วันเสาร์, มิถุนายน 30, 2561

วันที่แปดแล้ว "ภาวนาให้กระบวนค้นหาเจอทีมหมูป่าไวๆ ไม่งั้นชาวบ้านคงบ้าตายเพราะความดราม่าของไอ้พวกเจ้านายที่ขึ้นไปตรวจงานนี่หละ"



วันที่แปดแล้วยังไม่เจอ ๑๓ ชีวิต ทีมหมูป่า (มีแต่ลูกหมูป่าน้อยเจ้าของพื้นที่ตัวหนึ่งโผล่ออกมาให้ช่างภาพไทยพีบีเอสกดชัตเตอร์เก็บไว้เป็นที่ระลึก) แทบทุกสายตายังจับจ้องที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนกันอีกวัน

ข่าวดีๆ อย่าง ทอม ดันดีหลุดคดี ๑๑๒ ที่ศาลราชบุรี โดยศาลเห็นว่า คำปราศรัยของนายธานัท ธนวัชรนนท์ “ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องมา ยังไม่มีความแจ้งชัดว่าเป็นการใส่ความ ดูหมิ่น หมิ่นประมาทตามฟ้อง แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้”


หรือข่าวดีของพรรคเพื่อไทย ที่รายนี้ไปพ้นๆ ร้แล้วรู้รอดไป “สุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำเสื้อแดงสายบู๊ ล่าสุดไปเปิดตัวจะเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ” (Panuwat @tumbler_p)

ดังที่เขาบอกกับสื่อ ผู้จัดการเรื่องการเมืองเราตัดขาด เราไม่เอา ถ้าคบกันด้วยเรื่องส่วนตัว เราคบได้ เราเคารพนับถือกันเหมือนเดิมไม่มีปัญหา วันนี้พอแล้ว ขอปฏิเสธ ทักษิณจะชวนไปทำอะไร เราไม่เอาแล้ว”


ข่าวเหล่านั้นต้องหลบไปตั้งแถวรอริมทางกันก่อน เพราะขบวนผู้หลักมักใหญ่แห่กันไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยเกลื่อนปากถ้ำ และเกาะกระแสชะตากรรมทีมหมูป่า ดังที่วีรนันท์ กัณหา ผู้สื่อข่าวว้อยซ์ทีวีโพสต์ไว้
ให้ตายซิ...เมื่อเกิดภาวะวิกฤติแล้ว ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะลงไปในพื้นที่เกิดเหตุในช่วงที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เพราะแม้จะบอกว่าไม่รบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว มันไม่ใช่”

ใช่ ไม่ใช่ ไม่รู้ละ ก่อนคณะของประยุทธ์จะไปถึง “แขวงทางหลวงเชียงรายที่ ๑ และ ๒ ปรับพื้นที่เตรียมเส้นทางรับคณะรัฐมนตรีเข้ามาติดตามสถานการณ์” (ข่าว MGROnline Live)
 
กับวานนี้มีการนำกล่องอาหารทดลองลอยตามน้ำในถ้ำ เผื่อว่าไปถึงเด็กๆ จะได้ช่วยประทังความหิวกัน แต่ทว่าบนกล่องดันมีแผ่นกระดาษพิมพ์ข้อความติดไว้ “ถ้าได้รับแล้วตอบกลับด้วยว่าอยู่ตรงไหนของแผนที่ ทุกคนจะรีบช่วยด่วน”

เติมด้วยลายมือเขียนปากกาแมจิก “นายกประยุทธ์ฯ เป็นห่วงทุกคน” ทำให้ใครต่อใครที่เห็นละเหี่ยใจ เฮ้อ ดูดไม่เลือกแล้วยังหาเสียงดะซะอีก ตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เองดูท่าสนุกสนานพูดเล่นหัวกับกุ๊กโรงทานพระราชทานฯ ครึกครื้น
 
แล้วไปคุยกับกลุ่มผู้ปกครองของเด็กทีมฟุตบอลที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง จับไมค์จ้อยังกับออกรายการศาสตร์พระราชา “คุยเรื่องการแก้ปัญหาด้านการเกษตรของรัฐบาล เพื่อช่วยลดความเครียดให้กับญาติพี่น้องเยาวชนทั้ง ๑๓ คน”

ฟังดูสิว่ามันเกี่ยวข้องกันไหม “ข้าวมีแตกต่างจากต่างประเทศอะไรรู้ไหม กลูเต็นมันน้อย สารที่ทำให้แพ้อะ หนมปงหนมปังฝรั่งบางทีแพ้กัน ข้าวนี่ไม่แพ้ ข้าวไทยกลูเต็นน้อย...ให้มันขายได้ราคาสูงขึ้นคืออะไร คืออะไร คืออะไร ลดการใช้สารเคมี รู้ยังนี่...”


ทำเอาครูโบว์ ณัฐฐา มหัทธนา กุมหัวโพสต์ปลง “มืดกว่าถ้ำก็อนาคตประเทศนี่แหละ” ไม่เท่านั้น ประยุทธ์ยังทิ้งท้ายปราศรัยกับครอบครัวของทีมหมูป่า ตามรายงานของ Hathai Pia ผู้สื่อข่าวสื่อเยอรมนี dpa_intlว่า “อย่าลืมไปเลือกตั้งกันนะ”
ให้ตายห่สิ ลิ่วล้อช่วยกันดันจะให้เป็นนายกฯ อีกครั้งผ่านพรรคใหม่ เลยฉวยโอกาสหาเสียงล่วงหน้าตอนยังไม่ปลดล็อคพรรคเก่า ก็ได้แต่ภาวนาให้กระบวนค้นหาเจอทีมหมูป่าไวๆ ไม่งั้นชาวบ้านคงบ้าตายเพราะความดราม่าของไอ้พวกเจ้านายที่ขึ้นไปตรวจงานนี่หละ

กลับมาหาความคืบหน้าตามจริงไม่ดราม่า สายวันนี้ (๓๐ มิ.ย.) ทีมหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ หรือ ซีลสามารถลุยน้ำเข้าไปยังโถงของถ้ำห้องที่สามได้ เนื่องจากปริมาณน้ำลดลงราว ๖ ซ.ม. หวังว่าจะขึ้นไปถึงตอนบนลานหาดพัทยา ที่คาดหวังว่าพวกเด็กๆ หลบขึ้นไปติดอยู่ได้

อีกด้านในการระดมสำรวจโพรงต่างๆ บนเนินเขาเพื่อหาทางขุดเจาะลงไปยังโถงกลาง ทีมสำรวจของ สตร. ค้นพบโพรงแห่งหนึ่งบริเวณผาหมีขนาดกว้างกว่า ๑ เมตร เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องจีพีเอสหย่อนลงไปอ่านสภาพโพรงลึกประมาณ ๕๐ เมตร ปรากฏว่ามีค้างคาวบินสวนขึ้นมาทำให้เป็นสัญญานข่าวดี

ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้นาม Ghattipong Somruk โพสต์ข้อความ “ฝากบอกทีมงานด้วยครับ ทางบนเขาที่ ๑๔ นาฬิกาใกล้ๆ ผาหมี ถ้ามองย้อนจากปากถ้ำผาหลวงเข้าไปประมาณ ๒ ก.ม. จะมีรูโหว่กว้างประมาณ ๗๐ ซ.ม. ให้โรยตัวลงไปได้ครับ...”

เขาอ้างว่าเคยไปเดินป่าแถวนั้นกับเพื่อนเมื่อ ๕ ปีที่แล้ว จึงให้รายละเอียดพิกัดไว้ตรงตามที่เจ้าหน้าที่ค้นพบ

อ่านข่าวแล้ว ก็เศร้าใจและหวังว่า ชีวิตของน้องๆ ที่ติดอยู่ในถ้ำ จะได้รับการช่วยเหลือในเวลาอีกไม่นาน



อ่านข่าวแล้ว ก็เศร้าใจและหวังว่า ชีวิตของน้องๆ ที่ติดอยู่ในถ้ำ จะได้รับการช่วยเหลือในเวลาอีกไม่นาน

และก็ต้องเตรียมใจด้วย การคาดหวังเป็นเรื่องที่ดี แต่มันทรมานมากๆ เพราะไม่รู้จริงๆ ว่า จะมีข่าวดีหรือข่าวร้ายในเวลาต่อมาอีกด้วย


เราก็คงจะต้องสร้างที่พึ่งทางใจ หรือ กำแพงทางจิตใจ (Defense Mechanism) ขึ่นมากันพอประมาณ

---------------

การค้นหาและช่วยชีวิต (Search and Rescue) เป็นเรื่องแรกที่สุดที่จะต้องทำเพื่อการหาตัวบุคคลให้พบ เรากำลังเห็นอยู่ในช่วงนี้

แต่ถ้ามีการประกาศว่าเป็น การกู้ซากหรือกู้สภาพ (Recovery) แล้ว ก็แสดงว่า ยอมรับผลของการสูญเสีย และกำลังกอบกู้ว่าจะได้วัตถุหลักฐานอะไรเพิ่มเติมอีก

เราต้องเข้าใจขั้นตอนของเรื่องนี้กันด้วยว่า อยู่ในช่วงไหน

-----------------

ตอนที่ยังไม่ป่วยแบบนี้ ดิฉันก็ทำงานอยู่ใน Fields หรือภาคสนามเป็นเวลานานพอสมควร และขออธิบายให้ทราบเป็นสังเขปดังนี้:

