วันพุธ, พฤศจิกายน 30, 2565

‘ชูวิทย์’ แฉยับอีกเยอะ ‘ทุนจีนสีเทา’ ฟอกในไทย “ท่านเอา ‘ลูกเขย’ มาตรวจทรัพย์สินของ ‘หลานเขย’ มันจะดีหรือครับ”

ชูวิทย์ แฉยับอีกเยอะ ทุนจีนสีเทา ฟอกในไทย “ฝ่าฝืนกฎหมายทุกรูปแบบทั้งผับจีน บ่อนจีน ยาเสพติดจีน” แล้วยัง “กล้าใส่ชุดทหารบกยศพันเอก หลอกคนจีนด้วยกันที่มาประเทศไทย ว่าใช้เงินซื้อทุกอย่างได้หมด”

รายนี้นามว่า หลิน หลง “ทำบ่อนคนจีน ขายยา บ้านใหญ่โตหรูหราคู่กับนายตู้ห่าว ปัจจุบันนี้หนีออกจากไทยไปแล้ว เพราะความชักช้าโอ้เอ้ของหน่วยงานรัฐ” บ้านแต่ละหลังจ่ายสดเป็น ๑๐๐ ล้าน ส่วนคอนโดซื้อยกโถรวดเดียว ๓-๔ ชั้น

เขาว่าเพราะหน่วยงานรัฐหลายแห่งที่เกี่ยวข้อง “ทำงานอืดเป็นเรือเกลือ จนทำให้ไทยเป็น ศูนย์กลางจีนเทาของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” อ้างว่ามีข้อมูลเบื้องลึกจำนวนมาก ขอแฉเพื่อล้มกระดาน บอก “ลองผมล็อคเป้าใคร อย่าพลาดแล้วกัน”

ดูเหมือนว่าเป้าแรกนี่ก็ ปปส.สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เกือบจะปล่อยให้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของตู้ห่าวหลุดไปแล้วสิ เหมือนคดี จินหลิง ตำรวจบุกยึดอีท่าไหน ทำให้ “รถหรู ๔ คันมูลค่ากว่าร้อยล้านออกได้หายวับไปกับสายลม”

กรณีเครื่องบินทะเบียน HS-HAO ที่ว่ามีบันทึกการบินระบุ ธรรมนัส พรหมเผ่า เดินทางไปลงที่สนามบินร้อยเอ็ด เมื่อ ๑๙ กรกฎา ๖๕ นั้น แรกเมื่อ ปปส.ไปอายัด เกิดอาการ พะว้าพะวังบอกว่าชื่อเจ้าของไม่ใช่ ตู้ห่าว เสียหน่อย

“ต่อมาจึงยอมรับ ยึดอายัดไว้ หลังผมเปิดข้อมูลความเป็นเจ้าของ” ชูวิทย์ว่า “เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วผมจำเป็นต้องเดินต่อ ขอยืนยันว่าผมไม่มีเบื้องหลัง และมีเจตนาดีต่อบ้านเมือง...ชีวิตได้มาเกินกำไรแล้ว อยู่มาจนป่านนี้ ขาดทุนบ้างจะเป็นไร”

เขาเจาะจงจวกนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ปปส.ว่าซื่อบื้อ “เครื่องบินทั้งลำไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์นะครับ หรือว่าไปเดินสะดุด ตอ...พอตอนไปยึดทรัพย์สิน...จู่ๆ ท่านก็ไปของท่าน จู่ๆ เมื่อวานท่านก็บอกไม่ใช่ และจู่ๆ วันนี้ก็กลับมาบอกว่าใช่

ตั้งข้อกังขาประเด็น “แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ตรวจสอบทรัพย์สินยาเสพติด ก่อนหน้านี้ไม่นาน พอดิบพอดีกับจังหวะที่นายตู้ห่าวตกเป็นผู้ต้องหาคดียา” ขณะที่ “มันดูเหมือนไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง แต่

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ มีสถานะเป็น ลูกเขยของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส่วนตู้ห่าวมีสถานะเป็น หลานเขย...เท่ากับว่าท่านเอาลูกเขย มาตรวจทรัพย์สินของหลานเขย คนดองกันมาตรวจสอบทรัพย์สินกันเอง มันจะดีหรือครับท่าน”

ชูวิทย์ชี้ว่ามันมีลักษณะเหมือนเตรียมการอะไรกัน “ดูชอบกล เรื่องเกี่ยวข้องกับยาเสพติด กฎหมายให้อำนาจ ป.ป.ส.ไว้อย่างล้นเหลือ สามารถยึดไว้ก่อนแล้วมาตรวจสอบทีหลังยังได้” เขาได้มอบเอกสารหลักฐานมากกว่า ๕๐๐ แผ่น

“นี่ ป.ป.ส.เล่นป่าวประกาศรอตำรวจมาส่งรายการทรัพย์สินอีก ๗ วัน ล้อเล่นกันหรือเปล่า ประกาศเสียแบบนี้ คงทำลายหลักฐานกันป่นปี้วุ่นวาย”

(https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/pfbid0hpd8F6zGo, https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/pfbid0QEPBX และ https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/pfbid02YQFA) 

จับตาคดีสหพันธรัฐไท"...ผมไม่ได้ถูกติดเพราะเป็นขโมย เป็นโจร เป็นฆาตกร EM อยู่ที่ขาผมเพราะผมต้องการประเทศที่ดีกว่าเดิมก็เท่านั้น” อีกราย "เราเจอแต่คนจนในคุก รู้เลยว่ามีแค่คนรวย คนมีเงินเท่านั้นที่จะรอดไปได้, ส่วนวรรณภาเป็นคนจนก็ต้องไปติดคุก…”


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
12h

“เวลาคนมองมาที่ EM ตรงขาผม ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เพราะเราถูกให้ติดจากคดีการเมือง มันไม่ใช่ความผิดเลย… ผมไม่ได้ถูกติดเพราะเป็นขโมย เป็นโจร เป็นฆาตกร EM อยู่ที่ขาผมเพราะผมต้องการประเทศที่ดีกว่าเดิมก็เท่านั้น”
.
.
จับตา! พรุ่งนี้ ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีสหพันธรัฐไท ของ ‘#กฤษณะ’ หนึ่งในจำเลยคดีนี้ ผู้ต้องใส่ EM มานานมากกว่า 4 ปี ตั้งแต่ปี 2561 หากศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก 1 ปี ตามศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้น กฤษณะจะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันทีในฐานะ “#นักโทษเด็ดขาด
.
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2561 กฤษณะถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมกับกลุ่มสหพันธรัฐไท โดยการแจกใบปลิว-จำหน่ายเสื้อสีดำ จนถูกอุ้มเข้าค่ายทหารนานถึง 7 วัน คดีลากยาวเรื่อยมาจนถึงชั้นฎีกา โดยตลอด 4 ปีกว่าที่ผ่านมา แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด ซึ่งยังไม่ควรถูกถือว่าเขากระทำความผิดใด แต่กฤษณะได้รับผลกระทบจากการถูกดำเนินคดีมากมาย
.
ไม่ว่าจะเป็นการถูกไล่ออกจากงาน จนเป็นคนว่างงานถึงปัจจุบัน, ถูกติดตามคุกตามจากเจ้าหน้าที่รัฐ, ถูกตีตราและเลือกปฏิบัติจากผู้คนรอบข้างในสังคม, สูญเสียคุณค่าในตัวเอง รวมถึงบทบาทหัวหน้าครอบครัว เป็นต้น
.
.
อ่านต่อบนเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/51078


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
11h

"เราเจอแต่คนจนในคุก รู้เลยว่ามีแค่คนรวย คนมีเงินเท่านั้นที่จะรอดไปได้, ส่วนวรรณภาเป็นคนจนก็ต้องไปติดคุก…”
.
#วรรณภา (สงวนนามสกุล) แม่เลี้ยงเดี่ยววัย 35 ปี อาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน วัย 13 และ 18 ปี ในห้องเช่าแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ค่าเช่าห้อง ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าเล่าเรียนของลูกชายคนเล็ก ทั้งหมดคือภาระที่เธอต้องแบกรับเพียงลำพังมานานหลายปีแล้ว
.
โดยเฉพาะหลังถูกจับกุมและดำเนินคดีนี้เมื่อปี 2561 เรื่อยมาจนศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา ยิ่งทำให้วรรณภาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากกว่าเดิมหลายเท่าตัว เธอถูกไล่ออกจากงาน หวาดระแวงในการใช้ชีวิต รายได้และความสุขลดน้อยลงอย่างมาก
.
แต่เธอบอกว่า สิ่งที่คดีนี้สร้างภาระให้มากที่สุด คือ การถูกให้ใส่ EM ที่ข้อเท้า นอกจากจะสร้างความรำคาญและความเจ็บปวดมานานนับปีแล้ว ยังสร้างความอับอายให้แก่เธอ เมื่อต้องเข้าสังคมและพบปะผู้คน สายตาและเสียงซุบซิบนินทายังคงเป็นบาดแผลในใจของเธอมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะ “#ประตูตรวจจับโลหะ
.
พรุ่งนี้! (30 พ.ย. 2565) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ซึ่งเป็นบันไดขั้นสุดท้ายในการต่อสู้คดีแล้ว หากศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก 1 ปี ตามศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้น เธอจะต้องก้าวเข้าเรือนจำอีกครั้ง โดยทิ้งลูกชาย 2 คนไว้เบื้องหลังอย่างไม่มีทางเลือก
.
.
อ่านต่อบนเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/51097

บ้านไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยซะแล้ว ! UN เผย ผู้หญิงถูกฆ่าโดยคนรักหรือคนในครอบครัว ชั่วโมงละ 5 คน


