วันอังคาร, กันยายน 05, 2560

... ในแดนมังกร





"บิ๊กตู่-สีจิ้นผิง" ถกความร่วมมือ ความมั่นคง ต้านก่อการร้าย เศรษฐกิจ อวยยุทธศาสตร์ BRI และ Made in China 2025 ของจีน เข้ากับEEC/ยันจะต้องทำรถไฟความเร็วสูงให้สำเร็จ/ ไทย-จีน ลงนามความตกลง4ฉบับ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) กรุงเทพฯ ไปยังเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าร่วมการประชุมระหว่างผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS กับประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา

ภายหลังเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยเหมินเกาฉี โดยเวลาที่เมืองเซี่ยเหมินเร็วกว่าที่กรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังโรงแรมมิลเลนเนียม ฮาร์เบอร์วิว (Millennium Harbourview Hotel) ซึ่งเป็นโรงแรมที่พัก

จากนั้นในช่วงบ่าย ได้พบหารือทวิภาคีกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ศูนย์การประชุมระหว่างประเทศเซี่ยเหมิน

นายกรัฐมนตรีย้ำถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการกระชับความร่วมมือหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่รอบด้านกับจีน รวมทั้งขับเคลื่อนความร่วมมือที่มีอยู่ให้คืบหน้าและเป็นรูปธรรม ตลอดจนขยายความร่วมมือที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันมากยิ่งขึ้น

ผู้นำทั้งสองยินดีที่เห็นพัฒนาการความร่วมมือจากที่ได้เคยหารือไว้ โดยเฉพาะด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา วัฒนธรรม และความสัมพันธ์ในระดับประชาชน

สำหรับโครงการความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยในการดำเนินโครงการให้สำเร็จลุล่วง ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงและการพัฒนา ไทยเห็นว่า ความเชื่อมโยงคือหัวใจของการพัฒนา อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและคลอบคลุม

ซึ่งไทยสนับสนุนยุทธศาสตร์ Belt and Road (BRI) และพร้อมทำงานร่วมกับจีนในการส่งเสริมการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การพัฒนาของทั้งสองประเทศ เพื่อให้ประเทศและประชาชนตามแนวเส้นทางสายไหมได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ยุทธศาสตร์ BRI และ Made in China 2025 ของจีนสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย และการพัฒนา EEC ซึ่งไทยพร้อมกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนตามระเบียงเศรษฐกิจจีน-คาบสมุทรอินโดจีน และเป็นประตูสู่ตลาดทั้งในกลุ่มประเทศ CLMV อาเซียน RCEP และเอเชียใต้

ในโอกาสนี้ ไทยและจีนเห็นพ้องว่า การป้องกันและแก้ไขประเด็นท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกประเทศ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวมีความเชื่อมโยงและส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการเติบโตทางเศราฐกิจ

ทั้งนี้ไทยห่วงกังวลเกี่ยวกับปัญหาการก่อการร้าย จึงสนับสนุนให้ไทยและจีนมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูล ข่าวสาร และแนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการกับการก่อการร้ายระหว่างกัน

ภายหลังการหารือ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 4 ฉบับ




Wassana Nanuam