วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 20, 2561

แม้วอีกแล้ว เคลื่อนไหวทีไร 'สลิ่ม' ดิ้นแด่ว แม้นว่า ผบ.ทบ. ยอมรับ "เกินกรอบ...ขีดความสามารถ"

อย่างที่สมาชิกทวิตเตอร์รายนี้ว่า “จากนี้ไปอีกสองสามวันจะมีแต่ข่าวเผด็จการแสดงอาการคลุ้มคลั่ง น้อตหลุด เสียสติ” เพราะ

“แม้วเตรียมบินพบนักธุรกิจที่สิงคโปร์วันนี้ ด้าน ส.ส.ยังทยอยบินพบที่ฮ่องกง” Ghost Writer █ @RITT41 อ้างถึงข่าวมติชนออนไลน์ว่า สองพี่น้องอดีตนายกฯ ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะอยู่สิงคโปร์เป็นเวลาราว ๑ อาทิตย์ เพื่อพบปะกับนักธุรกิจและครอบครัว

ขณะที่รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย จำต้องออกมาแถลงถึงเรื่องที่ไม่ได้เป็นข่าว แต่ดูเหมือนจะดังกว่าว่า “ภูมิธรรมปัดข่าวทักษิณเกลี่ยงานเฮียเพ้ง ยัน หน.พรรคยังไม่ชัดเจน เพราะยังไม่ปลดล็อก”

อันมาจากข่าวลือที่ว่าทักษิณได้มอบหมายงานพรรคให้กับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.พลังงาน เนื่องจากเวลานี้มีความขัดแย้งระหว่างตัวเก็งหัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.แรงงาน (https://www.matichon.co.th/news/847054)

ทว่าเนื้อหาที่เหน็บหนักมาจากสปริงนิวส์ ที่เอาคำพูดของนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สมาชิกพรรคเพื่อไทยที่เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ เรื่องที่มีสมาชิก พท. สิบคนเดินทางไปฮ่องกงเพื่อพบกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร

แม้นว่าใจความสำคัญในข่าวมีแค่ “ทักษิณขอให้ลูกพรรคทุกคนลงพื้นที่พบประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนเอง เพื่อผนึกฐานเสียงให้แข็งแกร่ง เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง” เท่านั้น


นั่นละที่จะทำให้ฝ่ายสนับสนุน คสช. และบรรดาสลิ่ม’ ตามนิยามที่ Pipob Udomittipong เพิ่งให้ไว้ 15 hrs อะโก

ไม่ให้เรียก #สลิ่ม จะให้เรียกอะไร? พวก แพ้แล้วพาล’ ‘ขี้ข้าประชาธิปัตย์พวกเกลียดผีทักษิณพวกหลงตัวเองพวกกษัตริย์นิยมล้นเกิน’ ‘ปลวก’ ‘แมงสาป’ ‘sore losers’ ‘พวกแพ้เลือกตั้งตลอดกาล’ ‘โง่แล้วอวดฉลาด’’’ (ขาดไปอย่าง กบในกะลา’ ที่ “ไป่เห็นชะเลไกลกลางสมุทร ชมว่าน้ำบ่อน้อยมากล้ำลึกเหลือ”)

จะต้องพากันดีดดิ้นว่าทำไม คสช.ไม่จับเอาตัวทั้ง นช. และ นศ. (หนีศาล) กลับมาลงโทษล่ะ อย่างนี้รู้กันหรือเปล่า บลา บลา จนทำให้ทั่น ผบ.ทบ. ต้องชี้แจงแถลงย้ำซ้ำซาก
 
บางครั้งมันเกินกรอบ และขีดความสามารถ การรับผิดชอบ” ถึงจะใกล้แค่นี้ก็ตาม แม้ตนจะต้องเดินทางไปสิงคโปร์ “เพื่อรับเหรียญอิสริยาภรณ์เชิดชูเกียรติด้านการทหาร เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่อดีตนายกทักษิณอยู่ที่ประเทศดังกล่าวด้วย”

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ย้อนตอบผู้สื่อข่าวว่า “ประเทศสิงคโปร์กว้างใหญ่คงไม่เจอกันหรอก ต่างคนต่างมีวิถีทางเป็นของตนเอง เราก็ไปทำงานของเรา เขาจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็ว่าไปตามกระบวนการ”