Mirror Thailand
3d

เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติเปิดเผยข้อมูลว่าในบรรดาผู้หญิงที่ถูกฆาตกรรมในปี 2021 กว่า 56% เกิดจากคนรัก พ่อ พี่ชาย น้องชาย และญาติสนิท ซึ่งหากตีเป็นตัวเลขแล้วก็คือ ในทุกๆ ชั่วโมง มีผู้หญิง 5 คนถูกฆ่าโดยคนใกล้ชิดเหล่านี้ นับจำนวนทั้งสิ้น 45,000 คน พื้นที่ที่เกิดเหตุมากที่สุดคือทวีปเอเชีย รองลงมาคือแอฟริกา
.
นับเป็นตัวเลขที่ UN เองมองว่าอันตรายอย่างยิ่ง และเป็นข้อยืนยันว่าบ้านไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยเสมอไป ทั้งที่มันควรจะเป็นอย่างนั้น ยิ่งกว่านั้นตัวเลขนี้มาจากเคสที่มีการรายงานกับทางการเท่านั้น สถานการณ์จริงอาจเลวร้ายกว่านี้ก็เป็นได้
.
UN มองว่าในหลายประเทศ ยังมีกระบวนการลเรวามรุนแรงต่อผู้หญิงที่น้อยเกินไป ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องการออกกฎหมายมาลงโทษฆาตกร หรือตั้งองค์กรมาทำแคมเปญต่อต้าน แต่คือเรื่องโครงสร้างทางสังคมที่จำเป็นต้องแก้ไข
.
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ชายในครอบครัวลงมือฆาตกรรมผู้หญิง ก็หนีไม่พ้นการมองว่าพวกเธอนั้นด้อยกว่า ยิ่งด้วยสภาพเศรษฐกิจและความจำเป็นในชีวิต ผู้หญิงหลายคนจำยอมอยู่ในสถานะที่โดนอีกฝ่ายเลี้ยงดู จนเป็นเหตุให้ถูกมองว่าไร้อำนาจต่อรอง และจะถูกกระทำอย่างไรก็ได้ ยิ่งกว่านั้นในบางพื้นที่ยังมีเรื่องของธรรมเนียมปฏิบัติที่ฝังรากลึกจนผู้ชายในครอบครัวมองว่าตนเองสามารถเป็นเจ้าชีวิตผู้หญิงได้
.
อาจฟังดูห่างไกล แต่ในบ้านเรา สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นให้ได้ยินเสมอในฐานะเรื่องผัวๆ เมียๆ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่หลายครั้งจบลงด้วยความตายของฝ่ายหญิง
.
และอันที่จริง เราทุกคนอาจมีส่วนช่วยลดโศกนาฏกรรมเหล่านี้ได้ เริ่มตั้งแต่การปรับทัศนคติกันก่อน ว่าไม่มีใครสมควรถูกกระทำความรุนแรง และไม่มีความสัมพันธ์ใดที่สามารถนำไปสู่การฆ่าคนอื่นได้อย่างชอบธรรม ส่วนโครงสร้างในสังคมจะเปลี่ยนได้ในวันไหน เราทั้งหลายก็น่าจะต้องมีส่วนร่วมผลักดันเช่นกัน
อ้างอิง
https://www.dw.com/.../un-report-5-women.../a-63866024

ดูก่อน อานนท์ นายผิดแล้ว !


SleeplessBKK
@SleeplessBKK
·15h
สองปีที่แล้ว อานนท์เคยกล่าวไว้ว่า

นโยบายคุมโควิดจีนมีหน้าตาอย่างไร ทำไมคนถึงต่อต้าน



การประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ที่รัฐบาลจีนภายใต้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ดำเนินมาหลายปี ได้ขยายตัวไปยังหลายเมืองทั่วประเทศ จนอาจถือได้ว่าเป็นการประท้วงใหญ่สุดของจีนในรอบหลายสิบปี

ข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง คือ การผ่อนคลายมาตรการโควิดที่เข้มงวดมาก ในช่วงที่ตอนนี้ ผู้ติดเชื้อโควิดในจีนกำลังกลับมาเพิ่มสูงอีกครั้ง

หน้าตาของมาตรการล็อกดาวน์ในจีน

ประเทศจีนถือว่ามีนโยบายควบคุมโควิดที่เข้มงวดมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ดังนี้
  • ทางการท้องถิ่นต้องสั่งล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด ตามอาคารและชุมชมที่พบผู้ติดเชื้อ แม้ว่าผู้ติดเชื้อจะไม่มากนัก
  • การตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อในชุมชน หากมีการรายงานพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่
  • ประชาชนที่ติดโควิดต้องแยกกักตัวที่บ้าน หรือสถานกักตัวของรัฐบาล
  • หากมีการประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่ ธุรกิจและโรงเรียนจะต้องปิดชั่วคราว
  • ร้านค้าต้องปิด ยกเว้นการจำหน่ายอาหาร
  • การล็อกดาวน์จะดำเนินไปจนกว่าจะไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่
นับแต่รัฐบาลจีนดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์ มีประชากรจีนหลายสิบล้านคนที่ล้วนเคยเผชิญการล็อกดาวน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ตอนนี้จีนไม่ได้สั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศแล้ว และก็ผ่อนคลายมาตรการที่เคยใช้หลายอย่าง

อย่างไรก็ดี รัฐบาลกลางบอกให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสั่งล็อกดาวน์พื้นที่ของตัวเองหากว่าพบกรณีการติดเชื้อ แม้จะเจอแค่ไม่กี่รายเท่านั้น

ทำไมเซี่ยงไฮ้กลับลำวิธีรับมือโควิด
ฮ่องกงทำอะไรพลาดในแผนจัดการโควิด
เชื้อเดลตากำลังคุกคามยุทธศาสตร์ปลอดโควิดของจีน

นอกจากนี้ จะมีการเรียกคนจำนวนมากที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับผู้ติดเชื้อมาตรวจโควิด ใครที่ติดเชื้อก็ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน หรือไม่ก็ไปอยู่ในสถานที่กักตัวที่รัฐเป็นผู้ควบคุม

ไม่เพียงเท่านั้น ทางการท้องถิ่นยังดำเนินมาตรการสุดโต่ง อาทิ ให้พนักงานโรงงานนอนในโรงงาน เพื่อที่จะทำงานต่อได้ แม้จะต้องกักตัวก็ตาม

เมื่อต้น พ.ย. พนักงานจำนวนมากของโรงงานฟ็อกคอนน์ ในเมืองเจิ้งโจว ซึ่งผลิตไอโฟน ได้ฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์ และพยายามหนีออกมาจากโรงงาน เพราะกลัวว่าพวกเขาจะถูกขังอยู่ภายใน

เมื่อเดือน ส.ค. ผู้จับจ่ายซื้อสินค้าในร้านอิเกีย ในนครเซี่ยงไฮ้ พังประตูร้านออกมา เพื่อหนีการล็อกดาวน์



อย่างไรก็ดี จีนก็คลายมาตรการบางอย่างแล้ว

คนที่ติดเชื้อต้องกักตัวแค่ 8 วัน แทนที่จะเป็น 10 วัน โดยให้กักตัวที่ศูนย์ของรัฐ 5 วัน และที่บ้านตัวเองอีก 3 วัน

ตอนนี้จีนอนุญาตให้คนเดินทางมาจากต่างประเทศได้แล้ว แต่ผู้ที่เดินทางมาต้องตรวจโควิด 48 ชั่วโมงก่อนที่จะมาถึง

สถานการณ์โควิดในจีนเริ่มน่าวิตก ?

เมื่อไม่นานมานี้ จีนรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่จากโควิด เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน

เมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วจีนถึง 40,052 คน ถือว่าเพิ่มจาก 39,506 คนเมื่อวันอาทิตย์ (27 พ.ย.) และถือว่าพุ่งสูงกว่าช่วงพีคครั้งล่าสุดในเดือน เม.ย. 2022 ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายสัปดาห์อยู่ที่เฉลี่ยเกือบ 200,000 คน



แม้จะมีรายงานผู้ติดเชื้อในหลายพื้นที่ทั่วจีน แต่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ เมืองกว่างโจว ทางตอนใต้ และฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 7,000-8,000 คนทุกวัน

ส่วนที่กรุงปักกิ่ง มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 4,000 ต่อวัน ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตต่อสัดส่วนประชาชนในจีน ยังถือว่าต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ

จีนใช้วัคซีนอะไร

จนถึงตอนนี้ มีประชากรจีนที่อายุเกิน 80 ปี เพียงประมาณครึ่งเดียว ที่ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว ขณะที่ประชากรอายุ 60-69 ปี ไม่ถึง 60% ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

ประชาชนสูงอายุถือว่ามีความเสี่ยงต่อโควิด-19 มากที่สุด และจีนพยายามผลักดันให้ผู้สูงวัยเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว



เหตุผลหนึ่งที่ประชาชนไม่ต้องการรับวัคซีนในจีน เพราะรัฐบาลจีนเน้นการวัคซีนซิโนแวค และซิโนฟาร์ม เป็นหลัก ซึ่งประชาชนวิตกว่าจะไม่มีประสิทธิภาพต้านโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดทั่วโลกในเวลานี้

ชาติตะวันตกเสนอวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากกว่า อาทิ วัคซีน mRNA อย่างไฟเซอร์ แต่จีนปฏิเสธจะใช้วัคซีนของชาติตะวันตกในวงกว้าง

รัฐบาลจีนไม่ได้ให้เหตุผลที่แน่ชัดว่า ทำไมถึงยึดติดกับวัคซีนที่ผลิตเองในจีนมากนัก แต่ ดร. ยู เจีย นักวิจัยอาวุโส ขององค์กรระดมสมองชาแธมเฮาส์ มองว่า จีนอาจห่วงเรื่องศักดิ์ศรีของชาติมากกว่า

"ผมคิดว่า สี จิ้นผิง คิดถึงเรื่องการพึ่งพาตนเอง การที่จีนต้องผลิตวัคซีนด้วยตนเอง มากกว่าการนำเข้ามาจากประเทศอื่น"

ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้จีนเปลี่ยนยุทธศาสตร์การรับมือโควิดเสียใหม่ แต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ระบุว่า นโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่จีนใช้อยู่ เป็นไปตามหลัก "วิทยาศาสตร์และได้ผล"

ทำไมจีนยังพยายามให้ยอดโควิดเป็นศูนย์อยู่

จีนบอกว่านโยบายโควิดเป็นศูนย์ช่วยชีวิตคนได้ เพราะการแพร่ระบาดอย่างไม่สามารถควบคุมได้จะทำให้กลุ่มคนเปราะบาง อาทิ คนสูงอายุ ตกอยู่ในอันตราย

การล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตในจีนยังน้อยมาก โดยตัวเลขทางการอยู่แค่ 5,200 ราย

ตัวเลขรายงานนี้เท่ากับว่าใน 1 ล้านคน จีนมีผู้เสียชีวิตจากโควิดแค่ 3 รายเท่านั้น เทียบกับ 3,000 รายต่อหนึ่ง 1 ล้านคนสำหรับสหรัฐฯ และ 2,400 รายต่อ 1 ล้านคนสำหรับสหราชอาณาจักร

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการล็อกดาวน์ในหลายเมืองของจีนพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นเซินเจิ้น เมืองที่มีประชากร 17.5 ล้านคน และเป็นศูนย์กลางของภาคเทคโนโลยี หรือนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีประชากร 26 ล้านคน และเป็นศูนย์กลางการเงิน การค้า และอุตสาหกรรมการผลิต ของประเทศ

การล็อกดาวน์ทำให้โรงงานและท่าเรือต้องปิดตัวลงเป็นเวลานาน ส่งผลกระทบต่อหลายบริษัทรวมถึงของชาวต่างชาติด้วย

