วันเสาร์, เมษายน 21, 2561

อายพม่า... รัฐบาลพม่า ปล่อยตัวนักโทษครั้งใหญ่ 8,490 คน อ้างของขวัญวันปีใหม่ กองทัพรัฐฉานได้คืนนายทหารระดับสูงหลังถูกจับกุมเมื่อกว่า 10 ปีก่อน



ภาพ Irrawaddy


ปล่อยตัวนักโทษครั้งใหญ่ 8,490 คน รัฐบาลพม่าอ้างของขวัญวันปีใหม่ กองทัพรัฐฉานได้คืนนายทหารระดับสูงหลังถูกจับกุมเมื่อกว่า 10 ปีก่อน


BY ADMIN ON 20 เมษายน, 2018
สำนักข่าวชายขอบ


ทางการพม่าได้ปล่อยตัวนักโทษรอบใหม่จำนวน 8,490 คน หลังเทศกาลตะจ่าน หรือเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า มีนักโทษการเมืองจำนวน 36 คน ได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ด้วย ซึ่งในจำนวนนี้ยังพบว่ามีทหารในสังกัดของสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/กองทัพรัฐฉาน RCSS/SSA ได้รับอิสรภาพด้วยเช่นกัน ภายหลังถูกคุมขังอยู่ในคุกเป็นเวลานานกว่า 13 ปี โดยทางการพม่าจะปล่อยตัวนักโทษทั่วประเทศอยู่เสมอ ๆ ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เหมือนเช่นปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวนนักโทษการเมืองที่ได้รับการปล่อยตัว มีทั้งบาทหลวงชาวคะฉิ่น 2 คน ที่ถูกทหารพม่าจับกุมไปเมื่อปีที่แล้ว หลังถูกทหารพม่ากล่าวหาว่า เชื่อมโยงกับกลุ่มผิดกฎหมาย รวมทั้งยังมีพระนักเคลื่อนไหวจากรัฐอาระกันได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ด้วย

ด้านประธานาธิบดีวินมิ้น กล่าวว่า การนิรโทษกรรมครั้งนี้ เนื่องในโอกาสวาระปีใหม่ของพม่า และเพื่อเห็นแก่หลักมนุษยธรรม อย่างไรก็ตามนายโบจี จากองค์กร AAPP ที่ทำงานช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่า ระบุว่า แม้เขาจะยินดีที่ทางการพม่าปล่อยตัวนักโทษการเมือง แต่ก็ยังอยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลของนางซูจี ให้เร่งปล่อยตัวนักโทษการเมืองที่เหลืออยู่ ซึ่งเชื่อว่ายังมีนักโทษการเมืองที่กำลังรอการพิจารณาคดีและถูกคุมขังอีกเป็นจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของพม่าได้แนะให้รัฐบาลปล่อยตัวนักโทษที่ทำผิดเล็กน้อยในคดียาเสพติด โดยให้เหตุผลว่า เรือนจำของพม่าไม่เพียงพอกับจำนวนนักโทษ ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดเผยของทางการพม่าว่า ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ จำนวน 6,362 คน เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่รัฐบาล NLD เข้ามาบริหารประเทศ ได้ดำเนินการนิรโทษกรรมปล่อยตัวนักโทษแล้ว 4 ครั้ง มีนักโทษที่ได้รับการปล่อยแล้วทั้งสิ้น 10,977 คน นักโทษการเมือง 235 คน และนักโทษที่เป็นชาวต่างชาติอีกจำนวน 124 คน

