ตู่ไปหนองบัวลำภูคุยโว "เคยมีใครทำไหม" มิใยบัณฑิตไทยตกงานเพิ่ม ทหารชวนไปรับใช้ชาติ (และคุณนาย...)

ไปหนองบัวลำภูเที่ยวนี้ ตู่บอกไม่ได้หาเสียง แต่คุยโวเสียยิ่งกว่าหาเสียง “รัฐบาลนี้รับทุกเรื่อง ที่ผ่านมารับมาแล้วล้านกว่าเรื่อง เฉลี่ยเดือนละ ๔-๕ พันเรื่อง แก้ไป ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คาดผ้าขะม้า หน้าม้ามอบให้ พูดเป็นต่อยหอยถึงผลงานศูนย์ดำรงธรรมรับร้องเรียน “รัฐบาลนี้ทำทั้งหมด ส่งคนไปดูแล เคยมีใครทำไหมแบบนี้”

แต่ไหงมีรายงานข้าราชการและเจ้าหน้าที่โกงเงินชาวบ้านคนจนไม่เว้นแต่ละวัน เท่านั้นไม่พอโกงหมาก็มี อย่างเรื่องทุจริตวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ข้อหาภรรยารองอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นนายหน้าค้าวัคซีนไม่ได้มาตรฐาน ต้องตั้งกรรมการสอบกันอยู่

ทว่าตัวอธิบดีปฏิเสธหน้าตาย “บุคคลดังกล่าวได้ออกจากกรมปศุสัตว์ไปแล้วกว่า ๑ ปี #จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับกรมฯ...

ที่เป็นกระแสข่าวว่าวัคซีนไม่ได้มาตรฐานนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี ๒๕๖๐ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เรียกเก็บออกจากท้องตลาด รวมถึงให้บริษัทผู้นำเข้าทำลายทิ้งทั้งหมด ซึ่งบริษัทดังกล่าวไม่ได้มีการซื้อขายวัคซีนกับกรมฯ แล้ว”

 

ข้อสำคัญนายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีปศุสัตว์โทษเจ้าของหมาแมวไม่เอาสัตว์เลี้ยงของตนไปฉีดวัคซีนซ้ำ เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จน “พบว่า สุนัขและแมวที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ๘๐% ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีนมาก่อน”

(https://www.prachachat.net/economy/news-132784)

เอ๊ะ เรื่องความปลอดภัยสาธารณะนี่ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานรัฐหรอกหรือ การบริหารรัฐกิจและบริการประชาชนที่ควร หน่วยงานราชการต้องคอยย้ำเตือน คอยจี้ให้สาธารณะปฏิบัติตามแนวทางที่เหมาะสม มากกว่าที่จะคอยจับผิดแล้วลงโทษ โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขไม่ว่าหมาหรือคน ถึงเวลาฉีดวัคซีนต้องประกาศเร่งเร้าให้ไปรับการฉีดกัน

ในรายการเดินสาย ‘ไม่หาเสียง’ เดียวกัน ประยุทธ์พูดเรื่อยเปื่อย “ทุกประเทศชื่นชมประเทศไทย แต่เขาถามว่าทำไมประเทศไทยวุ่นวายกันนัก” ตกลงเขาชมหรือด่ากันแน่ ขัดแย้งในประโยคเดียวกันนี่ ‘ไบโพล่าร์’ หรือเปล่า

“มีอะไรส่งศูนย์ดำรงธรรม ผมแก้ให้หมด แก้มากแก้น้อย แก้เร็ว แก้ช้า ก็ว่าไปตามกลไก อย่าไปประท้วง อย่าให้ใครเขาปลุกปั่น...ไปแล้วอันตราย

วันหน้าอย่าให้เกิดอีกนะ รัชกาลนี้ต้องไม่มีนะ พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงทอดพระเนตรอยู่ ทรงทำไว้เยอะแยะแล้ว” ถึงจะทรงประทับอยู่บาวาเรียเป็นส่วนใหญ่ก็เถอะ (ประโยคหลังนี่ประยุทธ์ไม่ได้พูด แต่ชาวบ้านก็ซาบซึ้ง)

“วันนี้ถือว่ามาให้ของขวัญวันเกิดตัวเอง คือการมาเจอพวกเรา ผมต้องการของขวัญจากท่านคือความร่วมมือร่วมใจเท่านั้น ไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น”

(https://prachatai.com/journal/2018/03/76026?utm_source=dlvr.it&utm_medium=twitter)

แต่ สนช. ลิ่วล้อของทั่นก็ประเคนให้เต็มๆ ไปแล้ว นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ นายสนิท อักษรแก้ว นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล และ นายวิทยา ฉายสุวรรณ อภิปรายชื่นชมงบประมาณใหม่มอบให้ คสช. ๑.๕ แสนล้าน กันขรม

 

ส่วน พ.ต.ท.พงษ์ชัย วราชิต ไปไกลกว่านั้นอีก “อภิปรายว่า ไม่มีรัฐบาลใดเอาใจใส่ประชาชนเหมือนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นรัฐบาลที่มีผลงานมาก แต่ประชาชนระดับล่างไม่ค่อยรับรู้” รายการทุกค่ำวันศุกรเอย กอ.รมน. ลงพื้นที่ปูพรมเอย ‘I-Tube Tours’ เอย ยังไม่พอเหรอเพ่

สภานิติบัญญัติ คสช.ตั้งเองกับมือทั้งนั้น พิจารณาจัดสรรเงินให้รัฐบาลประยุทธ์ใช้สำหรับยุทธศาสตร์อะไรต่อมิอะไร ยุทธศาสตร์สร้างความสามารถในการแข่งขันงี้ ยุทธศาสตร์ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเติบโตจากภายในงี้ แถมด้วยค่าใช้จ่าย “ชดใช้เงินคงคลังที่ได้จ่ายไปแล้ว” งี้

ถ้อยคำวิลิดสะมาหรา เป้าหมายเลื่อนลอย และไอ้ที่ได้จ่ายไปแล้ว ป่านนี้ไม่เห็นผล ดูจะเป็นอีหรอบเดียวกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ที่เต็มไปด้วยร้อยแก้วไม่กรอง “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” บ้าง “ภูมิทัศน์เศรษฐกิจ” เอย แล้วยัง “ช่องว่างทางดิจิทัล” อีก

มีคนคอมเม้นต์ไว้บนทวิตเตอร์ว่าอ่านแล้วเหมือนนักเรียนเขียนเรียงความ เจิ่งนองไปด้วยสำนวนโวหาร น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง ลองไปอ่านบ้างเกิดความวิงเวียนจากถ้อยคำวกไปเวียนมา ไม่เชื่อเชิญไปพิสูจน์กันด้วยตัวเองที่ http://www.nesdb.go.th/article_attach/article_file_20170106131224.pdf

เสร็จแล้วไง งบฯ ล้านล้านครึ่ง ไปลงที่กลาโหมอีกเท่าไหร่ ปีนี้กองทัพบกประกาศต้องการทหารเกณฑ์ประจำการแสนกว่าคน จะทำการตรวจเลือกระหว่างวันที่ ๑ ถึง ๑๒ เมษายน จากชายไทยที่อายุเข้าเกณฑ์และที่ยังไม่ได้เข้ารับตรวจเลือก ราว ๓ แสนกับอีกเกือบ ๖ หมื่นคน

พล.ท.คธายุทธ์ เสาวคนธ์ เจ้ากรมกำลังพล ชักชวนชายไทยไปรับใช้ชาติ (และคุณนายแม่ทัพนายกอง) กัน ว่าจะได้รับทั้งเงินเดือนหมื่นบาท เบี้ยเลี้ยงอีกวันละ ๙๔-๑๒๐ ถึง ๒๐๐ บาท

(https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_90202)

 

แถมสิทธิในการได้รับรักษาพยาบาลฟรี ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ซักผ้า ล้างชาม รออริราชศัตรูโจมตี วันดีคืนดีได้สวมชุดพรางอาวุธครบออกไปไล่ยิงพวกผู้ชุมนุมที่สนับสนุนนักการเมืองทุนสามานย์ด้วยกระสุนจริงให้มันมือ

ดีกว่าไปเอาดีทางเล่าเรียนเป็นไหนๆ เรียนแล้วรู้จักรักสิทธิเสรีภาพของตนเอง รับไม่ได้กับคณะทหารหยามหมิ่นประชาธิปไตย เกิดของขึ้นออกไปประท้วงการรัฐประหาร ถูกพวกกินเงินเดือนหมื่น-รักษาฟรี ยิงใส่เสียอีก

นี่สำนักงานสถิติแห่งชาติเพิ่งเปิดเผยตัวเลขคนว่างงานในประเทศ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ นี่ ๔ แสน ๙ หมื่นกว่า ส่วนใหญ่เป็นพวกจบมหาวิทยาลัย กว่า ๑ แสน ๑ หมื่นคน รองลงไประดับมัธยมต้น ๑ แสน ๓ พันคน

“เมื่อเปรียบเทียบสถานการณ์แรงงานกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่าจำนวนผู้มีงานทำลดลง ๘๐,๐๐๐ คน”

(https://www.khaosod.co.th/economics/news_873553)

๘ หมื่นคนยังไม่พอกับความต้องการชายไทยไปรับใช้ชาติ (และคุณนาย...) เล้ย โอ้ว่ารัฐไทยไม่เอาเลือกตั้งนี้ช่างเฟื่องฟุ้งจุงเบย