ฟังไว้ซะ “ตามกระบวนการประชาธิปไตย” ถ้าจะพูดให้ถูกต้อง พวกซ่าหริ่มที่ต้องการให้ทักษิณวางมือจากการเมืองอย่างสิ้นเชิง ไม่อยากให้เขามาจุ้นจ้านกับการเลือกตั้งอีก เพื่อที่พวกตนจะมีโอกาศชนะเลือกตั้งได้บ้าง
 
ทางที่ดีควรจะไปอ่านที่รังสิมันต์ โรมให้สัมภาษณ์ไว้กับ คมชัดลึก เพิ่งจะตีพิมพืวันนี้เองกันบ้าง จากที่มีการตั้งแง่สงสัยถึง ท่อน้ำเลี้ยง ของพวกเขาที่ออกมารณรงค์เรื่องเลือกตั้งในปีนี้ ไม่ยอมให้เลื่อน

“คสช.ประกาศว่าจะตรวจสอบพวกผมมาเกือบสี่ปีแล้ว แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจอ ถ้าเจอพวกเขาไม่ปล่อยพวกผมเอาไว้แน่ๆ ผมมองว่าข้อกล่าวหาแบบนี้เป็นเรื่องของการดิสเครดิตมากกว่า

ในทางกลับกันถ้าเปรียบเทียบพวกผมกับ คสช. เราจะพบว่าตลอดเกือบๆ ๔ ปีที่ผ่านมา ฐานะทางการเงินของผมไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย ยังเป็นนายรังสิมันต์ โรมคนเดิมที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต้านรัฐประหาร ขณะที่ คสช. กลับรวยมากขึ้นๆ ดังนั้นผมขอถามกลับว่าใครกันแน่ที่มีท่อน้ำเลี้ยง”

แสบไหมล่ะ และเกี่ยวกับทำมาหากินอะไร รังสิมันต์บอกว่า “ตอนนี้ผมเรียนปริญญาโทอยู่ ที่บ้านยังสนับสนุนให้ผมเรียนต่อ รายได้หลักของผมมาจากทางบ้าน และผมก็มีรายได้อีกส่วนจากการเป็นผู้ช่วยอาจารย์”


นอกจากนั้นรังสิมันต์ยังยอมรับด้วยว่า ทางบ้าน ที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงอยู่เดี๋ยวนี้ “เขาไม่เอาเพื่อไทยแน่ แต่เขายังไม่เห็นตัวเลือกอื่น ซึ่งเราก็ต้องยอมรับว่าเรื่องการไม่มีตัวเลือกนี่ก็เป็นปัญหา เหมือนหนีเสือปะจรเข้

แต่ผมว่าแม้เราอาจจะได้คนที่ไม่เก่ง แต่อย่างน้อยเขาก็จะไม่มาไล่จับประชาชน ไม่อนุญาตให้ประชาชนมีทางเลือก ผมว่าถ้าระบบเปิด เราอาจจะได้ทางเลือกที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ได้”
 
ส่วนคนที่มีรายได้หลักจากการทำธุรกิจอุตสาหกรรม จนได้ชื่อว่า ไพร่หมื่นล้านอย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหารของไทยซัมมิตกรุ๊ป ที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์พลังไฟฟ้าให้กับ เทสลาที่โด่งดังกระหึ่มโลกของอีลอน มัสค์ นั้นล่ะเห็นอะไร

“ปัญหาคือวันนี้มันไม่มีเวทีสำหรับทุกคน คนที่คิดแบบเดียวกับ คสช. เท่านั้นที่มีพื้นที่ในการพูด คนที่คิดต่างอยู่ที่ไหนต้องไปรายงานตัวที่ สน. นั้นนี้ตลอดเวลา” เขาบอกด้วยว่า 

“ระบอบ คสช. จะอยู่กับเราตราบเท่าที่รัฐธรรมนูญฉบับ ๒๕๖๐ อยู่ การดำรงอยู่ของ คสช. ไม่ได้แก้ปัญหา สิ่งที่เราเห็นความสงบสุข เป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้นเอง”

ฉะนั้น “ผู้รักในสิทธิเสรีภาพต้องยืนหยัดเพื่อสร้างค่านิยมประชาธิปไตย คนหนุ่มสาวต้องมีพื้นที่ยืนทางการเมืองในเวทีเลือกตั้ง เพื่อเรียกร้องอนาคตที่สูญเสียไปจากความขัดแย้งในรอบ ๑๒ ปีที่ผ่านมา”

(http://www.bbc.com/thai/thailand-43080898?ocid=socialflow_facebook)