ด้านสื่อไทใหญ่รายงานว่า การนิรโทษกรรมครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงในสังกัดของ RCSS/SSA คือ เจ้าขุนจ่อและลูกน้อง ได้รับการปล่อยตัวด้วยเช่นกัน โดยเจ้าขุนจ่อและทหารใต้บังคับบัญชาจำนวน 31 นาย ถูกจับกุมเมื่อปี 2549 หลังเดินทางจากกองบัญชาการใหญ่ดอยไตแลงไปยังชายแดนรอยต่อรัฐคะฉิ่น
รัฐฉาน และประเทศจีนและเกิดเหตุปะทะกับทหารพม่า โดยเจ้าขุนจ่อและลูกน้องถูกทหารพม่ากำลังพล 1,000 นาย ปิดล้อมให้อดข้าวอดน้ำเป็นเวลา 9 – 10 วัน จนเจ้าขุนจ่อและพวกตัดสินใจวางอาวุธและมอบตัวในเขตเมืองน้ำคำ หลังจากนั้นถูกทางกองทัพพม่าจับกุมตัวและถูกตั้งข้อหาทั้งหมด 11 ข้อ เช่น ค้ายาเสพติด สังหารชาวบ้าน บังคับเกณฑ์ทหารเด็ก รวมไปถึงจับปืนลุกขึ้นปฎิวัติ เป็นต้น ซึ่งศาลพม่าเคยตัดสินโทษให้ประหารชีวิตเจ้าขุนจ่อและลูกน้องอีก 29 คน โดยอีก 3 คนตัดสินจำคุกคนละ 7 ปี แต่เจ้าขุนจ่อได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด หลังได้รับการปล่อยตัว เจ้าขุนจ่อได้เดินทางกลังถึงดอยไตแลงแล้ว

ที่มา DVB/Tai Freedom
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ

ooo





รัฐบาลพม่าเค้าทำเป็นตัวอย่างให้ดูแล้ว นั่นคือ #ปล่อยนักโทษการเมืองทั่วประเทศจากเรือนจำ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ กบฏไหนๆ นักการเมืองตรงข้ามกันอย่างไร บาดหมางกับรัฐมาแต่ครั้งไหนก็ตาม ให้ความแค้นเคืองต่อกันจบลงตรงนั้น ให้รัฐกับประชาชนมาเริ่มต้นกันใหม่ เพื่อมาร่วมกันสร้างสรรค์ประเทศในแบบใหม่ ด้วยวันใหม่และ ความรู้สึกที่ดีต่อกันใหม่ ในวาระมหาสงกรานต์นี้

กำลังชื่นชมกับประเทศพม่าเพลินๆ แต่พอหันกลับมามองประเทศกูเองปุ๊บ ความรู้สึกว้าเหว่วิเวกวังเวงโหวเหว ก็ประดังกันเข้ามาทันที ..!!



Alongkorn Cheurkit

Alongkorn Cheurkit คนที่วางรากฐานเรื่องนี้ไว้ให้กับชนชั้นปกครองรุ่นหลังของพม่าเอาไว้ปฏิบติ และต้องปฏิบัติให้ได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน ให้ทำแบบนี้ ให้เมตตาต่อกันแบบนี้ เพื่อให้ประเทศพม่ามีทางเดินต่อไปได้ จนพม่ามีวันนี้ได้ คือท่านในภาพนี้ครับ ปัจจุบันนี้ท่านปลด ปล่อย ละ วาง ทางโลกหมดแล้ว ท่านเคยพูดในสภาฯพม่าก่อนให้นโยบายนี้ไว้ไปปฏิบัติกันต่อมาครับว่า ..

"..ประเทศเรามีผู้คนต่างเผ่าต่างพันธุ์ร้อยพ่อพันแม่ จึงเป็นธรรมดาที่แผ่นดินเราจึงมีแต่ความขัดแย้ง สิ่งที่เราเคยทำนั่นคือ ใช้อำนาจที่เหนือกว่าหยุดยั้งและกดผู้ที่อ่อนแอกว่าไว้มาช้านาน ประเทศเราจึงไปไหนได้ไม่ไกล ทางเดียวที่เราจะพาประเทศไปสู่โลกกว้างสากลได้คือ ยุติความบาดหมางของคนในชาติ ยุติการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมกับคนในชาติ และสิ่งเหล่านี้ควรต้องเริ่มที่คนรุ่นเรา เราต้องทำให้ได้ เพื่อลูกหลานเราในวันหน้า .."





Alongkorn Cheurkit ท่านคือ อดีต ปธน.พม่า พลเอกเต็ง เส่ง ท่านพูดจริงทำจริงตลอดมาครับ แม้นท่านลงจากตำแหน่งมาแล้ว ไปบวชตลอดชีวิตแล้ว คนรุ่นหลังต่อมาจากท่าน ก็ยังคงยึดแนวทางปฏิบัติในนโยบายของท่านเช่นเดิม ..



...

อนิจจา กะลาแลนด์...