วันเสาร์, กรกฎาคม 15, 2560

‘ยาแรง’ ยะใสสะใจ "นักการเมืองโปรดทราบ ใครคิดจะหนีศาลต้องหนีทั้งชีวิต"

เรทติ้งหล่นตุ้บ
อุ๊ยวุ้ย ทั่นผู้นัมพ์เปิดเพจเล่นเฟชด้วยแล้วนะ จะเอา ๖ ล้านไล้ค์เหมือนยิ่งลักษณ์ ฤ ไร ฤๅจะให้จิ้มลิ้มพรุ้งพริ้งเหมือนของ อุ๊งอิ๊ง ล่ะ สงสัยรายการวันศุกร์เรทติ้งหล่นตุ้บถึงตาตุ่มจริงๆ แหละ

ตั้งชื่อซะเท่ห์ เพจไออาร์ ย่อมาจากอะไรเดลินิวส์ไม่ยักบอก ถ้าให้เดาคงเกี่ยวกับข่าวสารข้อมูล ‘Information’ และการปรองดอง ‘Reconciliation’ ละมั้ง

เห็นอ้างว่า “จะเป็นแหล่งข้อมูลให้สื่อโซเชียล สามารถนำไปใช้อ้างอิง ขยายผล และลดความเข้าใจผิด ลดความขัดแย้งในสังคมได้ในอนาคต

อย่าไปเพิ่มมากกว่าเดิมก็แล้วกัน” ประโยคท้ายนี่พูดกันท่าเหมือนรู้ทางว่ามันจะเกิด ตัวอย่างมีให้เห็นตลอดสามปีที่ผ่านมานั่นไง

อ้อ แล้วยังมีเฟชบุ๊คชื่อ ปรองดองเป็นของประชาชน มุ่งหมายใช้เป็นหน้าโฆษณาเรื่อง สัญญาประชาคม ที่ คสช. กำลังดำเนินการยัดไว้เหนือหัวประชาชน “กระตุ้นจิตสำนึกความเป็นไทย ความรักชาติ และ สัญญาทางใจ


“ถ้าเซ็นกันแล้ว ต้องไม่เกิดความวุ่นวายสับสนเมื่อเช่นที่ผ่านมาก่อนปี ๒๕๕๗” อ่า อันนี้ต้องไปถามสุเทือก กปปส. สมีฟรีด้อม เหรียญทอง ยะใส และใครต่อใครอีกหลายคนเสียก่อนค่อยยกยอดนะ

คือถ้าจะเอาเขาขึ้นเขียงเฉือนให้ขาดสะบั้น แล้วฝันเฟื่องไม่ให้วุ่นวายคงไม่ง่ายอย่างคิด คนรักคนศรัทธาของเขาเท่าผืนเสื่อ อย่านึกว่าได้ทีขี่เสือไล่ แม้กระทั่งด้วยวิธีตุลาการอภินิหารก็เถอะ

ต่อการที่ สนช. ออกกฎหมาย ปิดบัญชีทักษิณ เป็น พรป. (ประกอบรัฐธรรมนูญ) “บังคับใช้กับคดีทุจริตของนักการเมืองที่ยังอยู่ในศาล หรือคดีที่จำหน่ายคดีชั่วคราวได้ทันที โดยสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ และไม่นับอายุความในกรณีที่นักการเมืองคนนั้นหลบหนีไป”

เปิดช่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองรับฟ้องและสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ ซึ่ง ยะใสผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ช่องช่วยเสริมทันทีว่าเป็น ยาแรง

“นักการเมืองโปรดทราบ ใครคิดจะหนีศาลต้องหนีทั้งชีวิต ใครคิดว่าหลบไปสักระยะรออายุความหมดค่อยกลับ ต้องเลิกคิด ใครที่อยู่ระหว่างหลบหนีแต่อายุความยังไม่หมด จะถูกรื้อคดีไต่สวนลับหลังได้เลย

และใครที่กำลังคิดหลบหลบหนี แค่คิดก็ผิดแล้ว เพราะจากนี้ไปอายุความหรือแม้ตัวจำเลยไม่มาศาล ก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป” นายสุริยะใส กตะศิลา เขียนแสดงอาการสะใจบนเฟชบุ๊ค

ว่าที่ อยก.สส.
ถึงแม้พวกห้อยโหนจะเต้นแร้งเต้นกา แต่พวก มือวาง ต่างแสดงปฏิกิริยาด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ว่าที่อัยการสูงสุดคนใหม่ (เริ่มรับตำแหน่งตุลานี้) หนึ่งละที่ไม่ผลีผลาม อ้างว่ากฎหมายนี้ “จะทำให้คดีความเดินไปได้ ไม่ติดขัด”

นายเข็มชัย ชุติวงศ์ ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเรื่องมีการมองว่าเป็นกฎหมายที่มีความเหลื่อมล้ำ จงใจเล่นงานเฉพาะนักการเมือง ว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองเป็น
แผนกพิเศษอยู่แล้ว

จุดประสงค์ใหญ่ “เพราะนักการเมืองสร้างผลกระทบต่อสังคมมาก...ที่สำคัญนักการเมืองมาเร็วไปเร็ว โจทย์ใหญ่จึงต้องการให้ตัดสินให้เร็ว แตกต่างกับเอกชนและข้าราชการ”

ส่วนเรื่องขัดหลักจริยธรรมในการออกกฎหมายให้มีผลย้อนหลัง เขาอ้างว่า “กฎหมายฉบับนี้คือ วิธีพิจารณา ดังนั้นทำให้มีผลทันที และมีผลไปถึงคดีที่เกิดก่อนกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ด้วย


เป็นที่ชัดเจนว่าพวกตุลาการอภินิหารจงใจเล่นงานพวกนักการเมือง ที่เป็นดั่งมารร้ายสำหรับพวกเขา โดยใช้กฎหมายที่ออกเองได้ง่ายโดยสภาลิ่วล้อ คสช. เป็นอาวุธ
ภาพประวัติศาสตร์ 
ขณะที่อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนดัง เจ้าของวลี “ถนนลูกรังยังไม่หมด” โผล่มา “ยืนยันว่าเป้าหมายคือการคืนความยุติธรรมให้กับคนในชาติ” (คงไม่ได้คิดเหมือนตอนพูดเรื่องถนนลูกรัง ว่าคนในชาติที่อ้างนั้นไม่ได้เป็นเสียงข้างมาก)

ไม่ได้ต้องการเช็คบิลใคร รวมทั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะกฎหมายนี้บังคับใช้กับนักการเมืองทุกคน” นายสุพจน์ ไข่มุกข์ อ้างอย่างเคย วาทกรรมสำเร็จรูป “ความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตของนักการเมืองนั้นมูลค่ามหาศาล”

ลงท้ายไม่วายเผยกำพืดออกมา “สุพจน์กล่าวว่า ร่างกฎหมายลักษณะนี้หากไม่ผลักดันให้เกิดขึ้น เชื่อว่าเมื่อมีนักการเมืองจะไม่สามารถออกกฎหมายลักษณะนี้ได้ เพราะนักการเมืองคงไม่ยอม”

อย่างนี้หมายความว่า ทีใครทีมัน ใช่มั้ย จะได้ตั้งตารอ (ดู)