วันจันทร์, กรกฎาคม 31, 2560

ในอนาคตเราอาจจะเห็น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดนจำคุกหรือยึดทรัพย์ สำหรับผู้ที่อยากเห็นคณะรัฐประหาร เข้าคุกในอนาคต เราอาจจะต้อง "เสียสละ" ให้ยิ่งลักษณ์ เข้าคุกก่อน...




โดย Thanapol Eawsakul


ชนชั้นนำไทย ไม่เคยเล่นงานกันถึงติดคุกติดตะราง
(บทเรียน ครบ 9 ปี ทักษิณหนีไปต่างประเทศ กับความผิดพลาดในชีวิตที่ยิ่งลักษณ์เอามาเป็นบทเรียน ถึงเวลาหยุดปรองดอง/เกี้ยเซียะกันเสียที)

....................

1. ย้อนอดีต จอมพลป. พิบุูลสงคราม นายกรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องเข้าคุกและการ ปรองดอง/เกี้ยเซียะ

เมื่อสงครามสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลจอมพลป. พิบูลสงคราม ได้ร่วมมือกับญี่ปุ่น ฝ่ายอักษะ และประกาสสงครามกับ อังกฤษ และอเมริกา รวมทั้งได้รุกราน ยึดครองดินแดนของฝรั่งเศส อังกฤษ แม้ทั่วโลกจะมีการ ตั้งศาลอาชญากรสงครามขึ้นเพื่อพิจารณาความผิดของฝ่ายอักษะที่เมืองนูเรมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี และกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ทหารนาซีของประเทศเยอรมนีถูกแขวนคอ จำนวน 12 คน และทหารญี่ปุ่นถูกแขวนคอ จำนวน 7 คน รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีโตโจ

ในส่วนของประเทศไทยนั้นก้ได้มีการตั้งศาลอาชญากรสงคราม มีผู้ต้องหา จำนวน 4 คน คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม หลวงวิจิตรวาทการ พลตรีประยูร ภมรมนตรี และนายสังข์ พัธโนทัยหรือนายมั่น ชูชาติ แม้พระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม พุทธศักราช 2488 จะระบุว่า
"อาชญากรสงครามเป็นภัยอันร้ายแรงต่อความสงบของโลก สมควรที่จะจัดให้บุคคลที่ประกอบได้สนองกรรมชั่วที่ตนได้กระทำตามโทษานุโทษ เพื่อเป็นการผดุงรักษาความสงบของโลก อันเป็นยอดปรารถนาของประชาชาติไทย "

แต่ด้วยการช่วยเหลือกัน ต่อมาได้มีคำวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม พุทธศักราช 2488 เฉพาะที่บัญญัติย้อนหลังให้การกระทำความผิดก่อนวันที่ใช้พระราชบัญญัติเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติด้วยนั้น ขัดกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 14 และเป็นโมฆะตามมาตรา 61 เมื่อบทบัญญัติที่โจทก์ฟ้องขอให้เอาผิดแก่จำเลย ศาลวินิจฉัยแล้วว่าเป็นโมฆะ อันจะลงโทษจำเลยไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์อันใดที่ศาลจะฟ้องคำพยานหลักฐานโจทก์ในเรื่องนี้ต่อไปอีก จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์เสีย ปล่อยจำเลยทั้งสามพ้นข้อหาไป ส่วนคดีอาชญากรสงครามที่หลวงวิจิตรวาทการ จำเลย ยังไม่ได้สืบพยานเลยก็ได้รับการพิพากษาโดยเหตุผลเช่นเดียวกัน จึงส่งผลให้คดีอาชญากรสงครามทุกคนถูกปล่อยทั้งหมด "
http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=อาชญากรสงคราม

เป็นอันว่าแม้จอมพลป. พิบุูลสงคราม จะติดคุก แต่ก็รอดออกมาอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้น ยังไม่มีนายกรัฐมนตรีไทยคนไหน ต้องเฉียดกรายเข้าคุกเลย

ไม่ว่าจะก่ออาชญากรรม เช่นไร
ไม่ว่าจะเป็น สฤษดิ์ ธนะรัชต์ (ตายคาเก้าอี้) ถนอม กิตติขจร สุจินดา คราประยูร

เหตุผลที่ชนชั้นนำ ไม่เล่นกันแรงขนาดติดคุก ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขา ใจดี อะไรหรอก แต่ชนชั้นนำไทย คิดว่าเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ถ้าไปเอาใครติดคุก ไม่แน่ว่าอนาคตตัวเองจะติดคุกด้วย

