วันพุธ, เมษายน 25, 2561

หัวหน้า คสช. ก็แค่นี้ ปากไวเรื่องดูด กับมือไวใช้ ม.๔๔


ตกลงที่ประยุทธ์ตั้งสนธยา คุณปลื้มเป็นที่ปรึกษานั้น เป็น ทางการเมือง ก็แต่ชื่อตำแหน่ง จริงๆ แล้วแค่จะให้ไปช่วยดูแลเรื่องระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกต่างหาก (ปัดโธ่ คิดมากกันไปได้)

“จริงๆ แล้วอยากให้เขาดูแลภาคตะวันออกเท่านั้นเอง ปรึกษาเขา เพราะเขาดูภาคตะวันออกอยู่แล้ว ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนพอสมควร ก็เพียงแค่นั้น”

นายกรัฐมนตรีที่มาจากการยึดอำนาจบอกว่า วันนั้น ปากไวไปหน่อย (“ตอบเร็วไปนิด”) ดันหลุดออกไปว่าจะให้ลูกชายกำนันเป๊าะช่วยแนะนำทางการเมือง แล้วพวกไพร่-กฎุมพี (หมายถึงทั้งแดงและเหลือง) คิดสาระตะกันไปใหญ่ว่าทั่นขี้ตู่วางแผนรวบยอดตอนมีเลือกตั้ง จะได้เป็นนายกฯ อีกครั้งอย่างสวยๆ

รวมทั้งการลงพื้นที่บุรีรัมย์นั้นน่ะ ก็มีตระกูล ชิดชอบรอชงเต็มที่ รายนี้เค้าดี๊ดี ฐานที่เคยเป็น งูเห่า ต้นตำหรับ ดูด เพื่อชาติลือลั่นมาแล้ว ซ้ำยังสร้างอานิสงค์ให้ ปชป. ได้ เสพสมตั้งรัฐบาลในค่ายทหารสาใจ

แม้นว่าทั่นหัวหน้าจะชิงปฏิเสธก่อนห่ามว่างานนี้ “ไม่มีการพบใครเป็นการส่วนตัว ไม่มีการพบใครในที่รโหฐาน พบในพื้นที่ใหญ่ๆ กว้างๆ ประชาชนทั่วไป” เพื่อให้ “ใครจะมารับผมก็เป็นเรื่องของชาวบ้านที่ดี”

ฉะนั้น “เรื่องตระกูลชิดชอบเป็นคิวต่อไปที่ถูกดูด” อย่าไปพูดว่าทั่นยังง้าน “เพราะการจะกล่าวว่าใครดูดใครก็ต้องไปดูผลงานของพรรคการเมืองที่ผ่านมา มีการดูแลสมาชิกพรรคการเมืองอย่างไร “ในขณะที่พรรคตัวเองเป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็นก็แล้วแต่”

โห พูดแบบนี้นี่ลอดลายมังกรอย่างนักการเมืองแท้ๆ ทั้งหยิกทั้งจิกพรรคเก่าทั้งสองข้างกันเลย ตบหัวก่อนแล้วค่อยลูบหาง “ไม่ได้รังเกียจนักการเมือง หากใครมาแสดงบทบาทว่าจะร่วมกันพัฒนาประเทศ ทำเพื่อประเทศชาติ” อ้าแขนรับทันที

“ผมเข้าใจว่านักการเมืองทุกคนเขาก็อยากจะเข้ามาทำเพื่อบ้านเมือง แต่อาจไปติดด้วยนโยบายพรรค นโยบายหัวหน้าพรรค หรือผู้สนับสนุน ซึ่งรัฐบาล คสช. ไม่มี ไม่มีใครมามีบทบาทเหนือกว่าตรงนี้ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างอิสระ”


แล้วงี้พวกอยากเลือกตั้งมิต้องรอกันต่ออีกหน่อยละหรือ ในเมื่อทั่นหัวหน้า คสช. ยังไม่พร้อมลงลุย “ยังไม่ได้เดินการเมืองเลย” หมายความว่าทั่นอาจจะต้องจัดการอะไรต่ออะไรให้มันราบคาบอีกสักพักก็ได้ละมั้ง

นี่ก็เพิ่งใช้ ม.๔๔ จัดการ ยกเลิก กระบวนการสรรหากรรมการ กสทช. ตำแหน่งเงินเดือนสามแสนมากกว่านายกฯ ที่ สนช.นำร่องลงมติลับ ไม่รับ รายชื่อแคนดิเดททั้ง ๑๔ คนสุดท้าย เนื่องจากมีเสียงครหามากมายว่ามีตั้งเกือบสิบคนในนั้นเป็นหุ้นส่วนกิจการโทรทัศน์ มีผลประโยชน์ทับซ้อน

เรื่องนี้ตอนที่ สนช.ลงมติลับก็มีข่าวรั่วไหลออกมาว่า นายกฯ สั่งซึ่งทั้ง สนช.และรัฐบาล ไม่รู้จะออกมาปฏิเสธกันเสียงแข็งไว้ก่อนทำไม ในเมื่อที่สุดแล้วก็ออกคำสั่งดังที่ข่าวรั่ว มันชวนให้คิดได้ว่ามีอะไรซ่อนเร้นหรือเปล่า
 
ตามข้ออ้างของโฆษกห่านอู บอกว่า “ขอให้ระงับ (การสรรหานี้) ไว้ก่อนจนกว่าการแก้ไขกฎหมายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นคณะกรรมการ กสทช. กับหลักเกณฑ์การโหวตให้เรียบร้อย”


อันนี้ก็เป็นไปได้เช่นกันว่า คสช. มีคุณสมบัติของ กสทช.ที่ต้องการอยู่ในใจ จึงได้เกิด เสียงสั่ง สนช.ให้คว่ำการสรรหา รื้อกระดานแบบเดียวกับที่ทำกับ กกต. เพราะไม่ถูกใจใครบางคน

เรื่องของเรื่องเพราะต้องการกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างตามแนวทางที่ คสช. อยากได้ เพื่อให้การครองบ้านครองเมืองต่อไปข้างหน้า (อย่างน้อยสี่ซ้าห้าปี อย่างดี ๒๐ ปี) มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สไตล์ คสช.