ผู้แถลง: ดร.โสภณ
พรโชคชัย
ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
เราอยากให้สร้างรถไฟฟ้ากันมาก แต่ที่เราคิดจะสร้างนั้นเหมาะสมหรือไม่
หรือเราถือคติว่า "กำขี้ ดีกว่ากำตด" คือได้สร้างก็ยังดี ขณะนี้รัฐบาล คสช. ก็คิดสร้างรถไฟฟ้าตามคำ 'เพ็ดทูล'
ของข้าราชการประจำเหมือนกับรัฐบาลชุดที่ผ่านมาอีกแล้ว
เรามาวิพากษ์กันให้ชัดเจนว่าจะสร้างตรงไหนดี
รถไฟฟ้าสายบางซื่อ-ตลิ่งชัน รถไฟฟ้าสายนี้เริ่มต้นจากบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนสวนผัก
ไปตามแนวเส้นทางรถไฟ จากนั้นจะเป็นโครงสร้างยกระดับ ข้ามถนนจรัลสนิทวงศ์
แม่น้ำเจ้าพระยา ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ถนนกรุงเทพ - นนทบุรี ถนนประชาชื่น
ข้ามคลองประปา สิ้นสุดที่จุดเชื่อมต่อกับโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง)
ช่วงบางซื่อ – รังสิต ที่สถานีกลางบางซื่อ หลายท่านอาจไม่รู้ว่าสร้างเสร็จ (เกือบ) 100% แล้ว
เคยเอารถมาทดลองวิ่งแล้ว แต่อาจไม่ได้เปิดใช้เพราะยังไม่มีรถไฟฟ้า
อนาถไหมครับ
รถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ รถไฟสายนี้กำลังจะแล้วเสร็จแต่ไม่รู้จะได้วิ่งเมื่อไหร่จะล่าช้าหรือไม่ ที่สำคัญตลอดเส้นทางที่รถไฟฟ้านี้วิ่งผ่านชุมชนหมู่บ้านต่างๆ
ที่มีความหนาแน่น ไม่มากนัก จะคุ้มค่าทางเศรษฐกิจขนาดไหน แต่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเราได้รับการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ
นานาเพื่อขายโครงการที่อยู่อาศัยในย่านนี้ แต่ในความเป็นจริงการเดินทางจากบางใหญ่เข้าถึงสีลมอาจต้องใข้เงินไปกลับด้วยรถไฟฟ้านี้ถึงราว
200 บาทต่อวันชาวบ้านจะสู้ไหวไหม แถมใช้เวลาเดินทางนับชั่วโมง (ก็คล้ายรถไฟหวาน เย็นธรรมดาแต่ติดแอร์เท่านั้น)
รถไฟฟ้าสายสีม่วงบางซื่อ-ราชบูรณะ ที่ควรสร้างก็คือจากบางซื่อวิ่งไปตามถนนสามเสนถึงเทเวศน์ ผ่านมานางเลิ้ง
เข้าราชวงศ์ ข้ามสะพานพระปกเกล้า ผ่านถนนสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีสิ้นสุดที่ราชบูรณะ แต่รถไฟฟ้าสายนี้แทบไม่มีความคืบหน้าเลย อันที่จริง ช่วงจากบางซื่อถึงเทเวศน์มีดำริจะสร้างมานาน ถือเป็นเส้นที่ดีที่สุดเส้นหนึ่งเพราะมีคนใช้สอยมาก สัญญารถไฟฟ้าก็ลงนาม ในสมัย ‘น้าชาติ’ 2 วันก่อน รสช. มา พอ
รสช.มา ก็หาว่า 'น้าชาติโกง' ยกเลิกรถไฟฟ้าสายนี้ไปทั้งที่เป็นสายที่มีประโยชน์
กลับไปสร้างรถไฟฟ้าบีทีเอสที่ผ่านพื้นที่ๆ แทบไม่ค่อยมีคนเลย
รถไฟฟ้าสายสีชมพู รถไฟสายนี้สร้างจากแยกแคลาย
ย้อนขึ้นไปแยกปากเกร็ด แล้ววิ่งไปทางตะวันออกตามถนนแจ้งวัฒนะ ผ่านศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะต่อไปยังถนนรามอินทราถึงมีนบุรีหะแรกดูตามโครงการนี้ก็ดีเหมือนกันที่จะมีรถไฟฟ้าผ่านแถวศูนย์ราช การแจ้งวัฒนะที่รถติดวินาศสันตะโร บ้านเราก็แปลกมีศูนย์ราชการทั้งทีก็ไม่มีปัญญาเชื่อมทางด่วนโทลเวย์กับทางด่วนแจ้งวัฒนะ เข้าหาศูนย์ราชการ รถไฟฟ้าก็ควรมีเชื่อมกับสายสีม่วง สายบีทีเอส
และสายเอ็มอาร์ที
แต่หากดูให้ดีๆ แล้วรถไฟฟ้าสายนี้ไม่รู้จะสร้างไปทำไม
เพราะสร้างในเส้นทางที่ไม่ได้เข้าเมือง ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันระหว่างคนจากแคลาย
ปากเกร็ด กับมีนบุรีเลย ไม่ทราบสร้างไปหาญาติใครแถวนั้น
รถไฟฟ้าที่ดีต้องวิ่งในเมือง
หรืออย่างน้อยก็ต้องวิ่งเข้าเมืองเพื่อขนส่งคนมาทำงาน แต่นี่กลับวิ่งจากจุดนอกเมืองจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและสังคมใดๆ
เลย
รถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟสายนี้วิ่งจากตลิ่งชันข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
ผ่านสนามหลวง ยศเส เพชรบุรี ประตูน้ำ วิภาวดี ดินแดง ศูนย์วัฒนธรรม บางกะปิ
จบที่สุวินทวงศ์ นับเป็นรถไฟฟ้าที่มีประโยชน์อย่างยิ่งยวด ผ่าเข้าใจกลางเมืองโดยตรงเลย แต่รถไฟฟ้าสายนี้คงอีกนานกว่าจะได้สร้าง ดูอืดๆ แต่ที่สำคัญก็คือช่วงจากบางกะปิไปถึงสุวินทวงศ์ซึ่งมีระยะทางราว 1/3
ของทั้งหมด อาจไม่จำเป็นต้องสร้าง
เพราะยังมีจำนวนประชากรค่อนข้างเบาบางกว่าเมื่อเทียบกับบริเวณอื่น
รถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายด้านเหนือ
จากลาดพร้าวไปตามถนนพหลโยธินถึงลำลูกการถไฟฟ้าเส้นนี้ไม่ควรสร้าง!!! แต่มี ‘ลุ้น’ มากที่สุดเส้นหนึ่ง
เพราะเป็นการเชื่อมสัมปทานเดิม ขณะนี้รัฐบาลกำลังสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงไปรังสิต ดังนั้นหากสร้างรถไฟฟ้าบีทีเอสไปสะพานใหม่ขนานกันและห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร
ก็น่าจะมีเส้นใดเส้นหนึ่งที่ ‘เจ๊ง’
อย่างแน่นอนเพราะแข่งขันกันเอง ถ้าจะสร้างรถไฟฟ้าไปเข้าลำลูกกาจริง
(ถ้ามีผู้ใช้บริการเพียงพอ) ก็ควรสร้างเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดงที่ดอนเมือง น่าจะเหมาะสมกว่า ไม่ต้องไปเอื้อภาคเอกชนนัก
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-บางนา รถไฟฟ้าสายนี้มาจากบริเวณแยกรัชดา- ลาดพร้าวไปบางกะปิ
วิ่งลงใต้ไปตามถนนศรีนครินทร์ และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางนา สิ้นสุดที่สี่แยกบางนา แต่เดิมรถไฟฟ้าสายนี้จะสร้างเสร็จในปีพ.ศ. 2572 ซึ่งผมเองก็ยังไม่รู้จะอยู่จนได้ใช้หรือไม่ แต่ทางราชการว่าจะทำให้เสร็จภายในปี 2562 ซึ่งผมก็ไม่เชื่อนักว่าจะทำได้
ดังนั้นก่อนที่เราคิดจะลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ใดๆ ตามแนวรถไฟฟ้านี้
ก็พึงเผื่อใจไว้บ้าง ที่สำคัญรถไฟฟ้าสายนี้ช่วงถนนศรีนครินทร์อาจไม่มีความจำเป็นนักเมื่อเทียบกับถนนสายอื่นๆ
ในกรุงเทพมหานคร
เพราะขณะนี้ถนนศรีนครินทร์ก็ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามลำดับ
รถไฟฟ้าสายสีเทา รถไฟฟ้าสายนี้วิ่งจากแยกวัชรพลถึงสะพานพระรามที่ 9
ผ่านถนนเอกมัย-รามอินทรา ทองหล่อ สุขุมวิท 38
พระรามที 4 คลองเตย พระรามที่ 3 และรัชดาภิเษก (ช่วงที่ตัดกับสาธุประดิษฐ์) รถไฟฟ้าสายนี้น่าจะมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งเพราะสามารถเชื่อมเข้าเมืองได้ดี และเพื่อการใช้ประโยชน์สูงสุด น่าจะสร้างจากช่วงลาดพร้าวมาก็พอ ไม่ต้องไปถึงรามอินทราซึ่งยังมีประชากรน้อยอยู่ รถไฟฟ้าเส้นนี้จะทำให้ใจกลางเมืองได้รับการเชื่อมต่อกันมากขึ้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามรถไฟฟ้าเส้นนี้วางแผนที่จะสร้างเสร็จในปี
2572 ซึ่งผมอาจอยู่ไม่ถึงวันนั้น แต่กรุงเทพมหานครก็จะรับเป็นเจ้าภาพกระตุ้นให้เร็วขึ้น
ซึ่งคงต้องคอยดูกันต่อไป
รถไฟฟ้าสายสีฟ้า รถไฟฟ้าสายนี้เชื่อมระหว่างดินแดง-สาทร เป็นรถไฟฟ้าแบบมวลเบารางเดี่ยว
จากเคหะชุมชนดินแดง ย่านมักกะสัน ไปยังถนนวิทยุ และถนนสาทร รวมระยะทาง 9.5
กิโลเมตร แต่รถไฟฟ้าสายนี้เป็นอีกหนึ่ง ‘ความฝัน’ ซึ่งไม่รู้ว่าจะลมๆ แล้งๆ หรือไม่ เพราะเป็นแผนปี
พ.ศ.2572ถือเป็นรถไฟฟ้าสายที่มีประโยชน์มากเพราะเชื่อมต่อย่านธุรกิจใจกลางเมือง รถ ไฟฟ้าดีๆ อย่างนี้อาจไม่ได้สร้าง
หรืออาจสร้างช้ากว่า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะงบประมาณน้อยไม่คุ้มกับ
‘เงินทอน’ ?!?