2. บทเรียนทักษิณ ชินวัตร กับการปรองดอง/เกี้ยเซียะ ไม่ต้องเข้าคุก

นอกจากความผิดพลาดในทางการเมืองของทักษิณ ชินวัตรคือ การ ยอมให้มีการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทั้ง ๆ ที่ตัวเองถือไพ่ที่ได้เปรียบอยุ่ในมือคือการอยู่ที่เวทีสหประชาชาติ แค่การขึ้นเวทียืนยันว่าตัวเองยังเป็นผุ้นำที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย ประเทศมหาอำนาจทุกประเทศก็ยอมรับแล้ว

เพียงแค่นั้น คณะปฏิรูปการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. ที่นำโดย พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ก็จะกลายเป้นตัวตลกในหมู่ชาวโลก

หลังจากนั้นไพ่ก็หลุดจากมือทักษิณ ถึงแม้เลือกต้้ง 23 ะันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชนจะชนะ และมีนายบกชื่อสมัคร สุนทรเวช ทำให้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 ทักษิณ ชินวัตร "ก้มลงกราบผืนแผ่นดิน" ที่ "สนามบินสุวรรณภูมิ"

ระหว่างนั้นมีการขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อสืบพยาน ปกติ ระหว่างนั้นมีการไซโค ว่าทักษิณจะติดกคุกยาว จะมีคดีอื่น ๆ อีกจำนวนมากรออยู่ จนทำให้ทักษิณถอดใจ

ซึ่งนั่้นก็เข้าทางที่ฝ่ายอำมาตย์คิดไว้ตลอดคือให้ทักษิณหนี

เมื่อสมการตรงกันคือ
1.ทักษิณ กลัว เลยคิดหนี
และ 2 .ฝ่ายอำมาตย์ต้องการให้ทักษิณหนี

กรกฎาคม 2551 ทักษิณ ขออนุญาต "ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" เดินทางออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2551 โดยระบุว่า จะเดินทางไปชม มหกรรมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน แล้วจะเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 11 สิงหาคม 2551

พ.ส.นั้นใครก็รู้ว่าการที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อนุญาติให้ออกนอกประเทส คือการที่อำมาตย์อนุญาตให้หนีนั่นเอง

หลังจากนั้นผ่านไป 9 ปี (กรกฎคม 2551-2560) ทักษิณ ก็ไม่ได้กลับเมืองวไทยอีกเลย

3. กรณียิ่งลักษณ์ ไม่หนี โยนภาระให้กับฝ่ายอำมาตย์แก้ปัญหาเอง

เช่นกันเมื่อมีรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 คณะรัฐประหารก็มามุกเดียวกันคือจะใช้คดีจำนำข้าวมาขู่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ซึ่งก็ใช้การขู่มารเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ทั้งจำคุก ทั้งยึดทรัพย์ แต่กลายเป็นว่า ยิ่งลักษณ์ ไม่หนี

ดังนั้นภาระทั้งหมดก็จะตกไปที่ฝ่ายอำมาตย์เอง ที่จะบอกให้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินออกมาอย่างไร

เอาเข้าจริงตอนนี้คนที่ร้อนใจที่สุดคือฝ่ายอำมาตย์ ไม่ใช่ยิ่งลักษณ์
เพราะถึงจะติดสินจำคุกหรือยึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์ คนจะเดือดร้อนต่อไปคือ ฝ่ายอำมาตย์คือคณะรัฐประหารเองนั้นแหละ

เพราะเท่ากับว่าหลังจากนี้จะหมดเวลาปรองดอง /เกี๋ยเซี้ยะแล้ว

ถ้าจำคุกหรือยึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์ ได้ คิดหรือว่าในอนาคตคณะรัฐประหารจะไม่โดน จำคุกหรือยึดทรัพย์

ใครจะกล้ารับประกันว่า ในอนาคตเราอาจจะเห็น

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
โดนจำคุกหรือยึดทรัพย์
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
โดนจำคุกหรือยึดทรัพย์
พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
โดนจำคุกหรือยึดทรัพย์
พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
โดนจำคุกหรือยึดทรัพย์
พลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
โดนจำคุกหรือยึดทรัพย์
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
โดนจำคุกหรือยึดทรัพย์

อย่าลืมนะครับ ต่ำที่สุดคนเห่านี้ทำผิดประมวลกฎหกมายอาญา มาตรา 113 ที่ว่า

ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
(1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
(2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ
(3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

ทุกวันนี้ความผิดยังมีอยู่ เพียงแต่ว่ามีการนิรโทษกรรมเทานั้น

สุดท้ายสำหรับผู้ที่อยากเห็นคณะรัฐประหาร เข้าคุกในอนาคต
เราอาจจะต้อง "เสียสละ" ให้ยิ่งลักษณ์ เข้าคุกก่อน แล้วเราจะหมดเวลาปรองดอง/เกี้ยเซียะกันเสียที

ที่มา FB

Thanapol Eawsakul