https://www.youtube.com/watch?v=2wCEzuxioC0&feature=share&fb_ref=share
ที่มา มติชนออนไลน์
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 มกราคม ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ถึงกรณีที่คสช.ทยอยเรียกนักการเมืองเข้ามารายงานตัว ว่า "ทำไม เมื่อวานก็ถามไปแล้วการเชิญตัวมาเป็นการไปกดดันใคร เรียกมาทำความเข้าใจเราจะไปกดดันเขาทำไม เราจะไปทำอะไรเขาล่ะ" เมื่อถามว่าการเชิญตัวมาครั้งนี้ให้ค้างคืนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปฏิเสธว่า ก็แล้วแต่ให้ฝ่ายความมั่นคงเขาพิจารณาดูในแต่ละคนที่เชิญมา แต่ถ้าให้นอนค้างคืนก็เปลืองข้าวด้วยนะ ไม่ได้อยากให้อยู่หรอก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับรายงานแล้วหรือยังว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารไปล็อกตัวนายสุรพงษ์โตวิจักษณ์ชัยกุลอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ร้านอาหารย่านเมืองทองธานีพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้สั่งไปแล้วว่าใครไม่เข้าใจออกมาพูดจาให้เกิดความเสียหาย ก็ให้เรียกมาคุยเพื่อทำความเข้าใจ เมื่อถามว่าไม่มีการออกหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อให้มารายงานตัวหรือ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ต้อง ให้คสช.เขาติดต่อแล้วเชิญมาเองคือไม่อยากทำให้เป็นเรื่องเป็นราวเป็นข่าวใหญ่โต เวลาจะเชิญมาก็ใช้การโทรศัพท์หากันเรียกมาพบมาพูดคุยมันจะเป็นอะไรถึงเวลาก็ปล่อย ต่อข้อถามว่าแต่การไปรับตัวถึงบ้านหรือร้านอาหารดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "แล้วทำไมล่ะ แล้วจะให้ไปเชิญที่ไหน เชิญที่ร้านค้าหรืออย่างไร หรือไม่เชิญตามส้วมตามห้องน้ำหรืออย่างไร ก็ต้องไปเชิญที่บ้านสิ หรือไปเชิญที่ร้านค้าเจอตรงไหนก็เชิญตรงนั้น"
เมื่อถามว่าแสดงว่าต่อไปนี้ใครที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ทางการเมืองก็จะถูกเชิญมาปรับทัศนคติและทำความเข้าใจใช่หรือไม่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าแล้วถูกหรือไม่ล่ะที่ออกมาพูดกันอย่างนี้มันสมควรที่จะพูดตอนนี้หรือก็เท่านั้นแหละจะมาถามให้เป็นเรื่องการอยู่ได้
เมื่อถามว่าแต่หลายฝ่ายมองว่าบรรยากาศเหมือนทหารกำลังเป็นฝ่ายกดดันพล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์โกรธว่า"ใครล่ะใครมองมีคนตรงไหนมองเช่นนั้นใครอึดอัดบ้างพลเรือนที่ไหนอึดอัด ไปถามคนจนดูบ้าง ดูอย่างวันนี้ถามสิว่าพวกเราประชุมอะไรกันเป็นเรื่องคนจนเรื่องของคนทั้งประเทศทั้งนั้น ไม่ได้พูดถึงเรื่องอำนาจผม ผมไม่ได้เป็นพวกบ้าอำนาจ ไม่เข้าใจกันสักที หาเรื่องกันอยู่นั่น เมื่อวาน (28 ม.ค.) ก็ครั้งหนึ่งแล้วถ่ายรูปได้อย่างไรผมก็ชี้นิ้วของผมไปเรื่อย ไอ้ห่า ถ่ายออกมาดีๆ ดันไปถ่ายผมชี้นิ้วอย่างนั้นอย่างนี้นี่แหละที่เขาบอกว่าจิตใจมันต่ำ ด่าที ไม่กลัวหรอกจะด่าแบบนี้จะทำไม"
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าไม่ว่าใครออกมาแสดงความคิดเห็นก็จะถูกเชิญตัวใช่หรือไม่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าก็ต้องไปชี้แจง"คราวหลังพวกคุณก็ต้องโดนด้วยถ้าถามมากๆ ล่ะก็ ถามไม่สร้างสรรค์ อยากถามว่ามันทำได้หรือไม่เล่าออกมาพูดขัดแย้งทัดทานอำนาจที่มีอยู่เต็มๆ ขนาดมีอำนาจอย่างนี้มันยังมาท้าทายแบบนี้ ถ้าไม่มีกฎอัยการศึกมันจะเกิดอะไรขึ้นทุกคนก็รู้ทั้งนั้นแหละ อยากให้เป็นเช่นนั้นหรือไม่ผมรู้ว่าพวกสื่ออยากให้เกิด ทุกๆ วันนี้จะได้ขายข่าวกันไง พวกท่านไม่เหนื่อยหรอก เขียนข่าวให้มันดีเขียนให้คนรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ไม่เช่นนั้นมันก็ตีกันอยู่อย่างนี้ ถามว่าสิ่งที่พวกเขาพูดวันนี้มันกดดันผมหรือไม่ ผมเป็นรัฐบาลผมมีอำนาจเต็มแล้วจะมาท้าทายอยู่แบบนี้ได้หรือไม่ ที่ปล่อยมาทุกวันนี้ก็เยอะไปแล้วนะแล้วยังจะทำต่อไปอีกหรือ เดี๋ยวจะไปเรียกมาอีกสำหรับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตอนเป็นรัฐมนตรีไม่เห็นจะทำ ไม่เห็นด้วยอย่างนั้นอย่างนี้ออกมาพูดอะไรว่ารัฐบาลจะต้องทำแบบนี้แบบนั้น แล้วเรื่องของพลังงานวันนี้มีปัญหาแค่ไหนแล้วทำไมตอนนั้นที่เป็นรัฐมนตรีถึงไม่ทำ พวกนี้จะต้องมาชี้แจงผมว่าแล้วทำไมไม่ทำ ทำอะไรกันอยู่
