ท้ายที่สุด ย่อมไม่เหนือคาดหมาย ในทฤษฎี 'สมคบคิด'
เมื่อคะแนนในสภาลากตั้ง ๑๙๐ ต่อ ๑๘ เชือดยิ่ง (อุน-un) ลักษณ์ กระอักกระอ่วน
ลางบอกเหตุมีไว้ให้คิดตั้งแต่ (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1421977314)
"ขณะที่การพบปะกันระหว่างผู้นำคสช.กับผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญบ่อยครั้งในช่วงนี้หลังจากที่ผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญปิดบ้านในวันเกิดก็สามารถนำมาเชื่อมโยงเพื่อทำให้สัญญาณถอดถอนออกมาชัดเจนยิ่งขึ้นได้"
เสร็จแล้วลุกลามตามเหตุ โดยกูรูของโอเคเนชั่น (http://www.oknation.net/blog/kobkab/2015/01/24/entry-1)
"ทั้งหมดคือเกมที่ คสช.อ่านออก และชิงความได้เปรียบตัดทายาททางการเมืองคนสำคัญของตระกูลชินวัตร ในจังหวะที่ฝ่ายเพื่อไทยและผู้สนับสนุนไม่กล้าขยับ เพราะเกรงจะเสียหายกับยุทธศาสตร์ใหญ่ งานนี้ คสช.จึงมีแต่ได้ ไม่มีเสีย"
หากแต่ผู้ถูกกระทำมีคำตอบ (ภาพ ๒)
" ดิฉันขอยืนยันและมั่นใจในความบริสุทธิ์ของดิฉัน...ซึ่งในกระบวนการต่างๆ ได้ลิดรอนและตัดสิทธิขั้นพื้นฐานของดิฉัน ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่พึงได้รับ...
...แม้ว่าวันนี้ประชาธิปไตยไทยได้ตายไปแล้ว พร้อมกับหลักนิติธรรม แต่ขบวนการทำลายล้างยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องดังที่ดิฉันได้ประสบอยู่ขณะนี้...
...ในวันนี้ดิฉันไม่มีตำแหน่งอะไรเหลืออยู่แล้ว ยังคงเหลือแต่คดีความที่ถูกยัดเยียดไว้ให้ ที่ต้องไปสู้คดีในชั้นศาลต่อไป คำว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ ต้องไม่ใช่การไล่ล่าคนใดคนหนึ่ง"
และไม่บังเอิญที่อดีตนายกฯ หญิงอ้างถึง "ก่อนเวลาที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะเริ่มลงมติถอดถอนเพียง 1 ชั่วโมง อัยการสูงสุดก็ได้แถลงสั่งฟ้องดิฉัน ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่"
ประเด็นนี้มีที่มา ดังรายงานของสำนักอิศรา (http://www.isranews.org/isranews-scoop/item/36018-yingluck_927_01.html) บอกว่า
แม้ 'วุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์' รอง อสส. จะออกมาแถลงในวันที่ ๒๑ มกรา ๕๘ ว่าไม่ทราบเรื่องการประชุมร่วม ปปช. กับ อสส. ที่นายวิชา มหาคุณ อ้างว่าได้ข้อสรุปให้ อสส. ส่งฟ้องคดีอาญาต่อยิ่งลักษณ์
หากแต่นาย “สรรเสริญ พลเจียก” เลขาธิการ ปปช. ยืนยันว่ามีการประชุมจริง ระหว่าง ปปช. ๑๐ คน กับ อสส. ๓ คน
"อย่างไรก็ดีมี 'พรายกระซิบ' ระบุว่า การแจ้งหนังสือของ ปปช. เพื่อนัดประชุมคณะทำงานร่วมฯนั้น ดำเนินการด่วนใน 'ช่วงบ่าย' วันที่ ๑๙ มกราคม เพื่อเรียกประชุมในวันที่ ๒๐...
จึงเป็นเหตุให้ "บิ๊ก อสส.” รายหนึ่งยืนยันว่า แม้ฝ่าย ปปช. จะออกมาระบุว่ามีการส่งหนังสือเชิญประชุมครบหมดทุกคนแล้วก็ตาม แต่ปัจจุบันก็ยังไม่ได้เห็นแม้แต่ 'เงา' ของหนังสือเชิญดังกล่าวเลย"
ลงเอย 'มานะกะมานี' ยังจะมีต่ออีกไหม
ถามกวีประชาไท (http://www.prachatai.org/journal/2015/01/57550) เขาบอกว่า
"อีกห้าปี เพื่ออีปูว์ กูรอได้
ที่จะตาย คือพวกเฒ่า ไร้เงาหัว
เดี๋ยวก็มี แม้วคนใหม่ ให้มึงกลัว
ปราบไม่ทั่ว กูขอท้า อีกห้าปี!"