เศรษฐกิจจีนเติบโตแค่ 3.9% ในปีที่แล้ว เทียบกับเป้าที่วางไว้ 5.5% สำหรับปี 2022

นอกจากนี้ บริษัทและผู้บริโภคที่อื่นในโลกที่ต้องพึ่งสินค้าจากจีนก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

ทำไมองค์การอนามัยโลกบอกว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่ผิด

แม้ว่าจีนรับมือกับโควิดได้ค่อนข้างประสบความสำเร็จในช่วงต้น องค์การอนามัยโลกบอกว่าโควิดสายพันธุ์โอมิครอนระบาดไปทั่วจีนเพราะมันแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ

องค์การอนามัยโลกบอกว่าโควิดมีวิวัฒนาการและเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองไปเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเปลี่ยนมาตรการรับมือไปด้วย

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนบอกว่า นโยบายโควิดเป็นศูนย์ทั้งมีประสิทธิภาพและอิงหลักวิทยาศาสตร์ รัฐบาลจีนบอกว่าการเปลี่ยนนโยบายจะทำให้คนสูงอายุจำนวนมากเสียชีวิต

ที่มา บีบีซี นิวส์
โควิดเป็นศูนย์ : นโยบายคุมโควิดจีนมีหน้าตาอย่างไร ทำไมคนถึงต่อต้าน
โดย ว่านหยวน ซ่ง
29 พฤศจิกายน 2022

เหตุผลมากมายในการประท้วงจีน "นโยบายโควิดเป็นศูนย์สามารถเกิดขึ้นได้เฉพาะในจีนหรือเกาหลีเหนือเท่านั้น… และรัฐบาลไม่เคยเปิดเผยความจริงให้ผู้คนรู้"


เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดถนนวูรุมมูชีในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 27 พ.ย. เพื่อหยุดการประท้วงต่อต้านนโยบายปลอดโควิดของจีน

ประท้วงจีน : เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนตรึงกำลังแน่นหลังผู้ประท้วงปักหลักชุมนุมหลายวัน

29 พฤศจิกายน 2022
บีบีซีไทย

การประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่เข้มงวดของรัฐบาลจีน ซึ่งปะทุขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะยุติลงแล้ว หลังมีรายงานว่า ทางการได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนเข้าควบคุมฝูงชนในเมืองต่าง ๆ ของจีน

ทางการยังตั้งเครื่องกีดขวางขนาดใหญ่และแนวกั้นตามแนวถนนหลักที่ใช้เป็นสถานที่ประท้วงในนครเซี่ยงไฮ้ โดยมีรายงานว่า ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวผู้ชุมนุมแล้วหลายคน

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังขัดขวางไม่ให้ผู้คนถ่ายรูปการประท้วงและให้ลบรูปภาพในอุปกรณ์ของพวกเขา

การประท้วงทั่วประเทศขยายตัวขึ้นหลังจากเกิดไฟไหม้อาคารสูงในเมืองอุรุมชี ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของจีน เหตุไฟไหม้ดังกล่าวคร่าชีวิตผู้คนไป 10 คน เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา

เป็นที่เชื่อกันอย่างแพร่หลายว่า ผู้อยู่อาศัยในอะพาร์ตเมนต์แห่งนี้ไม่สามารถหลบหนีไฟได้เนื่องจากมาตรการโควิด แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้โต้แย้งข้อกล่าวหาดังกล่าว

เอ็ด ลอว์เรนซ์ ผู้สื่อข่าวของบีบีซีในประเทศจีนถูกจับกุมระหว่างติดตามทำข่าวการประท้วงในนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ลอว์เรนซ์รายงานว่าเขาถูกทำร้ายและถูกเตะ และถูกกักตัวอยู่หลายชั่วโมงก่อนที่จะได้นรับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา

นายเจมส์ เคลเวอร์ลี รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ทวีตข้อความแสดงความ "วิตกกังวลอย่างยิ่ง" ต่อการจับกุมผู้สื่อข่าวบีบีซี


มีการสร้างเครื่องกีดขวางตามสถานที่ประท้วงหลักบนถนนวูรุมมูชี ของนครเซี่ยงไฮ้ หลังจากเกิดการประท้วงของคนจำนวนมากต่อมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวด

จีนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจประเทศเดียวที่ยังมีนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่เข้มงวด ที่มีเจ้าหน้าที่จากภาครัฐเข้าควบคุมพื้นที่ในทันทีแม้จะพบการระบาดเพียงเล็กน้อย พร้อมจับทุกคนตรวจหาเชื้อ กักตัว และออกมาตรการล็อกดาวน์ทันที

ภาพการประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์เกิดขึ้นมากมายในนครเซี่ยงไฮ้และเมืองหลวงอย่างปักกิ่ง รวมถึงเมืองใหญ่อื่น ๆ เช่น เฉิงตูและอู่ฮั่น

การเซ็นเซอร์ไม่ให้เข้าถึงแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของจีน เริ่มเกิดขึ้นบ่อยขึ้น นับตั้งแต่เกิดการประท้วงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อยับยั้งไม่ให้ผู้คนเห็นและพูดถึงการประท้วงที่เกิดขึ้นตามเมืองต่าง ๆ

โพสต์หลายสิบล้านรายการถูกกรองออกจากผลการค้นหา ในขณะที่สื่อจีนต่าง ๆ เลี่ยงไม่รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การประท้วง และหันไปนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลโลกและความสำเร็จด้านอวกาศของจีนแทน

ผู้ประท้วงหลายสิบคนรวมตัวกันในใจกลางฮ่องกงเมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) และที่วิทยาเขตของมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (Chinese University of Hong Kong) เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับการชุมนุมที่เกิดขึ้นทั่วประเทศจีน



ปัญหาด้านวัคซีนของจีน

ถึงแม้ว่าประเทศจีนได้พัฒนาวัคซีนป้องกันโควิดเป็นของตัวเอง แต่คุณภาพก็ไม่ดีเท่ากับวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีแบบ mRNA อย่างเช่นวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาที่มีการใช้กันทั่วโลก

การได้รับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเทคครบโดส (2 โดส) จะทำให้อัตราการป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรงหรือเสียบชีวิตจากโรคได้ถึง 90% ในขณะที่วัคซิโนแวคให้การปกป้องได้เพียง 70%

วัคซีนยังไม่ได้รับการแจกจ่ายให้กับผู้คนอย่างเพียงพอ ขณะนี้จีนยังมีผู้สูงอายุจำนวนไม่มากที่ได้รับวัคซีน ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเปราะบางและมีแนวโน้มว่าจะเสียชีวิตจากโควิดมากที่สุด

นอกจากนี้ ชาวจีนยังมี "ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ" ที่จะเกิดขึ้นจากการติดโควิด น้อยมาก อันเป็นผลมาจากมาตรการโควิดที่พยายามไม่ให้ประชาชนติดโควิด

นั่นหมายความว่า โควิดสายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายได้เร็วกว่าไวรัสที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว และมีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องที่จะถูกนำเข้าจากประเทศที่ปล่อยให้ไวรัสแพร่กระจาย

สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความท้าทายทางการเมืองอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนสำหรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน โดยทั้งประเทศกำลังจับตาดูอยู่ดูว่าเขาจะมีท่าทีอย่างไร

ผู้ประท้วงจำนวนมากถือกระดาษเปล่า ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการประท้วงโดยหลีกเลี่ยงการตรวจสอบหรือจับกุม



ชาวกรุงปักกิ่งออกมาประท้วงนโยบายปลอดโควิดของรัฐบาล หลังเกิดเพลิงไหม้ที่อะพาร์ตเมนต์ในเมืองอุรุมชีทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน

แต่ก็มีอีกหลายคนที่มีข้อเรียกร้องไปไกลกว่านั้นมาก และเรียกร้องให้นายสีออกจากตำแหน่ง

แม้จะมีการเซ็นเซอร์อย่างหนัก แต่ข่าวการประท้วง วิดีโอ และรูปภาพก็แพร่กระจายผ่านสื่อสังคมออนไลน์และแอปพลิเคชันรับส่งข้อความอย่างต่อเนื่อง

อ้าย เหว่ยเหว่ย ศิลปินและนักสร้างภาพยนตร์แนวหน้าของจีน เปรียบนโยบายโควิดที่เข้มงวดของจีนกับเรื่องอื้อฉาวด้านสาธารณสุขของประเทศในปี 1990 ในมณฑลเหอหนาน ที่ผู้คนทำรายได้จากการขายเลือด ซึ่งทำให้ผู้คนนับแสนติดเชื้อเอชไอวี

นายอ้าย ผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนอย่างตรงไปตรงมา กล่าวว่า มีความคล้ายคลึงกันหลายประการในแง่ของความพยายามของรัฐบาลในการควบคุมข้อมูลข่าวสาร

"นโยบายโควิดเป็นศูนย์สามารถเกิดขึ้นได้เฉพาะในจีนหรือเกาหลีเหนือเท่านั้น… และรัฐบาลไม่เคยเปิดเผยความจริงให้ผู้คนรู้" เขากล่าวกับรายการ PM ของบีบีซี

"เศรษฐกิจกำลังพังทลาย คนหนุ่มสาวไม่มีงานทำ นักเรียนไม่มีอนาคต บัณฑิตไม่สามารถหางานได้ ซึ่งสร้างเหตุผลมากมายสำหรับการประท้วงในลักษณะนี้"

น้าแอ็ด..ยังเงียบๆอยู่นะ !


Joey Kanis
11h

“น้าแอ็ด..” ยังเงียบอยู่นะครับ !
………………………….
คราวนี้ จะเปิดให้เห็นเอกสาร น.ส.3 ก. แปลงที่ดิน ที่มีชื่อตรงกับ “ ยืนยง โอภากุล” หรือ ที่เรารู้จักกันว่า “น้าแอ็ด คาราบาว” ครับ มาดูรายละเอียดของที่ดิน แปลงนี้ครับ
.
ภาพที่ 1 : หนังสือ น.ส.3 ก เลขที่ 2107 เมื่อปี พ.ศ.2535
.
เป็นเอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ( น.ส.3 ก) เลขที่ 2107 เลขที่ดิน 17 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย สระบุรี เนื้อที่ 9.46 ไร่ เป็นเอกสาร น.ส.3 ก. ที่ออกจาก ส.ค.1 เลขที่ 166 หมู่ที่ 2 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย สระบุรี เนื้อที่ 4-1-40 (4ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา )
.
*** หมายเหตุ : เป็น น.ส.3 ก. ที่ออกจาก ส.ค. 1 และมีขนาดที่ดินมากขึ้นกว่าเดิมถึง 4-3-06 ( 4 ไร่ 3 งาน 6 ตารางวา)
.และเมื่อนำไปขอออกโฉนดที่ดิน “ นายยืนยง” นำชี้ที่ดินแนวเขตที่ออกโฉนดที่ดิน ได้เนื้อที่เพิ่มเป็น 10 ไร่ 52.5 ตารางวา
.
ข้อสังเกตเพิ่มเติม : ส.ค.1 เลขที่ 166 หมู่ที่ 2 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย สระบุรี เป็นใบแทน ส.ค.1 ไม่ใช่ฉบับจริง แต่ไม่พบการสอบสวนเพื่อออกใบแทนของสำนักงานที่ดิน ซึ่งในขั้นตอนปกติต้องสอบสวนเจ้าของที่ดินผู้แจ้ง ส.ค.1 เลขที่ 166 หรือทายาท เพื่อจะได้ทราบว่าตำแหน่งที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 166 อยู่ที่ใด ข้างเคียงติดทั้ง 4 ด้าน ติดกับบุคคลใด
.
แต่ในขณะนั้นการออกใบแทน และส.ค.1 พิมพ์ว่า “นางใหม่ คำภิรานนท์” ได้ครอบครองมาก่อนปี พ.ศ.2498 ประมาณ 80 ปี เป็นการพิมพ์ตาม ส.ค.1 เลขที่ 143
.
ภาพที่ 2 : หนังสือ น.ส.3.ก.เลขที่ 2108
.
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 ก. เลขที่ 2108 เลขที่ดิน 18 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย สระบุรี เนื้อที่ 24 ไร่ 2 งาน 84 ตารางวา ออกจากจาก ส.ค.1 เลขที่ 143 หมู่ที่ 2 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย สระบุรี เนื้อที่ 16 ไร่ ดังนั้นจึงมีที่ดินที่งอกออกมามากกว่าเดิม 8 ไร่ 2 งาน 84 ตารางวา
.
เมื่อมีการนำมาขอออกโฉนดที่ดิน นายยืนยง ได้นำชี้ที่ดินแนวเขตที่ออกโฉนดที่ดิน ได้เนื้อที่ เพิ่มเป็น 25 ไร่ 1 งาน 29.4 ตารางวา
.
อีกประเด็น : คือ จากการตรวจสอบสารบบที่ดิน พบว่าการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก ) ทั้ง 2 แปลง พบข้อสงสัยดังนี้ครับ
1.ไม่พบต้นร่างผลการรังวัดเพื่อออก น.ส.3 ก ( ต้นร่างจะระบุระยะทุกด้านของหนังสือรับรอง น.ส.3 ก ว่า ยาวกี่เมตร) การออกหนังสือ น.ส.3 ก ทั้งแปลงต้องครอบครองต่อเนื่องจากผู้แจ้งการครอบครอง )
.
แต่กรณีนี้ ไม่พบว่าการซื้อ-ขาย ไม่มีระบุในสารบบการออกหนังสือรับรอง น.ส.3 ก ทั้ง 2 แปลง สภาพพื้นที่เดิมไม่มีถนนเข้าถึงการเดินทางก่อนปี 2550 ต้องเดินทางด้วยทางเรือเท่านั้น และไม่มีการลงระวางในระวางรูปถ่ายทางอากาศ จึงมีคำถามได้รังวัดจริงหรือไม่
.
2. การตรวจสอบเอกสารประกาศพื้นที่ป่าสงวนของกรมป่าไม้ พบว่าที่ดินอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินและกรมป่าไม้ พ.ศ.2534 จ.สระบุรี ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจพิสูจน์ที่ดินไม่น้อยกว่า 3 คน เช่น ป่าไม้จังหวัดหรือผู้แทน , เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหรือผู้แทน นายอำเภอหรือผู้แทน และกรรมการอื่น เพื่อตรวจสอบการครอบครองและทำประโยชน์จริงหรือไม่ เพื่อสรุปข้อเท็จจริงเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ว่า สมควรออกหนังสือ น.ส.3 ก หรือไม่ และไม่พบการรับรองแนวของของเจ้าหน้าที่ป่าไม้
.
3. รายงานของเจ้าหน้าที่ที่ดินในการออกหนังสือรับรองน.ส.3 ก ทั้ง 2 แปลง ระบุว่า พบการปลูกกล้วย มะม่วง ข้าวโพด แต่จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ เมื่อมี 2498 ที่ดินมีสภาพเป็นป่าผลัดใบ ไม่มีการทำประโยชน์ ขัดแย้งกับ ส.ค.1 เลขที่ 166 ที่อ้างว่าครอบครองมาก่อน พ.ศ.2498 เป็นเวลา 80 ปี จึงไม่สามารถออกหนังสือ น.ส.3 ก ได้เนื่องจากไม่ได้ครอบครองทำประโยชน์อยู่จริง ไม่เข้าเงื่อนไขที่จะออกหนังสือ น.ส.3 ก ได้
.
4. ปี พ.ศ.2565 “นายยืนยง” นำหนังสือ น.ส.3 ก ทั้ง 2 แปลงมายื่นขอออกโฉนดที่ดิน และอยู่ระหว่างการพิจารณาออกโฉนดที่ดิน
..
น้ำ ผา ป่าใหญ่ :
เมื่อตรวจสอบดูข้อมูลที่ตั้งของแปลงที่ดิน และเอกสารการครอบครอง ปัจจุบันนี้ พบการระเบิดเขา เปิดเส้นทางทำทางขึ้นภูเขาระยะทางประมาณ 500 เมตร เทถนนคอนกรีตกว้าง 5 เมตร 2 ข้างทางเส้นทางขึ้นเขา ยังล้อมด้วยภูเขาหินปูน ที่ดินแปลงนี้กำลังให้เช่า ดำเนินกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยวแบบ แอดเวนเจอร์ เช่น การปีนหน้าผา แคมป์ปิ้ง ้เดินป่า กางเต้น พายเรือล่องแก่ง ซิปไลน์ข้ามแม่น้ำป่าสัก ฯลฯ
#TheExit
#ThaiPBS
#ชีวิตสัมพันธ์
#ป่าสงวน #แก่งคอย
.
ป.ล.ยังรอ “น้าแอ็ด” และ อดีตเจ้าหน้าที่ป่าไม้ มาอธิบายที่มาที่ไปนะครับ ! และ มีอะไรคืบหน้าจะมาเล่าให้ฟังต่อครับผม
ภาพที่ 1 : น.ส.3 น.ส.3 ก เลขที่ 2107
.
ภาพที่ 2 : น.ส.3.ก.เลขที่ 2108
.
ภาพที่ 3 : แผนที่ภาพถ่าย กรมป่าไม้
.
ภาพที่ 4 : ภาพถ่ายดาวเทียม ที่ดิน "น้าแอ็ด" และ ตรงกับ " น้ำ ผา ป่าใหญ่ แคมป์ปิ้ง"
.
ภาพที่ 5 : ภาพกิจกรรมใน " น้ำ ผา ป่าใหญ่ แคมป์ปิ้ง"


Joey Kanis
1d

ตรวจสอบที่ดิน "แอ๊ด คาราบาว" ข้อกล่าวหาบุกรุกป่าสงวนทับกวาง-มวกเหล็ก 35 ไร่
.
มีชาวบ้านร้องเรียน เมื่อเดือน ต.ค. 65 ให้ตรวจสอบการบุกรุก ป่าสงวนแห่งชาติป่าทับกวาง-มวกเหล็ก สระบุรี
.
เนื่องจาก พบการสร้างประตูรั้วเหล็กกั้นไม่ให้ชาวบ้านเข้า-ออก หรือ ใช้เป็นทางผ่านได้ และอ้างว่าเป็นที่ดินส่วนบุคคล
.
ที่ดินแปลงนี้ ออกใบจอง น.ส.1 เมื่อ 7 ส.ค.2534 จากนั้นเปลี่ยนเป็น น.ส.3 ก เมื่อ 6 มี.ค.2535 ซึ่งใช้เวลาเพียง 7 เดือน เร็วกว่าขั้นตอนปกติของคนทั่ว ๆ ไป(3ปี) และยังพบว่า เดิมเป็น น.ส. 3 ก. 16 ไร่ แต่กลับมีที่ดินเพิ่มขึ้น เป็น 24 ไร่
.
ที่ดินแปลงนี้ หลังจากตรวจสอบ พบการระเบิดเขา เปิดเส้นทางทำทางขึ้นภูเขาระยะทางประมาณ 500 เมตร เป็นพื้นที่มีความลาดชัน มีต้นไม้ปกคลุม เทถนนคอนกรีตกว้าง 5 เมตร 2 ข้างทางเส้นทางขึ้นเขา ยังล้อมด้วยภูเขาหินปูน
.
ชาวบ้านให้ข้อมูลเบื้องต้น ว่า เจ้าของที่ดินกำลังจะเปิดให้ท่องเที่ยว เข่น การปีนหน้าผา และท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์รับทัวร์เฉพาะ เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นเขาที่ล้อมด้วยแม่น้ำป่าสัก
.
ที่ดินแปลงนี้ ป.ป.ท. พบว่า นายยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว ครอบครองที่ดิน น.ส.3 ก จำนวน 2 แปลงรวมพื้นที่ 35 ไร่
#TheExit
#ThaiPBS
#บุกรุกป่าสงวน
รอ"น้าแอ็ด" มาชี้แจงนะครับ

17:00 มีข้อมูล​เพิ่มเติม​สั้น ๆ จากคนใกล้ชิด "น้าแอ็ด" ครับ
.. "ยืนยันไม่ได้ ทำผิด เขื่อว่า ถูกใส่ร้าย และพร้อมจะพิสูจน์​ข้อเท็จจริง​ตามกฎหมาย"

“ทำอย่างไรให้ประเทศไทยหนุ่มสาวขึ้น?” TDRI Annual Public Virtual Conference 2022


TDRI Annual Public Virtual Conference 2022 “ทำอย่างไรให้ประเทศไทยหนุ่มสาวขึ้น?”

