล่นงานคนที่มาจากการเลือกตั้ง

การถอดถอนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ในวันนี้ เป็นการยั่วยุประชาชนขั้นสูงสุด การเขียนรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ยืนยันว่าเป็นการยั่วยุประชาชนขั้นสูงสุด ที่มีความประสงค์จะลากคนเสื้อแดงออกมา และก็โยนภาระความล้มเหลวทั้งปวงในการแก้ไขปัญหาของชาติ ว่าที่ทำไม่ได้เป็นเพราะคนเสื้อแดง ดังนั้นความอดทนขั้นสูงสุดจึงมีความจำเป็น และเราก็เห็นอย่างหนึ่งว่า ทุกเรื่องราวไม่สามารถจบลงในวันนี้ และไม่ใช่จบในวันพรุ่งนี้ และวันนี้ก็ไม่ใช่วันที่คนที่โค่นล้มอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์จะลำพองใจได้ว่านี่คือชัยชนะ และการไม่ออกมาของคนเสื้อแดงก็ไม่ได้บอกว่า คนเสื้อแดงบัดนี้อ่อนกำลังลงแล้ว แต่ด้วยบทเรียนที่ผ่านมานั้น เรากำลังต่อสู้กับคนใจดำอำมหิต เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย ใช้วิธีการสามานย์ ปากพระพุทธเจ้า การกระทำเทวทัต เพราะฉะนั้นเราต้องสู้อย่างตั้งหลักตั้งสติที่สุด เมื่อเขาต้องการกำหนดเรา ให้เล่นตามเกม เราจะไม่เล่นในเกมเขา การใช้ความอดทนไม่ใช่ความขี้ขลาด ไม่ใช่ความกลัวแต่อย่างใด

( ทีมงาน ติดตามคลิปย้อนหลัง "การวิเคราะห์สถาณการณ์หลังการถอดถอนของ จตุพร ณัฐวุฒิ และ อ.ธิดา" ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=yltf2v6JyXo )

ooo

ยิ่งลักษณ์ ลั่น ขอตายในสนามประชาธิปไตย
https://www.youtube.com/watch?v=JJfnNX-RwAU
Published on Feb 28, 2014

(28 ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ระบุว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจในการเจรจาแก­้ไขปัญหาประเทศ พร้อมแสดงจุดยืนในการเจรจาและให้มีการถ่าย­ทอดสดว่า

"สิ่งที่ดิฉันจะต้องถามกลับไปคือถ้าเ­ราได้มีการพูดคุยกัน โดยในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้รักษากติกา ก็ต้องพูดคุยกันในกรอบของกติกา กรอบของกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ ถ้าคุณสุเทพเห็นด้วยกับกรอบนี้ก็จะมีแนวทา­งในการแก้ไขปัญหาได้ แต่ถ้าบอกว่าไม่เห็นด้วยกับกรอบนี้แล้วจะไ­ม่ให้มีการเลือกตั้ง ไม่ให้รักษากติกาใดๆเลย แล้วเราจะคุยกันได้อย่างไร จึงเป็นที่มาว่าทำไมจะต้องหาผู้ที่มาร่วมก­ันคิดและแก้ไข เพราะถ้าต่างคนต่างตั้งเงื่อนไขทุกอย่างจะ­เดินไปได้ยาก

ขณะเดียวกันที่จำเป็นต้องพูดคำนี้ในการรัก­ษากติกา เพราะมีหลายคนถามว่าทำไมจึงพูดซ้ำแล้วซ้ำเ­ล่า ก็ต้องบอกว่าเราเป็นผู้รักษากติกา รักษาประชาธิปไตย ถ้าในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือ­เป็นทหาร ก็ต้องบอกว่าทหารต้องทำหน้าที่ของตนเองจนน­าทีสุดท้าย ทหารต้องรักษาพื้นที่ ต้องตายในสนามรบ วันนี้ดิฉันก็ต้องตายในสนามประชาธิปไตย
ooo

อดีตแกนนำเสื้อแดงทำใจมติถอน"ยิ่งลักษณ์" ยันไม่เคลื่อนไหว แต่เชื่อเสื้อแดงยังไม่ตาย

ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

เมื่อวันที่ 24 มกราคม น.ส.จีระนันท์ จันทวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงราย อดีตแกนนำกลุ่มลูกคนเมืองรักชาติ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งว่าคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ทำใจไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยืนยันว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับตามกระบวนการ ซึ่งคนเสื้อแดงจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆอย่างแน่นอน ซึ่งจริงๆแล้วคนเสื้อแดงก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวมานานแล้วนับตั้งแต่ คสช.เข้ามายึดอำนาจรัฐบาลและทำให้การเมืองต่างๆเงียบสงบลงไป ซึ่งลึกๆแล้วคนเสื้อแดงเองก็ไม่อยากให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายแต่ต้องการเห็นประชาธิปไตยเท่านั้น

น.ส.จีระนันท์ กล่าวว่าการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกถอนออกจากตำแหน่งก็ไม่มีผลอะไรกับคนเสื้อแดง เนื่องจากคนเสื้อแดงนั้นแดงทั้งแผ่นดินอยู่แล้ว เป็นเสื้อแดงที่อยู่ในหัวใจ แม้ไม่มีนายก หรือไม่มีพรรคเพื่อไทยประชาชนทั่วไปก็มีการเคลื่อนไหวโดยตัวของตัวเองอยู่แล้ว กลุ่มที่เป็นแกนนำเป็นเพียงผู้ประสานและจัดกิจกรรมให้เท่านั้น ซึ่งแม้ไม่มีรัฐบาล ไม่มีพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดงก็ไม่มีวันตายไปจากสังคมไทย เพียงแต่ว่าจะมีการแสดงออกหรือไม่เท่านั้น แต่ตอนนี้เพื่อความสงบของบ้านเมืองทุกฝ่ายก็หยุดเคลื่อนไหว

"ไม่ว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นเมื่อไหร่หรือมีรูปแบบการเลือกตั้งออกมาแบบไหน แต่หากตั้งอยู่บนพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่าประชาชนก็พร้อมที่จะออกใช้สิทธิ์เลือกตั้งและให้ความร่วมมือกับืกฝ่าย แต่หากวันไหนประชาชนเห็นว่าไม่เป็นธรรมก็คงจะออกม่เคลื่อน ซึ่งทางแกนนำไม่สามารถไปควบคุมอะไรได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล"น.ส.จีระนันท์กล่าวว่า