1. อุณหภูมิภายในถ้ำต่างๆ จะอยู่ระหว่าง 10-20 เซลเซียส ขึ้นว่าอยู่แถบไหนของโลก

2. ถ้าท่านไม่เคยเดินทางเข้าถ้ำ ท่านจะต้องมีไฟฉาย ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากๆ เพราะแสงสว่างธรรมดาจะเข้าไม่ถึงแน่นอน

3. ความมืดสนิทของถ้ำ เป็นแบบมืดสนิทจริงๆ เราไม่สามารถเห็นมือหรือนิ้วมือของเราได้เลย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน การปรับตัวของสายตาให้ชินกับความมืด ก็ช่วยอะไรไม่ได้

ถ้าไม่มีไฟฉาย เราจะไม่ทราบเลยว่า กำลังยืน หรือ เดิน หรือนั่งอยู่ที่ไหน (ถ้าคิดจะเดิน จะเดินไปแล้วศีรษะจะไปโขกกับหินต่างๆ ภายในถ้ำหรือเปล่า หรือ อาจจะสะดุดล้ม เจ็บตัวขึ้นมาอีก เพราะมองอะไรก็ไม่เห็น)

และสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร แม้แต่เพียงเซนติเมตรเดียว ก็มองไม่เห็น (เพียงแต่สัมผัสกับลมหายใจเท่านั้น ด้วยการเอานิ้วมือขึ้นมาอยู่ใกล้ๆ จมูก)

4. สัตว์อย่างค้างค่าวไม่ได้ใช้สายตาในการบินในถ้ำ แต่เป็นการใช้ระบบเหมือนกับเรดาห์ เวลาบินไปไหนมาไหน รวมทั้งมีประสาทหูที่ดีมาก

ส่วนมนุษย์เราไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะฉะนั้น การมองในที่มืดสนิทจริงๆ ก็ไม่ทราบว่า มีอะไรเกิดขึ้น ต้องพึ่งประสาทจมูก หู และการสัมผัสเท่านั้น

5. ดิฉันไม่แน่ใจว่า ถ้ำแห่งนี้ เป็นถ้ำปิดและมีห้องมากมายขนาดไหน เพราะถ้ามีการตะโกนเข้าไปในถ้ำ คนที่อยู่ในที่มืด อาจจะได้ยิน แต่ไม่ทราบว่า เสียงมาทางไหน เพราะเสียงสะท้อน (Echos) จะดังมากๆ

และ ไม่ทราบทิศทางที่ถูกต้องได้ ต้องใช้ระบบแสงช่วยกัน และตัวเด็กๆ อาจจะไม่รู้จักวิธีการหาทิศทางจากเสียงที่ได้ยินด้วยว่า มาจากทิศไหน เพราะ มันจะเหมือนกับว่า มาจากข้างบน (ถึงแม้ว่า เสียงจะมาจากด้านข้างก็ตาม)

6. การใช้อากาศหายใจ การอยู่ในถ้้ำนานๆ จะมีการใช้ อ๊อกซิเจนสูงมาก และไม่แน่ใจว่า อากาศในถ้ำเป็นแบบไหน มีปล่องให้อากาศลงไปมากน้อยขนาดไหน คาร์บอนไดออกไซด์จะสูงมากๆ ยิ่งมีคนมากกว่า 10 คนติดอยู่ในนั้น

อากาศบริสุทธิ์ไม่สามารถเข้าไปในถ้ำได้ เพราะถ้าเข้าไปได้ ก็ต้องมีปล่องลงไปแล้ว เพราะฉะนั้น อาจจะต้องมีการปั๊มอากาศเข้าไปในถ้ำให้มากที่สุดเช่นกัน

7. เท่าที่ทราบมา ภายในถ้ำ มีน้ำขังที่ลึกมากๆ ข้อสำคัญคือ ต่างก็หวังว่า น้องๆ เหล่านั้น จะขึ้นไปบน “หาดทราย” ในถ้ำกันได้ เพราะถ้าอยู่ในน้ำนานๆ และไม่สามารถเห็นอะไร้เลย เนื่องจากความมืดสนิทจริงๆ อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับ hypothermia หรือ ภาวะตัวเย็นเกินเกิดขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิที่เย็นกว่าข้างนอกมาก และร่างกายไม่สามารถสร้างความอุ่นได้

หวังว่า ไม่ได้ "แช่น้ำ" กันอยู่ ก็แล้วกัน

----------

อย่างไรก็ตาม ถ้าเราดู”โอกาส” ที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ ดิฉันเห็นเป็นข้อๆ คือ:

1. เราเห็นความร่วมมือเพื่อการช่วยชีวิต จากความสัมพันธ์ที่มีกับประเทศต่างๆ ในแถบตะวันตก รวมทั้งของประเทศจีนอีกด้วย ยิ่งถ้าเพื่อนๆ ได้มีโอกาสอ่านข่าวภาษาอังกฤษกัน จะเห็นได้เลยว่า ทางนี้เขาให้ความสำคัญและคุณค่ากับชีวิตมนุษย์มากขนาดไหน

2. เราจะเห็นเครื่องไม้เครื่องมือการช่วยชีวิตแบบ First Class จากหลายๆ ประเทศ ที่ทางรัฐบาลไทยเอง ไม่ได่ทำงบประมาณจัดสรรมาช่วยเรื่องแบบนี้กัน (อาจจะคิดว่า ไม่จำเป็นกับชีวิตผู้คนเท่าไรนัก)

3. ดิฉันเห็นภาพอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ จากทาง USA, อังกฤษ จีน พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญการกู้ภัยจากหลายๆ ประเทศ ทำให้คิดว่า นี่คือการสาธิตเรื่องการช่วยชีวิตผู้คนเป็นอย่างดีที่สุด จากเครื่องอุปกรณ์ชั้นเลิศที่สุด (อาจจะเป็นชั้นเลิศของโลกก็ได้)

และเหมือนกับให้คนไทยได้เห็นการสาธิตใช้งานของอุปกรณ์เหล่านี้ “ฟรีๆ” ว่า มันมีความสามารถขนาดไหน ทำงานได้อย่างไร ทำงานได้จริงหรือเปล่า รวมทั้งทำภาพสามมิติ หรือแม้แต่การตรวจความร้อนของร่างกายบุคคลได้

นี่คือตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นง่ายๆ ว่า เครื่องมือเหล่านี้ มัน “ทำงาน” และ "มีประสิทธิภาพ" ได้แน่นอน และดีกว่า GT200 เรือเหาะ หรืออาวุธยุทโธปกรณ์ที่สั่งซื้อกันมาทุกๆ ปี เป็นจำนวนหลายพันล้านบาทกัน

หากการช่วยชีวิตบุคคลที่ติดอยู่ภายในถ้ำประสบความสำเร็จ นี่ก็เหมือนกับ “การโฆษณา” ให้เห็นว่า มันมีประโยชน์สำหรับการใช้กับชีวิตผู้คนได้จริงๆ

---------------

สิ่งที่เราจะเริ่มเห็นต่อไปคือ:

1. หากการช่วยชีวิตประสบความสำเร็จ เราควรจะดูว่า ทางทีมงานต่างประเทศเขาจะกล่าวอะไรบ้าง

อย่าลืมว่า ทางต่างประเทศ โดยเฉพาะโลกตะวันตก เขาจะให้เครดิตเป็น “ทีม” และเขาจะไม่สร้าง “Heroes” กันขึ้นมาแบบประเภท “ฉายเดี่ยว” เพราความสำเร็จต่างๆ มันมาจาก Teamwork ไม่ใช่โดยคนๆ เดียว

รวมทั้งเรื่อง "การฉวยเครดิท" หรือ "เอาหน้า" กัน จะไม่เห็นทางต่างประเทศเขาทำกัน

2. หากการช่วยชีวิตประสบความล้มเหลว ก็จะมีการรับผิดชอบกันเป็น ทีมเช่นกัน เพราะพวกเขาหรือเธอ ทำงานอย่างสุดความสามารถจริงๆ และเราก็จะต้อง “ปรบมือ” ยอมรับให้กับ การเสียสละของทุกๆ ฝ่ายเช่นกัน

และจะไม่เห็นเรื่องการ “จับแพะ” หรือ “หาแพะ” มารับโทษ เพราะเรื่องนี้ เขาถือว่าเป็นการช่วยชีวิตคน (Search and Rescue) และมี Good Samaritan Law หรือ กฎหมายเรื่องการละเว้นการถูกฟ้อง หากมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นจากการเข้าไปช่วยชีวิตอยู่แล้ว

ทางฝั้งตะวันตก เขาจะนำเอาเคสเหล่านี้ ไปพิจารณา เพื่อป้องกันความล้มเหลวให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด หากพลาดอะไร พวกนี้จะ list เรื่องเป็นข้อๆ และนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไปในอนาคต ภาษาอังกฤษเรียกว่า Lesson(s) Learned.

3. ควรจะ "ลากตัว" คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกู้ภัยออกไปจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด รวมทั้งการวางแผนตั้ง War Room ควรจะมีการตัดสินใจจากคนที่อยู่ในพื้นที่ ไม่อย่างนั้น จะมีความสับสนกันว่า จะฟัง “คำสั่ง” ใคร?

