https://www.youtube.com/watch?v=zfsFiH_y_gI
Published on Nov 20, 2014
2014/11/20 2 ใน 5 นศ.มข.ไม่รับเงื่อนไขทหารห้ามต้านรัฐประหาร ด้านคณบดียันลูกศิษย์ทำถูกต้อง
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - 2 ใน 5 นศ.มข.ต้านรัฐประหารกลุ่มดาวดิน ยอมเซ็นรับเงื่อนไขไม่เคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์ป่วนเมืองอีก ขณะที่อีก 3 คนเมินทำข้อตกลง ยันทำถูกต้องแล้ว ด้านคณบดีคณะนิติศาสตร์อุ้มสุดลิ่ม มองเป็นแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน
http://www.manager.co.th/Local/ViewNe...
Official Website : http://www.manager.co.th
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
20 พฤศจิกายน 2557
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - 2 ใน 5 นศ.มข.ต้านรัฐประหารกลุ่มดาวดิน ยอมเซ็นรับเงื่อนไขไม่เคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์ป่วนเมืองอีก ขณะที่อีก 3 คนเมินทำข้อตกลง ยันทำถูกต้องแล้ว ด้านคณบดีคณะนิติศาสตร์อุ้มสุดลิ่ม มองเป็นการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน
ความคืบหน้ากรณีที่ 5 นักศึกษากลุ่มดาวดิน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) บุกชู 3 นิ้วต่อต้านรัฐประหารต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขณะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (19 พ.ย.) ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อปรับทัศนคติ
ล่าสุด บ่ายวันนี้ (20 พ.ย.) ทหารต้องใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงเพื่อเจรจาตามการนัดเรียกนักศึกษาทั้ง 5 คน พร้อมผู้ปกครองและคณบดีคณะนิติศาสตร์ มข. ร่วมประชุมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด ทหาร และตำรวจ เพื่อพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากการปรับทัศนคติตลอดช่วงเย็นที่ผ่านมานักศึกษาทั้ง 5 คนไม่ยินยอมในข้อตกลงว่าจะไม่เคลื่อนไหวก่อกวนต่อต้านรัฐประหาร
อย่างไรก็ตาม จากการหารือทำความเข้าใจกับผู้ปกครองนักศึกษาทั้ง 5 คน ได้ข้อสรุปว่ามีนักศึกษา 2 คนที่ยอมลงลายมือชื่อรับตามเงื่อนไขว่าจะไม่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารอีก คือ นายเจตษฤษติ์ นามโคตร (จูเนียร์) และนายพายุ บุญโสภณ (พายุ) ขณะที่นักศึกษาอีก 3 คนไม่ยินยอมรับเงื่อนไข เพราะมั่นใจว่าที่พวกเขาแสดงออกนั้นถูกต้อง ประกอบด้วย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (ไผ่) นายวสันต์ เสตสิทธิ์ (โต้ง) และนายวิชชากร อนุชน (ฟลุค)
นายกิตติบดี ใยพูล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่ทางทหาร ตำรวจ และทางผู้ว่าราชการจังหวัด ให้โอกาสนักศึกษาในการปรับความเข้าใจ และไม่เอาผิด โดยให้นักศึกษากลับไปเรียน และเป็นกำลังหลักในสังคมต่อไป ทั้งนี้มองในฐานะผู้ปกครองคนหนึ่ง คือ การปกป้องนักศึกษา ที่สำคัญตนยังยืนยันไม่ได้ว่านักศึกษาจะมีการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารอีกหรือไม่ เพราะถือเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของนักศึกษา การเข้าถึงข้อกฎหมาย ข้อจำกัดทางกฎหมาย หรือกาลเทศะของบ้านเมืองนั้น ตนว่านักศึกษามีความเข้าใจมากขึ้น ทั้งนี้ หากนักศึกษามีการต่อต้านเคลื่อนไหวอีกก็ให้เป็นไปตามกรอบกฎหมาย เพราะทางมหาวิทยาลัยมีหน้าที่ให้เฉพาะแค่การศึกษาเท่านั้น
ด้านนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (ไผ่) ที่ไม่ยอมลงนามยอมรับเงื่อนไข กล่าวว่า ก่อนปฏิบัติการครั้งนี้พวกตนมีการวางแผนกันไว้ล่วงหน้าก่อนนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ 1 วัน โดยติดสติกเกอร์ลงเสื้อคำว่า ไม่ เอา รัฐ ประ หาร ส่วนใบปลิว “อีสานไม่ต้อนรับเผด็จการ” ไม่ใช่ฝีมือของพวกตน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพวกตนต้องการยืนยันว่าไม่ยอมรับอำนาจรัฐบาล และถึงอย่างไรก็จะไม่ยินยอมตามข้อตกลงทั้ง 3 ข้อ ได้แก่ ยอมรับในสิ่งที่เราทำ จะไม่เคลื่อนไหวต่อไป และหากมีการเคลื่อนไหวยินยอมให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ส่วนการเคลื่อนไหวต่อไปจากนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเมื่อไร แต่ไม่สามารถหยุดได้ ทั้งนี้อยู่ที่ความกล้าของพวกเรา เพราะมองว่าไม่ควรปล่อยให้มีความอยุติธรรมที่สังคมถูกปิดหูปิดตาต่อไปไม่ได้” นายจตุภัทร์กล่าว
นายวิบูลย์ บุณภัทรรักษา ผู้ปกครองนายจตุภัทร์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องร่วมกันในสังคม จะปล่อยให้คนใดคนหนึ่งมาแสดงความเห็นตนเองถูกต้องเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เราต้องมองโดยรวมว่า ในเชิงตรรกะการที่มีเจตนาจะปฏิรูปประเทศ และให้สังคมดีขึ้น ทำไมระหว่างทางระเกะระกะ ผมมองว่าสวนทางกับเป้าหมายที่ประกาศไว้ การกระตุกสังคมของลูกชายและเพื่อนด้วยการแสดงออกไม่ยอมรับอำนาจรัฐบาลที่มาจากรัฐประหารในครั้งนี้ตนเห็นด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 5 คน แม้จะมีอีก 3 คนที่ไม่ลงนามยินยอมตามเงื่อนไขที่ฝ่ายทหารเสนอนั้น ท้ายที่สุดก็ไม่มีการดำเนินคดีจากฝ่ายทหาร หรือแม้แต่ทางมหาวิทยาลัย ทุกคนสามารถกลับไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