เมื่อถามว่าการที่คสช.เรียกบุคคลไปปรับทัศนคติถือเป็นครั้งที่สอง ถ้าครั้งต่อไปยังมีการฝ่าฝืนอีกจะมีโทษแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พูดไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วมันมีขั้นตอนอยู่ทั้งเรื่องห้ามออกต่างประเทศ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ระงับธุรกรรมทางการเงินการลงโทษมีหลายขั้นตอนก็อยากจะทำผิดก็ทำผิดกันไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมามีการผ่อนผันมาตลอด แล้วไม่ต้องมาถามกันอีก
เมื่อถามว่าดูเหมือนคสช.จะดุและเอาจริงเอาจังมากขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วจะทำไมก่อนหน้านี้ก็บอกว่าไม่ได้เรื่องพอเข้มขึ้นก็โมโห แล้วจะให้เป็นอย่างไรวะ ทุกอย่างมันก็เป็นไปตามสถานการณ์
เมื่อถามว่าการที่นักการเมืองออกมาแสดงความเห็นเช่นนี้เป็นการรบกวนการทำงานของรัฐบาลหรือไม่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า"ไม่กวนหรอกแต่รำคาญ"
เมื่อถามว่าจะเรียกใครมีชี้แจงเป็นรายต่อไปอีก รวมถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำคนเสื้อแดงด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครออกมาพูดก็เรียกทั้งหมด ส่วนนายณัฐวุฒินั้นก็มีคดีความที่ค้างอยู่ในศาลอยู่ก็ให้ศาลว่ากันให้จบไปก่อนก็คงห้ามทั้งหมด แล้วอย่ามาถามตนอย่างนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่นายกฯ อารมณ์ร้อนเป็นเพราะสถานการณ์ทางการเมืองรุมเร้าใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ไม่สนใจการเมืองทำไมใครจะมีปัญหาการเมืองวันนี้เราเป็นรัฐบาลก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถามว่าวันนี้ประชาชนทั้งประเทศต้องการอะไรขอให้บอกมาตนจะทำให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการให้สัมภาษณ์ของนายกฯในวันเดียวกันนี้เป็นไปอย่างดุเดือดโดยนายกฯได้แสดงอารมณ์โมโหทุบโต๊ะและเสียงดังหลุดคำสบถออกมาหลายครั้งทั้งคำว่าขี้ข้า ไอ้ห่า บ้า ทำไมวะ แต่ก็พยายามที่จะบอกว่าที่เสียงดังนั้นไม่ใช่ความโมโห แต่ในทางกลับกันทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของพล.อ.ประยุทธ์แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่ง
ooo
จาตุรนต์ เผย ถูกทหารเรียกเข้าค่ายก่อนบ่ายสาม โดยไม่ทราบเหตุผล
ที่มา ประชาไท
Thu, 2015-01-29 13:46
29 ม.ค. 2558 เวลาประมาณ 12.30 จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้โพสต์ข้อความ บนหน้าเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang โดยระบุว่า
“มีผู้สื่อข่าวบางรายโทรมาสอบถามว่าผมถูกเชิญไปกองทัพภาคที่ 1 บ่ายนี้ใช่หรือไม่ ขอเรียนให้ทราบว่าเมื่อตอนสายๆวันนี้มีนายทหารนายหนึ่งโทรมาหาผมแจ้งว่าได้ รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เชิญผมไปพบที่กองทัพภาคที่ 1 เวลาบ่ายสามโมงเพื่อพูดคุยด้วย แต่ไม่ทราบหัวข้อที่จะคุย ผมได้ตอบรับคำเชิญว่าจะไปที่กองทัพภาคที่ 1 ก่อนบ่ายสามโมงวันนี้ ผมไม่ทราบหัวข้อที่จะพูดคุย แต่ก็คิดว่าการได้พูดคุยกันก็น่าจะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่กำลังต้องการความคิดเห็นจากทุกฝ่ายสำหรับการแก้ปัญหา บ้านเมืองรวมทั้งการวางกฎกติกาต่างๆ ผมยินดีรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นรวมทั้งทางเจ้าหน้าที่และก็ยินดีที่จะ เสนอความคิดเห็นที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมซึ่งเป็นหลักปฏิบัติของผม เสมอมา”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่าน จตาตุรนต์ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น ต่อกรณี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกถอดถอน โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