ใน USA เอง เมื่อมีการประกาศพื้นที่ว่า เป็นสถานที่ประสบภัยหรือต้องให้เจ้าหน้าทีที่เกี่ยวข้องทำงานแล้ว คนที่เป็น Head ของ War Room จะเป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจมากที่สุด

ไม่ใช่ ใครก็ไม่รู้ ไม่ทราบว่า เอาอำนาจอะไรมา ถามนู่น ถามนี่ ได้รับการอนุญาตหรือยัง (ดิฉันไม่ทราบว่า ใครเป็น Head of the War Room) เพราะการทำอย่างนี้ หมายความว่า คนที่รับ "คำสั่ง" จะสับสนมากๆ ว่า จะต้องปฎิบัติตาม "คำสั่งของใคร" แน่? ใครเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในการปฎิบัติงานในพื้นที่

ขนาดตัว President of the United States (POTUS) เอง ยังไม่สามารถเข้ามาก้าวก่ายหน้าที่อะไรได้ เพราะเขาจะให้เกี่ยรติคนทำงานในพื้นที่เท่านั้น แต่ตัว POTUS จะไปช่วยเหลือในเรื่อง การของบประมาณกลางอย่างรีบด่วน หรือ การขอเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ จากสำนักงานของรัฐบาลกลาง เขาจะช่วย "วิ่ง" เรื่อง Logistics เหล่านี้ให้

-----------------------

ส่วนคนที่ชอบถามว่า ได้รับอนุญาตโน่นนี่หรือยัง ก็ควรจะเข้าไปทำความเข้าใจกับเรื่อง การประกาศพื้นที่การช่วยเหลือชีวิตผู้คนแบบนี้ด้วย เพราะมันเป็นเรื่องที่ต้อง Bypass เรื่องเหล่านี้ได้อยู่แล้ว กฎหมายที่เขาสร้างขึ้นมา เพราะเป็นการช่วยเหลือชีวิตคนให้มากที่สุด

รวมทั้งประกาศให้กองกำลัง National Guards เข้ามาป้องกันในพื้นที่ทันที ประชาชนธรรมดา แม้กระทั่งผู้ที่อยู่อาศัยในแถบนั้น จะต้องแสดงหลักฐานว่าเป็นเจ้าของบ้านจริงๆ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้รับการอนุญาตเข้าไปได้

-------------------------

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ถ้าเป็นรัฐบาลของ USA เราจะใช้งบกลางหรืองบฉุกเฉิน เพื่อการช่วยเหลือเรื่องการช่วยชีวิตผู้คนกัน

แต่ของไทยในเวลานี้ คิดว่า น่าจะใช้งบกลางเช่นกัน (แต่ไม่แน่ใจว่า จะไปประกาศ ขอรับ "บริจาค" กันอีกหรือเปล่า เพราะนี่ ควรจะเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการที่จัดให้กับประชาชนผู้เสียภาษีภายในประเทศ)

-------------------------

สุดท้าย ก่อนจะจบ ก็คือ ควรจะลากตัวคนที่ถามว่า ได้รับอนุญาตโน่นนี่หรือยัง ออกไปจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพราะเป็น “ตัวถ่วง” ในการกู้ภัยและช่วยเหลือชีวิตผู้คนที่กำลังอยู่ในถ้ำตอนนี้...

หวังว่า เราคงจะได้รับข่าวที่ดีกันในอีกไม่นานก็แล้วกัน ขอคุณพระจงช่วยปกป้องชีวิตของน้องๆ ด้วยค่ะ

Doungchampa Spencer-Isenberg

นายกประเทศกรุ เห็นคลิปนี้ เซ็งเลย เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พบญาติเยาวชนทีมหมูป่า



https://www.facebook.com/TonightThailand/videos/1999402350373705/


ดุจมณี พูลประดิษฐ์ บ้าๆบอๆ นายกประเทศกรุ โง่แล้วขยันเฮ้อๆๆ

Duanphen Namdee ตอนแรกก็ ตั่งใจติดตามข่าว เอาใจช่วยน้องๆ มาโดยตลอด. แต่พอมาเห็นหน้า. ประยุทธ์. ขอหยุดพักไว้ชักวัน. เห็นแล้วเช็งเลย. (ทีมงานทุกๆคนสู้สู้ค่ะ. 👍👍👍❤️❤️❤️)

Athita Bua-in ผิดกาลเทศะ​ค่ะ​ ไปด้วยความห่วงใย​ก็ถามไถ่แสดงความใส่ใจ​ เสนอความช่วยเหลือพอ ไม่ต้องไปหาเสียงหรือพล่ามผลงานตัวเองหรือนโยบายอะไร​ ผิดเวลาผิดสถานที่​

อ่านความเห็นเพิ่มเติมได้ที่

https://www.facebook.com/TonightThailand/videos/1999402350373705/




ดูภาพนี้ แล้วสะท้อนอะไร?!! 🙄





ล่ามอยู่ไหนวะ?




อดีตปลัด พม.กินยาฆ่าตัวตาย คาดปมโกงเงินคนจน - ไล่เรียงเหตุการณ์ 2 ฮีโร่ชุดนักศึกษา เปิดโปงโกงเงินคนจน




https://www.youtube.com/watch?v=qVoYvWH8Xag

อดีตปลัด พม.กินยาฆ่าตัวตาย คาดปมโกงเงินคนจน | 29-06-61 | ไทยรัฐนิวส์โชว์

thairath
Published on Jun 29, 2018


อดีตปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสียชีวิตภายในบ้านพักที่จังหวัดปทุมธานี ส่วนภรรยาอาการสาหัสถูกนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งจากการตรวจสอบพบแก้วไวน์ที่ถูกดื่มไปแล้ววางอยู่บนหัวเตียงนอน คาดว่าผู้เสียชีวิตมีอาการเครียดจากการถูก ป.ป.ง.ร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีทุจริตเงินสงเคราะห์คนยากจนไร้ที่พึ่งและถูกให้ออกจากตำรวจ จึงชักชวนภรรยากินยาฆ่าตัวตาย

ooo


ไล่เรียงเหตุการณ์ 2 ฮีโร่ชุดนักศึกษา เปิดโปงโกงเงินคนจน





6 มี.ค. 61
Sanook.com


สืบเนื่องจากการร่อนบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนเรื่องการทุจริตเงินสงเคราะห์ หรือ เงินคนจน ของ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา อายุ 23 ปี หรือ น้องแบม นิสิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่เข้าฝึกงานในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น

ไล่เรียงเหตุการณ์ ก่อนถึงขั้นเปิดโปง

วันที่ 7 สิงหาคม – ปลายเดือนกันยายน 2560 น้องแบม ได้เข้าฝึกงานพร้อมเพื่อนอีก 3 คน ที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น น้องแบม พบความผิดปกติ ตั้งแต่วันแรกของการทำงาน เนื่องจาก ผอ.ศูนย์คุ้มครองฯ ดังกล่าวได้พา นักศึกษาฝึกงานไปที่บ้านพักส่วนตัว ซึ่งเมื่อถึงบ้าน ผอ.ศูนย์คุ้มครองฯ พบเจ้าหน้าที่ 2 คน กำลังนั่งทำเอกสารจำนวนมาก แต่ตนไม่ได้เอะใจ เพราะวันแรกได้ทำเพียงการเย็บมุม และ จัดเอกสาร





วันต่อมาได้ถูกสั่งให้กรอกเอกสาร ที่เรียกว่า ใบสอบประวัติผู้ประสบปัญหา ซึ่งใบดังกล่าวว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่รอยปากกา โดยเอกสารเหล่านั้นถูกแนบมากับสำเนาบัตรประชาชนที่มีการเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้องแบมจึงเกิดความสงสัยต่อการทำงาน เพราะตนไม่สามารถกรอกข้อมูล เช่น รายได้ สถานะทางครอบครัว หรือ ความต้องการ ได้ เนื่องจากไม่ได้ลงไปตรวจสอบหรือซักถาม ซึ่งจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้บอกกับน้องแบมว่า ให้ทำตามที่ต้องการ ดูจากอายุ และเดาเอา

จุดที่ทำให้น้องแบม เอะใจยิ่งขึ้นอีก คือ ในใบสำคัญรับเงิน ไม่ปรากฏรายละเอียดอะไร มีเพียงแต่ การลงชื่อของผู้รับเงินไว้แบบลอยๆ บางแผ่นมีลายเซ็น แต่บางแผ่นก็ไม่มี และเจ้าหน้าที่ยังให้น้องแบมทำการปลอมลายเซ็นขึ้นมาด้วย โดยคนที่สั่งให้น้องแบมทำคือ นางพวงพะยอม ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งและเจ้าหน้าที่อีก 3 คน

น้องแบมได้ไปถามเจ้าหน้าที่คนอื่นที่อยู่ในศูนย์ เรื่องที่ได้รับมอบหมายให้ไปทำเอกสารที่บ้านผอ. ได้รับคำตอบจาก น.ส.ณัฐกานต์ หมื่นพล ซึ่งตอนนี้ กลายเป็นอดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายปลอมแปลงเอกสาร จึงตัดสินใจช่วยกันเปิดโปงขบวนการดังกล่าว

ต้นเดือนตุลาคม 2560 น้องแบมไม่นิ่งนอนใจ นำเรื่องนี้ไปปรึกษาอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่อาจารย์แนะนำให้เปลี่ยนที่ฝึกงาน และเหตุการณ์พลิกผัน อาจารย์กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ที่ทำการทุจริตได้พูดคุยกัน และลงความเห็นว่าเป็นการเข้าใจผิด พร้อมให้น้องแบมและเพื่อนๆ คุกเข่าแล้วก้มกราบขอโทษ

11 ตุลาคม 2560 หลังจากเหตุการณ์นั้น น้องแบม ทำการเก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมดระหว่างการฝึกงาน ร่วมกับ น้องเกมส์ ณัฐกานต์ หมื่นพล ที่ได้ถูกสั่ง ให้ปลอมเอกสารราชการ กรอกข้อมูลสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย เอกสารผู้ติดเชื้อเอดส์ ลงลายมือชื่อในใบเสร็จรับเงินรวมกว่า 2,000 ชุด เป็นเงินกว่า 6.9 ล้านบาท แล้วยื่นเรื่องต่อ สำนักงานเลขาธิการ คสช. จนนำไปสู่การขยายผลตรวจสอบทั้งใน จ.ขอนแก่น และจังหวัดอื่นทั่วประเทศ รวม 37 ศูนย์

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ คสช. และ ป.ป.ท. เริ่มลงตรวจสอบ น้องแบมยังถูกอาจารย์เรียกเข้าไปพบ พร้อมบอกกับเธอว่า ถ้าจะร้องเรียนทำไมไม่ให้เรียนจบก่อน ทำแบบนี้ทำไม หน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบทำอะไรไม่ได้หรอก จากนั้นหัวหน้าภาควิชา ก็ใช้มือทุบหลังน้องแบม 2 ครั้งเหมือนจะระบายอารมณ์ ซึ่งเธอไม่เข้าใจการกระทำตรงนั้นเลย





เจอเพิ่มอีกเป็น 24 จังหวัด โกงเงินคนจน

ขณะนี้ พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้ตรวจสอบพบว่ามีจังหวัดที่เข้าข่ายการทุจริตศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งรวมแล้ว 24 จังหวัด คือ

1. ขอนแก่น ตรวจสอบพบมียอดเบิก 6.9 ล้านบาท (ที่ที่น้องแบมฝึกงาน)
2. สุราษฎร์ธานี 10.5 ล้านบาท
3. เชียงใหม่ 8.5 ล้านบาท
4. อุดรธานี 7.3 ล้านบาท
5. สระบุรี 2.58 ล้านบาท
6. หนองคาย 1.5 ล้านบาท
7. บึงกาฬ 1.5 ล้านบาท
8. อยุธยา 1.3 ล้านบาท
9. กระบี่ 1.2 ล้านบาท
10. ตรัง 1.2 ล้านบาท
11. น่าน 1 ล้านบาท
12. ตราด 9.2 ล้านบาท
13. ร้อยเอ็ด 7 แสนบาท
14. สระแก้ว 6.3 ล้านบาท
ส่วนอีก 10 จังหวัดที่เหลือยังอยู่ในขั้นการตรวจสอบ ได้แก่ 1.ยะลา 2.สงขลา 3.นราธิวาส 4.พัทลุง 5.ชุมพร 6.บุรีรัมย์ 7.สุรินทร์ 8.อ่างทอง 9.พิษณุโลก 10.ชัยภูมิ

พฤติกรรมการทุจริตของศูนย์ฯ 10 จังหวัด ที่พบล่าสุด จะเป็นรูปแบบใหม่ คือ มีการนำชื่อบรรดาข้าราชท้องถิ่น อาทิ ภรรยาผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันมาเบิกเงินทั้งที่คุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ เช่น ไม่ได้ยากไร้ เจ็บป่วย แต่กลับมีชื่อได้รับเงินดังกล่าวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณาตั้งอนุกรรมการไต่สวนต่อไป



ยอดการเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ที่ผ่านมา มาดูกันว่าแต่ละปีรัฐบาลจ่ายไปเท่าไหร่


ปีงบประมาณ 2559 มีผู้ได้รับเงินช่วยเหลือ 298,022 คน ยอดเงินที่เบิก คือ 599.74 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2560 มีผู้ได้รับเงินช่วยเหลือ 246,872 คน ยอดเงินที่เบิก คือ 493.74 ล้านบาทปีงบประมาณ 2561งวดที่ 1 มีผู้ได้รับเงินช่วยเหลือ 137,239 คน ยอดเงินที่เบิก คือ 274.47 ล้านบาทรวมย้อนหลังเพียง 3 ปีงบประมาณ มีผู้ได้รับเงินช่วยเหลือ 682,133 คน ยอดเงินที่รัฐจ่ายไปก็อยู่ที่ 1,367.96 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. บอกว่า สำหรับใครที่ไม่ได้รับเงิน หรือได้ไม่ครบตามจำนวนที่ปรากฏในเอกสารการเบิกจ่าย สามารถมาแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่ของตนได้เลย เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งจากพฤติกรรมที่ปรากฏจนเป็นข่าวแบบนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย ม.157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี และ ม.264 ปลอมแปลงเอกสารราชการ และ ม.352 ยักยอกทรัพย์ โดยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำดังกล่าวหากไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็จะถูกจัดให้เป็นผู้ร่วมให้การสนับสนุนซึ่งจะมีความผิดเช่นเดียวกัน

...




พลังประชารัฐมั่นใจได้ตั้งรัฐบาลรอบหน้า (อยากได้บิ๊กตู่เรอ ? มรึงถามประชาชนแล้วหรือยัง !?! )




https://www.youtube.com/watch?v=u8AwJTbdYoc

The Daily Dose - พลังประชารัฐมั่นใจได้ตั้งรัฐบาลรอบหน้า

VOICE TV 21
Published on Jun 29, 2018

...


ooo

บิ๊กตู่ ฉุนขาด หลุดคำผรุสวาท ไอ้ห่า ไอ้บ้า ขี้ข้า ทำไมวะ



https://www.youtube.com/watch?v=2wCEzuxioC0&t=4s

matichon tv

Published on Jan 29, 2015

มติชนทีวี เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 มกราคม ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า โดยการให้สัมภาษณ์นัดนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว และมีการกล่าวคำผรุสวาท หลายคำเช่น ไอ้ห่า ไอ้บ้า ขี้ข้า และทำไมว่ะ

คลิปนี้ต้องฟัง! วาดระวี ชี้ปัญหาของขบวนประชาชน พูดเรื่องสถาบันฯ ไม่ได้!!




ข่าวดี ศาลยกฟ้อง คดี 112 'ทอม ดันดี' เป็นคดีที่ 2 จาก 4 คดี แม้จำเลยสารภาพ



ศาลยกฟ้อง คดี 112 'ทอม ดันดี' เป็นคดีที่ 2 จาก 4 คดี ชี้โจทก์บรรยายฟ้องยังไม่มีความแจ้งชัด ว่าเป็นการใส่ความ ดูหมิ่น หมิ่นประมาทตามฟ้อง แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้ ส่วน 2 คดีแรกศาลลงโทษจำคุกรวมแล้ว 10 ปี 10 เดือน อยู่ในเรือนจำมาแล้วกว่า 4 ปี

https://prachatai.com/journal/2018/06/77616

นอกจากคดี ทอม ดันดี แล้ว เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลอาญารัชดาอ่านคำพิพากษาคดี ของ ประเวศ ประภานุกูล ซึ่งอัยการฟ้องในข้อหาความผิด ม.112 จำนวน 10 กรรม ม.116 จำนวน 3 กรรม และ ม.14 (3) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 โดยศาลตัดสินว่า จำเลยไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมเท่ากับปฏิเสธสิทธิที่จะสู้คดี การโพสต์เฟสบุ๊คของจำเลยตั้งค่าเป็นสาธารณะ ข้อความดังกล่าวมีความผิดตาม ม.116 และ ม.14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่เนื่องจากเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษในบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.90 จึงให้ลงโทษจำคุกในความผิด ม.116 จำนวน 3 กรรม กรรมละ 5 เดือน รวม 15 เดือน นอกจากนี้ให้ลงโทษจำคุกฐานไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือในชั้นสอบสวนตามประกาศ คปค.ที่ 25/2549 อีก 1 เดือน รวมโทษจำคุกทั้งหมด16 เดือน ข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง อย่างไรก็ตามในคำพิพากษาที่อ่านในวันนี้มิได้บรรยายการวินิจฉัย ม.112 แต่อย่างใด

...

วันนี้ศาลยกฟ้องคดีื 112 ทอม ดันดี นับเป็นคดีที่ 2 ของเขาที่ศาลยกฟ้องแม้จำเลยสารภาพ อาทิตย์นี้มีแต่ข่าวดี คุณประเวศก็เพิ่งยกฟ้อง นี่แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์คดีิ 112 ที่ดีขึ้นเรื่อยๆตามที่ผมเคยให้ความเห็นก่อนหน้านี้


Anurak Jeantawanich

ถถถถ..ถถ โถ๋วววว ..แทนที่เค้าจะได้ทำงานกัน งานนี้ต้องแข่งกับเวลา เวลาทุกวินาทีมีค่า จนท.ทุกฝ่าย กลับต้องมาตั้งแถวรอท่าน.. ถถถ ถถถถ โถ่วววว 😡




ถถถถ..ถถ โถ๋วววว ..แทนที่เค้าจะได้ทำงานกัน งานนี้ต้องแข่งกับเวลา เวลาทุกวินาทีมีค่า จนท.ทุกฝ่าย กลับต้องมาตั้งแถวรอท่าน.. ถถถ ถถถถ โถ่วววว 😡



Alongkorn Cheurkit shared a live video.

...




วันศุกร์, มิถุนายน 29, 2561

ดราม่าศรีวราห์ #ระบายน้ำถ้ำหลวงฯ “อาศัยอำนาจอะไรในการเจาะ” ส่วน ผบ.ตร. ตอบสื่อนอกถึงความคืบหน้า “I have no idea.”

ที่นี่ นักข่าวหน้าจอมอนิเตอร์ตามติดสถานการณ์ ๖ วันของการค้นหา ทีมหมูป่าอคาเดมี่ที่หายไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ยังไม่มีข่าวดี มีแต่กำลังใจจากนายกฯ (คนเก่งที่ถึงจะ “ฉลาดบ้างนิดหน่อย” แต่ก็ “ขออย่าดูถูกกันมากนักเลย”) เอาไปมอบให้ถึงที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. บินจี๋ไปเชียงรายแต่เช้า (๒๙ มิ.ย.) เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และครอบครัวของเยาวชนที่ติดอยู่ในถ้ำ (เท่านั้น) กำชับเด็ดขาดไม่ต้องมีรายงานสถานการณ์ ไม่ต้องจัดการต้อนรับให้เอิกเกริก

แต่ช่วยไม่ได้ ในตำแหน่งนายกฯ (ที่ไม่ได้อยากเป็น หากฝืนใจมาช่วยชาติแท้ๆ และเห็นท่าจะต้องอดทนช่วยต่ออีกสักสี่ซ้าห้าปี ถ้าพลังประชารัฐเขาดูดได้ผล) ย่อมต้องมีหน่วยรักษาความปลอดภัยพร้อม K-9 ไปรอรับ และทีม ทส.ติดตามสัก ๒๕ คน
 
“เวลา 07.59 น. สุนัขตำรวจมารักษาความปลอดภัยนายกฯ แต่ไม่ได้มาช่วยการค้นหา ขณะที่นายกฯ และรัฐมนตรีถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง เวลา 8.20 น. และเดินทางไป อ.แม่สาย เข้าพื้นที่” @ThaiPBSNews รายงาน

วันนี้ดร่าม่าเรื่องสื่อซาลงไปเมื่อชัดเจนว่า นักข่าวที่เข้าไปรายงานภายในสถานที่นั้นเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าไปเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ และไม่ได้กีดขวางการทำงานเนื่องจากเป็นบริเวณที่เปิดให้ถ่ายภาพและถ่ายทำแล้ว

แต่ว่าก็มีดราม่าของพวกเจ้านายฝ่ายตำหวดติดปลายนวมมาเล็กน้อย เมื่อทั่นรอง ผบ.ตร. ไม่เพียงรับฟังรายงานเรื่องการช่วยระบายน้ำของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ทั่นซักไซร้ลงรายละเอียดเหมือนกับว่ารู้ลึกเชียวละ

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ไล่เรียงกับเจ้าหน้าที่ชนิดว่า “อาศัยอำนาจอะไรในการเจาะ” ได้ประสานกรมอุทธยานหรือยัง ระวังเรื่องกฎหมายให้แม่นๆ นะ แล้วจะขุดจากยอดเขาเนี่ยรู้พิกัดหรือเปล่า ขนาดนั้นกันเลย


ก็ยังดีกว่าทั่น ผบ.ตร.เองนี้ดนึง ซึ่งเจอนักข่าวอัล จาซีราห์ เอาไมค์จ่อปากถามถึงความคืบหน้าของปฏิบัติการค้นหานักเตะเยาวชนและโค้ช ๑๓ คนที่ติดอยู่ในถ้ำ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ดันตอบเวย์น เฮย์ว่า
 
“I have no idea.” ไม่รู้สิ “ต้องไปถามผู้ว่าฯ (เชียงราย) โน่นแน่ะ” นายเฮย์เขาจึงได้ทวี้ตว่า “แล้วทั่นมาที่นี่ทำไม” (วะ) ถ้าทั่นทำการบ้านเสียบ้างจะรู้

ความคืบหน้าของวันมีว่า ยังมีความพยายามสูบน้ำออกจากถ้ำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จนทำให้ปริมาณน้ำในถ้ำบริเวณโถงแรกลดลงไปบ้าง แต่ก็ยังไม่ช่วยอะไรมากนัก

 
นอกจากนายเวิร์น อันสเวิร์ธ นักดำน้ำชาวอังกฤษใช้เวลาสองชั่วโมงแล้วไม่พบอะไร เช่นเดียวกับหน่วยซีลที่เข้าไปถึงลานหาดพัทยา พบแต่รอยเท้าและรองเท้า อีกทั้งการหย่อนขวดน้ำเข้าไปจากช่องเปิดบนเขา ปรากฏว่ามีร่องรอยขวดน้ำถูกถอดออกไปเหลือแต่เชือก อันเป็นสัญญานข่าวดีแล้ว

ความพยายามขุดเจาะหาเพื่อปิดตาน้ำเกิดติดขัด เจาะไปได้ ๗๐ เมตรต้องหยุดเพราะไฟฟ้าดับ รอเจาะต่อใหม่อีกตอนสายวันนี้


อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวของข่าว #ถ้ำหลวงฯ บนโลกไซเบอร์ดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้งอย่างรวดเร็วด้วยข้อมูลใหม่ โดยเฉพาะเกี่ยวกับโพลงบนยอดเขาที่ฝ่ายปฏิบัติการกำลังสำรวจหาช่องทางเจาะลงไปสู่โถงของถ้ำ

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมเครื่องเจาะไว้แล้ว ส่วนหนึ่งด้วยความช่วยเหลือของหน่วยทหารอเมริกัน จัสแม็กประเทศไทย ทว่าบรรดานักรบไซเบอรืไปไกลกว่านั้น

เปิดฉากด้วย ภรรยาท่านลอร์ด คอมเม้นต์รายงานของช่องอัมรินทร์ที่ไปสัมภาษณ์ชาวบ้านในพื้นที่ ว่า “ก่อนหน้านี้ชาวบ้านไม่เคยออกมาบอก เพราะเป็นพื้นที่สีแดง” อันหมายถึงเขตลักลอบค้ายาเสพติด ที่ เกี๊ยวเห็นคุณให้รายละเอียด

“พ่อเพื่อนเราเป็นทหารบอกมานะคะ คือเขาปลูกฝิ่นผลิตยาที่ดอยผาหมี แล้วลักลอบขนกันที่ดอยนางนอน เพราะมีจุดเชื่อมไปพม่า” พ้องพอดีกับที่ ‘Millennium Boyz’ แฉ “โพลงที่ดอยผาหมีมันใหญ่มาก ใหญ่จนไม่น่าเพิ่งมาเจอเอาตอนนี้”

ก็เลยเข้าทางที่ คิมบ๊าบบิโพสต์บ้าง “ทำไมมีแต่คนคิดว่าถ้ำนี้มันมีสิ่งลี้ลับ แต่ไม่ค่อยมีใครคิดว่าถ้ำนี้มันเป็นเขตลักลอบค้ายา ที่คนแถวนั้นไม่ค่อยเข้าไป เพราะเขารู้ #ถ้ำหลวง” อ๊ะ เข้าไคล้กับที่คุณนาย เกี๊ยวเขียนไว้

“บางทีเวลาชาวบ้านเข้าไปแถวนั้นแล้วเสียชีวิต เขาก็จะโยนเข้าเรื่อไสยไป จะได้ไม่ต้องโดนขุด พวกพลเมืองดีเขาก้ไม่กล้าพูดแหละ พูดไปก็เหมือนเอามีดมาจ่อคอตัวเอง” ซึ่งก็ตรงกับที่ มาแป๊ปเดียว เดี๋ยวก็ไปเขียนไว้ก่อนหน้านี้เช่นกันว่า

“เส้นทางของถ้ำนี้ไม่ได้มีอาถรรพ์อะไรหรอก...ตอนยังไม่มีวัด ว่ากันว่าเป็นทางเดินของพวกผิดกฎหมายพักของ เพราะบนเขาเป็นหมู่บ้านชาวเขาผาหมีติดชายแดนพม่า แหล่งเพาะพันธุ์ยาเสพติด...บนเขาดอยนางนอนใครหลงเข้าไปเป็นหายไปทุกที

...ที่รู้ๆ กันแม้แต่คนในพื้นที่ขึ้นไปหาของป่า หายสาปสูญหรือกลายเป็นศพตลอด ไม่มีหรอกผีสางมีแต่เจ้าที่เจ้าทางตั้งแหล่งผลิตยาล่ะมากกว่า อาถรรพ์ลูกปืนน่ะสิ...”

ประเทศไทยเราขาดตรงนี้จริง ๆ หน่วยงานที่รู้จริง ๆ เป็นงานจริง ๆและมืออาชีพ



...

ประเทศไทยเราขาดตรงนี้จริง ๆ

หนวยงานที่รู้จริง ๆ เป็นงานจริง ๆและมืออาชีพ

ถึงเวลา นึกอะไรไม่ออก เอาซีลมา

ซีลไม่ใช่เทวดา เพราะชื่อแม่งก็บอกอยู่แล้วว่า ฝึกมารบได้ ทั้งบก น้ำ อากาศ ดำน้ำได้อึด แต่ไม่ใช่แปลว่า จะคิดพลิกแพลง กับการเข้าไปยื้อ ชีวิตที่ติดในภัยธรรมชาติได้

ถ้า ช่วยตัวประกันจากการโดนจี้ด้วย กลุ่มก่อการร้าย อันนี้กูไม่เถียง เพราะนี่คือหน้าที่

แต่พอเจอสถานการณ์ภัยพิบัติจากธรรมชาติ ซึลก็ติกแหงกกับน้ำขึ้นน้ำลง

กุไม่ด่า ซีลหรอก เพราะมันเป็นมุกหาแดกของทหารมาตลอด น้ำท่วมก็ทหาร ไฟป่าก็ทหาร แผ่นดินไหวก็ทหารอีก ขนาดบริหารประเทศ ซึ่งควายมาก ๆ ก็ยังคุยเลยว่า กูทำได้

แต่ประเทศห่วย ๆ นี้ไม่เคยดูเลยว่า ตกลง ใช้ทหารทำแบบนี้แล้วมันคุ้มไหม กับงบประมาณที่เสียไป (ทหารลงไปเป็นพัน รบกับน้ำในถ้ำ ยังไม่มีปัญญาเอาชนะเลย)

กูตั้งใจด่า มหาดไทย ด่ากรมป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย ที่เงินมี คนมี ของก็มี งบก็มี แต่ห่วยบรมห่วย ทำงานแต่หาสเปค จัดซื้อ รถดับเพลิง แทนที่จะเตรียมการ เรื่องคน เรื่องของ ตั้งหน่วยที่มืออาชีพจริง ๆ ฝึกซ้อมรอการเผชิญเหตุ หากมีเรื่องแบบนี้ ก็ลุยกันได้เลย นอกจากจะใบ้แดกแล้ว ยังทำอะไรไม่ถูกอีกด้วย

ที่มันทุเรสสัส ๆ คือ ไม่พร้อมแม้กระทั่งอุปกรณ์เบสิค อย่างถ่านไฟฉาย หรือเชือก ฯลฯ

ถ้า กทม.แผ่นดินไหว ตึกถล่มซัก ยี่สิบตึก คงตายกันเป็นเบือ

ดู ชาติที่เจริญแล้ว มึงไม่ต้องดูตัวอย่างไกล ยามฝั่งสหรัฐอะ แม่งไม่เคยใช้ทหารเลย หน้าที่มัน มันทำได้ครบ เครื่องมือครบ ช่วยได้ปลอดภัย

แต่พอไอ้ไทยเกิดเหตุ ก็อย่างที่เห็น ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ไม่รู้จะทำอย่างไร ดุ่ย ๆ เข้าไป ซึ่งในที่สุดก็คงไม่พ้น ชาติตะวันตกที่เชี่ยวชาญ ทั้งคนและเครื่องมือเข้ามาวางแผนให้

ทหารก็คอยโว ไอ้โน่นก็ทหาร ไอ้นี่ก็ทหาร ไอ้นั่นก็ต้องทหารทำ

ไม่ได้อิจฉาเลยนะ บอกกันตรง ๆ แค่รู้สึกว่า

เฮ้อ...........เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งให้มัน มีผลเลิศเป็นด้าน ๆ ไปเถอะครับ อย่าเอาชีวิตประชาชนมาเป็นหนูทดลอง ลองผิดลองถูก

ลูกใครใครก็รัก พี่เห็นแนวคิด รอน้ำลดแล้ว อกจะแตกตายแทนพ่อแม่เด็ก

ใครอยากด่าผมเต็มที่เลยนะครับ จะอัลเฟรนด์ก็ไม่ว่ากัน

อึดอัดจนสุดจะทนแล้ว

ปล. เลิกได้มั้ยไอ้ วัฒณธรรม ไปเสนอหน้าในจุดเกิดเหตุหนะ มันเกะกะเจ้าหน้าที่ในการทำงาน

แค่มึงพูดออกไมค์ว่า ให้ จนท.ทำให้เต็มที่ทุกอย่างไม่ต้องกลัวหากจะผิดระเบียบอะไร เรื่องทุกอย่างผมรับผิดชอบเอง

แค่นี้ก็แมนสัส ๆ แล้ว


Somchai Makmee

เป่านกหวีดคอแทบแตก shutdown BKK กันจนเละ ขวางเลือกตั้งจนโมฆะ นั่งด่าพรรคพวกแม้วและแกนนำเสื้อแดงราวกับเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน สุดท้าย #สลิ่ม ได้แกนนำเสื้อแดง hardcore “แรมโบ้อีสาน” ไปเป็นพวกหนุน “ประยุทธ์”



...



...




05.00 น. รายการพิเศษ #13ชีวิตต้องรอด (29 มิ.ย.61) เกาะติดปฏิบัติการค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ติด #ถ้ำหลวง




https://www.youtube.com/watch?v=kXLWPF-mY8Y&feature=youtu.be

ThaiPBS
Started streaming 2 hours ago

เกาะติดปฏิบัติการค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ติด #ถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย

“พิชัย” ชี้ “พรรคเพื่อไทย” ยังมีความนิยมสูง จึงมีขบวนการทำลาย ขอปชช.อย่าหลงกลขบวนการจ้องทำลายพรรค ลั่น ถ้าพท.ได้บริหารประเทศปชช.จะมีความสุข





“พิชัย” ชี้ มีขบวนการจ้องทำลาย “เพื่อไทย”อย่างหนัก เพราะยังมีความนิยมสูง


28 มิถุนายน พ.ศ.2561
มติชนสุดสัปดาห์


“พิชัย” ชี้ เพราะยังมีความนิยมสูง จึงมีขบวนการทำลาย “พรรคเพื่อไทย” ขอปชช.อย่าหลงกลขบวนการจ้องทำลายพรรค ลั่น ถ้าพท.ได้บริหารประเทศปชช.จะมีความสุข

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากผลการสำรวจความนิยมพรรคการเมืองล่าสุด ที่ปรากฏว่ามีประชาชนถึง 55.02% ยังให้ความนิยมกับพรรคเพื่อไทยโดยประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะสามารถบริหารประเทศทางด้านเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้อง ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุทำให้มีขบวนการหวังทำลายความนิยมของพรรคพท.และทำให้พรรคพท. อ่อนแอ ซึ่งอาจจะมีทั้ง คสช. กกต. ปปช. ปชป. ร่วมมือกันใช่หรือไม่ ตั้งแต่ความพยายามที่จะยุบพรรคพท.ในเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ทั้งเรื่องแถลงผลงานความล้มเหลวของรัฐบาล 4 ปี ทั้งๆที่จะเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแล้ว ตามมาด้วยความพยายามนำคดีเรื่องคลิป อดีตนายกฯที่ ออกมาพูดการเมืองซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มีเนื้อหาของการครอบงำ อีกทั้งยังไม่มีวันเลือกตั้งชัดเจน ไม่มีเขตเลือกตั้งชัดเจน และยังไม่ปลดล็อกทางการเมืองเลย จึงไม่รู้จะครอบงำได้อย่างไร ในขณะที่เรื่องการดูด ส.ส. และมีการแถลงข่าวอย่างโจ่งแจ้งกลับไม่มีความผิด และการใช้สรรพกำลังทุกด้านในการดูด ส.ส. ก็เป็นความพยายามทำให้พรรคพท.อ่อนแอเช่นกัน โดยประชาชนส่วนใหญ่สงสัยว่าเงินที่ใช้ดูด ส.ส. มาจากการทุจริตคอรัปชั่นใช่หรือไม่

นายพิชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีความพยายามดำเนินคดีกับอดีตนายกฯ ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงจากประชาชนมาโดยตลอด ทั้งๆที่เวลาผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว เช่น คดี ทีพีไอ ที่ผู้นำประเทศสมัยนั้นต้องแก้ไขหนี้ก้อนใหญ่สุดของประเทศโดยใช้กระทรวงการคลัง เพราะคงไม่สามารถใช้ ปรส. หรือ ตั้ง ปรส. ขึ้นมาใหม่เพื่อแก้หนี้ได้ เพราะ ปรส. มีแต่ข้อครหาเรื่องการทุจริตกันอย่างมโหฬาร คดีเงินกู้ เอ็กซิมแบงค์ที่ปล่อยกู้พม่าจำนวน 4,000 ล้านบาท ซึ่งพม่าใช้เงินกู้คืนหมดแล้ว และเป็นความต้องการของพม่าเองที่อยากเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมของไทยพร้อมอุปกรณ์เพียง 100 กว่าล้านบาท ซึ่งไม่มีบริษัทอื่นในไทยให้บริการได้นอกจาก บมจ. ชินแซทเทลไลท์ คดีธนาคารกรุงไทยที่เหมือนนวนิยายซับซ้อนยอกย้อนพยายามโยงผู้นำประเทศกับการดำเนินกิจกรรมของธนาคารที่ไม่สมเหตุผล หลังจากนั้น ผู้นำรัฐบาลกลับจากต่างประเทศก็ออกมาด่าอดีตนายกฯ เพื่อกลบข่าวการถูกนิตยสารไทม์วิจารณ์อย่างหนัก รับลูกกับ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ออกมาตำหนิอดีตนายกฯ ว่าเป็นสาเหตุปัญหาของประเทศ ทั้งๆที่ประชาชนไม่ได้ลืมว่าใครบอยคอตการเลือกตั้ง 2 หน และทำให้เกิดการปฏิวัติทั้ง 2 หน รัฐบาลไหนมีคนตาย 99 คน และจำได้ว่าใครบ้างที่ห้อยนกหวีตออกมาประท้วงพร้อม กปปส. ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ประเทศอย่างมหาศาลและทำให้ประชาชนลำบากกันอยู่ถึงปัจจุบัน ดังนั้นอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณอย่าได้หลงกลขบวนการจ้องทำลายพรรคพท. และอยากให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าหากพรรคพท.ได้บริหารประเทศ ประชาชนจะมีความสุขและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเหมือนผลงานของพรรคในอดีตที่ประชาชนสามารถจับต้องได้

...




