โควิดสายพันธุ์อินเดียถึงไทยแล้ว หมอตัว ‘ยง’ ออกลายโทษสื่อสังคม

“วันนี้ศาลเบิกตัวเพนกวิน-แอมมี่-ไมค์ มาที่ศาลอาญาฯ เพื่อไต่สวนประกันตัว น่าจะรู้ผลช่วงบ่าย หวังว่าทุกคนจะได้ประกันตัว” ทวี้ตของ prajak kong @bkksnow ช่วยสร้างความชุ่มชื่นในใจแก่ผู้คนที่เฝ้ารอแสงแห่งคุณธรรมเล็กๆ น้อยๆ อันพึงมี

หลังจากที่กิจกรรม #เปิดไฟให้ดาว เมื่อคืนที่ผ่านมาผนึกความหวังที่ว่า “จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าไม่เกินเอื้อมและกำลังมาถึงอีกไม่นาน” ตามคำปราศรัยของ ‘มายด์’ ภัสราวดี ธนกิจวิบูลย์ผล และ “สร้างอำนาจของการเมืองประชาชน” ดัง ยุกติ มุกดาวิจิตร คาดหวัง

แต่ก็ยังไม่วายเอน็จอนาจกับอาการป่วยทางกายภาพของบ้านเมืองที่พวกเขาจะออกมาเจอ หลังจากต้องระกำกับความริยำทางคุณธรรมและจิตสำนึกของผู้ถืออำนาจปกครอง ซึ่งเหลิงต่ออำนาจ อวดเก่งอวดดี ทั้งที่ไร้น้ำยา มะงุมมะงาหรากับการแก้ปัญหาโควิดยกที่สาม

คนติดไม่ลด คนตายเพิ่มไม่เว้นแต่ละวัน ๑๑ พฤษภา ติดเพิ่มเกือบ ๒ พัน ตายเพิ่ม ๓๑ ราย วัคซีนไม่พอ มาไม่ทัน ไอ้ที่มีอยู่ก็ด้อยคุณภาพ คนกลัวผลข้างเคียงเนื่องจากมีตายให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้วนับสิบ โดยทางการไม่อยากบอก แต่สื่อสังคมโวยวาย

แล้วหมอตัว ‘ยง’ ออกลายเจ้านาย โทษประชาชน โทษคนอื่น ตนเองไม่เคยผิด “สิ่งที่สำคัญ คนจะมาฉีดหรือไม่ฉีด ขึ้นอยู่กับนักข่าวและสื่อออนไลน์” นพ.ยง ภู่วรวรรณ กลายเป็นเทพเจ้าไวรัสวิทยา หรือผู้เชี่ยวชาญสวมชฎาไปแล้ว

“ประเด็นคือ 1.) ไม่ใช่ว่าประชาชนเกี่ยง ไม่ฉีดวัคซีน แต่รัฐบาลหาวัคซีนมาฉีดให้ไม่ทัน 2.) รัฐบาลไม่เข้า COVAX เราเลยยังไม่ได้วัคซีนที่ประเทศอื่นเขาใช้กันเป็นปรกติ 3.) คนผิดคือคนที่ทำให้ประชาชนไม่มีสิทธิ์เลือก

ไม่ใช่คนที่อยากเลือกเป็นคนผิด” Duangrit Bunnag @DuangritBunnag ย้อนให้แสบมั้ย “อยู่กันอย่างทาสมาจนชินสินะ” หนักไปกว่านั้นสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่มั่นใจกันว่าเข้ามาในไทยกันแล้ว เริ่มโผล่ทีละตัวสองตัว อันที่ระบาดหนักขณะนี้ก็เชื้อผู้ดี ‘บริทิช’ (B.1.1.7)

วานนี้ ศบค. ศูนย์โควิดไทยแจ้งว่าพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์อินเดียแล้ว (อย่างน้อย) ๑ ราย เป็นหญิงท้องแก่ (๒๕ อาทิตย์) วัย ๔๒ ปี ซึ่งเดินทางมาจากปากีสถานตั้งแต่ ๒๔ เมษาที่ผ่านมาพร้อมกับลูกเล็กๆ สามคน ตรวจพบระหว่างอยู่ในแหล่งกักตัว

เหตุนั้นทำให้สื่อทางเลือกรุมสกรัมรัฐบาลกันใหญ่ ด้วยอารมณ์ประมาณ “เป็นเรื่องหน้าเศร้าที่ผู้นำไม่อัพเดทข่าวสาร เจ้ากระทรวงต่างๆก็ไม่รายงานเลย ว่าสายพันธุ์อินเดียมันระบาดจนวิกฤตตั้งแต่เมษา เราก็เลยยังจัดเที่ยวบินจากประเทศใกล้เคียงอินเดียเข้าไทยต่อเนื่อง”

ทวีตของ Thitapa Siripipat @Pink_Siripipat เช่นเดียวกับ Chutintorn Sam Gongsakdi ที่ให้รายละเอียดว่า “๓๐ เม.ย.๒๕๖๔ สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงธากา จัดเที่ยวบินนำคนไทยในบังคลาเทศ ๔๘ คน และชาวต่างชาติ ๔๔ คน...เดินทางเข้าประเทศไทย”

นั่นเป็นรอบที่ ๑๕ ของเที่ยวบินในเส้นทางนี้ซึ่งเที่ยวใดเที่ยวหนึ่งจะผ่านประเทศในภูมิภาค แห่งใดแห่งหนึ่งหรือมากกว่า เช่น อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ และดูไบ แสดงว่าน่าจะมีคนติดเชื้อสายพันธุ์ ‘บี๑๖๑๗’ ดังกล่าวที่เล็ดลอดการตรวจอยู่บ้าง

ในความเป็นจริงที่สื่อออนไลน์เผยแพร่แล้วโดนหมอยงด่า “ตอนนี้เรามีวัคซีนอยู่ ๒ ยี่ห้อ Sinovac ที่ WHO ยังไม่รับรอง บวก AZ (แอสตร้าเซเนก้า) มา มิ.ย. (ซึ่ง) มีคนโดนผลข้างเคียงจากวัคซีนจริง” กลุ่มถัดไปให้ลงทะเบียนขอรับได้ในเดือนกรกฎา

“กรกฎาคมวัคซีนจะมาหลายยี่ห้อขึ้น ไฟเซอร์ก็จะมาช่วงนั้น - ที่ อย.ไทยให้ผ่านแล้วคือ J&J (จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน)- ตอนนี้รัฐไม่ให้คนเลือกวัคซีนได้เอง - นายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการสั่งซื้อวัคซีน ลดขั้นตอนการผ่าน อย.เป็นการฉุกเฉิน”

แล้วไง ตั้งแต่สมัยที่แล้วเป็นรัฐบาล ‘ยึดอำนาจ’ มาถึงสมัยนี้รัฐบาล ‘สืบทอดอำนาจ’ ดีแต่ตวาด ชี้หน้า ประชาชน พวกรุ่นใหม่ที่ออกมาร้องโหวกเหวกว่าไม่ไหวนะทั่น ออกไปเถอะจะได้เปลี่ยนแปลงปรับปรุงให้มันเข้าที่ทางชาติอารยะ กลับโดนยัดคุก

ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเก่งแค่นั้นแหละ มือกำอำนาจไว้ข่มขู่ หัวไว้ผงกไม่ค่อยได้ใช้คิด หางไว้กระดกให้ลิ่วล้อยก เจอโควิดพิษสงแรงเข้าสามรอบไปไม่เป็น แม้แต่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็ต้องคอยย้ายห้องหนีอยู่นั่นแล้ว “จากตึกบัญชาการ มาตึกภักดีบดินทร์ จนมาถึงตึกไทยคู่ฟ้า”

Wassana Nanuam รายงาน “ประชุม ครม.VTC ที่ศูนย์ PMOC...มีแค่ เลขาฯ นายกฯ และทีมฝ่าย เสธ.เท่านั้น หลังโควิดฯ รุนแรงขึ้น แม้แต่ในทำเนียบรัฐบาล แม่บ้านที่ดูแลตึกบัญชาการติดโควิดฯ ไปหลายคน มีการจำกัด คัดกรองคนที่จะขึ้นตึก”

ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี อะ

(https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/4085744588150635, https://www.channelnewsasia.com/news/asia/thailand-first-case-india-variant-b1617 และ https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10165403993005551)