นอกจากนี้ ผู้จัดการออนไลน์ รายงานถึงผู้ที่จะถูก คสช. เรียกเข้าปรับทัศนคติอีก เช่น นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา แต่ถ้าเชิญมาก็ยินดีที่จะไปพูดคุย เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่ได้พูดไปนั้น ตนพูดเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ได้พูดเพื่อสร้างความขัดแย้ง หรือสร้างความแตกแยก และเรื่องที่พูดส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของเศรษฐกิจที่ตนมีความเป็นห่วง จึงคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร
มีรายงานว่า ในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ทหารได้บุกเข้าเชิญตัวนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.การต่างประเทศ จากร้านอาหารแห่งหนึ่งบริเวณเมืองทองธานี เพื่อไปปรับทัศนคติในค่ายทหาร คาดว่าจะเป็นพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 เนื่องจากที่ผ่านมาทางทหารได้พยายามติดต่อนายสุรพงษ์แล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงต้องมีการเชิญตัวดังกล่าว แต่วานนี้ 28 ม.ค.นายสุรพงษ์อ้างว่ายังไม่ได้หมายเรียก
วันเดียวกันมีรายงานจาก จ.ขอนแก่น ว่า นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย ก็ได้เข้าพบทหารเพื่อรายงานตัวเช่นกัน
ล่าสุดมีรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นอีก 1 คนที่จะต้องรายงานตัวในวันที่ 30 ม.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม มติชนออนไลน์ ได้สอบถามไปยังนายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
29 ม.ค. 2558 เวลาประมาณ 12.30 จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้โพสต์ข้อความ บนหน้าเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang โดยระบุว่า
“มีผู้สื่อข่าวบางรายโทรมาสอบถามว่าผมถูกเชิญไปกองทัพภาคที่ 1 บ่ายนี้ใช่หรือไม่ ขอเรียนให้ทราบว่าเมื่อตอนสายๆวันนี้มีนายทหารนายหนึ่งโทรมาหาผมแจ้งว่าได้ รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เชิญผมไปพบที่กองทัพภาคที่ 1 เวลาบ่ายสามโมงเพื่อพูดคุยด้วย แต่ไม่ทราบหัวข้อที่จะคุย ผมได้ตอบรับคำเชิญว่าจะไปที่กองทัพภาคที่ 1 ก่อนบ่ายสามโมงวันนี้ ผมไม่ทราบหัวข้อที่จะพูดคุย แต่ก็คิดว่าการได้พูดคุยกันก็น่าจะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่กำลังต้องการความคิดเห็นจากทุกฝ่ายสำหรับการแก้ปัญหา บ้านเมืองรวมทั้งการวางกฎกติกาต่างๆ ผมยินดีรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นรวมทั้งทางเจ้าหน้าที่และก็ยินดีที่จะ เสนอความคิดเห็นที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมซึ่งเป็นหลักปฏิบัติของผม เสมอมา”
นอกจากนี้ ผู้จัดการออนไลน์ รายงานถึงผู้ที่จะถูก คสช. เรียกเข้าปรับทัศนคติอีก เช่น นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา แต่ถ้าเชิญมาก็ยินดีที่จะไปพูดคุย เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่ได้พูดไปนั้น ตนพูดเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ได้พูดเพื่อสร้างความขัดแย้ง หรือสร้างความแตกแยก และเรื่องที่พูดส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของเศรษฐกิจที่ตนมีความเป็นห่วง จึงคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร
มีรายงานว่า ในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ทหารได้บุกเข้าเชิญตัวนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.การต่างประเทศ จากร้านอาหารแห่งหนึ่งบริเวณเมืองทองธานี เพื่อไปปรับทัศนคติในค่ายทหาร คาดว่าจะเป็นพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 เนื่องจากที่ผ่านมาทางทหารได้พยายามติดต่อนายสุรพงษ์แล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงต้องมีการเชิญตัวดังกล่าว แต่วานนี้ 28 ม.ค.นายสุรพงษ์อ้างว่ายังไม่ได้หมายเรียก
วันเดียวกันมีรายงานจาก จ.ขอนแก่น ว่า นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย ก็ได้เข้าพบทหารเพื่อรายงานตัวเช่นกัน
ล่าสุดมีรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นอีก 1 คนที่จะต้องรายงานตัวในวันที่ 30 ม.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม มติชนออนไลน์ ได้สอบถามไปยังนายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด