วันอังคาร, กรกฎาคม 18, 2560

ปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ดันห้ามเฉพาะนักการเมืองเป็นบอร์ด ไม่ยักพูดถึงทหาร

ปฏิรูปพ่องดิ ห้ามนักการเมืองเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจปัญหามันอยู่ที่ทหารเต็มไปหมด ดันห้ามเฉพาะนักการเมือง ทำกันดื้อๆ ด้านๆ อย่างนี้ คิดว่าประชาชนโง่กว่าสินะ

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) มีประยุทธ์ จันทร์โอชานั่งหัวโต๊ะเคาะมติออกมาเมื่อวาน (๑๗ ก.ค.) เรื่องการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ กำหนดไม่ให้แต่งตั้งบุคคล ๓ ประเภทเข้าเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ

ได้แก่ สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) ข้าราชการการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่มีข้อยกเว้นอันสำคัญ (มาก) ว่าบุคคลทั้งสามประเภทดังกล่าวที่นั่งเป็นกรรมการอยู่ในรัฐวิสาหกิจขณะนี้ ให้เป็นต่อไปจนกว่าจะหมดวาระหรือสิ้นสุดอายุขัย

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สคร. บอกว่าเหตุที่ระเบียบใหม่ของ คสช. ให้ใช้เฉพาะกับการแต่งตั้งบอร์ดชุดหน้า “เพราะกฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง”


อ้าว ก็ไหนกำลังจะออกกฎหมายให้ดำเนินคดีกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ลับหลัง ได้ไม่ใช่หรือ

นอกจากอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คนที่เคยไม่เอารถไฟความเร็วสูงเพราะถนนลูกรังยังไม่หมดประเทศไทย รับหน้าที่เป็น พรีเซ็นเตอร์หนุนร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างทุยทุยแล้ว

คนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่เคยได้เสียงข้างมากจากการเลือกตั้งมากว่า ๒๐ ปี และคาดว่าถ้ามีเลือกตั้งครั้งหน้า ฐานคะแนนเสียงภาคใต้ของพรรคนี้หดหายไปเยอะ จึงเตรียมตัวเป็นรัฐบาลแบบ ราบ ๑๑ อีกครั้งนั้น ก็ออกมาช่วยดันกันด้วย
 
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. อ้างเหตุผลตามรอยของนายสุพจน์ ไข่มุกข์ ว่า “การมีกฎหมายในลักษณะนี้จึงน่าจะช่วยทำให้การป้องกันปราบปรามการทุจริตของนักการเมืองได้ผลมากขึ้น”

ทั้งนี้ในรายงานข่าวของ นสพ. เดลินิวส์ ไม่ปรากฏว่านายองอาจได้พูดถึงประเด็นการออกกฎหมายให้มีผลย้อนหลังหรือกระทั่งให้ดำเนินคดีลับหลังผู้ต้องหาได้


ส่วนนายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลาหัวหน้าทีมกฎหมายของ ปชป. มีความเห็นอย่างเดียวกันว่ากฎหมายแบบนี้จะทำให้นักการเมืองหวั่นกลัวไม่กล้าทุจริต

เขาบอกว่า ส่วนตัวเห็นด้วย” กับการพิจารณาคดีลับหลัง โดยที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ต้องมาศาลเพราะเคยเสนอความเห็นไปหลายครั้งแล้วว่า คดีอาญานักการเมืองไม่ควรมีอายุความ


นักกฎหมายพรรคแมลงสาบพูดไม่หมดหรือสำนักข่าวทำตกหล่นก็ไม่รู้ละ แต่เรื่อง อายุความ กับ การพิจารณาคดีลับหลังมันมีเส้นบางๆ แต่เหนียวแน่น ของฝ่ามือกับหลังเท้าคั่นอยู่นะ

ทำนองเดียวกับกับการบอกว่า ปฏิรูปในขณะที่ต้นตอของปัญหาที่ทำให้ต้องปฏิรูปกลับไม่ต้องนำมาพิจารณา

สำนักข่าวบีบีซีไทยอุตส่าห์ชี้ให้เห็นว่าผู้เข้าข่าย นักการเมือง ซึ่งเข้าข่ายต้องถูกปฏิรูป (แต่ได้รับยกเว้น) ก็ล้วนเป็นทหารทั้งนั้น ดังเช่น

“- พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ซึ่งเป็นประธานกรรมการบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน), ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย, กรรมการในคณะกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และสมาชิก สนช.,
- พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ประธานกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), ผู้บัญชาการกองทัพไทย และสมาชิก สนช.,

- พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, แม่ทัพภาคที่ 1 และสมาชิก สนช.,
- พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด, เสนาธิการทหารเรือ และสมาชิก สนช.” เป็นต้น
อย่างนี้ จะให้ดีปฏิรูปทหารห้ามเล่นการเมืองเสียเลยด้วย น่าจะดีกว่า