วันศุกร์, พฤษภาคม 31, 2567

‘ดีล’ ทักษิณเป็นพิษ กระทบทั้งการถูกฟ้อง ม.๑๑๒ และชะตา ‘เศรษฐา’ ในตำแหน่งนายกฯ



ที่ทักษิณเคยพูดว่า กม.อาญา ม.๑๑๒ โดยตัวของมันเองไม่เป็นปัญหา (เขาจึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องแก้ไข) แต่ปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้ ถูกนำมาเป็นเครื่องมือทำร้ายทำลายกันทางการเมือง ดังเช่นที่เขากำลังโดนอยู่ขณะนี้

ทักษิณเลือกที่จะไม่คิดยาวในเรื่องนี้ว่าปัญหาที่ตัวกฎหมายเองมีอยู่ หนึ่งการให้ใครก็ได้ฟ้องใครก็ได้ แล้วตำรวจรับเรื่อง อัยการต้องฟ้อง และศาลมักตัดสินตามคำฟ้อง รวมทั้งมากกว่า คือปฏิเสธให้ประกันตัว ปล่อยชั่วคราวออกไปสู้คดี

ประการที่สองระวางโทษมากกว่าความผิด (อาญาฐานหมิ่นประมาท ไม่ใช่ความผิดทางความมั่นคงของชาติ) แต่ละกระทงคุก ๓-๑๕ ปี ผู้ถูกกล่าวหาบางคนโดนถึง ๔๐ กว่าปีก็มี ผสมผเสกันแล้วใครโดน ๑๑๒ ตายทั้งเป็น อย่าได้หวังจะไปผุดไปเกิด

วิจารณ์กันมากว่า ม.๑๑๒ ของทักษิณครั้งนี้เป็นเพราะ ดีล มีพิษตามธรรมดาของการทำสัญญากับปีศาจ รายการ ข่าวข้นคนข่าวของเนชั่นทีวี ยกเอาข้อวิพากษ์ของ จตุพร พรหมพันธุ์ และ ธนพร ศรียากูล มาเป็นหัวเชื้อว่าสุดท้ายดีลกันต่อได้

แต่ต้องมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ ซึ่งไม่ใช่เป็น อุ๊งอิ๊งหากเป็นคนในพรรคอันดับสี่ มารับตำแหน่งขัดตาทัพชั่วคราว เพราะฝ่ายอนุรักษ์หรืออำนาจเก่ายังไม่มีตัวในตอนนี้ นี่เป็นดีลที่ เจ้าสัวใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการเมืองไทยช่วงนี้เป็นคนสั่ง

เจ้าสัวคนดังกล่าว มีบทบาทในการฟ้องร้อง ส.ส.คนดังของก้าวไกล ฐานที่เปิดโปงกระบวนการฮั้วและตั๋วการเมือง นอกนั้นยังชักใยการเมืองในทางโจมตีกลุ่มเยาวชนเรียกร้องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ดังเช่นการ์ตูนลิงซึ่งเพิ่งโผล่ออกมา

การ์ตูนลิงดูหมิ่นแคลนจำเลยคดี ๑๑๒ ที่อดอาหารประท้วง แสดงถึงจุดยืนเจ้าของสำนักข่าว Spacebar ว่าต่อต้านการเรียกร้องแก้ไขกฎหมายหมิ่นกษัตริย์เพียงใด เจ้าสัวคนนี้นี่เอง ว่ากันว่ากำหนดดีลเปลี่ยนตัวยนายกฯ และช่วยทักษิณหลุดคดีด้วย

(https://www.youtube.com/watch?v=eZNkQRYlBAo...) 

กทม.ฉลองบริหารงานครบสองปี ให้คะแนนตัวเอง ๕/๑๐ พร้อมไปกับการเปลี่ยนป้ายไอคอนบนสะพานข้ามแยกปทุมวัน ที่กลายเป็นของเล่นชาวบ้านทำ ‘มีม’

ป้าย ‘Bangkok City of life’ เดิมบนสะพานข้ามแยกปทุมวัน ซึ่ง กทม.ใช้งบฯ ๓ ล้านจ้างออกแบบใหม่ เปลี่ยนฟ้อนต์เปลี่ยนคำเป็น กรุงเทพฯ Bangkok’ เพิ่มสีสันเต็มพื้นหลัง กลายเป็นของเล่นชาวบ้านแปลงภาพเป็น มีม ต่างๆ นานา

อันที่ได้อารมณ์ขัน และไม่ใช้ข้อความโหดๆ เหมือนอื่น เราเห็นว่าน่าจะยกนิ้วโป้งให้ ไข่แมวx’ เอาไปปลื้ม เขาใช้ข้อความเดิม อักษรวิจิตร ล้อมกรอบด้วยลายกนก รวมทั้งฉากหลัง เปรียบเทียบกันแล้วเหมือนดั่ง มอเดิร์น กับ โบราณ

สำหรับที่มาของป้ายใหม่ ซึ่งเพจ MGR Infographics บอกว่า “ชาวเน็ตต่างวิจารณ์จำนวนมากว่าไม่สวย เหมือนป้ายห้างค้าปลีกชื่อดัง หรือไม่ก็ป้ายกีฬาสี ไม่มีเอกลักษณ์ ไม่มีความคลาสสิก ไร้รสนิยม” แบบอักษรเป็น Sao Chingcha (เสาชิงช้า)

ฟาร์มกรุ๊ป คือบริษัท “ที่รับหน้าที่ออกแบบอัตลักษณ์ใหม่ให้กรุงเทพมหานคร โดยมีพื้นหลังคือสีเขียวมรกต ส่วนภาพเวกเตอร์ดอกไม้สองดอกที่อยู่ด้านข้าง มาจากภาพแนวอิลลัสเตรชัน (illustration) นำมาจาก วัชระ ซึ่งเป็นอาวุธประจำกายของพระอินทร์”

จะวิจารณ์กันอย่างไรก็ตาม ผู้บริหาร กทม.ชุดนี้ทำงานมาครบ ๒ ปีแล้ว ให้คะแนนตนเอง ๕/๑๐ อ้างว่ายังมีงานค้างต้องทำอีกมาก ที่ผ่านมาเชื่อว่าทำให้เมืองมีประสิทธิภาพ และคุณภาพชีวิตดีขึ้น จากผลของการใช้แอ๊พ Traffry Fondue รับร้องทุกข์ออนไลน์

อ้างว่าแก้ไขปัญหาได้ ๔๖๗,๗๔๓ เรื่อง จากจำนวนร้องเรียนทั้งหมด ๕๙๒,๗๖๘ เรื่อง เท่ากับสำเร็จ ๗๙% ยังเหลือต้องแก้ไขต่อไปอีก ๕๘,๔๕๖ เรื่อง จ่ายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องไปแล้ว ๔ หมื่นกว่าเรื่อง กำลังอยู่ระหว่างติดตามผลอีก ๑๑,๕๔๕ เรื่อง

ผลงานสำคัญที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คุยว่า จ่ายหนี้รถไฟฟ้าบีทีเอสชุดแรกไปแล้ว ๒๓,๐๐๐ ล้านบาท และโอนกรรมสิทธิ์ส่วนต่อขยายมาเป็นของ กทม. มิน่าถึงได้มีการเปลี่ยนป้ายไอคอนกรุงเทพฯ เพื่อเฉลิมฉลองละมัง

(https://thaipublica.org/.../chatchart-sitthiphan.../ และ https://www.facebook.com/Coco.Infographics/posts/U4vJ1Z2z) 

กกต.ตัดรายชื่อผู้สมัคร สว.๖๗ ออกไปกว่า ๒ พัน ว่าคุณสมบัติไม่ผ่าน โดยเฉพาะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองถึงพันสี่ หลายรายเพราะเหตุสุดวิสัย

บ่องตง ไอ้เลือก สว.ชุดใหม่แบบไขว้ เลือกกันเองในหมู่สาขาอาชีพ นี่เรื่องมากชิบ กฎระเบียบหยุมหยิม แล้วยังแก้โน่นรื้อนี่ ประดุจดัง กกต.เล่นปาหี่ ล่าสุดนี่เอาอีกแล้ว

กกต.เสร็จสิ้นการตรวจคุณสมบัติผู้สมัคร แล้วประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการตรวจสอบ สี่หมื่นกว่าคน ปรากฏว่ามีผู้ที่ไม่ผ่านการตรวจของ กกต. ๒,๐๒๑ คน ถูกตัดสิทธิเพราะขาดคุณสมบัติอย่างใอย่างหนึ่ง พบว่าส่วนใหญ่คือ

การเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งมีถึง ๑,๔๐๒ คน ถูกลบชื่อออกไป แต่ไม่ได้หมายความว่าการตรวจของ กกต.ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป ผู้สมัครหลายคนได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแล้ว ไม่ว่าจะลาออกต่อพรรคหรือต่อ กกต.

ระเบียบการได้มาซึ่ง สว.ตาม พรป.ฉบับ พ.ศ.๒๕๖๑ บอกว่าการลาออกไม่มีระยะเวลาเว้นวรรค คือลาออกก่อนไปสมัครวันเดียวก็ได้ ก็ยังพบว่ารายหนึ่งลาออกจากพรรคการเมือง ๒๑ พฤษภา แล้วไปสมัคร สว.๖๗ ในวันที่ ๒๔ พ.ค.

ทั้งที่สถานะการลาออกเป็นผลแล้วก่อนสมัคร ก็ยังปรากฏว่าชื่อหายไป ทั้งนี้อาจเป็นความผิดพลาดทางเทคนิคอะไรสักอย่าง เพราะระบบของ กกต.อัปเดทข้อมูลการลาออกไม่ทัน หรือนายทะเบียนพรรคการเมืองรายงานการลาออกช้าไป

นอกจากผู้ที่ชื่อหลุดหายสามารถยื่นหนังสือร้องทวงสิทธิต่อศาลฎีกาแล้ว กกต.ควรหาวิธีอื่นมาเสริมเพื่อแก้ไขการเสียสิทธิโดยใช่เหตุของผู้สมัคร ให้ได้โดยเร็วที่สุด ไอลอว์แนะว่า กกต.อาจจะสละเวลาตรวจสถานะของผู้สมัครอีกครั้ง

อย่างน้อยๆ ให้มั่นใจว่าไม่มีใครต้องตกหล่นไปจากรายชื่อผู้สมัคร ด้วยเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่ความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

(https://www.ilaw.or.th/articles/38294 และวิธีร้องเรียนต่อศาลฎีกา >https://www.ilaw.or.th/articles/38142)

“อานันท์ ปันยารชุน มองเห็น ‘เด็กในคุก’ แล้ว รอว่าสักวันเขาจะพูดถึง ‘ช้างในห้อง’ บ้าง”

ควันหลงจากวลีเขย่าเหล่าอำมาตย์ โดยเฉพาะในหมู่ตำรวจและตุลาการ ของ อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ พระราชทาน ผู้ได้ฉายา ผู้ดีรัตนโกสินทร์ที่ว่า “สนุกมากนักหรือ จับเด็กเข้าคุกนี่”

สุรพศ ทวีศักดิ์ มีข้อคิดต่อยอด “อานันท์ ปันยารชุน มองเห็น เด็กในคุก แล้ว รอว่าสักวันเขาจะพูดถึง ช้างในห้อง บ้าง” นั่นสินะ จะมีวันนั้นไหม ในเมื่อช้างในห้องตัวนั้นกับตัวนี้ มันคนละตัวกัน

นี่เป็นถ้อยปราศรัยของนายอานันท์ ในงานเสวนาเรื่อง ฉากทัศน์อนาคตสังคมไทยในหัวข้อ “เราจะร่วมเปลี่ยนแปลงสังคมไทยได้อย่างไร” ในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปีสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

“ทุกวันนี้เห็นผิดเป็นชอบ เห็นชั่วเป็นดี ชอบโกหก มีแต่พวกหิวแสง เด็กและเยาวชนไปอยู่ต่างประเทศ ทั้งที่อนาคตของประเทศไทย คือ เยาวชน...แล้วเด็กเมืองไทยก็เข้าคุกกันเป็นประจำ

สนุกมากนักหรือ จับเด็กเข้าคุกนี่ สนุกมากนักหรือเห็นเด็กถูกทรมานที่ไม่ได้รับประกัน ถามตัวเองเสียบ้างสนุกยังไง ทำได้อย่างไร ไม่ละอายใจตัวเองบ้างเหรอ ทีโกงกินไม่อาย ไม่มีหิริโอตัปปะ

จับเด็กเข้าคุกเป็นว่าเล่น ผมไม่ได้บอกว่าเด็กทำถูกทุกอย่าง เหมือนอย่งเรามีลูกเนี่ย ลูกไม่ดี ครอบครัวผมไม่มีการตี ก็เรียกมาสั่งสอนทำโทษให้อยู่ในห้อง ๒๔ ชั่วโมงอะไรแบบนั้น แต่เราจับเด็กเข้าคุกนะ

ถ้าเผื่อสังคมมันถึวจุดที่เรียกว่า การให้เด็กเข้าคุกนี่เป็นของสนุก เป็นของที่เป็นธรรม มันจะเป็นสังคมที่มันน่าอยู่ได้อย่างไร”

(https://x.com/citizen2600/status/1794693981865132477?s=Sb6SxHQ) 

วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 30, 2567

สมชัย อดีต กกต.ท้วง กกต.ปัจจุบันเปลี่ยนแบบบัตรเลือกไขว้กลางคัน เอื้อทุจริตหรือเปล่า จาก ๑ ใบ ๔ ช่อง มาเป็น ๔ ใบๆ ละ ๑ ช่อง

เมื่ออดีต กกต.ออกมาท้วง กกต.อย่างนี้ ควรต้องฟัง เรื่องบัตรเลือกตั้ง สว.๖๗ แบบเลือกไขว้ ทำไมต้องเปลี่ยนกลางคัน ส่อเอื้อทุจริต จากเดิม ๑ ใบ ๔ ช่อง เปลี่ยนเป็น ๔ ใบ ใบละ ๑ ช่อง

แถมรีบส่งหนังสือเวียนให้ทุกจังหวัดปฏิบัติตาม สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการเลือกตั้งชี้ให้เห็นช่องทางทุจริตฮั้วกลุ่มจัดตั้ง “หากคนใช้บัตรทั้ง ๔ ใบ เลือกกลุ่มเดียว...คะแนนคนนั้นเพิ่ม ๔ เท่า” บัตรลงหีบไปแล้วตรวจสอบไม่ได้

บัตรแบบเดิมประกาศให้ใช้โดยราชกิจจา ตั้งแต่ ๑๖ กุมภามาแล้ว “มีพิมพ์ตัวอย่างในคู่มือการเลือก ส.ว. มีการอบรมเจ้าหน้าที่ไปแล้ว และอาจมีการให้โรงพิมพ์จัดพิมพ์บัตรไปแล้ว” ด้วย จู่ๆ มาเปลี่ยนกลางคันอย่างนี้ ใครรับผิดชอบ

สมชัยบอกด้วยว่า กกต.ควรต้องตอบต่อสังคมว่า ใครกันเป็นคนเสนอเปลี่ยน ทำไมไม่ทำเสียแต่เนิ่นๆ “เพื่อให้คู่มือและการฝึกอบรมเป็นไปในแนวเดียวกัน” แล้วก็เปลี่ยนกระทันหันอย่างนี้ มีการเตรียมป้องกันทุจริต กรณีบัตรหลายใบกาซ้ำกันกลุ่มเดียวไว้หรือเปล่า

(https://x.com/MatichonOnline/status/1796029165873008936) 

เมื่อ สุรนันท์ เวชชาชีวะ วิจารณ์ทักษิณ อะไรต่ออะไรน่าจะไม่เหมือนเดิม

 

คำพูดทักษิณในอดีต “ผมมีเรื่องกับบริวารรอบวัง ไม่ใช่กับพระเจ้าอยู่หัว” ใช้กับการไปรับคำฟ้องคดี ๑๑๒ วันที่ ๑๘ มิถุนาหรือไม่ คงไม่นานได้รู้กัน

แน่ๆ ตอนนี้ ทักษิณ ชินวัตร ต้องไปรับฟังคำฟ้องคดีอาญามาตรา ๑๑๒ จากอัยการพิเศษ วิพุธ บุญประสาท ในวันที่ ๑๘ มิถุนายน

ส่วนว่าการโดนจังๆ อย่างนี้เป็นผลของการมีเรื่องกับ Palace Circle ไม่ใช่ตัวพระเจ้าอยู่หัวหรือไม่ คงไม่นานได้รู้กัน

อันนี้อาจจะเป็น รอยตีนอานาล็อกที่ Thanapol Eawsakul คุ้ยมาตีแผ่ เรื่องทักษิณเคยพูดว่า “(ก่อนรัฐประหาร ๔๙) สื่อตีผมอย่างหนัก บังเอิญได้เจอลูกของเจ้าของสื่อท่านหนึ่ง ก็เลยถามว่า เฮ้ยทำไมพ่อถึงตีอาหนักขนาดนี้

เขาก็ตอบว่า อาครับผมถามพ่อแล้วพ่อบอกว่า มีผู้ใหญ่จากทางวังมาทานข้าวกับพ่อ แล้วบอกว่าวังไม่เอาแล้ว” ทักษิณบอกว่า “วังไหนวะ เขาก็ย้ำว่าวังไม่เอาแล้ว ก็เลยต้องตีต้องไล่ออกไป นี่คือกลไกของสื่อไทย

แต่ทั้งหมดผมคิดว่าผมมีเรื่องกับบริวารรอบวัง ไม่ใช่กับพระเจ้าอยู่หัว ผมมีความเป็นนักเลง จบเป็นจบ” นี่เป็น รอย ที่มาจากว้อยซ์ทีวี เมื่อปี ๕๘ อันนำมาสู่การฟ้อง ๑๑๒ ในตอนนี้ ซึ่งคำฟ้องบอกว่าเป็นการพูดของทักษิณในต่างประเทศ

นั่นก็คือจากการให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อ พฤษภา ๕๘ กับการพูดในนามแฝง Tony Woodsome “รายการ CareTalk x CareClubHouse เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๔ ในหัวข้อ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ของการเมืองไทย แล้วอนาคตของเยาวชนไทยจะเป็นอย่างไร

(https://www.youtube.com/watch?v=YRKjB62olmM และ https://voicetv.co.th/read/qd0c-b0wz)

อานนท์ ‘จุกอก’ ทราบเรื่อง ‘ธนพร’ แม่ถูกพรากลูกอ่อน ๒ คน คุกคดี ๑๑๒ แต่ก็มีเรื่อง “ก็ตลกดี” ของ “สาร (ไม่ดี)” มาแถม

เรื่องเล่าในจดหมายอานนท์ฉบับวันที่ ๒๙ พฤษภา มีทั้งชวนให้สลดสุดๆ กับจิตสำนึกในกระบวนยุติธรรมไทย ระคนไปกับความเอน็จอนาจต่อสติสตังของผู้พิพากษาบางคน สมแล้วที่เขาว่ากะลาแลนด์

อานนท์โพสต์ว่าแม่ของปราณและขาล เขียนไปเล่าให้เขาฟังเรื่องไปสังเกตุการณ์คดี ๑๑๒ ที่ศาลอาญาตลิ่งชัน คดีของ ธนพร แม่ลูกอ่อนวัย ๒๓ ปี ซึ่งโดนข้อหาแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ผู้อื่น ซึ่งแพร่ภาพตัดต่อของรัชกาลที่ ๙ และ ๑๐

คดีนี้แรกทีเดียวศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก ๔ ปี แต่เห็นว่าผู้ต้องหายอมสารภาพแต่โดยดี และไม่เคยต้องโทษมาก่อน จึงลดโทษเหลือ ๒ ปี และให้รอลงอาญา ทว่า ชวลิต อิศรเดช รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ซึ่งไปช่วยงานศาลตลิ่งชันชั่วคราวเห็นแย้ง

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ธรพรเรียนจบ ม.ศ.๓ ย่อมต้องรู้ความสำคัญสถาบันกษัตริย์ไทย การกระทำของจำเลยบังอาจไม่บังควร “อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสถาบันกษัตริย์ และความมั่นคงของรัฐ” ต้องให้รับโทษจำคุกจึงสาสมหลาบจำ

พอถึงการตัดสินฎีกาเมื่อ ๒๗ พฤษภา ศาลพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ นพรต้องถูกพรากไปจากลูกน้อยสองคน วัยเกือบ ๒ ขวบและ ๖ เดือน แต่ละคนแยกไปให้ญาติต่างกันดูแล อานนท์โพสต์ถึง “คืนที่สามของธนพรในเรือนจำ” ว่า

“น้ำนมในอกคงคั่งค้างอย่างมหาศาล เป็นความเจ็บปวดทางกายภาพที่หนักหนาแต่สำหรับทางจิตใจ ผู้หญิงหลังคลอดมีความเครียดมากพอสมควรแล้วจากการเลี้ยงลูก ทั้งยังเสี่ยงเป็นซึมเศร้าหลังคลอดได้” เขารับรู้เรื่องราวด้วยความจุกอก

ก็ยังดีที่มีอีกเรื่อง ตลก มาเล่าว่าระหว่างที่เขาติดคุกมาหลายเดือนนี้ ได้ออกศาลว่าความหลายครั้ง เนื่องจากสภาทนายมีหนังสือยืนยันไปถึงศาลให้เขาว่าความได้ ก็ไม่วายมีผู้พิพากษาบ้องตื้น สติตัน สั่งห้ามเบิกตัวอานนท์ไปว่าความ

อ้างว่าเวลาอานนท์ไปทำหน้าที่ทนาย แต่งกายไม่สุภาพ เพราะเขาต้องสวมชุดนักโทษ มีโซ่ล่าม อานนท์ได้แต่บอกว่า “ก็ตลกดี” แต่อย่างเราๆ คงอดไม่ได้ที่จะอุทานว่า “สาร (ไม่ดี)”

(https://www.facebook.com/permalink.=100000942179021 และ https://tlhr2014.com/archives/67261) 

วันพุธ, พฤษภาคม 29, 2567

ศิริกัญญาอีกแล้ว บอกไปดูตัวเลขจัดเก็บรายได้รัฐบาลต่ำกว่าเป้าเกือบ ๔ หมื่นล้าน แล้วจะเอาหมื่นล้านที่ไหนไปเติม #ดิจิทัลวอลเล็ต

ศิริกัญญาอีกแล้ว ถามจู้จี้เสียจริง “ไปดูตัวเลขการจัดเก็บรายได้รัฐบาล ๗ เดือนแรก พบว่าต่ำกว่าเป้าไปเกือบ ๔ หมื่นล้านบาท ในเมื่อสถานการณ์จริงเป็นแบบนี้ รัฐบาลช่วยบอกหน่อยได้ไหมคะว่าภาษีจะงอกออกมาจากไหนได้อีก ๑ หมื่นล้านบาท”

ต้นเรื่องมันอย่างนี้ “จากที่รัฐบาลบอกว่าจะกู้ชดเชยขาดดุลปี ๖๗ (จำนวน) ๑.๒๒ แสนล้านมาทำ #ดิจิทัลวอลเล็ต จนมีคนท้วงว่าจะทำให้หนี้สาธารณะต่อ GDP ทะลุ ๖๙% ในปี ๒๕๗๐

รัฐบาลก็เลยกลับลำ บอกว่าจะกู้แค่ ๑.๑๒ แสนล้าน ส่วนอีก ๑ หมื่นล้านที่เหลือจะมาจากการจัดเก็บภาษีเพิ่ม” ซึ่งก็เป็นการกลับลำครั้งที่สาม หลังจากถูก ปปช.ติงว่าการออก พรบ.เงินกู้เสี่ยงผิดวินัยการเงินการคลัง มาตรา ๕๓

กับที่คิดจะ “ใช้วิธีปรับลดงบประมาณ หน่วยรับงบประมาณที่เบิกจ่ายไม่ทัน หรือหมดความจำเป็นไปให้หน่วยงานอื่น (ก็) ต้องออกเป็น พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายเท่านั้น ซึ่งในทางปฏิบัติก็มีข้อจำกัด”

เกี่ยวกับวงเงินงบประมาณที่ได้มีการจัดสรรไปแล้ว อัน “อาจส่งผลให้เศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ต้องหยุดชะงัก หรือชะลอตัวลง” ท้ายสุดก็เลยคิดสาระตะเอาเองว่า สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มอีก ๑ หมื่นล้าน โดยไม่ได้ดูตัวเลขจริงที่คุณไหมเห็น

(https://x.com/SirikanyaTansa1/status/1795413212198031709 และ https://www.facebook.com/ThaiPublica/posts/Jow2pMJdqR) 

คดี ๑๑๒ ของทักษิณ อัยการจะเลื่อน ไม่เลื่อน เดี๋ยวก็รู้ แต่ก่อนจะถึงตรงนั้นต้องฟัง ‘ช่อ’ เจาะไชเสียก่อน


ข่าวฮึ่มมาตั้งแต่เมื่อวานว่าทักษิณให้ทนายไปขอเลื่อนฟังคดี ๑๑๒ ของเขา แล้วหลายสำนักไปขุดเอามาได้ว่าอัยการจะไม่เลื่อน นัยว่าอัยการสูงสุดมีคำสั่งเปิดผนึกออกมาแล้ว เช้านี้ (๒๙ พ.ค.) เดี๋ยวก็รู้ (ดูภาพ)

เรื่องนี้ต้องฟัง ช่อพรรณิการ์ วานิช คุยในรายการ ‘Friends Talk’

“จริงๆ ชาวบ้านก็รู้หรอกนะ มันเป็นเรื่องของ ต้อง ต้อง ตบกบาลกันหน่อย...มันจะต้องมีอะไรมาค้ำคอไว้นิด เรื่องคดี ๑๑๒ อันนี้ ซึ่งย้ำอีกครั้งมันไม่แฟร์โนะ คดีความมันไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

แต่ในเมื่อคุณทำสัญญากับปีศาจแล้วต้องรับสภาพ ก็ประมาณนี้แหละ เขาก็ต้องพยายามหาเครื่องมือมาใส่ปลอกคอคุณเอาไว้ เรื่องนี้ทำให้คุณทักษิณตกอยู่ในสภาพ บีบก็ตายคลายก็รอด


ดั้งเดิมนี่แรกเก็งกันว่าน่าจะเลื่อน เลื่อนอันนี้ไม่ใช่ทีอ้างทักษิณติดโควิด แต่อัยการจะเป็นฝ่ายเลื่อนเอง เพราะว่าสำนวนยังไม่เรียบร้อย ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ปกติ แม้บ่อยครั้งจะเป็นเรื่องการเมืองก็ตาม อย่างพวกเรานักการเมืองบางทีแบบใบสั่งยังไม่มา ไม่รู้เอาไงดี กูเลยเลื่อนก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวมันเกิดไปฝ่าทิศทางลม เดี๋ยวซวย

กรณีคุณทักษิณ ตอนแรกคิดว่าจะใช้วิธีเทคนิคเลื่อน เหมือนกับประวิงเวลา ยังไม่บีบแต่ยังไม่คลายก็เลยเลื่อนไปก่อน ตอนนี้มันก็หลายหมัดแล้ว ตั้งแต่เรื่องคุณพิชิต (ชื่นบาน) แล้วก็มีคดีของคุณเศรษฐาต่อเนื่องกับคุณพิชิตอีก มันคาๆ อยู่ใช่ไหม

ฉะนั้นถ้าจะมาลงดาบสามเรื่องคุณทักษิณเลย มันก็เหมือนกับว่า เฮ้ยอยู่กันไม่ถึงปี หม้อข้าวไม่ทันดำจะตบตีกันยังไง

ปรากฏว่าตกเย็นทนายคุณทักษิณมาขอเลื่อนว่าเป็นโควิด ซึ่งถ้าทุกท่านจำกันได้ คุณทักษิณเป็นโควิดหลายรอบแล้วนะคะ เริ่มเป็นห่วงสุขภาพคุณทักษิณเพราะว่าอายุก็มากแล้ว ไหนจะเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ไหนจะอะไรอีก”

(https://x.com/loreneeliz/status/1795489844795494572)


ขึ้น ขึ้น ขึ้น ราคาของกิน เช่นไข่ไก่ พร้อมไปกับหนี้ครัวเรือน (ภาพลักษณ์เศรษฐกิจไทยวันนี้)

ของขึ้นราคา ชาวบ้านบ่นกันมาหลายเดือนแล้ว สิ่งอุปโภคบริโภคมากชนิดที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ตบเท้ากันขึ้นราคาเป็นระลอก ตั้งแต่ไฟฟ้า พลังงาน มาถึงพริกขี้หนู และวันนี้ ไข่ไก่

เป็นข่าวใหญ่เมื่อวาน “พรุ่งนี้ไข่ไก่ขึ้นราคา” อีกแผงละ ๖ บาท เท่ากับฟองหนึ่งขึ้น ๒๐ สตางค์ เป็นผลให้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มต่อฟอง เปลี่ยนจาก ๓.๘๐ บาท เป็น ๔ บาท นี่เป็นการปรับราคาขึ้นเป็นครั้งที่สาม ในรอบเดือนกว่าๆ

ขณะที่หนี้สินในครัวเรือนก็ยังเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงแจ้งว่าในไตรมาสแรกปีนี้หนี้ครัวเรือนอยู่ที่ ๙๑.๓% ของผลิภัณฑ์มวลรวม หรือ จีดีพี

เพิ่มขึ้นจากไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้วนิดหน่อย แต่ว่าในรอบปีเพิ่มเรื่อยๆ รวมแล้วอักโข “ทางสภาพัฒน์ก็ส่งสัญญาณมาตลอดนานเป็นปีแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มขึ้นของหนี้บัตรเครดิต” นายดนุชาอ้างถึงหนี้ครัวเรือนชนิดที่เด่นกว่าเพื่อน

ยังมีหนี้ครัวเรือนอีกสองอย่างที่สูงขึ้น ๆ ตามสมัยนิยมก็คือหนี้สินเชื่อยานยนต์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า ๓ ล้านลงมา สินเชื่อยานยนต์นั้นอยู่ในอัตรา ๑๔.๒๙% ของสินเชื่อโดยรวม แต่สภาพัฒน์ฯ ชี้ให้จับตาระวังสินเชื่อที่อยู่อาศัย

“แม้ทางทฤษฎีจะเป็นสินเชื่อที่ลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและใช้ระยะเวลาผ่อนยาว” แต่ในระหว่างกลางทางก็อาจเกิดสะดุดขึ้นมาได้

(https://www.matichon.co.th/economy/news_4596525#lwoq8barkys14d8ifgj และ https://www.matichon.co.th/economy/news_4597743) 

น่าสังเกตุว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไม่มีลิฟท์


บางภาพจากการปล่อยตัวชั่วคราว ตะวัน และ แฟร้งค์

น่าสังเกตุว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีสี่ชั้น แต่ไม่มีลิฟท์

ตะวันต้องนั่งรถเข็นออกมา พนักงานต้องยกรถลงบันไดกันทุลักทุเล


ภาพโดย ไข่แมวชีส

วันอังคาร, พฤษภาคม 28, 2567

ขอเวลาคนละ ๕ นาฑี ไปร่วมแสดงพลังของประชาชน โหวตเห็นด้วยกับร่างฯ พรบ.นิรโทษกรรมประชาชน

อีกสักทีนะพี่น้อง ขอเวลาคนละ ๕ นาฑี ไปร่วมแสดงพลังของประชาชน เป็นหนึ่งเดียวกัน “ด้วยการออกเสียง เห็นด้วย ให้ร่างฯ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนผ่านเป็นกฎหมาย ด้วยการคลิกไปที่http://bit.ly/4bUu5cN เพื่อให้ความคิดเห็นที่มีต่อร่างฯ”

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนฯ ชักชวนว่า “ใช้เวลาไม่นาน ใครก็ทำได้เพียงมีเลขบัตรประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก รัฐสภาฯ เปิดรับความคิดเห็นที่มีต่อร่างฯ ไปจนถึงวันที่ ๑๒ มิ.ย. ๒๕๖๗”

ความเห็นที่ปรากฏอยู่บนเพจดังกล่าว รัฐสภาจะจัดทำรายงานผลการรับฟังความเห็นส่งให้ ส.ส.ใช้ประกอบการพิจารณาและอภิปราย เมื่อมีการเสนอร่างฯ เข้าสู่สภาฯ ในราวครึ่งหลังของปี (กรกฎา ถึง ธันวา ๒๕๖๗)

ไปดูวิธีออกความเห็นได้ที่ http://tlhr2014.com/archives/67263

(https://x.com/TLHR2014/status/1795049713819123856) 

รอยตีนดิจิทัล มันช่างร้ายกาจ ครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้เอง

ใครหนอไม่มียางอาย

‘Digital Footprints’ รอยตีนดิจิทัล มันช่างร้ายกาจ

ครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้เอง ใครต่อใครพูดถึงคนๆ นี้ไว้แรงอยู่นะ

ถ้าเจ้าตัวคอมเม้นต์เหล่านี้ในสถานการณ์กลับตาลปัตรอย่างนี้ เขาควรพูด (หรือนึกในใจ) อย่างไร 

มาถึงจุดที่รัฐบาลเศรษฐา ต้องใช้บริการเนติบริกรรุ่นเก๋า วิษณุ เครืองาม ช่วยแก้ปมผิดจริยธรรม

เขาว่า ความลุกลี้ลุกลน ออกตัวแรงเร็วเกินไปของทักษิณ ทำให้มาถึงจุดที่รัฐบาลเศรษฐา ต้องใช้บริการเนติบริกรรุ่นเก๋า วิษณุ เครืองาม เพื่อแก้ปมผิดจริยธรรม ราคาที่ต้องจ่ายจะมากน้อยแค่ไหน ไม่เท่าคู่สัญญาปีศาจได้เอาเชือกร้อยจมูกไว้แล้ว

รายการ 'ทูเดย์' ถกประเด็นการเมือง ปริญญา เทวานฤมิตรกุล นักกฎหมายคนดังของ มธ. เอ่ยถึงผลโพลของสถาบันพระปกเกล้าฯ ว่าไม่เพียงทำให้ทักษิณหน้าแตก หากแต่พรรคเพื่อไทยราคาตกในหมู่พรรคร่วมมือรอง ตั้งแต่ภูมิใจไทยลงไปถึงพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ

มิใยนายแบกพยายามปลอบใจตนว่า ถ้าผลเลือกตั้งออกมาอย่างที่โพลว่า พรรคก้าวไกลก็ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะไปชี้หน้าพรรคอื่นๆ ไว้หมดแล้วว่าเป็นพวกสนับสนุนเผด็จการ นายแบกผู้นี้อาจจะจมอยู่แต่ในปลักของตนจนรู้แต่เรา ไม่รู้เขา

หากเงี่ยหูฟังเสียงสะท้อนจากวกด้อมไว้บ้างจะรู้ว่าคนก้าวไกลพูดไว้บ่อยๆ ว่าจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานกับประชาชนเท่านั้น ไม่ยอมไขว้เขวกับเสียงโหวกเหวกจากฝั่งตรงข้าม ไม่ต้องโคว้ท ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก็ได้

ที่ว่าถ้าได้ ๒๐๘ เสียงก็ไม่หวังจะตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย ๑๐๕ เสียง ลองฟังจากติ่งก้าวไกลรายหนึ่ง @thecervine93 เล่าว่าได้ฟัง พงศกร รอดชมภู ให้สัมภาษณ์ พีพีทีวี ต่อคำถามว่า ก้าวไกลกับเพื่อไทยจะจับมือกันไหม

พงศกรตอบว่า ถือตนเองเป็นคนนอก มองเห็นว่าการที่ก้าวไกลจะไปจับมือกับเพื่อไทยนั้น “ไม่มีประโยชน์อะไรเลย” ก้าวไกลควรทำการเมืองของตัวเองไปเคียงข้างกับประชาชน ใครจะช่วงชิงอำนาจกันอย่างไรให้เขาทำกันไป ไม่ต้องสนใจ

ทั้งที่พอถึงจุดนี้ สิ่งที่นายแบกเคยบริภาษณ์พรรคก้าวไกลที่เห็นแย้งการจัดกระบวนเศรษฐกิจของรัฐบาล ครม.เศรษฐาต้องจำยอมรับแล้ว “เห็นภาพชัดเจนตรงกันว่า เศรษฐกิจไทยแม้จะไม่ถึงขั้นวิกฤตเฉียบพลัน แต่ก็ตกอยู่ในสภาพเติบโตต่ำกว่าศักยภาพที่ควร”

และ “สาเหตุหลักเกิดจากไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจมานานกว่า ๑๐ ปี” ถึงอย่างนั้นมาตรการที่ออกมาจากการประชุม ครม.ล่าสุดเมื่อวาน ยังคงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน (ตามที่นายแบกเล่า) ได้แก่

“มาตรการด้านการเงินในการปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบให้กับ sme โดยธนาคารของรัฐและของธนาคารพาณิชย์” โดยให้ บสย. (บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมย่อย) ในสังกัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้เข้ามาค้ำประกัน จะได้ผลอย่างไรคงต้องดูกันไป

(https://x.com/MorChai_PTP/status/1795252340876050774 และ https://x.com/MemeForward/status/1795092121017336241) 

และแล้วก็มาถึง ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ‘ลูกเกด’ และ ‘ตะวัน’ หลังจากทนายยื่นขอประกันเป็นสิบครั้ง เหตุผลอย่างที่ควรให้มาแต่แรก

วันนี้ ศาลอาญายอมให้ประกันทั้งในคดีของ ลูกเกด และ ตะวัน ซึ่งก็ยากจะหยั่งรู้ได้ว่าการกลับมาเข้าลู่เข้ารอยของศาล จะเป็นไปได้นานแค่ไหน แน่ๆ ก็คือ การตายของ บุ้ง เนติพร เสน่ห์สังคม ทำให้ศาลต้องยอมผ่อนปรน

คดีของชลธิชา แจ้งเร็ว เจ้าตัวเผยว่าการให้ประกันไม่มีอะไรพิเศษ เป็นไปตามขั้นตอนปกติ และใช้หลักประกันเดิม ๑๕๐,๐๐๐ บาทอีกด้วย แต่คดีของ ตะวัน ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นั้นซับซ้อนเล็กน้อย เพราะมีหลายคดีพันหลัก

ในข้อหา ม.๑๑๖ “บีบแตรใส่ขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ เมื่อวันที่ ๔ ก.พ. ๒๕๖๗” หลังจากทนายยื่นขอประกันเป็นครั้งที่สิบ ศาลก็อนุญาตให้โดยดีไม่มีการยึกยักอีกต่อไป เช่นกันกับคดีความผิด ม.๑๑๒ ก็สั่งอนุมัติในวันนี้เช่นกัน

ศาล “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวมาก่อน...ศาลได้ปล่อยชั่วคราวไปแล้วจำเลยไม่มารายงานตัว แต่จำเลยมาศาลตลอดในช่วงที่มีการสืบพยาน พฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าจำเลยไม่เคยหลบหนีในคดีนี้

ดังนั้นหากจำเลยสมัครใจที่จะติดกำไล EM และผู้ประกันวางเงินประกันตามเสนอ ให้เบิกตัวจำเลยมาทำสัญญาประกันตัวต่อไป บทจะง่ายก็ง่าย ถึงอย่างนั้นศาลโทษว่าเป็นความผิดของผู้ต้องหาเอง “จำเลยไม่ประสงค์ที่จะขอให้ปล่อยชั่วคราวเอง”

นั่นคือตะวันประท้วงการไม่ให้ประกันมาตลอดก่อนจะครบสิบครั้ง เมื่ออดอาหารแล้วอาการทรุด จำต้องส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ แล้ว “ผอ.โรงพยาบาลดังกล่าว ขอให้ปล่อยชั่วคราวจำเลย เนื่องจากจำเลยอาจจะเสียชีวิตระหว่างพิจารณาได้”

จึงมาถึงการให้ประกันคดี ม.๑๑๖ และ ๑๑๒ ในวันนี้ (๒๗ พฤษ๓) แต่ก็ยังมีคดี ชุมนุม APEC2022 ค้างอยู่อีกคดี ซึ่งตะวันขอถอนประกันตนเองก่อนหน้านี้ หลังจกที่ถูกศาลยึกยักมากเรื่องไม่ยอมท่าเดียว จึงต้องทำเรื่องขอประกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ต่อไป

(https://tlhr2014.com/archives/67311) 

วันจันทร์, พฤษภาคม 27, 2567

ศาลสั่งจำคุกรวด ‘ลูกเกด’ #แอมมี่ และ #ปูนทะลุฟ้า ข้อหา ๑๑๒ ไม่รอลงอาญา

สัจธรรมของคดีอาญามาตรา ๑๑๒ ก็คือ ยิ่งตรงกับความจริงมากเท่าไร ยิ่งมีความผิดมากเท่านั้น ล่าสุดสองคดีเพิ่งตัดสินจำคุก ไม่รอลงอาญา กำลังลุ้นประกันตัว ปล่อยชั่วคราว ก็คือคดีของ ลูกเกด #แอมมี่ และ #ปูนทะลุฟ้า

ชลธิชา แจ้งเร็ว เพิ่งได้รับยกย่องจากนิตยสารไทม์เป็นหนึ่งในสิบ ผู้นำคนรุ่นใหม่โดนศาลไทยสั่งจำคุกในข้อหาอาญา ๑๑๒ จากการปราศรัยที่ศาล “ฟังแล้วเข้าใจว่าพระมหากษัตริย์เอาเงินภาษีประชาชนมาใช้ส่วนพระองค์”

อีกข้อหาจากการที่บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “แก้กฎหมายให้ทรัพย์สินส่วนรวมไปเป็นส่วนตัวพระมหากษัตริย์” ล้วนทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง จึงตัดสินจำคุก ๓ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม เหลือสองปี ไม่รอลงอาญา

ด้าน แอมมี่ The Bottom Blues’ หรือ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ โดนฟ้องข้อหาวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์ ร.๑๐ และโพสต์ภาพเหตุการณ์” นั้นด้วย เช่นกันกับ #ปูนทะลุฟ้า หรือ ธนพัฒน์ แอมมี่นั้นให้จำคุก ๔ ปี ทันที

สำหรับ ปูน เมื่อกระทำการตามฟ้อง อายุไม่ถึง ๑๘ ปี “ศาลพิพากษาจำคุก ๓ ปี ก่อนลดโทษเหลือ ๑ ปี ๖ เดือน เพราะขณะกระทำผิดอายุ ๑๘ ปี และให้การเป็นประโยชน์” แต่ไม่รอลงอาญาเหมือนกัน ผู้ต้องโทษทั้งสามอยู่ในระหว่างลุ้นประกัน ปล่อยตัวชั่วคราว

(https://x.com/TLHR2014/status/1794950365441605785 และ https://x.com/TLHR2014/status/1794937426789712203) 

สศจ.ชม ‘คุณอ้น’ ขยัน นัยว่ามีลำหักลำโค่น ‘สามทหารเสือ’ นักโหนเจ้ารีบร้อนเกินไป โหมโจมตี

ใครติดตามเพจของ Somsak Jeamteerasakul จะพบว่าหลังๆ นี่เขาเขียนถึงคุณวัชเรศร วิวัชรวงศ์ อย่างให้ความสำคัญและเป็นคุณอยู่ไม่น้อย อย่างเช่นในโอกาสวันเกิดของ หม่อมเบ๊นซ์ ผู้เป็นมารดาเขาว่าได้เข้าไปดูเพจของ คุณอ้น

เห็นเรื่องกิจกรรมต่างๆ ที่ทำระหว่างอยู่เมืองไทย “อืม! นับว่า impressive ไม่น้อย” นัยว่ามีลำหักลำโค่น ไม่ฉาบฉวย จนมาถึงเมื่อ ๑๗ ชั่วโมงที่แล้ว เขาเขียนถึง สามทหารเสือ นักโหนเจ้า ได้แก่ “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค คุณนิวและคุณลูกบิด

ซึ่ง “รีบร้อนเกินไป” โหมโจมตีคุณอ้น “ยืนยันว่าคุณอ้นไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งวชิราลงกรณ์ พยายามแสดงตัวเพื่อชิงตำแหน่งมงกุฏราชกุมาร ซึ่งเป็นของพระองค์ทีโดยชอบธรรม” จึงเกิด “ติดใจว่าสถานะของคุณอ้นเป็นอย่างไรแน่”

และเคยมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรอะไรบ้างไหม “#ตัด คุณอ้น (หรือคนอื่นๆ) ไม่ให้เป็นมงกุฏราชกุมาร หรือตั้งคุณทีให้เป็นมงกุฏราชกุมารหรือไม่” ครั้นเมื่อไปอ่านเอกสารคราวที่มีเรื่องตัดหม่อมเบ๊นซ์และลูกๆ ออกจากสถานะในราชวงศ์

เขาก็ยืนยันเช่นกันว่า “#ไม่มีนะครับ...ไม่เคยมีการตัดคุณอ้นและคนอื่นๆ ออกจากความเป็นลูก...ด้วยเหตุนี้ คุณอ้นก็ยังมีสิทธิ์ได้รับการแต่งตั้งเป็นมกุฏราชกุมารได้ ตราบใดที่วชิราลงกรณ์ยังไม่ได้ตั้งใครให้ดำรงตำแหน่งนี้”

(https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/RFt2YDY) 

โพลพระปกเกล้าฯ ตอกย้ำ ความนิยมพรรคก้าวไกล และ ‘พิธา’ ยังสูงโด่ง จนมีการคาดหมาย “จะไม่ถูกยุบ”

โพลพระปกเกล้าฯ มาตอกย้ำอีกว่า ความนิยมพรรคก้าวไกล และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังสูงโด่ง ไม่ว่าในหัวข้อการเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต แบบบัญชีรายชื่อ และบุคคลที่ควรได้เป็นนายกรัฐมนตรี

มันจึงเลยไปถึงการแทงสวนของ Thanapol Eawsakul ว่า “พรรคก้าวไกลจะไม่ถูกยุบ”

สถาบันพระปกเกล้าฯ แถลงผลโพลเมื่อ ๒๖ พฤษภา ว่าถ้ามีการเลือกตั้งขึ้นในช่วงนี้ละก็ พรรคก้าวไกลจะชนะด้วยคะแนน ๓๕.๗% ที่สองรองลงไปเป็นพรรคเพื่อไทย ได้ ๑๘.๑% ในประเภท ส.ส.เขต ส่วนคำถามเกี่ยวกับ ส.ส.บัญชีรายชื่อก็ยังเป็นก้าวไกล

ในการเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น ก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงถึง ๔๔.๙% ขณะที่ของพรรคเพื่อไทยเพียง ๒๐.๒% เปรียบเทียบเพียงสองพรรคอันดับ ๑ กับ ๒ คะแนนก้าวไกลทิ้งห่างเพื่อไทยถึงเท่าตัว “พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่มีโอกาสได้ที่นั่งมากที่สุด

รวมแล้ว ๒๐๘ ที่นั่ง โดยที่เพื่อไทยได้เพียง ๑๐๕ ที่นั่ง ต่างกันเท่าตัว มิหนำซ้ำในคำถามถึงตัวบุคคลว่าอยากให้ใครเป็นนายกฯ มากที่สุด พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ฉวยไปกินอีกเช่นกัน ด้วยคะแนน ๔๖.๙% แต่อันดับรองๆ นี่สิบ่งบอกสภาพการเมืองขณะนี้น่าคิด

ผู้ที่โพลซึ่งสำรวจด้วยการสัมภาษณ์ประชากรตัวอย่างอายุ ๑๘ ปีขึ้นไป ๑,๖๒๐ คนทั่วประเทศ สำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อันดับสองให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ๑๗.๗% อันดับสาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ๑๐.๕% และสี่ เศรษฐา ทวีสิน ๘.๗%

การที่ทักษิณเดินสาย เกี้ยว พรรคชาติไทยพัฒนา ของสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ก็ไม่ทำให้ได้แต้มดีขึ้น ดูจากโพลนี้ ส.ส.แบบแบ่งเขต เพื่อไทยบวกชาติไทยพัฒนาก็ได้เพียง ๑๙.๗% และบัญชีรายชื่อ ๒๐.๙% ไม่ถึงครึ่งของก้าวไกลอยู่ดี

ทิ้งห่างอย่างนี้ละมัง ทำให้ธนาพลกล้าแทงสวนว่า “การที่จะยุบพรรคก้าวไกลโดยบอกว่าทำลายระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นั้นเสี่ยงเกินไป” เพราะถ้าผลการเลือกตั้งครั้งต่อไปออกมาตามแนวของโพลละก็

“จะทำให้กลายเป็นประชามติว่าประชาชนชาวไทย ไม่แคร์กับ ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อีกต่อไป” มิหนำซ้ำ “ผลโพลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนิดาโพล สถาบันพระปกเกล้า หรือแม้แต่ซุปเปอร์โพล”

เขาว่าโพลเหล่านี้ล้วนเคยเป็นกระบอกเสียงของประยุทธ์ จันทร์โอชา ผลออกมาช่วงเวลานี้อยู่ในทิศทางเดียวกัน คือก้าวไกลยังนำโด่ง ใครก็ตามคุมเกมกำจัดก้าวไกลอยู่ น่าจะไม่กล้าหักด้ามพล้าด้วยเข่าเป็นแน่

ยิ่งกระบวนการจะยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหาร อันรวมถึง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เกิดจากเหตุผลทางการเมืองไม่ใช่โดยรูปการณ์แห่งกฎหมาย หากดึงดันจนได้ คงเกิดความระส่ำเป็นแน่

(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/M7WUz9N และ https://thaipublica.org/2024/05/survey-found-that-most-people-still-vote-for-the-move-forward-party/=IwZXh0) 

วันอาทิตย์, พฤษภาคม 26, 2567

ภาพปริศนา 'แม็คโคร' ตั้งใจสื่อความหมายมากเสียจน 'เบลอ'

ภาพปริศนา ดูแล้วต้องเที่ยวหาความหมาย กิจการเจ้าสัวเดี๋ยวนี้พยายามเคลื่อนไปกับสายธารคุณธรรม และความโอบอ้อมอารี เสียจนเบลอ

ดังที่ Decharut Sukkumnoed ตั้งปุจฉา “ท่านใดทราบความหมาย โปรดชี้แนะครับ” เพราะว่า “อ่านแล้วงง พยายามอ่านหลายรอบและคิดหลายมุม แต่ยังไม่ได้คำตอบครับ”

บางทีบริษัทขนาดยักษ์อย่างนี้ มักใช้กรรมวิธีว่องไวเสียจนหลง เห็นวลีโด่งดังในสังคมไทย “สนับสนุนเกษตรกร” เหมือนดั่งสติ๊กเกอร์ ภาพประทับใจ ติดตรงไหนจะทำให้ตรงนั้นเกิดความแจ่มจรัสได้สำเร็จรูป