วันอาทิตย์, มกราคม 20, 2562

กอบศักดิ์ ภูตระกูล ‘failed miserably’ หาเสียงพลังประชารัฐ "ไม่ต้องกังวลว่าจะมีระเบิดลงหรือไม่”


ฟังนักการเมืองในคราบรัฐมนตรีเขาว่ามะ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปเปิดป้ายสาขาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่บางแค แล้วโฆษณาชวนเชื่อหาเสียงในฐานะโฆษกพรรค

“ทั่วประเทศจะได้ ส.ส.เขตเกิน ๑๕๐ ที่นั่ง จากเดิมที่เป็นพรรคโนเนม แต่ตอนนี้เราเป็นพรรคการเมืองตัวเต็ง” ไม่ต้องถามว่าทำไมถึงเต็ง ทั่นโฆษกพรรครัฐบาล คสช. บอกเอง

ประชาชนคนไทยชอบ ๔ ปีที่ผ่านมา ที่มีความสงบไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความรุนแรง ไม่ต้องมากังวลว่าจะมีการเดินขบวนที่ใด และไม่ต้องกังวลว่าจะมีระเบิดลงหรือไม่”


ก่อนหน้านี้วันเดียว เมื่อเวลา ๒๐.๓๐ น. วันที่ ๑๘ ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงถล่มใส่วัดรัตนานุภาพ บ้านโคกโก หมู่ที่ ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส

ทำให้มีภิกษุมรณภาพ ๓ รูป และบาดเจ็บสาหัสอีก ๑ รูป ด้วยน้ำมือของ “คนร้ายจำนวนกว่า ๑๐ คน แต่งกายชุดดำคล้ายทหาร ขี่รถ จยย.เป็นพาหนะ บุกเข้าไปภายในวัดรัตนานุภาพ หรือวัดโคกโก แล้วได้กระจายกำลังใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่กุฏิพระ
 
ทั้งนี้ พระมหาไพรวัลย์ วรรณบุตร แห่งวัดสร้อยทอง ประณามโจรใต้ผ่านเฟซบุ๊กว่า “การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจและเลวร้ายเกินวิสัยของมนุษย์ที่ยอมรับได้ เขตพุทธวาส ถือเป็นเขตอภัยทาน และพระสงฆ์ที่มรณภาพ ล้วนเป็นผู้ปราศจากอาวุธ

อีกทั้งพระรูปหนึ่งที่มรณภาพ พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส “ท่านเป็นพระนักพัฒนา ที่วัดท่านไม่มีการปลุกเสกวัตถุมงคล เน้นการปลูกต้นไม้รอบวัด ใช้ลานวัดเป็นสถานที่อบรมธรรม งานบุญห้ามเล่นการพนันและดื่มเหล้าเด็ดขาด


เช่นนี้ ในฐานะรัฐมนตรีกอบศักดิ์ทำหน้าที่อย่างขาดความรอบรู้และปิดหูปิดตาต่อเหตุการณ์บ้านเมือง ในฐานะโฆษกพรรคการเมืองก็เท่ากับเขาโฆษณาหาเสียงด้วยความเท็จ น่าจะผิดระเบียบการเลือกตั้งที่ กกต.กำหนดให้ปฏิบัติ ๙ ข้อ

ดังนั้น จัดว่า กอบศักดิ์ ภูตระกูล ‘failed miserably’ ล้มเหลวไม่เป็นท่าเลยทีเดียวต่อการที่ดึงดันยืนถ่างขาคาบอยู่ทั้งสองตำแหน่ง แต่ด้วยความเจ้าเล่ห์และเอารัดเอาเปรียบ เขาตอบคำถามผู้สื่อข่าวเรื่อง “ตั้งแต่เปิดตัวเล่นการเมืองถูกโจมตีเป็นระยะกรณีที่ไม่ลาออก” จากการเป็น รมว.

ว่า “การที่ยังไม่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีถือว่าเสียเปรียบพรรคการเมืองอื่นด้วยซ้ำ เพราะคู่แข่งสามารถไปได้ทุกท้องที่ทุกเวลา แต่ตนต้องดำเนินกิจการพรรคหลังเวลาราชการไปแล้ว”


เป็นอันว่าการ ปลิ้นปล้อน นี่เป็นพฤติกรรมประจำตัวของโฆษกพรรค คสช. ทั้งสายทหารและสายการเมือง