Streamed live 21 hours ago

การนำเสนอ การปรับประเทศไทยไปสู่อนาคตบนความแตกต่างของคนแต่ละรุ่น ช่วงเช้า 10.00-12.00 น. 
.
“จัดการความขัดแย้งแห่งช่วงวัย” การมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศด้วยวิธีการแบบเดิมอาจไม่ตอบโจทย์ในอนาคตอีกต่อไป การสร้างแนวร่วมใหม่และดึงพลังหนุ่มสาวมาร่วมขับเคลื่อนประเทศ คือโจทย์สำคัญ - นำเสนอโดย ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอ 
.
“เปิดใจเปิดประตูเรียนรู้ใหม่” การปรับตัวครั้งใหญ่ ซึ่เกิดขึ้นได้จากการสร้าง “พื้นที่การเรียนรู้” ที่ปลอดภัย และเปิดกว้างให้คนทุกกลุ่มมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศ - นำเสนอโดย ดร.ชาริกา ชาญนันทพิพัฒน์ นักวิชาการ ด้านการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืน และ คุณพงศ์ทัศ วนิชานันท์ นักวิจัยอาวุโส นโยบายด้านการปฏิรูปการศึกษา 
“เติมพลังหลากหลายให้โลดแล่น” ไทยยังขาดสัดส่วนตัวแทนจากคนรุ่นใหม่และความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ในสังคม การทำให้รัฐเปิดใจ รับพลังที่หลากหลายจะช่วยให้รัฐไทยปรับตัวและพาประเทศไทยให้โลดแล่นในโลกยุคใหม่ได้ - นำเสนอโดย ดร.บุญวรา สุมะโน นักวิชาการอาวุโส นโยบายเพื่อการพัฒนาสังคม และ ดร. สลิลธร ทองมีนสุข นักวิชาการ นโยบายด้านการขนส่งและโลจิสติกส์

หลังรอคอยมานานถึง 25 ปี อันวาร์ อิบราฮิม ก็มาถึงฝั่งฝัน เมื่อเขาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของมาเลเซีย ในวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อนาคตมาเลเซียหลังจากนี้จะเดินไปในทิศทางใด

https://www.facebook.com/the101.world/videos/685655846328231
The101.world was live.
11h

101 One-on-One Ep.284 ‘มาเลเซียยุคอันวาร์ บนการเมืองแห่งความไม่แน่นอน’ กับ ปรางค์ทิพย์ ดาวเรือง

หลังรอคอยมานานถึง 25 ปี อันวาร์ อิบราฮิม ก็มาถึงฝั่งฝัน เมื่อเขาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของมาเลเซีย ในวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากผ่านพ้น 6 วันแห่งความโกลาหลในการแข่งรวมเสียงตั้งรัฐบาล เมื่อผลการเลือกตั้งชี้ว่าไม่มีแนวร่วมใดคว้าที่นั่งในสภาได้เกินกึ่งหนึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทั้งยังเต็มไปด้วยเรื่องไม่คาดฝัน อันสะท้อนถึงภูมิทัศน์การเมืองมาเลเซียที่หมดสิ้นยุคแห่งเสถียรภาพและไม่อาจหวนกลับสู่จุดเดิม
แม้อันวาร์จะคว้าเก้าอี้ผู้นำได้สำเร็จ แต่ความอลหม่านและความไม่แน่นอนยังคงปกคลุมทั่วทุกอณูของสมรภูมิการเมือ��มาเลเซียอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วอนาคตมาเลเซียหลังจากนี้จะเดินไปในทิศทางใด
101 ชวน ปรางค์ทิพย์ ดาวเรือง นักวิจัยอิสระด้านมาเลเซีย และนักข่าวอิสระ สมาชิกเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) มาพูดคุยกันในประเด็นนี้
ดำเนินรายการโดย วงศ์พันธ์ อมรินทร์เทวา
วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2565 เวลา 19.30 น. ทาง The101.world ทุกแพลตฟอร์ม

บอร์ดเกม "Patani Colonial Territorial" ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไปยึดมาตรวจสอบ คืออะไร

Wartani
5h

บอร์ดเกม “Patani Colonial Territory " คืออะไร
เกมนี้ถูกจัดทำและออกแบบโดยกลุ่ม Chachiluk Boardgame
เนื้อหาของเกมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอณาจักรปาตานีก่อนรวมกับสยาม รวบรวมประวัติศาสตร์จำนวนหนึ่งและเรื่องเล่าของคนในพื้นที่ ในรูปแบบการ์ดเกม ซึ่งผู้ผลิตตั้งใจที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์แก่ผู้เล่น ความสนุกในการเรียนรู้
#Wartani_NEWS #PATANI
---------------------------------------------------------------
Let us be the witnesses for peace in PATANI // ร่วมเป็นสักขีพยานเพื่อสันติภาพ ณ ปาตานี // Bersama kita menjadi saksi demi kedamaian di PATANI
.....
Patani Colonial​ Territory บอร์ดเกมที่ชวนทุกคนตามรอยประวัติศาสตร์ที่หายไปของปาตานี



Patani (ปาตานี) คือพื้นที่ที่ครอบคลุมจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และบางอำเภอในจังหวัดสงขลา ผู้คนที่อาศัยส่วนใหญ่เป็นชาวมลายูและมุสลิม อาณาจักรปาตานีเคยรุ่งเรืองเมื่อสี่ร้อยปีก่อนจะถูกสยามยึดครองในช่วงต้นของยุครัตนโกสินทร์ และแบ่งพื้นที่สืบต่อมาเป็นจังหวัดต่างๆ ของภาคใต้เช่นปัจจุบัน

‘Patani Colonial​ Territory’ คือบอร์ดเกมที่เป็นผลผลิตจากกลุ่ม ‘Chachiluk​ (จะจีลุ)’ ร่วมกับสำนักพิมพ์ KOPI และได้รับทุนสนับสนุนโดย Common School มูลนิธิคณะก้าวหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งต่อประวัติศาสตร์ของอาณาจักรนี้ไม่ให้หายไป

กลุ่มจะจีลุเล่าถึงที่มาของชื่อกลุ่มว่ามาจากการละเล่นพื้นบ้านของเด็กๆ ในพื้นที่ปาตานี โดยเหตุผลที่ใช้ชื่อนี้เพราะอยากทำหน้าที่เป็นตัวแทนความสนุกสนาน และหวังเป็นสื่อในการเชื่อมต่อผู้คนให้ได้รับรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ รวมถึงนำเสนอเรื่องราวของปาตานีผ่านความสนุกในโลกของบอร์ดเกมที่จะชวนผู้เล่นมาประลองไหวพริบและกระตุ้นเตือนความทรงจำ ​ท้าทายให้ทุกคนได้ลองร้อยเรียงลำดับเหตุการณ์​การผนวก​รวมปาตานีเข้ากับสยาม โดยเกมนี้จะใช้จำนวนผู้เล่น 3 – 5 คน กับระยะเวลาเล่นราว 15 – 30 นาที



ในบอร์ดเกมหนึ่งชุดนั้นประกอบด้วย

1) การ์ดเกม 52 ใบ โดยแบ่งออกไปเป็น 4 สี สีละ 13 ใบ

2) โทเคน 30 ชิ้น ประกอบด้วยโทเคนที่มีตัวเลข 1 – 5 สีละหนึ่งชุด และโทเคนไม่มีตัวเลข 5 สี บรรจุในถุงผ้า

3) ใบกำกับกติกาการเล่นแบบ 2 กติกา พร้อมกระดานนับคะแนนที่อยู่ในแผ่นเดียวกัน แบ่งเป็นแผ่นหน้าและหลัง

บอร์ดเกม Patani Colonial​ Territory ผลิตออกมาทั้งหมด 50 ชุด ซึ่งในช่วงเริ่มต้นนี้ทางทีมงานได้มีมติว่า จะแจกบอร์ดเกมทั้งหมดให้องค์กรต่างๆ กลุ่มนักศึกษา และกลุ่มอื่นๆ ต่อไป

สำหรับใครที่สนใจการ์ดเกม Patani Colonial​ Territory ติดตามความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ทางสำนักพิมพ์ KOPI



ที่มา https://urbancreature.co/patani-colonial-territory/

วีระ สมความคิด แจ้งความ แอ๊ด คาราบาว รุกป่าสงวนแห่งชาติทับกวาง มวกเหล็ก พบมีกระบวนการผิดปกติถึงการออกโฉนดโดยมิชอบ วีระ โพสต์ต่อ ได้มีความพยายามติดต่อขอให้หยุดการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยอ้างว่าขอบิณฑบาตรสักครั้ง - อย่างงี้ก็ได้หรอ !



วีระ สมความคิด
16h

หลังจากที่มีการตรวจสอบและดำเนินคดีร้องทุกข์กล่าวโทษ กับนายยืนยง โอภากุล ผู้ซึ่งเชื่อว่าบุกรุกครอบครองที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวร ที่หมู่ 2 บ้านท่าสบก ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และเชื่อว่าขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส. 3 ก) โดยมิชอบ รวมถึงการทำประตูเหล็ก ทำถนนคอนกรีต และการระเบิดภูเขาเพื่อทำถนนเข้าสู่ที่ดินของตนเอง โดยการกระทำทั้งหมดเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าทับกวาง และป่ามวกเหล็ก แปลงที่ 1
นอกจากนี้ยังดำเนินคดีกับเจ้าพนักงานป่าไม้ทุกคนที่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยให้มีการกระทำความผิดดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี
ได้มีความพยายามติดต่อขอให้นายวีระ สมความคิด หยุดการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยอ้างว่าขอบิณฑบาตรสักครั้ง โดยผู้ที่เป็นผู้มาขอบิณฑบาตร เป็นทั้งเพื่อนของนายวีระและเป็นเพื่อนของนายยืนยงด้วย นายวีระจึงตอบกลับไปว่า นายวีระไม่สามารถหยุดการตรวจสอบ เนื่องจากกรณีนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวระหว่างนายวีระกับนายยืนยง เป็นความผิดที่นายยืนยงกระทำต่อรัฐ(แผ่นดิน) เมื่อนายวีระดำเนินคดีนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายจนถึงที่สุด หากมีผู้ใดเข้าไปยุ่งเหยิงหรือแทรกแซง ทำให้ยุติในการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ก็จะมีความผิด หากนายยืนยงจะสำนึกผิด ก็ต้องกล้ายอมรับผิด และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแต่โดยดี ผลของคดีจะเป็นอย่างไรนายยืนยงก็ต้องยอมรับ
นายวีระทำหน้าที่ช่วยเหลือราชการต้านภัยคอร์รัปชัน มากว่า 30 ปี ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่เห็นแก่หน้าผู้ใดทั้งสิ้น เจตนารมณ์ก็เพื่อช่วยทำให้การคอร์รัปชันในสังคมไทยลดน้อยลงให้มากที่สุด ไม่ได้มีเจตนาไปกลั่นแกล้ง เพื่อที่จะทำให้ผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวได้รับความเสียหาย ผู้ใดที่กระทำความผิดก็จะต้องได้รับผลจากการกระทำความผิดของเขาเอง ไม่มีผู้ใดที่สามารถไปกระทำความผิดแทนเขาได้ เรื่องอย่างนี้มันย่อมรู้อยู่แก่ใจ โกหกคนทั้งโลกได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้
#เข้าใจกันตามนี้นะครับ


แอ๊ด บาว งานเข้า รุกป่ายึดเขาแร้งคอย เปิดรีสอร์ตเย้ยกฎหมาย : ถอนหมุดข่าว 29-11-65

Nov 29, 2022

News1

วันอังคาร, พฤศจิกายน 29, 2565

อานันท์ ปัณยารชุน กับแบบแผนการเปลี่ยนผ่าน หรือส่งไม้ต่อจากชนรุ่น ‘ใกล้ฝั่ง’ ถึงชนรุ่นกำลัง ‘ก้าว (ไปข้าง) หน้า’

ว่าตามจริงเยอะไป คนเป็น ออทิสติค มีความ จีเนียส แทรกอยู่ในความไม่ธรรมดาของพวกเขา ขึ้นกับว่าความเก่งกาจนั้นได้ถูกใช้เหมาะเจาะกับเวลาและโอกาศไหม จากภาพที่เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีมีดำรัสหยอกล้อนายกฯ ในชุด แบล็คไท

“ทำไมวันนี้หล่อยังงี้ หล่อเกินไป” ทำเอานายกฯ ยิ้มอย่างเจี๋ยมเจี้ยม แสดงถึงความเป็น เหนือหัว ของคนอายุ ๓๕ ต่อคนที่อีกสองปีจะถึง ๗๐ ได้อย่างดี ทำให้โยงไปยัง คนละเรื่องเดียวกันของคนอายุ ๙๐ กับอนุชนรุ่นยี่สิบสามสิบ

จากข้อเขียนของ หนุ่มเมืองจันท์ถึงการสัมภาษณ์ อานันท์ ปัณยารชุน ในช่วงดินเนอร์ท้อคงานเสวนา เอคอนอมิคฟอรัม 2022’ โดย เคน นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ บก.บห.เดอะสแตนดาร์ด นั้น

บ่งถึงแบบแผนการเปลี่ยนผ่าน หรือส่งไม้ต่อจากชนรุ่น ใกล้ฝั่ง ถึงชนรุ่นกำลัง ก้าว (ไปข้าง) หน้า ได้อย่างควรแก่การใส่ใจ โดยเฉพาะตอนท้ายที่ “เคน ขอให้คุณอานันท์ช่วยอวยพรปีใหม่ล่วงหน้า” อดีตนายกฯ จงใจมอบให้ “คนที่มีหัวก้าวหน้า

ประสบชัยชนะ อุปสรรคที่ขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของประเทศให้ได้” เขายังกล่าวหนุนอีกด้วยว่า คนที่มีความคิดก้าวหน้าไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ อย่ากลัวความก้าวหน้า หัวก้าวหน้าไม่ใช่ซ้าย ไม่ใช่ขวา แต่หัวก้าวหน้าเป็นพวกที่ตามโลกทัน”

นายอานันท์เคยเป็นเอกอัคราชทูตประจำสหประชาชาติและประเทศตะวันตกหลายแห่ง ทำให้เดอะสแตนดาร์ดชื่นชมการใช้คำพูดแบบนักการทูตของเขา แต่ความโดดเด่นของ อานันท์ ในอดีตนั้นคือการเป็น นายกพระราชทาน

เขาจึงถูกจัดอยู่ในเครือข่าย ศักดินามาแต่ไหนแต่ไร ไม่เพียงเพราะการสมรสกับราชนิกุล จักรพันธุ์แต่ด้วยบุคคลิกภาพแห่งการเป็น ผู้ดีรัตนโกสินทร์ ของเขา กับความ ตรงไปตรงมาในด้านการงาน ดังเมื่อครั้งเป็นประธานบอร์ดธนาคารไทยพาณิชย์

“วันหนึ่งเขาเริ่มฟังเรื่อง ดิจิทัล แบงกิ้งไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจว่าพูดเรื่องอะไรกัน คุณอานันท์ ลาออกทันที” หรือเรื่องที่เขาบอกว่า “เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว ถ้าวันนี้ยังเป็นอยู่ ผมโง่ และตบท้ายว่าการลาออกไม่เห็นจะเสียหน้าอะไร

ทั้งหมดนี่ควบรวมกันอยู่ในความตระหนักรู้แห่งตน สำนึกในสถานะอันเป็นปฏิสัมพันธ์กับยุคสมัย เหมือนกับ ๘ ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า ยามเฝ้าโรงงาน (ปลากระป๋อง) ไม่มีทางเป็นซีอีโอได้

(https://www.facebook.com/boycitychanFC/posts/pfbid0qzvUL และ https://twitter.com/WassanaNanuam/status/1597207288195952640) 

เปิดแล้ว ชื่อเฒ่าหัวงูแห่งชาติที่ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการวัฒนธรรม จากกรณีสตรีรายหนึ่งที่เรียกตนเองว่า "กานต์" โพสต์เล่าเรื่องถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยชายคนนี้


Sa-nguan Khumrungroj
54m

#เฒ่าหัวงูแห่งชาติที่ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการวัฒนธรรม

ขณะนี้ สายตาผู้คนไม่น้อยกำลังจับจ้องไปยังคณะกรรมการวัฒนธรรม ที่เคยถอดถอน"สุชาติ สวัสดิ์ศรี"จากศิลปินแห่งชาติ เมื่อปีที่แล้ว
ว่าพวกเขาจะมีปฏิกริยา จัดการอย่างไรต่อกรณี"เทพศิริ สุขโสภา" ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2017

เทพศิริ นักเขียน จิตรกรชาวสุโขทัย ปัจจุบันอายุ 79 ได้ถูกสตรีรายหนึ่งที่เรียกตนเองว่า "กานต์" โพสต์เล่าย้อนอดีตเมื่อ 22 ปีที่แล้ว ขณะที่เข้าร่วมกับขบวนสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้ถูกชายคนหนึ่งที่สนับสนุนม็อบข่มขืน ทำร้ายจิตใจเธอ เคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง
ต่อมา ชายรายนี้ได้เป็นถึงศิลปินแห่งชาติ....เทพศิริ สุขโสภา

(สงวน คุ้มรุ่งโรจน์)

ลิงค์เกี่ยวข้อง

ทำไมกระดาษเปล่าจึงกลายเป็นสัญลักษณ์การประท้วงในจีน


28 พฤศจิกายน 2022
ที่มา บีบีซีไทย

ชาวจีนหลายร้อยคนรวมตัวชุมนุมกันในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ เพื่อประท้วงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่เข้มงวดของรัฐบาล ถือเป็นการท้าทายอำนาจปกครองแบบเบ็ดเสร็จของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ขึ้นดำรงตำแหน่งสมัยที่ 3 เมื่อไม่นานมานี้

ผู้ประท้วงต่างไม่พอใจกับยุทธศาสตร์รับมือโควิดของรัฐบาลจีน ที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบเฉียบพลันในจุดที่พบผู้ติดเชื้อ รวมถึงการกักตัวที่ยาวนาน และการตรวจหาผู้ติดเชื้อหมู่

ความไม่พอใจที่สั่งสมมานาน ปะทุขึ้นอย่างรุนแรงในเมืองอุรุมชี เมืองเอกของภูมิภาคซินเจียง เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (24 พ.ย.) หลังเกิดเพลิงไหม้อะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน ซึ่งประชาชนจำนวนมากมองว่า การเสียชีวิตดังกล่าว มาจากมาตรการโควิดที่ทำให้หน่วยดับเพลิงเข้าถึงพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้ไม่ทันการ

จากนั้น สถานการณ์ประท้วงเริ่มขยายตัวไปยังเมืองใหญ่อื่น ๆ ในจีน โดยเมื่อคืนวันอาทิตย์ (27 พ.ย.) ประชาชนอย่างน้อย 400 คน รวมตัวกันริมแม่น้ำในกรุงปักกิ่งนานหลายชั่วโมง พร้อมตะโกนว่า “เราทุกคนเป็นคนซินเจียง สู้ต่อไปชาวจีน”


“ฉันไม่กลัว เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เราทุกคนสู้กันอย่างหนักเพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า” ผู้ประท้วงคนหนึ่ง กล่าว

สี จิ้นผิง : ชาวจีนลุกฮือประท้วงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ความท้าทายใหญ่ที่สั่นคลอนอำนาจพรรคคอมมิวนิสต์
ซินเจียง : ชาวเมืองอุรุมชีประท้วงการล็อกดาวน์โควิด หลังเกิดเพลิงไหม้จนมีผู้เสียชีวิต
ทำความรู้จัก มอร์ริส จาง บิดาแห่งอุตสาหกรรมชิปไต้หวัน ที่เผชิญหน้าผู้นำจีนในเวทีเอเปค

ผู้หญิงชาวจีนวัย 20 ปี ระบุว่า “ฉันมาร่วมชุมนุม เพื่ออนาคตของฉัน เราต้องสู้เพื่ออนาคตของเราเอง”

“ฉันไม่กลัว เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เราทุกคนสู้กันอย่างหนักเพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า”

สื่อต่างประเทศ รวมถึงบีบีซีและเอเอฟพี ที่สังเกตการณ์การประท้วงรายงานว่า ผู้ชุมนุมร้องเพลงชาติ มีการปราศรัยต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ โดยมีตำรวจและรถตำรวจจำนวนมาก วางกำลังไว้ใกล้จุดประท้วงอย่างแน่นหนา รวมถึงตั้งด่านตรวจรถยนต์ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่

บีบีซีและรอยเตอร์ รายงานตรงกันว่า จนถึงเวลาประมาณ 5.30 น. วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้ชุมนุมในกรุงปักกิ่งยังคงดำเนินต่อไป ก่อนที่กำลังตำรวจจะเข้ามาในพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อพยายามสลายการชุมนุม

ส่วนที่นครเซี่ยงไฮ้ ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เห็นตำรวจปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วง ขณะพยายามผลักดันผู้ชุมนุมออกจากถนนอุรุมชี ที่ถูกใช้เป็นสถานที่ชุมนุม

ผู้ประท้วงปักหลักประท้วงข้ามคืนวันเสาร์ (26 พ.ย.) บางคนตะโกนว่า “สี จิ้นผิง ออกไป พรรคคอมมิวนิสต์จีนออกไป” และในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ผู้ชุมนุมอีกหลายร้อยคน พร้อมกระดาษขาวและดอกไม้ ออกมารวมตัวชุมนุมกันอีก


ชาวจีนออกมาประท้วงในหลายเมืองใหญ่

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์การชุมนุมในช่วงเย็นวันอาทิตย์ พร้อมปิดล้อมถนน โดยมีรายงานการจับกุมผู้ประท้วงหลายคน ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามผลักดันให้ผู้ประท้วงสลายการชุมนุม