ราคาที่ดินรอบรถไฟฟ้าพุ่ง จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) พบว่า ราคาที่ดินโดยรอบสถานีรถไฟฟ้า 112
สถานีตามแนวรถไฟฟ้า 10 สายในเขตกรุงเทพมหานคร ราคาพุ่งขึ้น 178% หรือเท่ากับปีละ 8.9% ณ ปี 2553 จนบัดนี้ปี 2557 ราคาก็คงพุ่งสูงกว่าเดิมเป็น 251%
จากราคาเดิม 100%
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์
เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ยังพบว่า
โดยที่มีสถานีรถไฟฟ้าทั้งหมด 41 สถานี จึงคาดว่าในช่วง 10
ปีที่ผ่านมาราคาที่ดินได้เพิ่มขึ้นมากถึง 404,105 ล้านบาท ณ
ปี 2552 แต่หากนับถึงปี 2557 ก็น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น
621,513 ล้านบาท เฉพาะเงินที่เพิ่มขึ้นนี้ หากจัดเก็บภาษีสัก
20% ก็นำมาสร้างรถไฟฟ้าได้ใหม่ได้หลายสายเลยทีเดียว
ข้อคิดสำคัญเชิงนโยบายที่น่าสนใจ ที่ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้เคยนำเสนอไว้โดยสรุปก็คือ
1. การที่ราคาที่ดินบริเวณแนวรถไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วนี้
แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ทางการเงินในการสร้างโครงการรถไฟฟ้าเป็นอย่างยิ่ง
เพราะคุ้มค่ากับเศรษฐกิจโดยรวมเป็นอย่างยิ่ง
2. การที่ราคาที่ดินรอบรถไฟฟ้าบีทีเอสเพิ่มสูงกว่ารถไฟฟ้าใต้ดินนั้น
ส่วนหนึ่งชี้ให้เห็นการสร้างรถไฟฟ้ายกระดับไม่ใช่ ‘ทัศนะอุดจาด’
สามารถที่จะสร้างได้ หากสามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
ดังนั้นจึงควรสร้างเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการสร้างโดยไม่สนใจต่อกลุ่มนักอนุรักษ์ใดๆ
3. การสร้างรถไฟฟ้าควรสร้างในใจกลางเมืองหรือเขตต่อเมืองเป็นสำคัญ ไม่ใช่สร้างออกนอกเมือง
ซึ่งควรเป็นบทบาทของทางด่วนมากกว่า
สำหรับการสัญจรโดยทางด่วนมีค่าโดยสารถูกกว่ารถไฟฟ้าในกรณีนอกเมือง เนื่องจากทางด่วนยังมีรถประจำทาง
รถตู้ทางด่วน ซึ่งค่าโดยสารต่ำกว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายชานเมือง ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เงินเดินทางเกือบร้อยบาทต่อเที่ยวในการต่อสายเข้าใจกลางเมือง
4. การที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเช่นนี้
เป็นข้อสนับสนุนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ยิ่งหากสามารถจัดเก็บได้ประมาณ 1-2% ของมูลค่า
ก็ยิ่งจะมีเงินงบประมาณเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นยิ่งขึ้นและยิ่งทำให้ท้องถิ่นเจริญเติบโต ราคาที่ดินจะยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นตามลำดับ ทำให้ไม่เป็นภาระแก่ผู้เสียภาษีแต่อย่างใด