เอาเปรียบชัดเจน ! “ชวลิต”จวกรัฐบาลสองมาตรฐานปล่อย”กลุ่มสามมิตร”เดินสายดูดส.ส.เปิดเผย





“ชวลิต”จวกรัฐบาลสองมาตรฐานปล่อย”กลุ่มสามมิตร”เดินสายดูดส.ส.เปิดเผย


June 28, 2018
ที่มา โลกวันนี้


นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลนี้อาจไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาลรักษาการจัดการเลือกตั้งทั่วไปร่วมกับ กกต. เพราะไม่เป็นกลางและสองมาตรฐาน ดังนี้ 1.กรณีดำเนินคดีกับ 8 แกนนำพรรคเพื่อไทยที่วิจารณ์ผลงานรัฐบาลครบรอบ 4 ปี แต่กับกลุ่มสามมิตรซึ่งประกาศตัวชัดเจนว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ออกเดินสายดูดอดีต ส.ส. อย่างเปิดเผย ไปเจรจาการเมืองเกิน 5 คนก็ไม่ผิด 2. รัฐบาลเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นทุกวิธีการหรือไม่ เช่นออกคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 3.รัฐบาลควรสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนด้วยการให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้แล้ว แต่รัฐบาลยังปิดล็อคห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง ขณะที่ตัวเองทำทุกอย่างในการต่อท่ออำนาจทางการเมือง รวมไปถึงมีข้าราชการที่หวังตำแหน่ง หน้าที่การงาน เดินสายกันให้ว่อนเพื่อสนับสนุนรัฐบาล แล้วอย่างนี้การเลือกตั้งจะเป็นกลาง จะบริสุทธิ์ ยุติธรรม ได้อย่างไร

...



พันลึกจริงๆ : คลิปจากเวทีเสวนา "รัฐพันลึก: บทบาทระบบราชการในการเมืองไทย" ร่วมเสวนาโดย เกษียร เตชะพีระ, พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์, วสันต์ เหลืองประภัสร์ ดำเนินรายการโดย วรรณภา ติระสังขะ



คลิปจากเวทีเสวนา "รัฐพันลึก: บทบาทระบบราชการในการเมืองไทย" เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2561 จัดที่ห้อง ร.202 ชั้น 2 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ร่วมเสวนาโดย 

ศ.ดร.เกษียร เตชะพีระ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผศ.ดร.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผศ.ดร.วสันต์ เหลืองประภัสร์ สาขาวิชาการบริหารรัฐกิจ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.วรรณภา ติระสังขะ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


"ตามกฎหมายอาญาเจ้าหน้าที่จะใช้อาวุธได้ก็ต่อเมื่อต้องมีการต่อสู้ ไม่ใช่อีกฝ่ายมีอาวุธแล้วก็ประหารได้เลย คดี 99 ศพจึงยังจบไม่ได้ ผู้บริหารประเทศไม่มีสิทธิประหารใคร" อดีต ป.ป.ช. แนะร้องศาลฎีกาตั้งกก.ไต่สวนรื้อคดีสลาย นปช.





อดีต ป.ป.ช. แนะร้องศาลฎีกาตั้งกก.ไต่สวนรื้อคดีสลาย นปช.


Jun 28, 2018
Voice TV


อดีตกรรมการ ป.ป.ช. แนะรื้อคดีสลายชุมนุม นปช.ให้ดำเนินการตามคำพิพากษาศาลฎีกาโดยยื่นร้องต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ตั้งกรรมการไต่สวนสั่งฟ้องคดีดังกล่าวตาม รธน.ปี 2550

นางสมลักษณ์ จัดกระบวนพล อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ระบุถึงแนวทางการสู้คดีสลายการชุมนุม นปช. หลังคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยกคำร้องรื้อฟื้นคดีดังกล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่เห็นพยานหลักฐานใหม่ จึงมียืนตามมติเมื่อปี 2558 ไม่สั่งฟ้อง โดยมีใจความว่า มองการสลายการชุมนุมเป็นไปตามหลักสากล ผู้ชุมนุมบางรายมีอาวุธ จึงให้ทหารเข้าควบคุมขอคืนพื้นที่โดยสามารถพกอาวุธและใช้ได้ตามความสมควรและจำเป็น แต่สิ่งที่ปรากฎออกมาคือมีผู้เสียชีวิตมากถึง 99 ศพ

“แต่ส่วนตัวเห็นว่า ถึงแม้จะมีผู้ชุมนุมบางรายมีอาวุธ แต่การใช้อาวุธสงครามสลายการชุมนุมก็ยังหนักเกินความจำเป็นอยู่ดี ตามกฎหมายอาญาเจ้าหน้าที่จะใช้อาวุธได้ก็ต่อเมื่อต้องมีการต่อสู้ ไม่ใช่อีกฝ่ายมีอาวุธแล้วก็ประหารได้เลย คดี 99 ศพจึงยังจบไม่ได้ ผู้บริหารประเทศไม่มีสิทธิประหารใคร"

สำหรับแนวทางการสู้ต่อตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4288-4289/2560 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2560 ที่ระบุตอนหนึ่งระบุว่า ให้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ 2550 ตามคำฟ้องและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายใต้การบังคับใช้ของรัฐธรรมนูญฉบับนั้น เพื่อร้องต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาให้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระขึ้นมาพิจารณาสั่งฟ้อง คดี 99 ศพ ส่วนตัวยังคงคาใจอยู่ 2 ข้อคือ 1.ทำไมต้องใช้อาวุธร้ายแรงเหมือนอยู่ในราชการสงคราม และ2.ทำไมจึงใช้ทหารไม่ใช้ตำรวจที่ถูกฝึกมาให้ควบคุมสถานการณ์เช่นนี้ โดยเฉพาะ การนำมาเทียบเคียงกับคดีสลายการชุมนุมพันธมิตร ที่ป.ป.ช.เห็นว่า การใช้ตำรวจไม่เป็นไปตามหลักสากลนั้นคนละเรื่องกัน เหตุการณ์ 7 ต.ค. 2551 ตำรวจได้ใช้มาตราการจากเบาไปหาหนักนั้นเป็นไปตามหลักสากลแล้ว


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ป.ป.ช.' มีมติไม่รื้อคดีสลายการชุมนุมเสื้อแดงปี 53


“กากเดนเผด็จการ” : การยึดอำนาจทุกครั้งจะเกิดพรรคการเมืองเฉพาะกิจ ออกกวาดต้อนอดีต ส.ส. เข้าพรรคเพื่อยกมือหนุนให้เผด็จการได้อยู่ในอำนาจต่อเสมอ ล่าสุดเผด็จการชุดนี้ก็หนีไม่พ้นวงจรเดิม





“กากเดนเผด็จการ”

การยึดอำนาจทุกครั้งจะเกิดพรรคการเมืองเฉพาะกิจ ออกกวาดต้อนอดีต ส.ส. เข้าพรรคเพื่อยกมือหนุนให้เผด็จการได้อยู่ในอำนาจต่อเสมอ เช่น เสรีมนังคศิลา สหประชาไทย สามัคคีธรรม ล่าสุดเผด็จการชุดนี้ก็หนีไม่พ้นวงจรเดิม

สำหรับการดูด ส.ส. ครั้งนี้เท่าที่ผมทราบมีการใช้ทั้งเงินและอำนาจรัฐมาต่อรอง โดยเสนอเงื่อนไข คือ (1) ให้เงินจำนวนมากเพื่อต่อสู้กับพรรคเพื่อไทย (2) ช่วยเหลือเรื่องคดีที่เจ้าตัวหรือลูกเมียถูกดำเนินคดี (3) ให้สิทธิเลือกผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในเขตเลือกตั้งเพื่อช่วยเหลือตนและจัดการฝ่ายตรงข้าม (4) ให้สิทธิในการกำหนดพื้นที่เลือกตั้งเพื่อแบ่งเขตแบบที่ตัวเองได้เปรียบ ทั้งหมดนอกจากจะเป็นข้อเสนอแล้วยังเป็นคำขู่สำหรับผู้ที่ไม่ยอมให้ดูดที่จะต้องโดนกลั่นแกล้งทุกรูปแบบ

พรรคเพื่อไทยเผชิญกับการจ้องทำลายมาโดยตลอด นับจากพรรคไทยรักไทย และพลังประชาชน ที่นอกจากจะถูกยุบพรรคและกรรมการบริหารถูกห้ามแล้ว ยังมีอดีต ส.ส. ออกไปอยู่กับพรรคอื่นเกือบ 100 คน แต่เราก็ได้ ส.ส. หน้าใหม่มาแทนและชนะเลือกตั้งกลับมาทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกันนอกจากจะถูกดูดอดีต ส.ส. แล้วยังถูกจ้องหาเรื่องจะยุบพรรคอีกต่างหาก แต่พรรคก็มิได้หวั่นไหวกลับถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ถ่ายเลือดเพื่อให้เหลือแต่เพื่อไทยแท้ที่ไม่หวั่นไหวต่ออำนาจฝ่ายต่ำ

พรรคยังได้เตรียมนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เผด็จการชุดนี้สร้างไว้ ดังนั้น หากพี่น้องประชาชนเห็นว่าพลเอกประยุทธ์บริหารประเทศดีแล้ว หน้าบางแถมฉลาดเฉลียวในเวทีโลก นานาชาติให้การยอมรับและเต็มใจค้าขายด้วย ประชาชนทำมาหากินสะดวกและร่ำรวยมีเงินทองก็เลือกพรรคนี้ไปเลย แต่ถ้าเห็นว่าเผด็จการชุดนี้ได้สร้างความฉิบหายให้บ้านเมืองมากพอแล้ว คำตอบคือพรรคเพื่อไทยครับ