“ผมไม่เคยเห็นการประท้วงระดับนี้ในนครเซี่ยงไฮ้ ตลอด 15 ปีที่ผมอยู่ที่นี่มา” แฟรงค์ ไช่ ผู้สังเกตการณ์การประท้วง บอกกับบีบีซี พร้อมเสริมว่า ช่วงสองถึงสามทศวรรษที่ผ่านมา มีการประท้วงขนาดเล็กหลายหมื่นครั้ง ในประเด็นสิทธิแรงงาน และการเวนคืนที่ดิน แต่แทบไม่มีการประท้วงใดต่อต้านรัฐบาลกลางจีนโดยตรง

ล่าสุด ช่วงวันนี้ (28 พ.ย.) ทางการจีนได้วางแนวกั้นสีน้ำเงิน ตามถนนในนครเซี่ยงไฮ้ที่เป็นสถานที่ประท้วงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ส่วนบรรยากาศการประท้วงตั้งแต่ช่วงเช้านั้น เริ่มคลี่คลายลงแล้ว

กระดาษเปล่ากลายเป็นสัญลักษณ์การประท้วงในจีน



ในการประท้วงมาตราการควบคุมโควิดที่เข้มงวดของรัฐบาลจีน ภาพของผู้ชุมนุมถือกระดาษเปล่าได้กลายเป็นสัญลักษณ์ในการแสดงพลังต่อต้านของประชาชนในหลายเมือง เช่น นครเซี่ยงไฮ้ รวมถึงที่มหาวิทยาลัยชิงหวา ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นสถาบันที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยเข้ารับการศึกษา

การประท้วงด้วยการชูกระดาษเปล่านี้มีที่มาจากการประท้วงของชาวฮ่องกงในปี 2020 ซึ่งผู้ชุมนุมชูแผ่นกระดาษเปล่าเพื่อประท้วงการที่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่เข้มงวดในฮ่องกง

การที่พวกเขาทำเช่นนี้ เพราะในตอนนั้นทางการได้ห้ามการชูแผ่นป้ายที่มีคำขวัญหรือข้อความที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงใหญ่ในปี 2019

หลายคนชี้ว่า การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงจะเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงการปิดปากกลุ่มผู้เห็นต่าง แต่ยังเป็นการท้าทายรัฐว่า “คุณจะจับกุมพวกเราเพียงเพราะถือแผ่นป้ายที่ไม่มีข้อความอะไรเลยหรือ”

ผู้ประท้วงหญิงคนหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้อธิบายให้บีบีซีฟังว่า “กระดาษว่างเปล่าไม่มีข้อความอะไรเลย แต่เราต่างรู้ดีว่ามันมีอะไรอยู่บนนั้น”

ส่วนจอห์นนี ผู้ร่วมการประท้วงวัย 26 ปีที่กรุงปักกิ่ง บอกสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กระดาษเปล่า “เป็นตัวแทนของทุกอย่างที่เราอยากพูดแต่พูดไม่ได้”

เคอร์รี อัลเลน นักวิเคราะห์สื่อจีนของบีบีซี เฝ้าติดตามการเซ็นเซอร์ของทางการจีน และพบว่ามีการเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวดตามสื่อโซเชียลมีเดีย

เธอระบุว่า มีโพสต์ 10 ล้านโพสต์ที่ถูกกรองออกจากผลการสืบค้น...แต่ “แผ่นกระดาษเปล่า” และ “กระดาษขาว” รอดพ้นจากการเซ็นเซอร์นี้


การเซ็นเซอร์ที่เข้มงวดนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้ชาวจีนในโลกออนไลน์ที่ระบุว่า “ถ้าคุณกลัวกระดาษเปล่า ก็แสดงว่าคุณอ่อนแออยู่ข้างใน”


ด้านบริษัทผู้ผลิตกระดาษ Shanghai M&G Stationary ปฏิเสธข่าวลือว่าได้เก็บสินค้าประเภทกระดาษ A4 ออกจากชั้นขายสินค้าด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของชาติ โดยเจ้าหน้าที่บริษัทระบุว่าการผลิตและจำหน่ายยังคงดำเนินไปตามปกติ และได้แจ้งตำรวจเรื่องเอกสารปลอมที่กำลังแพร่สะพัดในโลกออนไลน์ซึ่งเป็นต้นตอของข่าวลือครั้งนี้

“เราหวังจะได้เห็นประชาธิปไตยที่แท้จริง”


คนในกรุงปักกิ่งวางดอกไม้และจุดเทียนไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้ที่เมืองอุรุมชี

ในการประท้วงที่นครเซี่ยงไฮ้ ซิเลอร์ ซัน ซึ่งทำงานในอุตสาหกรรมโฆษณาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “ประชาชนรู้สึกไม่พอใจ พวกเราจึงต้องส่งสารถึงทางการเพื่อให้พวกเขาเริ่มรู้สึกไม่สบายใจบ้าง”

เขาเสริมว่า “คุณจะใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ก็ได้ แต่คุณจะไม่มีเศรษฐกิจที่ดี และคุณจะมีเศรษฐกิจที่ดีได้ แต่คุณไม่อาจใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์”

เลมาร์ วัย 20 ปีซึ่งกำลังเรียนเป็นผู้ฝึกสอนนักมวยได้เข้าร่วมการประท้วงในกรุงปักกิ่ง เขากล่าวว่า “พวกเรามาที่นี่เพื่อ...แสดงการคัดค้านมาตรการป้องกันโรคระบาด พวกเรามีชีวิตอยู่ในโลกเผด็จการ และสิ่งที่พวกเราหวังจะได้เห็นมากที่สุดในจีนคือการมีประชาธิปไตยและเสรีภาพที่แท้จริง”

ส่วน ซัมเมอร์ เคย์ ผู้ประท้วงวัย 24 ปีในกรุงปักกิ่งบอกว่า “โรคระบาดและข้อบังคับต่าง ๆ สร้างความทรมานให้พวกเราอย่างแสนสาหัส และตอนนี้ผู้คนว่างงานกันมากขึ้น มันยังกลายเป็นอุปสรรคต่อเด็กและคนชราในการเข้ารับบริการทางการแพทย์”

เธอกล่าวต่ออีกว่า “ถ้าพวกเรายังนิ่งเงียบต่อไป ฉันคิดว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลง...บางทีพรุ่งนี้ตำรวจอาจตามตัวพวกเราเจอจากข้อมูลที่เก็บได้ บางทีพวกเราอาจถูกจับกุมด้วยข้อหาแปลกประหลาดและหายตัวไป”

สื่อของรัฐบาลจีนไม่พูดถึงการประท้วง

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน นายจ้าว ลี่เจี้ยน กล่าวโทษ "บุคคลที่ไม่ประสงค์ดี" ที่เชื่อมโยงเหตุเพลิงไหม้ในภูมิภาคซินเจียง กับมาตรการโควิด

"มีบุคคลที่ไม่ประสงค์ดีในสังคมออนไลน์ เชื่อมโยงเหตุเพลิงไหม้กับมาตรการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาลท้องถิ่น"

ด้านสื่อของรัฐบาลจีน ทั้งสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ที่เป็นภาษาจีน แทบไม่รายงานถึงการประท้วงต่อต้านมาตรการโควิดที่เกิดขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมาเลย

ส่วนหนังสือพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษของรัฐบาลจีน คือ โกลบอลไทมส์ เผยแพร่บทความวิจารณ์สื่อชาติตะวันตกที่ปลุกเร้ากระแสความไม่พอใจต่อมาตรการโควิดเป็นศูนย์ของจีน

"อุดมคติที่ต่างกัน ทำให้ชาติตะวันตกและสื่อตะวันตกวิจารณ์รัฐบาลคอมมิวนิสต์จนเกือบจะเป็นสัญญาตญาณ ด้วยจุดมุ่งหมายล้มล้างระบอบการปกครองด้วยการปฏิรูป" โกลบอลไทมส์ รายงานโดยอ้างอิงคำกล่าวของนักวิชาการคนหนึ่งจากมหาวิทยาลัยฟูตัน

ด้านสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของประชาชน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการโควิดที่เข้มงวด

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนออกมาตอบโต้ คำกล่าวอ้างของรัฐบาลจีนว่า มี "ขุมพลังต่างชาติ" ปลุกปั่นให้เกิดความไม่พอใจในตัวรัฐบาล คล้ายกับเหตุการณ์ในอดีต ทั้งการประท้วงในฮ่องกง ซินเจียง ทิเบต และภูมิภาคอื่น ๆ

โพสต์หนึ่งในเว่ยป๋อ ซึ่งเป็นสังคมออนไลน์คล้ายทวิตเตอร์ในจีน ระบุว่า "มีขุมพลังต่างชาติจริงหรือ อาจจะ แต่คิดหรือว่า อำนาจต่างชาติจะจัดการประท้วงทั่วประเทศขนาดใหญ่ได้แบบข้ามคืนเช่นนี้ พวกเขาจ่ายเงินให้ประชาชนถือกระดาษขาวหรือ ถ้าคิดเช่นนั้นก็ถือว่าดูถูกเครือข่ายสังเกตการณ์ของพวกเราไปหน่อย" โพสต์นี้มีคนกดไลค์ถึง 28,000 ครั้ง



ความท้าทายต่อสี จิ้นผิง

ศาสตราจารย์ โฮ-ฟุง โห สาขาสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยจอห์นฮอบกินส์ในสหรัฐฯ​ วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในจีนช่วงไม่กี่วันมานี้ ถือเป็น “สถานการณ์ที่ท้าทาย” สำหรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

และแม้การประท้วงเป็นวงกว้างจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกมากนักในจีน แต่สิ่งที่เกิดขึ้น “ถือเป็นบททดสอบสำคัญแรกต่อการปกครองด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” เพราะผู้ประท้วงหลายคนออกมาประกาศชัด เรียกร้องให้นายสี ลงจากอำนาจ

“ประธานาธิบดีสี ต้อนตัวเองจนมุม” ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ด้วยการเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ที่ไม่มีกำหนดสิ้นสุดที่ชัดเจน จนทำให้คนรุ่นใหม่ ชนชั้นกลาง รวมถึงชนชั้นสูงบางคน เริ่มหมดความอดทน

ด้าน สตีเฟน แมคโดเนลล์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำประเทศจีน ระบุว่า การแสดงท่าทีต่อต้านไม่ใช่เรื่องผิดปกติในจีน เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชาวจีนออกมาประท้วงเพื่อแสดงความไม่พอใจในเรื่องต่าง ๆ อยู่เนือง ๆ ตั้งแต่ปัญหามลพิษไปจนถึงการยึดที่ดินอย่างผิดกฎหมาย หรือการที่ตำรวจปฏิบัติต่อประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม


แต่การประท้วงที่กำลังลุกลามขยายวงในหลายพื้นที่ของจีนนั้นมีความแตกต่างออกไป

การประท้วงในขณะนี้เกิดจากความคับข้องและเหนื่อยหน่ายใจที่ชาวจีนจำนวนมากรู้สึกตรงกัน หลายคนเก็บความอัดอั้นตันใจนี้ไม่ไหวอีกต่อไป และนำไปสู่การประท้วงเป็นวงกว้างต่อมาตรการควบคุมโควิดอย่างเข้มงวดของทางการ

ความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้สะท้อนออกมาในรูปของการทำลายแนวกั้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม ตลอดจนการลุกฮือขึ้นประท้วงตามมหาวิทยาลัยและหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ อาทิ กรุงปักกิ่ง และนครหนานจิง

จับกุมนักข่าวบีบีซี

บีบีซีรายงานว่า หนึ่งในทีมข่าวที่ติดตามสถานการณ์การชุมนุมในจีน ถูกตำรวจทำร้ายและจับกุม ระหว่างการทำข่าว โดยบีบีซีออกแถลงการณ์ว่า “บีบีซีวิตกกังวลอย่างมากต่อการปฏิบัติต่อนักข่าวของเรา เอ็ด ลอว์เรนซ์ ที่ถูกจับกุมและใส่กุญแจมือ ระหว่างติดตามทำข่าวการประท้วงในนครเซี่ยงไฮ้”

ลอว์เรนซ์ เป็นผู้สื่อข่าวบีบีซีที่ประจำอยู่ในประเทศจีน โดยตำรวจได้ควบคุมตัวเขาเป็นเวลาหลายชั่วโมง บีบีซีระบุในแถลงการณ์ว่า ในช่วงเวลาที่เขาถูกควบคุมตัวอยู่นั้น ตำรวจได้ทำร้ายและเตะเขา ก่อนที่จะปล่อยตัวในเวลาต่อมา

“การที่นักข่าวของเราถูกทำร้าย ระหว่างปฏิบัติหน้าที่นั้น เป็นเรื่องที่น่าวิตกอย่างมาก” บีบีซี กล่าวในแถลงการณ์

“ทางการจีนยังไม่ออกมาชี้แจงหรือขออภัยต่อพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่ออกมาอ้างว่า จับกุมนักข่าวของเราเพื่อความปลอดภัยของเขาเอง เพราะอาจติดโควิดจากฝูงชนได้... ซึ่งเราไม่ถือว่าเป็นคำชี้แจงที่มากเพียงพอ”

นายเจมส์ เคลเวอร์ลี รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ทวีตข้อความแสดงความ “วิตกกังวลอย่างยิ่ง” ต่อการจับกุมผู้สื่อข่าวบีบีซี โดยระบุว่า “เสรีภาพสื่อมวลชนและเสรีภาพการประท้วงจะต้องได้รับการเคารพ ไม่มีประเทศใดได้รับการยกเว้น...ผู้สื่อข่าวต้องทำงานได้โดยไม่ถูกข่มขู่คุกคาม”

ด้านนายแกรนต์ แชปป์ส รัฐมนตรีผู้กำกับดูแลด้านธุรกิจของสหราชอาณาจักร ระบุว่า รัฐบาลค่อนข้างกังวลกับการจับกุมผู้สื่อข่าวบีบีซีครั้งนี้

เขาให้สัมภาษณ์กับช่องสกายนิวส์ของอังกฤษว่า “ไม่อาจมีข้อแก้ตัวใด ๆ ต่อกรณีที่ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งซึ่งรายงานข่างการประท้วงจะถูกตำรวจทำร้าย และนี่เป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก”

ขณะที่นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนไม่ได้ชี้แจงกรณีที่ผู้สื่อข่าวซึ่งได้รับมอบหมายให้รายงานข่าวการประท้วงถูกตำรวจใช้ความรุนแรงและจับกุม

เขาระบุเพียงว่า “ข้อมูลที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในเซี่ยงไฮ้บ่งชี้ว่า เขา (เอ็ด ลอว์เรนซ์) ไม่ได้แสดงตนเป็นผู้สื่อข่าว และไม่ยอมแสดงบัตรสื่อมวลชนของเขา”

นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน

ในขณะที่ทั่วโลกเริ่มปรับใช้นโยบายเพื่ออยู่ร่วมกับโควิด-19 แต่จีน ยังคงดำเนินนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” อย่างเข้มงวด ด้วยเหตุผลว่า เพื่อรักษาชีวิตของประชาชน เพราะหากควบคุมการระบาดไม่ได้ จะทำให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เป็นอันตราย

มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดในจีนค่อนข้างต่ำ นับแต่เกิดการระบาดใหญ่ โดยยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการอยู่ที่กว่า 5,200 คน หรือเฉลี่ยแล้ว มีผู้เสียชีวิตราว 3 คน ต่อประชาชน 1 ล้านคนในจีน


จีนดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์มายาวนาน

ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำจีน วิเคราะห์ว่า รัฐบาลจีนเองดูเหมือนจะประเมินกระแสความไม่พอใจของประชาชนต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่ำเกินไป ซึ่งนโยบายนี้เป็นสิ่งที่นายสีเพิ่งประกาศจะยึดถือต่อไปโดยไม่มีการผ่อนปรนใด ๆ ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องง่ายที่พรรคคอมมิวนิสต์จะหลุดพ้นจากปัญหาที่ตนเองสร้างขึ้น

เป็นเวลา 3 ปีมาแล้วที่จีนเตรียมเปิดประเทศจากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด แต่แทนที่จะสร้างหน่วยดูแลผู้ป่วยอาการวิกฤต หรือไอซียูเพิ่ม และเน้นการให้วัคซีนต้านโควิดแก่ประชาชน แต่จีนกลับทุ่มเททรัพยากรมหาศาลไปกับการตรวจคัดกรองโรคเป็นวงกว้าง การสั่งล็อกดาวน์ และการทำศูนย์กักโรค เพื่อทำสงครามกับเชื้อไวรัสที่ไม่มีวันจะหมดสิ้นไป

การประท้วงในเมืองจีน Don't be a dictator! Don't be a dictator! มือใหญ่แค่ไหน ก็ปิดฟ้าปิดดินไม่มิดหรอก


 

Kokoro Soseki
19h
ประท้วงในเมืองจีน ถ้าเป็นที่อื่น คงไม่แปลก ไม่น่าเป็นข่าวใหญ่ แต่นี่คือจีนภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ที่ทรงพลังที่สุดในศตวรรษที่ ๒๑ นี้ คนออกมาตะโกน "พคจ.ออกไป" "สีจิ้นผิงออกไป" ไม่ทันสองเดือนหลังการประชุมใหญ่พรรคฯเมื่อเดือนกว่าที่ประกาศความสำเร็จของพรรคและรัฐบาลสีฯ คิดแบบสมาชิกพรรคคอมฯ ก็ต้องบอกว่า มันเป็นพวกคนส่วนน้อย ที่ทรยศต่อพรรคและรัฐ ต้องกำจัดออกไปลูกเดียว ที่ผ่านมาภายใต้การนำของพรรคคอมฯ ไม่เคยมีที่ไหนที่สามารถมำการประนีประนาม ต่อรอง กับฝ่ายการเมืองกลุ่มอื่นๆเลย เพราะพวกเขาเชื่ออย่างเดียวว่า นี่เป็นการต่อสู้ทางชนชั้นครั้งสุดท้าย ดังนั้น ชนชั้นกดขี่ต้องไป ส่วนพวกเราชนชั้นกรรมาชีพต้องอยู่ เพราะเราเป็นชนชั้นสุดท้ายของประวัติศาสตร์ แต่พรรคฯคอมสหภาพโซเวียตที่ย่ิงใหญ่สุดๆก็พังพินาศไปแล้ว คราวนี้มาถึงวาระของพรรคจีน ว่าจะกู้ฐานะ ศักดิ์ศรีและอุดมการณ์ของพรรคคอมฯขึ้่นมาได้ไหม การพัฒนาเศรษฐกิจแบบทุนที่หน้าตาเป็นจีน ที่ได้รับผลสำเร็จดีเกินคาดหมาย ทำให้แกนนำพคจ.ย่ามใจ ประเมินสถานการณ์โลกต่ำไป คิดว่าทุนนิยมเสรีใต้สหรัฐฯและอียู กำลังบอบช้ำ อ่อนแรงจากการถล่มทำลายของรัสเซียใต้ปูติน เปิดทางโล่งให้แก่จีนใต้สีจิ้นผิงก้าวเดินไปแต่ผู้เดียวอย่างสง่างาม แต่ผลสะเทือนของโควิด๑๙ ที่ไม่เข้าใตรออกใคร กำลังจะทำให้ความฝันของสีจิ้นผิงและ พคจ.กลายเป็นฝันสลายไปแล้วหรือ ผมเคยตั้งข้อสังเกตก่อนนี้ว่า โควิด๑๙ นั้นมีอะไรที่คล้ายคลึงกับการเกิดระบบทุนนิยมสมัยใหม่ คือหลังจากกเกิดแล้ว ก็ระบาดกินไปทั่วทุกพื้นที่และทุกเวลา กลายเป็นระบบโลกไป ยิ่งทำลายสะกัดกั้น มันยิ่งแตกตัว เติบใหญ่ไปเรื่ีอยๆ เพราะมันอาศัยร่างกายคนธรรมดา มันอยู่และพัฒนาไปกับคนส่วนใหญ่่ คือคนจนในโลก หนทางเดียวและสุดท้ายที่จะกำจัดโควิด๑๙ ได้ก็คือ ต้องยุติระบบทุนนิยมเสรี ไม่ว่าจะหน้าตากแบบอเมริกาหรือจีนก็ตาม แล้วหันไปเริ่มทำการผลิตแบบกระจาย แบบตามสภาพท้องถิ่น บริโภคกันในท้องถิ่น ซึ่งนอกจากแก้ปัญหาโควิดแล้ว ยังแก้ปัญหาโลกร้อนได้อีกด้วย

แต่ใครจะกล้าทำแบบนี้ ต่อให้สีจิ้นผิงอีก ๑๐๐ คนก็ไม่กล้าทำ


บีบีซีไทย - BBC Thai
11h ·

ตำรวจจีนห้ามชาวบ้านถ่ายรูปใกล้จุดชุมนุม
.
ชาวจีนหลายคนที่ออกไปใกล้จุดชุมนุมในนครเซี่ยงไฮ้ ถูกตำรวจสั่งห้ามไม่ให้ถ่ายรูป และขอให้ลบรูปที่ถ่ายไว้
.
ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่าเห็นผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 2 ราย ในการลุกฮือประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน
.
อ่านเรื่องราวอธิบายความท้าทายใหญ่ที่สั่นคลอนอำนาจพรรคคอมมิวนิสต์ ได้ที่นี่ https://bbc.in/3F9eXdU
.....
ภัควดี วีระภาสพงษ์
11h ·
มือใหญ่แค่ไหน ก็ปิดฟ้าปิดดินไม่มิดหรอก