วัฒนา เมืองสุข
28 มิถุนายน 2561



Watana Muangsook




วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 28, 2561

‘หมูป่าอคาเดมี่’ Be strong, help is on the way. มี HOPE

เข้าวันที่ ๖ ความพยายามทุกภาคส่วนในการกู้ภัยนำทีมเยาวชนฟุตบอล หมูป่าอคาเดมี่ และผู้ฝึกรวม ๑๓ คน ออกจากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน แม่สาย เชียงราย ตอนสายวันที่ ๒๘ มิถุนายน ยังไม่สัมฤทธิ์ผล

แม้นว่าการลงพื้นที่เกิดเหตุคราคร่ำไปด้วยผู้คน ทั้งหน่วยพิเศษทัพเรือ (เนวี่ซีล) กองทหารทัพบก ผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำจากอังกฤษ ที่เคยสำรวจถ้ำหลวง หน่วยทหารกู้ภัยสหรัฐ แถมด้วย ผู้ว่าฯ เชียงราย ผบ.ตร. รมว.มหาดไทย และคำพร่ำภาวนาจากนายกรัฐมนตรีคณะรัฐประหาร และสื่อมวลชนมากหน้า (ยกเว้น สกายไทย ที่นั่งเก็บข่าวจากหน้าจอคอมพิวเตอร์มาเขียน)

ราว ๗ โมงเช้า @ThaiPBS แจ้งว่า “เช้านี้ฝนยังตกต่อเนื่อง ทำให้ระดับในถ้ำเพิ่มสูงขึ้น จนท.จึงหยุดการสูบน้ำชั่วคราวเนื่องจากระดับน้ำสูงบริเวณจุดตั้งเครื่องสูบ”

อีกทั้ง “มีฝนตกอย่างต่อเนื่องสังเกตจากการมีน้ำไหลลงมาจากภูเขา ระดับน้ำในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นจนถึงจุดที่ จนท.กำลังปฏิบัติการ อาจมีการปรับแผนใหม่”

ทางด้านเดลินิวส์ รายงาน “เฟซบุ๊กของสมาชิกใช้ชื่อ คาเธ่ย์ หมี ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ ระบุว่า 07.00 น. หน่วยซีล & จนท.ทุกหน่วย ถอนกำลังออกจากถ้ำขึ้นที่สูงแล้ว หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน

จนท.หยุดเดินเครื่องสูบน้ำทั้งระบบ และล่าสุดน้ำท่วมทุกห้องโถงของถ้ำ จนไม่สามารถปฎิบัติการค้นหาได้ รอประชุมปรับแผนการค้นหาใหม่ 9 โมงวันนี้



แผนการค้นหาใหม่ที่ว่า อาจเป็นอีกความพยายามเข้าไปในถ้ำให้ถึงบริเวณที่เรียกว่า หาดพัทยา อันเป็นเนินดินเหนือแหล่งน้ำขนาดใหญ่เลยลานกลางเข้าไป ที่มีปริมาณน้ำไหลเพิ่มตลอดสองวันที่ผ่านมาเนื่องจากบนเขามีฝนตกชุก

ทั้งที่ตอนสี่ทุ่มครึ่งเมื่อคืน (๒๗ มิ.ย.) ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกู้ภัยแจ้งว่าการสูบน้ำด้วยเครื่องชนิดงวงหนวดปลาหมึกทำได้เต็มพิกัด ขณะที่สำรวจพบปล่องจากยอดเขาเพื่อหาทางลงไปในถ้ำได้แล้ว ๔ ปล่อง

หากแต่ ๓ ปล่องแรก “ยังไม่สามาถเจาะลงไปถึงพื้นถ้ำได้เพราะหลังจากสำรวจแล้วมีหินจำนวนมาก แต่ล่าสุดได้สำรวจแล้วพบปล่องที่สี่อีก ดังนั้นจะมีการเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดในช่วงเช้าวันที่ ๒๘ มิ.ย.”


ทั่วทั้งประเทศจดจ่อกับสถานการณ์กู้ภัยครั้งนี้ ล้วนตั้งความหวังให้หน่วยซีลประสพความสำเร็จ และนักเตะรุ่นเยาว์ทั้งทีมรอดชีวิตปลอดภัยออกมาได้ ทว่า ๕ วันที่ผ่านมาบริเวณหน้าถ้ำ เช่นเดียวกับบนหน้าสื่อโซเชียล ออกจะชุลมุนกันน่าดู

ระหว่างลุ้น ข่าวดีประชากรเน็ตใช้เวลาที่รอ อัด สื่อกันมันมือ แถม สกายไทย สื่อจับเสือมือเปล่าหน้าแป้นอย่างเรา ฉวยโอกาสประกาศตัวด้วยการร่วมอัดนักข่าวสาวที่ขึ้นไปเกาะติดสถานการณ์ถึงในถ้ำ
 
ฐปณีย์ เอียดศรีไชย แห่งช่อง ๓ โดนหนัก ถูกจี้ตัวว่าทำให้ “กสทช. ห้ามสื่อทุกสำนักไล้ฟ์สดที่ถ้ำหลวง” เพื่อจะได้ไม่กีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าตัวเพิ่งโพสต์ชี้แจง


ขอยืนยันนะคะแยม ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ไม่ใช่นักข่าวทีวี ที่ท่านผู้ว่าราชการจ.เชียงรายระบุว่าเข้าไปทำข่าวภายในถ้ำ ขอความเป็นธรรมด้วยค่ะ แยมไปแค่ภารกิจค้นหาปล่องถ้ำบนเขา กับตชด.และจนท.กรมอุทยานที่ได้รับอนุญาตให้ตามไปมี Tpbs, Springnews, NBT ไปด้วยกันไม่ได้เข้าถ้ำนะคะ”

หนักกว่านั้นมีบางสื่อ เล่น ข่าวกันอย่างเมามัน ทั้งข่าวเท็จ เช่น ซีลพบพวกเด็กๆ ในถ้ำแล้ว นั่งกินอาหารกันอยู่ฟื้นพลังตอนขาออก ประมาณนั้น
 
ยังมีประเภทรายงานผลการเข้าทรงองคเจ้า เอามาโพสต์ก็หลายราย จนสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ต้องออกแถลงการณ์บ้าง “ขอความร่วมมือเพื่อนสื่อมวลชนปฏิบัติงานอย่างเป็นระเบียบ” แล้วก็ขอให้ “ตรวจสอบข้อมูลอย่างถูกต้อง อย่าสร้างกระแสจนเกิดความสับสน”

ดูจากคอมเม้นต์ต่างๆ ออนไลน์ เห็นว่ารายงานข่าวสถานการณ์ถ้ำหลวงของ สำนักข่าวไทย (MCOT) ทำได้สมดุลและตรงตามความจริง ไม่เว่อ ไม่มั่ว ที่สุด ขอบันทึกไว้ตรงนี้

ว่าไปก็น่าเห็นใจฐปณีย์อยู่เหมือนกัน เธออ้างว่าที่เข้าไปรายงาน สุกบ้างสดบ้าง ในถ้ำนั่นก็ตอนเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ตามเข้าไปได้ เธอเคยโดดเด่นตอนรายงานกรณีโรฮิงญาถึงบนเรือผู้ลี้ภัยมุสลิมจากพม่า ก็เลยมีพวกเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ อย่างผู้ใช้นาม ผัว exo @exohubby’ ขากใส่ว่า “เขาให้อาหารโรฮิงยาที่บ้านหรือยังก่อนมา”

พอดีมีคนตั้งกังขาสื่อเสี้ยมแบบสกายไทย ว่า นี่เห็นมาพักใหญ่ล่ะ ไม่รู้ว่าของใคร ระบุว่าเป็นบริษัทสื่อสารแถวปทุมวัน แต่ตามดูเห็นเล่นข่าวกระแสสังคมทุกอย่างเพื่อให้ได้ไลค์

จุดยืนคือเชียร์ทหาร (อวยอย่างกับเป็นฮีโร่ในหนัง) ด่านักการเมือง ปกป้องรัฐบาล โหนข่าวกระแสทุกอย่าง ด่าเอ็นจีโอ ดูวิธีเขียนโปรยสเตตัสแล้วน่าจะไม่ใช่สื่ออาชีพ

มาเกิดจริงๆ ก็ตอนเรื่องโทษประหารนี่แหละ ทำป้ายด่าเอ็นจีโอได้ใจคนหนุนประหาร และมาดังพลุแตกก็เรื่องเด็กติดถ้ำ เพราะความคืบหน้าถี่ยิบที่สุด และด่าร่างทรง ลามมาด่านักข่าวที่ลงพื้นที่ คนก็เฮอีก” (จากโพสต์ของ Nattharavut Muangsuk)

นี่ละ ดร่าม่าไตแลนเดีย ดูท่าประชากรฝ่ายสลิ่มจะเอาอย่างทั่นภู่ณรรมกันแล้ว คงซึมซับตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ล่าสุดทั่นเพิ่งได้จังหวะพาดพิงปัญหาบีทีเอส ห่วยว่า “เห็นปชช.เดือดร้อน ก็ทุกข์ใจ จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ” น่ะ

(https://www.khaosod.co.th/politics/news_1268561)